เหมือนหรือ
อะไร!
เจียงหลีถลึงตาโต ชื่อเสียงตลอดชีวิตของตัวเองจะถูกทำลายเพราะเจ้าหนุ่มคนนี้หรือ
“ข้าเหมือนตรงไหน!” เจียงหลีโมโหจนทนไม่ไหว เถียงกับลู่เสวียนเหมือนกับเด็ก
ตอนนี้ ถ้าหากว่าคนนอกมาเห็น ต้องไม่เชื่อตาตัวเองอย่างแน่นอนว่านี่คือราชินีที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวคนนั้นในตอนสืบทอดราชบัลลังก์
คือราชินีที่ออกคำสั่งแปลกๆ ทำให้คนหวาดผวาคนนั้นหรือเปล่า?
ดูนางที่ท่าทางโหดร้ายน่ากลัว ลู่เสวียนหดคอ พูดพึมพำกับตัวเอง “ไม่ใช่เจ้าหรอกรึที่เห็นแก่ความหล่อเหลาของพี่ชายของข้า”
เอ่อ
คำพูดนี้ เหมือนว่าจะโต้แย้งไม่ได้นะ!
เจียงหลีมุมปากกระตุกอย่างแรง กัดฟันพูดขู่ว่า “หยวนหวัง ข้าควรจะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นผู้สำเร็จราชการแทนราชินี ช่วยควบคุมดูแลการทหารด้านต่างๆ ของราชวงศ์จยาเซียนดีไหม”
อ้าก! ลู่เสวียนเงยหน้าขึ้นมาปฏิเสธอย่างหวาดหวั่นด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว “ไม่เอา! ไม่เอาเด็ดขาด! ข้าขอบคุณท่านมาก! ซ้อเล็ก พี่สะใภ้ที่แสนดี อย่าทรมานข้าเช่นนี้เด็ดขาดเลย”
ท่าทางของเขา น่าขันจนเจียงหลีเผลอหัวเราะออกมา
ใครๆ ต่างก็ปรารถนาอำนาจ ทั้งผู้ใหญ่และเด็กตระกูลลู่ต่างสลัดทิ้งอย่างกับรองเท้า กลัวจะหลบไม่ทัน
“พอแล้ว ไม่แกล้งเจ้าแล้ว ท่านพ่อก็บอกแล้วว่าเจ้าไม่เหมาะแก่การปกครองราชวงศ์” เจียงหลีพูดด้วยใบหน้ายิ้ม
ลู่เสวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ท่านปู่เฉลียวฉลาด! แน่นอนว่าซ้อเล็กก็เฉลียวฉลาดเช่นกัน”
หลายคนหัวเราะ ลู่เสวียนหุบยิ้มแล้วถามว่า “ซ้อเล็ก ข้าอยากไปเซ่นไหว้พี่ชายข้า”
“ข้าก็ไปด้วย” เจียงเฮ่าก็พูด
“ข้าให้อวี้ซูพาพวกเจ้าไป” เจียงหลีพยักหน้า หลังจากที่เรียกอวี้ซูมา นางก็พาทั้งสองไปยังตำหนักฉางเซิง
ลู่เจี้ยไม่มีศพ ทำได้แค่เตรียมแผ่นป้ายชื่อไม้ให้เขาในตำหนักฉางเซิง เพื่อสะดวกต่อการเซ่นไหว้
ส่วนสุสาน (ที่ฝังเฉพาะเสื้อผ้าและสิ่งของของผู้ตาย)
เจียงหลีไม่เคยคิดมาก่อน เพราะว่าในใจของนาง ลู่เจี้ยไม่ได้ตายจากไปจริงๆ ความงดงามของคืนนั้น ยิ่งเป็นสิ่งพิสูจน์เรื่องนี้ได้อย่างดีมาก
หลังจากที่ลู่เสวียนและเจียงเฮ่าไป ลู่จ้านถึงหยิบจดหมายออกมา ยื่นให้เจียงหลีด้วยสองมือ “ฝ่าบาท นี่คือจดหมายยอมจำนนของราชวงศ์สุ่ยหัน”
เรื่องที่ราชวงศ์สุ่ยหันยอมจำนน แพร่มายังราชวงศ์จยาเซียนนานแล้ว การร่วมมือทำเรื่องต่างๆ ก็กำลังดำเนินการไปอย่างเป็นระเบียบ ทั้งหมดนี้ก็เพราะลู่เจี้ยจัดการเอาไว้ดี ไม่มีอะไรที่เจียงหลีต้องกังวล
และจดหมายยอมจำนน ลู่จ้านก็เป็นคนนำกลับมาด้วยตัวเอง
“กษัตริย์ของราชวงศ์สุ่ยหันถามว่าอนุญาตให้เข้าเฝ้าได้หรือไม่” ลู่จ้านถาม
เจียงหลีทิ้งจดหมายยอมจำนนไว้บนโต๊ะ พูดอย่างตามอำเภอใจว่า “ราชวงศ์สุ่ยหันกลายเป็นเขตปกครองสุ่ยหัน เขาเป็นจวิ้นหวัง แน่นอนว่าต้องเข้าราชสำนักมาแสดงความขอบคุณ”
ลู่จ้านพยักหน้า แล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“เพียงแต่” เจียงหลีหยุดไปชั่วครู่ พูดกับลู่จ้านว่า “ต้องระวังการเคลื่อนไหวของซีเฉียนให้ดี”
“ขอรับ!” หลังจากที่ลู่จ้านตอบรับ แล้วก็ถอยออกจากตำหนักหวงจี๋
หลังจากที่เดินออกมา เขาก็หันกลับไปมองตำหนักที่สูงตระหง่าน แล้วถอนหายใจ พูดพึมพำว่า “นายน้อย สายตาที่มองคนของท่านไม่เคยผิด ตระกูลลู่มีนางอยู่ ไม่มีทางดับสูญ ลู่จ้านก็สาบานต่อนายน้อยเช่นกัน จะช่วยปกป้องราชินีไปตลอดชีวิต! ปกป้องตระกูลลู่ของข้าไม่ให้สูญสิ้นไปอีกนับพันปี!”
“เจ้าไปไหนมา”
หรงจิ่งที่เพิ่งกลับถึงจวน ก็เผชิญกับการซักถามของท่านพ่อ
หรงจิ่งยืนอยู่ที่เดิม มองหรงเทียนเผิงที่สีหน้าดูไม่ได้
เห็นท่าทีของเขายังคงไม่ใส่ใจ หรงเทียนเผิงโมโหหลายเรื่อง เขาเดินเข้าไปหาลูกชายที่เขาเคยภูมิใจที่สุดและทำให้โมโหที่สุด “คนของข้ารายงานว่าเจ้าเข้าไปในวังรึ”
“ไม่ผิด” หรงจิ่งพูดอย่างตรงไปตรงมา

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์