ลูกทรงกลมขนาดเล็กที่รวบรวมความทรงจำไว้ กำลังส่องแสงสีฟ้าสว่างไสวประดุจอัญมณีล้ำค่า
มันลอยอยู่บนฝ่ามือของเขา ซึ่งดูเหมือนว่าเขาสามารถทำลายความทรงจำในชาติก่อนด้วยการใช้นิ้วทั้งห้าบีบเบาๆ
แน่นอนว่าเขากำลังลังเล
รอยฟันบนกระดูกไหปลาร้านั้น ทำให้เขาสงสัยว่าใครเป็นคนทิ้งมันไว้
ซึ่งใครบังอาจทิ้งรอยฟันไว้บนร่างกายของเขาเช่นนี้
นับตั้งแต่ชายผู้สูงส่งนอนตื่น ก็นิ่งเงียบมาโดยตลอด ทำให้ชายทั้งสองที่คุกเข่าอยู่แอบส่งสายตาพูดคุยกัน
องค์จักรพรรดิเป็นอะไรไปหรือ
ไม่รู้
การเกิดใหม่ครั้งนี้ดูเหมือนจะแตกต่างกว่าเดิมเล็กน้อย!
ข้าก็รูสึกเหมือนกัน
เป็นไปได้ไหมที่พลังจะควบคุมไม่ได้
เป็นไปไม่ได้! องค์จักรพรรดิทรงกดทับมันไว้ ไม่ว่าพลังนั้นจะมีอำนาจล้นฟ้าแค่ไหน ก็มิอาจพลิกฟ้าได้
องค์จักรพรรดินี่เป็น…
พวกเราทั้งสองรออย่างเงียบๆ เถอะ ใครจะบังอาจคาดเดาความคิดของจักรพรรดิเล่า
ทั้งสองหลบสายตาอย่างเงียบๆ และน้อมรอด้วยความเคารพ
ความสงสัยยังคงผุดขึ้นในใจ ขอเพียงแค่เขาอ่านความทรงจำในมือ เขาก็จะสามารถรู้สาเหตุและผลลัพธ์นั้น แต่ทว่าเสียงจากก้นบึ้งของหัวใจกลับห้ามปราบไม่ให้เขาอ่านมัน
ราวกับว่าหากเขาอ่านความทรงจำนี้ บางสิ่งบางอย่างอาจจะสูญเสียการควบคุม
ดวงตาของเขาหรี่ลงอย่างช้าๆ และแสงสว่างในดวงตาของเขาก็เพียงพอที่จะทำลายโลกได้แล้ว ซึ่งนี่คือสัญญาณก่อนที่เขาจะระเบิดความโกรธออกมา
เขาจมปลักอยู่กับความทรงจำในชาติก่อนจริงหรือ
การบีบบังคับที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ ได้แพร่กระจายออกจากตัวเขาไปยังทั่วสารทิศอย่างรวดเร็วประดุจกระแสน้ำ ทำให้องค์ชายทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองด้วยความหวาดกลัว และมองไปที่ชายผู้สูงส่งด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรที่ผิดเพี้ยนไป ถึงทำให้จักรพรรดิไม่พอใจเช่นนี้
แรงกดดันยังดำเนินต่อไปและแพร่กระจายออกไปยังด้านนอกของพระตำหนักไปถึงองครักษ์พิทักษ์ดวงดาวที่รออยู่ด้านนอก พวกเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันนี้ ซึ่งองครักษ์พิทักษ์ดวงดาวผู้ภักดี ทั้งตื่นเต้นและหวาดกลัว!
ณ พระตำหนัก สายตาของชายผู้ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ยอมจำนนนั้นยังคงจับจ้องไปที่ความทรงจำลูกนั้น
นิ้วทั้งห้าที่เรียวยาวและสวยงามของเขาค่อยๆ กำแน่นราวกับตัดสินใจแล้วว่าจะทำลายความทรงจำนี้ทิ้ง แต่ขณะที่เขากำลังจะบีบมัน เขากลับดึงความจำนั้นกลับคืนมา
ไม่ดู แต่ก็ไม่ทำลาย
เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีเขียวครามคู่นั้นราวกับโลกแห่งดวงดาวและเขาเป็นราชาของทุกสรรพสิ่ง!
“เสินอวี่ อวี้ฉี” เขาเอ่ย โดยเรียกชื่อของเขาทั้งสองอย่างน่าเกรงขาม
คนทั้งสองที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นตกใจหลังจากได้ยินชื่อเรียกของตนและโน้มตัวด้วยความเคารพ…
“องค์จักรพรรดิ เสิ่นอวี่อยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”
“องค์จักรพรรดิ อวี้ฉีอยู่ที่นี่พ่ะย่ะค่ะ”
เขาค่อยๆ ลุกขึ้นและเดินขึ้นบันไดไปทีละก้าวเพื่อเดินไปหาพวกเขา “นี่มันกี่ชาติแล้ว”
“บังคมทูลองค์จักรพรรดิ หากนับชาติที่เพิ่งจบไปด้วยแล้วคือเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเจ็ดชาติพ่ะย่ะค่ะ” อวี้ฉีชายผู้สง่างามที่มีใบหน้าประดุจหยกประดับกวนและผิวพรรณขาวผ่องตอบทันที
ชายผู้ทรงอำนาจและน่าเกรงขามกระซิบว่า “ยังเหลืออีกสามชาติ”
ทั้งสองคนเม้มริมฝีปาแน่นและไม่กล้าแม้จะหายใจ
“เรียกคนเข้ามาปรนนิบัติข้าที ข้าต้องการอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า” จู่ๆ ชายผู้นั้นก็เอ่ยประโยคนี้ขึ้น
“พ่ะย่ะค่ะ” เสินอวี่ถอยหลังออกไปจัดเตรียมทันที
…


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์