“ได้ยินมาว่าเจ้าก็เป็นพวกหากมีบุญคุณตอบแทน หากมีความแค้นต้องชำระ ใช่หรือไม่” ทันใดนั้น สายตาของเจียงหลีเปลี่ยนไป ฉายแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมา
เทียนหยาไม่ได้สังเกตเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของเจียงหลี หลังจากได้ยินคำพูดของนาง จึงพยักหน้าตอบ “ถูกต้อง”
“ถ้าเช่นนั้นก็ช่างบังเอิญเสียจริง ข้าก็เป็นคนที่ถือคติเช่นนี้เหมือนกัน” เจียงหลียิ้มสดใส
เทียนหยารู้สึกคลุมเครือบอกไม่ถูก แต่ก็คิดเหตุผลไม่ออก
“เฮ้อ สกุลจงซานพวกนั้นลงมืออำมหิตนัก” เวลานี้เจียงหลีแสดงความรู้สึกเคียดแค้นต่อสกุลจงซานเช่นเดียวกัน
กล่าวถึงคนพวกนั้นที่ต้องการจะจับมัน ในดวงตาทั้งสองของเทียนหยาราวกับระฆังทองแดง พ่นไฟแห่งความโกรธออกมา
“เพราะแก้แค้นแทนเจ้า ข้าเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด” เจียงหลีมองมันครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“หืม” เทียนหยาสงสัย มองนางอย่างไม่เข้าใจ “แก้แค้นหรือ”
เจียงหลีพยักหน้าอย่างแรง “ใช่!”
ดวงตาของเทียนหยาปรากฏสีที่บ่งบอกถึงการสืบค้น ราวกับกำลังขบคิด ระดับการฝึกฝนของเจียงหลี จะช่วยมันแก้แค้นได้อย่างไร
เจียงหลีกลับเอ่ย “แต่ทว่า แม้พวกเขาจะตายในอาณาเขตหลิงอู่ แต่ในความจริงยังมีชีวิตอยู่ เจ้าตระหนักถึงการตอบแทนบุญคุณความแค้นเสมอ ถ้าเช่นนั้นเจ้าตอบแทนบุญคุณข้าก่อนไม่ดีกว่าหรื อ มาเป็นวิญญาณยุทธ์ตัวที่ห้าของข้า วันข้างหน้า พวกเราบุกไปดินแดนตงฮวงและแก้แค้นสกุลจงซานดีหรือไม่”
เทียนหยาเบิกตากว้าง จ้องเขม็งในดวงตาส่องประกายของเจียงหลี ทันใดนั้น ก็ยิ้มเยือกเย็นขึ้นมา “ที่แท้เป้าหมายของเจ้าก็เหมือนกับพวกเขา”
เจียงหลีกลับคลายมืออย่างไม่สะทกสะท้าน “ไม่ผิด คนที่เข้ามาในอาณาเขตหลิงอู่ แน่นอนว่าก็เพื่อตามหาวิญญาณยุทธ์ที่สามารถประสานได้ อีกอย่าง เจ้าถูกขังในเกราะวิญญาณและถูกนำ ออกจากอาณาเขตหลิงอู่ นอกจากประสานกับมนุษย์ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว หรือว่าเจ้าจะยอมถูกขังในนั้นต่อไป แล้วปล่อยให้สกุลจงซานพวกนั้นใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างนั้นหรือ”
คำพูดเหล่านี้ ทำให้ดวงตาของเทียนหยาเปลี่ยนไปอย่างยากที่จะคาดเดาได้
ความแค้นของมันที่มีต่อสกุลจงซานสามารถจินตนาการได้ เช่นนั้น ข้อเสนอของเจียงหลี…มันจึงหัวเราะเยาะเล็กน้อย “เจ้าไม่กลัวร่างระเบิดหรือ”
“ไม่กลัว” เจียงหลีเอ่ยอย่างเฉียบขาด
“ตกลง!” เทียนหยาก็พยักหน้าอย่างจริงจัง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็กลายเป็นวิญญาณยุทธ์ตัวที่ห้าของเจ้า ช่วยให้เจ้าเข้าไปในระดับหลิงหวัง เพียงแต่ว่า เจ้าห้ามลืมสัญญา สักวันหน นึ่ง ต้องฆ่าสกุลจงซานแก้แค้นให้กับข้า”
“ไม่มีปัญหา!” เจียงหลีตอบอย่างไม่ลังเล
นางฆ่าคนของสกุลจงซาน หลังจากออกจากอาณาเขตหลิงอู่แล้ว พวกเขาจะปล่อยนางกับศิษย์พี่สามลอยนวลหรือ ความแค้นก่อตัวขึ้นนานแล้ว ถึงแม้ไม่ได้ทำเพื่อเทียนหยา นางอาจจะไปยังดินแดน ตงฮวงแห่งสกุลจงซานอีกครั้งก็เป็นได้
“เริ่มเถิด” เทียนหยาเอ่ย
เจียงหลีพยักหน้า
นางมองร่างลวงสีทองของเทียนหยา และปลดปล่อยเนตรญาณของตนออกมา
เมื่อเนตรญาณของนางถูกเปิดออกทีละดวงๆ ดวงตาของเทียนหยาก็ยิ่งโตขึ้น วิญญาณยุทธ์ทั้งสี่ตัวก่อนหน้านี้ของเจียงหลีล้วนเป็นขั้นสูงสุดทั้งสิ้นก็มากพอแล้ว
แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือคาดไม่ถึงว่านางคือผู้มีเนตรญาณทั้งเก้าในตำนาน!
ไม่!
ไม่ใช่เนตรญาณทั้งเก้า!
สายตาของเทียนหยามองยังแสงสีเทาของเนตรญาณที่สิบแต่โปร่งแสงระยิบระยับและตกตะลึงจนยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด
“เป็นอย่างไรบ้าง พรสวรรค์ของข้า ไม่ถือว่าฉีกหน้าเจ้าหรอกนะ” ในสายตาของเจียงหลีมีความหยิ่งผยองที่ติดตัวมาแต่กำเนิด
ไม่หรอก! ไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน!
เทียนหยาตื่นจากความตกใจ มันใช้สายตาที่ซับซ้อนมองนาง “หากประสานสำเร็จ เจ้าก็จะประหลาดใจเช่นกัน”
หืม
เจียงหลีสงสัยเล็กน้อยในคำพูดของเทียนหยา แต่มันกลับไม่ได้พูดต่อ เจียงหลีก็ไม่ได้เค้นถาม หลังจากได้ทำข้อตกลงกับเทียนหยาแล้ว นางก็เริ่มทำการประสาน
เนตรญาณอื่นๆ ค่อยๆ จางเข้าไป เหลือเพียงเนตรญาณลำดับที่ห้าซึ่งจะประสานกับเทียนหยา
หึ่ง!
เนตรญาณสีทอง ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น ลวดลายสีทองด้านบน ยิ่งส่องสว่างชัดเจนขึ้นมา


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์