ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) นิยาย บท 76

บทที่ 76 หักหลัง

เมื่อหันไปมองยังทิศที่เสียงนั้นถูกส่งมา ซูเฉินก็เห็นเข้ากับโจรผู้หนึ่งกำลังตะโกนมาทางเขาอย่างบ้าคลั่ง รอบกายมีแต่ซากศพของเพื่อนโจรกองเรียงราย

คนผู้นั้นยังไม่ตาย ทว่าก็กำลังจะตามคนอื่น ๆ ไปในไม่ช้า ปาหลงและเหล่าชายชุดดำดูท่าจะไม่ปล่อยให้พวกมันรอดชีวิตไปได้แม้สักคน

ทว่าผิดคาดที่อีกฝ่ายกลับรู้จักซูเฉิน

ท่ามกลางราตรีที่มืดมิด ซูเฉินไม่อาจมองเห็นใบหน้าอีกฝ่ายได้ชัดเจนนัก เพราะอย่างไรเขาก็ทำเป็นเห็นหน้ามันไม่ได้

เด็กหนุ่มทำท่าเอียงคอขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำทีเป็นใช้หูฟังว่าต้นเสียงมาจากทิศใด “เจ้าเป็นใคร? รู้จักข้าด้วยหรือ?”

เจ้าโจรผู้นั้นคลานมากอดขาซูเฉินไว้ก่อนร้องไห้ออกมา “นายน้อยซู ท่านซู ข้าเอง ข้าคือชิงเหอ!”

“ชิงเหอ?” ซูเฉินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะจดจำบางอย่างได้ “ชิงเหอ? ลูกน้องเหอซือเหนียน ชิงเหอผู้นั้นน่ะหรือ?”

โจรผู้นั้นดีใจยิ่งนักจนหลั่งน้ำตาแห่งความยินดีออกมา “ใช่แล้ว ใช่แล้วขอรับ คือข้าเอง นายน้อยซู ท่านยังจำข้าได้!”

เหอซือเหนียนคือคุณชายจากตระกูลเหอที่เรียนอยู่ที่สำนักเดียวกันกับซูเฉิน

หลังจากซูเฉินสูญเสียการมองเห็น เขาก็ไม่ได้กลับไปศึกษาเล่าเรียนอีก ดังนั้นเด็กหนุ่มและเหอซือเหนียนจึงไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ใดต่อกันอีก อย่างไรทั้งสองคนก็ไม่ใช่เพื่อนกันตั้งแต่แรก

ซูเฉินไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอกับข้ารับใช้ของเหอซือเหนียนเข้าที่นี่

ซูเฉินและชิงเหอไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน ถึงจะเคยแต่คนทั้งคู่ไม่ใช่มิตรต่อกันอย่างแน่นอน

ชิงเหอเข้าใจจุดนี้ดี ถึงคนผู้นี้จะไม่ใช่สหายของนายน้อยของเขา ทว่าเขาก็ยังต้องคว้าฟางเส้นสุดท้ายนี้ไว้

ดังนั้นชายผู้นี้จึงกอดขาซูเฉินไว้แน่นแล้วร้องไห้ออกมา “นายน้อยซูช่วยข้าด้วย เห็นแก่นายน้อยเหอ ช่วยเมตตาข้าด้วยเถอะ ได้โปรดบอกให้พวกเขาปล่อยข้าไป……”

“เหอซือเหนียนน่ะหรือ?” ซูเฉินหัวร่อ “ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ต่างขัดแย้งกันมาโดยตลอด ข้ากับเขาก็ไม่ได้เป็นสหายกัน ตั้งแต่ข้ามองไม่เห็น ก็ไม่ได้พูดคุยอันใดกับเขาอีก ให้ข้าเห็นแก่เขางั้นหรือ? เจ้าพูดเล่นหรือเปล่า?”

ชิงเหอเริ่มกระวนกระวายจนเริ่มตะโกนเสียงดังมากขึ้น “นายน้อยซู ท่านจะทำเช่นนี้ไม่ได้นะขอรับ อย่างไรท่านกับนายน้อยเหอก็ยังเป็นศิษย์สำนักเดียวกัน”

ทว่าชิงเหอสัมผัสได้ว่าซูเฉินไม่คิดจะยื่นมือเข้าช่วย คงไม่ออกปากให้เขาเป็นแน่

สายตาชั่วร้ายหลายคู่กำลังจ้องมองมายังเขา

ชิงเหอรู้ในทันทีว่าชีวิตตนตกอยู่ในอันตราย เขาร้องตะโกนขึ้น “ข้ารับใช้ท่านได้ ข้าบอกแผนการของตระกูลเหอในการประลองเข้าสถาบันมังกรซ่อนเร้นให้ท่านรู้ได้!”

ซูเฉินส่ายหัว “ข้าไม่สนใจ”

อาหลุนยกมีดขึ้นเตรียมเดินเข้าไป

“ไม่นะ อย่า!” ชิงเหอร้องขึ้นด้วยความกลัว เขาเห็นอาหลุนเดินง้างมีดมาแต่ไกล กำลังจะซัดมีดมาทางเขา พลันสมองนึกบางอย่างขึ้นได้จึงร้องขึ้นในทันใด “ลุงสองของท่าน ข้ารู้แผนการลุงสองของท่าน!”

“หืม?” ซูเฉินจิกหัวชิงเหอไว้ ดึงตัวเขากลับมา ส่วนคมมีดก็หยุดอยู่กลางอากาศเพียงเท่านั้น

“เจ้าพูดอีกทีซิ!” น้ำเสียงซูเฉินเริ่มหนักขึ้น

ชิงเหอร้อง “ข้ารู้แผนการของลุงสองของท่าน ข้ารู้ว่าเขาคิดจะจัดการกับท่านอย่างไร”

ซูเฉินคว้าคอชิงเหอไว้ “แผนการอันใด? บอกข้ามา หากมีประโยชน์ข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า”

ชิงเหอตะโกนบอก “ยาเสริมพลังต้นกำเนิดกับยาชานิลกาฬ เขาซื้อของสองชิ้นนี้ไปเมื่อหลายวันก่อน”

“ยาเสริมพลังต้นกำเนิด? ยาชานิลกาฬ?” สีหน้าซูเฉิน

ยาเสริมพลังต้นกำเนิด จากชื่อของมันก็บอกชัดอยู่แล้ว มันเป็นยาที่มีพลังต้นกำเนิดอยู่มหาศาล หลังจากใช้จะสามารถดูดซับพลังต้นกำเนิดในตัวยาได้โดยตรงเพื่อใช้เพิ่มฐานในการบ่มเพาะพลังของตนเอง ทว่ามันเป็นยาราคาแพง ยาเสริมพลังต้นกำเนิดธรรมดาขวดหนึ่งมีราคามากเท่ากับหินพลังต้นกำเนิดห้าพันก้อน ส่วนจะเพิ่มพลังต้นกำเนิดได้มากแค่ไหนขึ้นอยู่กับฐานพลังผู้ใช้ ยิ่งมีฐานพลังสูงพลังก็จะเพิ่มช้าขึ้น ส่วนราคายาขวดนี้ ผู้มีขั้นพลังด่านก่อเกิดลมปราณต้องใช้เวลากว่าห้าร้อยวันในการสร้างหินต้นกำเนิด เมื่อหักลบกับผลลัพธ์ของยาแล้วไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไปแม้แต่น้อย เว้นเสียแต่ผู้ซื้อจะเป็นสำนักใหญ่ที่ไม่รู้จะนำเงินไปซื้ออันใด นอกจากนั้นก็ไม่มีผู้ใดต้องการซื้อยาชนิดนี้อีก ซูเค่อจี่ต้องการซื้อยานี้ให้ลูกชายตนนับว่าเป็นการลงทุนที่ไม่ดูผลลัพธ์แม้แต่น้อย

ส่วนยาชานิลกาฬเป็นยาชาพิษชนิดหนึ่ง หลังจากกินเข้าไปพละกำลังไม่หดหาย ทว่าการตอบสนองและสติปัญญาจะลดลง ผู้ที่กินยาพิษนี้เข้าไปจะทำท่าราวกับเป็นคนหัวช้าผู้หนึ่ง การตอบสนองจะลดลง ข้อดีคือผู้ถูกพิษจะมีการตอบสนองที่ลดถอยลงเพียงเท่านั้น ดังนั้นเมื่อมองจากภายนอกผู้อื่นจึงมองไม่ออกว่าคนผู้นั้นโดนวางยาพิษ อีกอย่างหากผู้ถูกพิษไม่ทำการเคลื่อนไหว ตัวพิษก็จะไม่ทำงาน ฉะนั้นกระทั่งผู้เชี่ยวชาญด้านพิษเองก็ยังไม่อาจรู้ตัวว่าตนถูกพิษ ความสามารถในการซ่อนตัวของมันยอดเยี่ยมมาก ทว่าอย่างไรมันก็ยังเป็นยาพิษ กระทั่งตัวพิษคลายลงแล้วยังมีผลร้ายตามมาได้อีกนั่นคืออวัยวะทั่วร่างของผู้ถูกพิษจะทำงานได้ช้าลง

หากชิงเหอไม่ได้โกหก ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ายาชานิลกาฬนี่ถูกซื้อมาเพื่อใช้กับผู้ใด

ซูเฉินยังไม่คลายมือ “เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”

ชิงเหอรีบตอบ “เขาส่งคนมาที่หอยาวาโยเพื่อซื้อยา ทว่าไม่รู้ว่าตระกูลหลิวควบคุมดูแลหอยานี้อยู่ แล้วยังร่วมมือกับตระกูลเหอนานแล้วด้วย”

“ตระกูลหลิว?” ซูเฉินชะงักไป

ตระกูลหลิวเป็นตระกูลใหญ่ในตำหนักเซียนเหิน ถึงจะอ่อนแอกว่าตระกูลกู่เมืองหลงซี ทว่าก็ยังเป็นตระกูลชั้นสูงที่มีอิทธิพลอยู่มาก ผู้ใดจะรู้ได้ว่าตระกูลเหอเป็นพันธมิตรกับตระกูลหลิว?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)