ฮ่าๆ เจียงหลีหลุดหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้
ฉินเทียนอีคนนี้ เบื่อจนทะเลาะกับวิญญาณชั่วร้ายเลยอย่างนั้นหรือ
“ถึงอย่างไรก็อยู่เฉยๆ ไม่มีอะไรทำอยู่ดี หาเรื่องสนุกบ้างก็ดีเหมือนกัน” ฉินเทียนอีหันมามองและยิ้มให้เจียงหลีอย่างสดใสร่าเริง
วิญญาณชั่วร้ายที่อยู่ด้านนอกดูเหมือนจะถูกเขาด่าจนมึนงง ทำได้เพียงมองเขาด้วยสายตาที่ดุร้าย
ฉินเทียนอีเยาะเย้ยและกล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าก็ถือเป็นรุ่นพี่แล้ว รังแกรุ่นน้องอย่างพวกข้าสองคนในดินแดนผนึกมารแห่งนี้ แถมยังรังแกคนน้อยกว่าอีกด้วย พวกเจ้าละอายใจ หรือไม่”
“หึ ปากคอเราะร้ายนัก” วิญญาณชั่วร้ายที่อยู่นอกถ้ำยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่
“ชื่นชมเกินไปแล้วๆ นี่เป็นจุดเด่นของข้านะ” ฉินเทียนอีหัวเราะและดูถูกเหยียดหยาม เขาลืมตาขึ้นแล้วพูดกับวิญญาณร้ายว่า “ยังไงข้าก็ไม่ออกไปจากที่นี่ พวกเจ้าก็เข้ามาไม่ได ด้ เรามาคุยกันดีๆ ไม่ได้หรือ มาๆๆ ไหนลองพูดมาสิว่ากิเลสของพวกเจ้านั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน”
เจียงหลีลืมตาขึ้นและมองไปยังปากถ้ำ
ดูเหมือนว่านางยังสนใจเรื่องนี้อยู่บ้าง
ด้านนอกถ้ำ วิญญาณชั่วร้ายกลับปิดปากเงียบ แต่จ้องไปที่ฉินเทียนอีด้วยแสงอันเย็นเฉียบในดวงตาของเขา
“ไหน เจ้าพูดมาสิ” เมื่อเห็นวิญญาณชั่วร้ายยังคงนิ่งอยู่ ฉินเทียนอีก็ถามต่อโดยไม่กลัวตาย
เจียงหลีพูดไม่ออก นางเองก็ไม่รู้ว่าโล่นี้จะคงอยู่ได้นานแค่ไหน เหตุใดฉินเทียนอีถึงเชื่อมั่นในตัวนางมากเช่นนี้ ยังยั่วยุเหล่าวิญญาณร้ายอย่างไม่กลัวตาย นี่ไม่กลัวว่าว วิญญาณร้ายเหล่านี้จะถูกยั่วยุจนถึงขั้นสุด จากนั้นก็รวมตัวกันทะลวงโล่นี้เข้ามาฉีกเขาทั้งเป็นเลยหรือไง
“เจ้าอยากรู้ขนาดนั้นเชียวหรือ” วิญญาณร้ายแสยะยิ้ม
การแสดงออกที่น่าสะพรึงกลัวทำให้เจียงหลีตกใจ และความรู้สึกไม่ชอบมาพากลก็ปรากฏออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ฉินเทียนอี รีบถอยไปซะ”
“เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าสมปราถนา”
เสียงของเจียงหลีและวิญญาณชั่วร้ายดังออกมาเกือบจะพร้อมกัน
ใบหน้าของฉินเทียนอีเปลี่ยนไป และถอยหลังอย่างรวดเร็วตามที่เจียงหลีกล่าว
แต่เขาก็ช้าไป… ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น เจียงหลีก็เช่นกัน เพียงแค่รู้สึกว่าช่วงเวลาก่อนที่ดวงตาจะวาบวับ จิตใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในความงุนงง นางเห็นเพียงรอยยิ้มอั นน่าสะพรึงกลัวของวิญญาณชั่วร้ายเท่านั้น
…
ข้าอยู่ที่ไหน มีหมอกหนาทึบอยู่ข้างหน้า ปิดกั้นการมองเห็นของเจียงหลี
นางเอื้อมมือออกไปโดยไม่รู้ตัว พยายามปัดหมอกที่อยู่ตรงหน้าออก แต่นางก็ตระหนักได้ว่ามือของนางนั้นเหี่ยวย่นมากเหลือเกิน
นี่ไม่ใช่มือของข้า! เจียงหลีตกใจ
มือคู่นี้ มีผิวหย่อนคล้อยเหี่ยวย่น หยาบกร้านและข้อมือใหญ่…นี่มันมือของชายชราชัดๆ
ทันใดนั้น นางก็พบไฝบริเวณด้านนอกของนิ้วชี้ข้างซ้าย
การปรากฏตัวของไฝนี้ ทำให้ดวงตาของนางหรี่ลง นางเคยเห็นไฝนี้เมื่อไม่นานมานี้ ในความคิดของนางก็มีภาพที่วิญญาณชั่วร้ายกำลังเผชิญหน้ากับฉินเทียนอีอยู่ปรากฏขึ้น สายตาของ นางเลื่อนไปทางเขาเล็กน้อยและมองไปยังมือข้างซ้ายของเขา และนั่นเองที่ด้านนอกของนิ้วชี้ข้างซ้ายของเขา มีไฝจุดเดียวกันกับที่ปรากฏในความทรงจำของเจียงหลี
คือเขา!
เจียงหลีรู้สึกตกใจ เมื่อพบว่าตัวเองกลายเป็นวิญญาณชั่วร้ายแล้วจริงๆ
ไม่เพียงเท่านั้น จิตใจของนางก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ความโกรธที่ไม่ได้เป็นของนางได้เริ่มเข้าสู่ร่างกายของนางอย่างควบคุมไม่ได้
หมอกหนาทึบตรงหน้าค่อยๆ หายไป และเจียงหลีก็หายไปอยู่ในห้องที่หรูหราสวยงามห้องหนึ่ง
ในห้องมีกลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งเต็มไปหมด
เจียงหลีสังเกตเห็นว่ามือคู่นั้นไม่เหี่ยวแห้งและแก่แล้ว แต่กลับกลายเป็นมือของเด็กคู่หนึ่ง
“เหตุใดท่านถึงต้องฆ่าเขาด้วย” เสียงสตรีนางหนึ่งถามมาจากด้านหลัง
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เจียงหลีรู้สึกถึงความรักอันลึกซึ้งที่ไหลออกมาจากหัวใจของนาง แต่ความรักนั้นไม่สามารถซ่อนความโกรธและความคับแค้นในหัวใจได้


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์