ฟ้าเริ่มสว่าง หยาดน้ำค้างยังระเหยไปไม่หมด
อ้ากกก!
เสียงร้องคร่ำครวญดังมาจากห้องพักของเหล่าบรรดาลูกศิษย์แห่งสถาบันไป๋หยวน
เสียงนั้นก็ได้ทำลายความเงียบสงบไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างเดินออกจากห้องพักและล้อมหน้าประตูที่เกิดเหตุ
มีศพนอนจมกองเลือดอยู่ภายในห้อง น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
“หลบไป หลบไปให้หมด”
มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านนอก ทำให้ลูกศิษย์ที่ขวางประตูอยู่ถึงกับต้องถอยออกไป
“เป็นคนจากฝ่ายยุติธรรม รีบหลีกทางให้เร็ว” บรรดาลูกศิษย์ที่มามุงดูเหตุการณ์แอบกระซิบกระซาบ
หลังจากได้ยินเสียงนี้ หลายคนจึงรีบหลีกทางตรงบริเวณประตูให้ ขณะที่ ขบวนของฝ่ายยุติธรรมเดินเข้ามาอย่างเป็นระเบียบจากระยะไกล โดยผู้นำคืออาจารย์ที่ออกมาป้องปรามมิให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเจียงหลีและองค์ชายรองให้ทวีคูณมากยิ่งขึ้นในช่วงเดือนก่อนนั่นเอง
เวลานี้ สีหน้าของเขาจริงจังและเย็นชาเล็กน้อย
เขาพาผู้คนเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุและสายตาของเขาก็ดุร้ายขึ้นหลังจากเห็นศพในห้อง คาดไม่ถึงว่าจะมีคนแอบเข้ามายังสถาบันไป๋หยวนและสังหารศิษย์ของสถาบันแห่งนี้
นี่ถือเป็นการหยามเกียรติสถาบันไป๋หยวนอย่างแท้จริง!
“ปิดล้อมบริเวณห้องพักนี้และตรวจค้นอย่างละเอียด” เขาออกคำสั่งทันที
“ทำไมท่านหัวหน้าเจียงซย่าต้องลำบากเพียงนั้น” พอพูดถึงเพียงเท่านั้น เสียงแหบแห้งขององค์ชายรองเฉียนจวิ้นก็ดังมาจากนอกประตู
เจียงซย่าหันศีรษะมองไปรอบๆ และมองเห็นเฉียนจวิ้นค่อยๆ เดินเข้ามาพร้อมกับผู้สนับสนุนของเขา โดยมีโจวยวนที่รูปร่างอ้อนแอ้นและใบหน้างดงาม ทำให้ผู้คนรู้สึกอยากทะนุถนอมเป็นพิเศษ ซึ่งแตกต่างจากความงามแบบดิบเถื่อนของสตรีชาวซีเฉียน
“เฉียนจวิ้นหรือ” เจียงซย่าเขมวดคิ้ว “เจ้ารู้อะไรมาบ้าง” เขาได้ยินเบาะแสอะไรบางอย่างจากคำพูดของเฉียนจวิ้น
เฉียนจวิ้นยิ้มและแสดงอาการแปลกๆ ออกมาทางใบหน้าอันอ่อนโยนของเขา “ข้าไม่รู้อะไรเลย แต่บังเอิญมีพยานรู้เห็นสองคน”
“พยานบุคคลหรือ” ดวงตาอันดุดันของเจียงซย่ากวาดมองไปที่คนข้างๆ เขา
เมื่อเฉียนจวิ้นถูกจากเจียงซย่าจับตามองเช่นนี้ ก็มิได้โกรธเคืองอะไร และหันไปพูดกับผู้สนับสนุนที่ติดตามอยู่ด้านหลังเขาเท่านั้น “ยังไม่ออกมาอีก เล่าทุกอย่างที่เห็นให้แก่ท่านหัวหน้าเจียงซย่าฟังเร็ว”
“ขอรับ! ”
“ขอรับ…”
พวกเขาทั้งสองเดินออกมาและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่พวกเขาเห็น
“ท่านหัวหน้าเจียงซย่า ทังจงเฉามิได้ถูกฆ่าโดยคนนอก คนที่ฆ่าเขา ท่านก็เคยพบเจอมาก่อน คือหญิงสาวชุดดำที่บาดหมางกับเขาและเพิ่งมาใหม่เมื่อเดือนก่อนขอรับ”
“ใช่! เมื่อคืนหลังจากฝึกฝนเรียบร้อยแล้ว พวกข้ายังไม่ง่วงนอน เลยออกไปเดินเล่นกัน และเห็นนางบุกเข้าไปในห้องของทังจงเฉา ก็สงสัยกันอยู่ว่านางมาทำอะไรที่นั่นดึกดื่น ทันใดนั้น พวกข้าก็ได้ยินเสียงของหนักตกลงสู่พื้น เมื่อรับรู้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติไป จึงรีบเข้าไปดูและเห็นทังจงเฉานอนจมกองเลือดและหยุดหายใจแล้วขอรับ”
ใบหน้าของเจียงซย่าตึงเครียดทันที นัยน์ตาดุจอินทรีจ้องไปยังพยานทั้งสอง
วันนั้น ทังจงเฉาผู้นี้เป็นชายที่ประจบเอาใจโจวหยวน แต่หลังจากที่เฉียนจวิ้นปรากฏตัว เขาก็หยุดการกระทำดังกล่าว โดยละความตั้งใจเดิมที่มีต่อโจวยวน
และพยานสองคนนี้คือสองคนที่ล้อมโจวยวนไว้ในวันนั้น
“พวกเจ้าเห็นเหตุการณ์นี้ตั้งแต่เมื่อคืน เหตุใดจึงไม่รีบรายงาน” เจียงซย่าถามอย่างเด็ดขาด
ทั้งสองแอบสบตากันอย่างลับๆ และก้มศีรษะให้ต่ำลง
หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “ข้า… พวกข้ากลัวหาเรื่องใส่ตัวขอรับ”
“เช้านี้ หลังจากพบศพของทังจงเฉา พวกข้าถึงเล่าเรื่องนี้ให้แก่องค์ชายรองฟัง และได้ขอคำปรึกษาจากท่าน แล้วรีบรุดมาที่นี่ขอรับ”
คำพูดของเขาทั้งสอง ดูเหมือนจะมิได้ผิดปกติอะไร
เป็นไปได้หรือไม่ที่เจียงหลีจะลงมือฆ่าทังจงเฉาจริงๆ เจียงซย่าครุ่นคิดในใจ ช่วงเวลานี้ พวกเจียงหลีทั้งสามสงบนิ่งมาก และฝึกฝนกันอย่างเงียบๆ โดยไม่ออกมาสร้างความเดือดร้อน จะฆ่าคนอย่างกะทันหันเช่นนี้ได้อย่างไร



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์