ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) นิยาย บท 78

สรุปบท บทที่ 78 รู้ทัน: ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

ตอน บทที่ 78 รู้ทัน จาก ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 78 รู้ทัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 78 รู้ทัน

ถึงเสียงสูดหายใจของกังเหยียนจะไม่ได้ดังมาก ทว่าสำหรับคนชุดดำแล้วมันกลับเป็นเสียงที่ดังราวกับฟ้าผ่าในหูเลยทีเดียว

ทั่วทั้งร่างสั่นในทันที ก่อนจะหันไปตะโกนเสียงดัง “เจ้าเป็นใคร? เผยตนออกมาเสีย!”

น้ำเสียงที่เปล่งออกมามีแววตื่นตระหนกที่ไม่อาจกดไว้ภายในได้

เห็นดังนั้น ซูเฉินจึงไม่คิดซ่อนตัว ก่อนจะเดินออกมาจากเงามืด

เมื่อคนผู้นั้นเห็นว่าเป็นเขาก็ตกตะลึงไปในทันที “เป็นเจ้า?”

“ตกใจมากเลยหรือที่เห็นข้าอยู่ที่นี่?” ซูเฉินถาม น้ำเสียงแฝงแววถากถางเล็กน้อย “ท่านหลี”

คนชุดดำตรงหน้าคือปรมาจารย์ภาพมายาหลี หนึ่งในคนชุดดำเจ็ดคนที่ทางองค์กรส่งมานั่นเอง

ใบหน้าหลีบิดเบี้ยวไม่น่ามองยิ่งนัก เขาหรี่ตาลงช้า ๆ “เจ้าหนูนี่น่าสนใจดีนี่ เหตุใดไม่กลับไปเมืองหลินเป่ย แต่มาที่นี่แทนเล่า?”

“ข้ามารอท่านน่ะสิ รอให้ท่านมาเปิดห้องลับที่แท้จริงให้” ซูเฉินหัวเราะ

ใบหน้าหลีเริ่มบิด “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

“ไม่เห็นแปลก” ซูเฉินตอบ “ข้ารู้ตั้งแต่ที่ค้นพบห้องลับแห่งนี้แล้ว ลี่หมิงถังต้องไม่ได้มีสมบัติเพียงเท่านี้เป็นแน่ เขามีขั้นพลังด่านทะลวงลมปราณเชียว! หากต้องการ ในวันหนึ่งก็สามารถสร้างหินพลังต้นกำเนิดขึ้นได้หลายร้อยก้อน โจรที่ปล้นทรัพย์ผู้อื่นเช่นนี้ เป็นท่านจะเชื่อหรือว่าเขามีหินพลังต้นกำเนิดอยู่เพียงสองหมื่นก้อน?”

“แต่เราก็ค้นห้องสมบัติจนทั่ว ทั้งยังเค้นปากทุกคนแล้วไม่ใช่หรือ? สุดท้ายก็ไม่เจอสิ่งใด”

“แต่ท่านเป็นคนเค้นปากทุกคน!” ซูเฉินตอบ “จริง ๆ แล้วฮูหยินของลี่หมิงถังบอกที่ซ่อนสมบัติมาตั้งนานแล้ว ทว่าท่านกลับปิดบังพวกเราและฆ่าปิดปากนาง”

หลีส่งเสียงคำรามต่ำขึ้น “แต่เจ้าก็เห็นว่าข้าเค้นถามนางต่อหน้าทุกคน ข้าจะปกปิดได้อย่างไร?”

“นั่นก็ใช่ ถ้าสิ่งที่เห็นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงล่ะนะ” ซูเฉินตอบ

สีหน้าหลีพลันเปลี่ยน

ซูเฉินถอนใจ “ต้องยอมรับว่าท่านกล้าหาญนัก พลังของปรมาจารย์ภาพมายาช่างเก่งกาจนักที่สามารถหลอกลวงพวกเราได้โดยที่พวกเราไม่รู้ตัวเช่นนี้….. ที่ลี่ฮูหยินร้องบอกว่านางไม่รู้เรื่องอันใดเป็นภาพมายาที่ท่านสร้างขึ้นใช่หรือไม่ ท่านดึงพวกเราเข้าไปในวิชา สร้างภาพลวงขึ้นมา ความจริงท่านรู้ที่ซ่อนสมบัติและวิธีเปิดห้องลับจากลี่ฮูหยินมาตั้งนานแล้ว ท่านนี่กล้าหาญเสียจริง กล้าหลอกได้กระทั่งท่านปาหลง แล้วยังหลอกสำเร็จอีกต่างหาก”

เมื่อคืนวาน ตอนที่หลีเค้นปากถามลี่ฮูหยินอยู่ ภาพทั้งหมดนั่นเป็นเพียงภาพมายาที่เขาสร้างขึ้น คนผู้นี้เค้นถามเอาที่อยู่สมบัติจากลี่ฮูหยินต่อหน้าทุกคน ทว่าสามารถปิดบังเรื่องนี้จากทุกคนได้

ความกล้าหาญของคนผู้นี้มีมากเกินบรรยายจริง!

ได้ยินดังนั้น หลีก็หัวเราะชั่วร้ายออกมา “วิชามายาก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลวงตาคนอยู่แล้ว เป็นดั่งการหลอกทุกคนให้ฝันเห็นภาพ หากไม่ปลุกคนหลับฝันเห็นภาพจนตื่น กระทั่งผู้ฝึกตนที่มีขั้นพลังสูงส่งก็ยังสามารถถูกหลอกตาได้ ทว่าข้าไม่คิดว่าถึงข้าจะหลอกปาหลงได้ แต่กลับไม่อาจหลอกเจ้าได้”

“เปล่า ท่านหลอกข้าได้เช่นกัน” เขาตอบ “ภาพมายาของท่านไร้ที่ติ ในตอนนั้นข้าเองก็มองไม่ออก”

“ข้าเจอในห้องห้องหนึ่งแถว ๆ ร้านนั่น” ซูเฉินกล่าว “ในหีบนี่มีของล้ำค่า มูลค่ารวมกว่าหินพลังต้นกำเนิดสามหมื่นก้อน หากคนผู้หนึ่งสามารถเก็บหินพลังต้นกำเนิดสามหมื่นก้อนไว้ในร้านสาขาได้ ในค่ายหลักจะมีสมบัติมูลค่าเพียงสองหมื่นได้อย่างไร? และเมื่อนำมาบวกกับเรื่องที่ว่าท่านแค่ทำการเค้นปากคนแต่กลับอ่อนแรงถึงเพียงนั้น…… เรื่องทั้งหมดนี้รวมกันชี้ให้เห็นชัดว่าท่านคือตัวการ”

“เป็นเช่นนี้นี่เอง” หลีเอ่ยขึ้น ใบหน้าตระหนักรู้ “หากแต่ข้าไม่ใจว่าเจ้านำหีบนี่ติดตัวมาได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ปาหลงก็ตรวจแหวนกักเก็บเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ”

“ตอนเขาตรวจสอบ ของไม่ได้อยู่ในแหวน” ซูเฉินตอบ

ตอนแรกหลีทำหน้าสงสัย ทว่าหลังจากมองกังเหยียนที่ยืนอยู่ด้านหลังซูเฉินและนึกภาพเหตุการณ์ที่คนทั้งคู่รีบเดินออกมาจากซากปรักหักพัง พลันจำได้ว่าในตอนนั้นกังเหยียนยังสวมชุดเกราะอยู่

ในที่สุดเขาก็เข้าใจ “เจ้าเก็บสมบัติไว้ในหีบใส่เกราะหลอมทอง ด้วยความคิดคนปกติทั่วไป ย่อมต้องสงสัยแหวนกักเก็บของเจ้าก่อน แต่ไม่ทันคิดว่าหีบใหญ่นั่นว่างเปล่าสามารถเก็บสมบัติได้เมื่อชุดเกราะถูกนำมาใส่แล้ว จากนั้นเจ้าก็จงใจปล่อยให้พวกข้าไปค้นอีกครา ใช้เวลาตรงนั้นย้ายสมบัติในหีบไปเก็บในแหวน และเพราะพวกข้าตรวจสอบแหวนเจ้าไปครั้งหนึ่งแล้ว จะขอตรวจอีกเป็นครั้งที่สองก็กระไรอยู่ เจ้าให้กังเหยียนถอดชุดเกราะนำเก็บลงหีบต่อหน้าพวกข้า ทำให้พวกข้าไม่สงสัยเรื่องหีบ”

ซูเฉินยักไหล่ “เป็นภาพลวงที่ข้าสร้างขึ้นเอง ซึ่งต่างจากของท่าน ถึงจะดูไม่ใช่โอ่อ่าเท่าวิชาภาพลวงของท่าน ทว่าก็ยังมีเรื่องราวปูมหลัง ข้าหวังว่าท่านจะชอบ”

หลีอดหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้ “ในเมื่อเจ้าจัดการเรื่องร้านนามทองคำเองคนเดียว ดังนั้นข้าขอเดาว่าเรื่องนี้ เจ้าเองก็ไม่ได้บอกใคร เพื่อที่ตัวเจ้าจะได้ฮุบสมบัติเอาไว้เพียงผู้เดียวใช่หรือไม่? เจ้ามาที่นี่ลำพัง คิดหรือว่าจะแย่งสมบัติไปจากข้าได้?”

“หากข้าตอบว่าใช่ ท่านก็คงจะสบายใจขึ้นใช่หรือไม่?” ซูเฉินหัวเราะ “เช่นนั้นข้าก็จะตอบท่าน ว่าถูกต้อง!”

หลีถอนหายใจออกมา “เช่นนั้นข้าค่อยวางใจ”

เขามองซูเฉิน จากนั้นเอ่ยขึ้น “เช่นนั้นเรื่องก็ไม่ซับซ้อน ข้าจัดการศัตรูได้ก็จบเรื่อง ไม่มีปัญหาอื่นแล้วสินะ?”

“ถูกต้อง” ซูเฉินตอบกลับเสียงสุภาพ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)