ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) นิยาย บท 86

บทที่ 86 ยา

“ท่านพ่อ!” ซูชิงยืนอยู่หน้าตรงซูเค่อจี่กล่าวอย่างตื่นเต้น “ลูกชายของท่านกลับมาแล้ว”

“ดี ดี ดี!” ซูเค่อจี่สำรวจรอบ ๆ ตัวของลูกชายและกล่าวว่าดีถึง 3 ครั้ง เห็นได้ชัดว่าในใจของเขากำลังรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

เขาทุบหน้าอกลูกชายแล้วพูดว่า “ตานไห่ของเจ้าเปล่งประกายและมีจิตสังหารแฝงอยู่ด้วยเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ได้เพียงเข้าสู่ด่านก่อเกิดลมปราณ แต่ยังสามารถก่อร่างจิตสังหารขึ้นมาได้บ้างแล้ว”

ซูชิงตอบอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านพ่อ ลูกได้สังหารอสูรลวงตาในแดนลวงตาประกายทรัพย์ไปถึง 308 ตน และยังผ่านความตายมา 26 ครั้ง หลังจากผ่านต่อสู้นองเลือดหลายมาครั้ง ข้าก็ไม่ใช่ซูชิงคนเดิมอีกต่อไปแล้ว”

ซูเค่อจี่พยักหน้า “ดีมาก ย้อนกลับไปตอนนั้นปู่ของเจ้าได้บังเอิญช่วยใครบางคนจากอารามประกายทรัพย์ไว้ครั้งหนึ่ง ท่านได้รับคำสัญญาว่าเราสามารถยื่นคำร้องเพื่อเปิดใช้แดนลวงตาประกายทรัพย์ได้ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงได้ใช้ส่วนแบ่งทั้งหมดในตระกูลซูที่ข้ามีออกไป”

ซูเค่อจี่กล่าวด้วยความจริงใจในขณะที่เขาจับมือของซูชิง

ซูชิงรู้สึกสะเทือนใจ “ท่านพ่อ ท่านจ่ายให้ข้ามากเกินไปแล้ว”

“ตราบใดที่มันสามารถช่วยให้เจ้าประสบความสำเร็จได้ มันก็คุ้มค่า” ซูเค่อจี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน

แม้ว่าซูเค่อจี่จะไม่ใช่คนดีนัก ทว่าเขานั่นถือเป็นพ่อคนที่ดีอย่างแน่นอน

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อเอาชนะซูเฉินระหว่างการแข่งขันในการประเมินสิ้นปีเพียงเท่านั้น สิ่งที่สำคัญกว่าคือสำหรับการคัดเลือกของสถาบันมังกรซ่อนเร้น

ชายชรากล่าวไว้แล้วว่าตราบใดที่ซูชิงสามารถเข้าสู่สถาบันมังกรซ่อนเร้น เขาจะเป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายของแดนลวงตาประกายทรัพย์เอง แต่ถ้าหากซูชิงไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ทรัพยากรที่สำคัญของตระกูลซูก็จะสูญไปโดยเปล่าประโยชน์ ซูเค่อจี่จะต้องสละหุ้นทั้งหมดในตระกูลที่เป็นของตนและรับผิดมันด้วยตนเอง

หากมองจากมุมมองหนึ่ง ทั้งซูเฉิงอันและซูเค่อจี่ต่างก็เป็นคนประเภทเดียวกัน พวกเขารักลูกชายและลูกสาวของพวกเขาหรือไม่? ใช่

อย่างไรก็ตามพวกเขารักลูกชายและลูกสาวที่โดดเด่นและคนที่มีค่าให้ลงทุนมากกว่า

สิ่งนี้คือความเป็นจริงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตราบใดที่มีผู้คาดหวังในลูกชายหรือลูกสาวเรื่องเช่นนี้ก็จะเกิดขึ้น คำถามเดียวคือ … เท่าไหร่?

หลายสิ่งหลายอย่างขึ้นอยู่กับมาตราส่วน มากกว่าดำหรือขาว, ดีหรือร้าย

เห็นได้ชัดว่าความคาดหวังในใจของเลห่าคนรุ่นแรกและรุ่นสองนั้นสูงเกินไป นี่คือสาเหตุที่ซูเฉินถูกบีบคั้นและทำไมซูเค่อจี่ถึงสามารถบีบคั้นเขาได้

ปรมจารย์เป่ากวง เป็นปรมจารย์รูปแบบต้นกำเนิดที่ทรงพลังและมีความเชี่ยวชาญในทักษะภาพลวงตาอย่างมาก อย่างไรก็ตามภาพลวงตาของเขาแตกต่างจากภาพลวงตาของหลี เป่ากวงไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การหลอกลวง แต่เขาสร้างภาพลวงตาเพื่อส่งต่อมรดกและฝึกฝนลูกหลานของเขา

จิตวิญญาณของซูชิงได้เข้าสู่แดนลวงตาประกายทรัพย์และต่อสู้กับภาพลวงตาปีศาจมากมาย มันไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การต่อสู้ของเขา แต่ยังทำให้ซูชิงได้สัมผัสกับช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายด้วยตนเอง จนสามารถสร้างจิตสังหารผ่านการต่อสู้และรับทักษะต้นกำเนิดที่ใช้จิตสังหารเพื่อปกป้องร่างกาย ในเวลาเดียวกันซูชิงก็สามารถฝึกฝนจิตวิญญาณของตัวเขาได้ อาจกล่าวได้ว่าสถานที่แห่งนั้นเป็นขุมทรัพย์อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามราคาที่ต้องจ่ายออกไปก็สูงมากเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าซูฉางเช่อเคยบังเอิญช่วยปรมจารย์เป่ากวงเอาไว้ เขาก็คงจะไม่ได้รับโอกาสนี้

และตอนนี้โอกาสนี้ได้ถูกส่งมอบให้กับซูชิง

ซูชิงผู้มีประสบการณ์ 10 วันในแดนลวงตาประกายทรัพย์ ในตอนนี้เขามีกลิ่นอายที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาได้เติบโตขึ้นมากจริง ๆ

ซูชิงกล่าวอย่างตื่นเต้น “ท่านพ่อไม่ต้องกังวลไป ครั้งนี้ข้าจะดูแลซูเฉินเป็นอย่างดีแน่นอน”

ซูเค่อจี่หัวเราะเสียงดัง “ข้าไม่ได้สิ้นเปลืองพลังไปตั้งมากเพียงเพื่อให้เจ้าไปสอนบทเรียนให้แค่ซูเฉินหรอกนะ ภายใต้เตรียมการของข้าซูเฉินไม่นับภัยคุกคามอันใดหรอก ตอนนี้สนใจแต่การเพิ่มความแข็งแกร่งของเจ้าเถิด”

ในขณะที่ซูเค่อจี่พูดเขาหยิบกล่องขึ้นมาและขวดยาออกมา

“ยาพลังต้นกำเนิดขวดนี้ข้าซื้อมาให้เจ้าโดยเฉพาะ ด้วยสิ่งนี้รากฐานการบ่มเพาะของเจ้าจะเพิ่มขึ้นไปอีก การฝึกฝนทักษะต้นกำเนิดก็จะง่ายขึ้นเช่นกัน ในช่วงครึ่งปีที่เหลือจงขัดเกลาและฝึกฝนตนเองต่อไป อย่างไรก็ตามนี่เป็นยาชนิดใหม่และหลังจากดื่มเข้าไปอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะจึงจะเห็นผล ข้าคิดว่ามันคงจะไม่มีประโยชน์มากนักกับการแข่งขันในช่วงสิ้นปีนี้ แต่ไม่ต้องกังวล ข้ายังมีสิ่งนี้ …”

ซูชิงมองตามทางที่ซูเค่อจี่ชี้ไปยังขวดที่วางอยู่ใกล้ ๆ เขา คำ 4 คำที่เขียนไว้ด้านข้างขวดทำให้หัวใจของเขาเต้นกระดอน “นี่คือ…”

“นี่คือสิ่งที่ข้าเตรียมไว้สำหรับซูเฉิน” ซูเค่อจี่พูดอย่างเย็นชา

ซูชิงพูดอย่างรีบร้อน “แต่ท่านพ่อ ตอนนี้ข้าไม่ได้เกรงกลัวมันอีกต่อไปแล้ว จำเป็นต้องทำเช่นนี้จริงหรือ?”

“หุบปากเสีย! เจ้าจะมารู้อะไร?” ซูเค่อจี่กล่าวอย่างหงุดหงิด “เจ้าคิดจริง ๆ รึว่าการที่มันสามารถกลับมาจากเทือกเขาสีเลือดได้อย่างปลอดภัยถึง 2 ครั้ง 2 ครา เพียงเพราะว่าโชคดี?”

ในขณะที่ซูชิงรู้สึกงุนงง ซูเค่อจี่ก็กล่าวต่อว่า “หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าเด็กนั่นคงจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดไปสักพักแล้ว”

“เป็นไปได้อย่างไรกัน?” ซูชิงตกใจมาก

“ทำไมถึงจะเป็นไปไม่ได้? อย่าลืมสิว่าเพราะนังคนงี่เง่าหยานหวู่ชวงนั้น ซูเฉินถึงได้สามารถยึดกิจการทั้งสี่ของแม่มันกลับคืนไปได้ กิจการทั้งสี่ในมือของมันไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนที่รายได้ทั้งหมดจะตกเป็นของส่วนกลางในตระกูลอีกต่อไป เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานมาว่ากิจการทั้งสี่แห่งสูญเสียเงินจำนวนมากไปพร้อม ๆ กันและขาดเงินทุนหมุนเวียนอย่างหนัก เจ้าคิดว่าเงินพวกนั้นไปอยู่ที่ไหนกัน?”

ซูชิงตกใจ “หรือว่ามันก็เอาไปซื้อยาพลังต้นกำเนิดเช่นกัน?”

“หากจะกล่าวให้ถูก มันเป็นคนซื้อก่อน เมื่อข้ารู้เข้า ข้าจึงเดินตามรอยมัน” ซูเค่อจี่ตบไหล่ลูกชายแล้วพูดด้วยความจริงใจ

“ลูกข้า คู่ต่อสู้นั้นเจ้าเล่ห์ยิ่ง จงอย่าได้ประมาท! ยามนี้ซูเฉินคงจะบรรลุด่านก่อเกิดลมปราณไปแล้ว แต่มันกลับเลือกที่จะเก็บซ่อนเอาไว้ เป้าหมายของมันคงจะเป็นการทำให้ทุกคนตกใจในระหว่างการประเมินสิ้นปีและทำลายเจ้า แต่ในเมื่อข้ารู้เบื้องหลังของมันแล้ว ข้าจะเปิดโอกาสให้มันได้อย่างไร ? แม้เจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดแล้ว ทว่าเจ้าก็ยังบรรลุได้ช้ากว่ามัน 2-3 เดือน ไม่ว่าจะเป็นทักษะต้นกำเนิดหรือรากฐานการบ่มเพาะของเด็กนั่นก็คงจะสูงกว่าเจ้า ถึงเจ้าจะดื่มยาพลังต้นกำเนิดเข้าไป แต่การต่อสู้ระหว่างพวกเจ้าก็น่าจะครึ่งต่อครึ่ง ข้าไม่มั่นใจว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะมันได้เต็ม 100”

เมื่อซูชิงได้ยินเช่นนั้นเขาก็พูดไม่ออก

กลายเป็นว่าที่ท่านพ่อทำให้ข้ามากขนาดนี้ ก็เพียงเพื่อลดระยะห่างระหว่างข้ากับมัน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)