พลังอันน่าสะพรึงกลัวโจมตีไปที่ช่วงท้องของหุ่นกลสัตว์
เจียงหลีเห็นเพียงช่วงท้องของหุ่นกลสัตว์แตกและเกิดเสียง ร่างของมันลอยลิ่วออกไปแล้วตกกระทบพื้นอย่างแรง มีรอยขูดขีดร่องลึกบนพื้นแข็ง
ตึง ตึง ตึง ตึง…
อัศวินเกราะทองถือโอกาที่จะชนะการต่อสู้ ทิ้งเสียงก้าวขาหนักแน่นไว้บนพื้น เมื่อมันทะยานขึ้นไป สองมือชูดาบขนาดใหญ่ฟันหุ่นกลสัตว์ที่อยู่บนพื้นอย่างแม่นยำ
ตู้มต้าม!
เสียงดังสนั่น ดูเหมือนหุ่นกลสัตว์จะร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ภายใต้การสยบทุกความเคลื่อนไหวในฝุ่นคละคลุ้ง เมื่ออัศวินเกราะทองทำภารกิจสังหารเสร็จสิ้น ก็ยืนข้างๆ รอคอยเงียบๆ ๆ
สมรภูมิรบอื่นๆ ยังคงทำให้คนมองจนตาพร่า
ถึงอย่างไรก็เกิดคลื่นลูกใหญ่ในใจของเจียงหลี ขณะนี้ หุ่นเชิดที่นางเห็นช่างร้ายกาจยอดเยี่ยมกว่าศพหุ่นเชิดของสำนักหลีหุนจงเป็นไหนๆ!
ไม่สิ เทียบกันไม่ติดเลยต่างหากล่ะ! เจียงหลีอทานในใจ
ขณะนั้นเอง เสียงของเว่ยจี๋ก็ค่อยๆ พูดออกมา “หุ่นเชิดกับคนนั้นไม่เหมือนกัน เพราะไม่มีเนตรญาณ และก็ไม่มีวิญญาณยุทธ์ ทั้งยังไม่มีพลังวิญญาณอีกด้วย พลังที่พวกมันดูดซับก็มาจาก ใจกลางของมัน”
เขากวักมือ อัศวินที่สำเร็จภารกิจแล้วก็รีบวิ่งมาหาคนทั้งสอง จนสุดท้ายมายืนอยู่ตรงหน้าเว่ยจี๋ คุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นแสดงความเคารพ
เจียงหลีมองด้วยความตื่นตะลึงโดยไม่พูดสิ่งใด
นางเห็นแค่นิ้วเรียวยาวของเว่ยจี๋จิ้มลงไปบนร่างคล่องแคล่วสง่างามของอัศวินเกราะทอง ทันใดนั้นหน้ากากของมันก็เปิดออก เผยให้เห็นแสงกะพริบสีม่วง ราวกลับผลึกของหินแก้วใส
“หินแก่นวิญญาณ!” เจียงหลีประหลาดใจเล็กน้อย
เว่ยจี๋พยักหน้า “ใช่แล้ว มีเพียงหินแก่นวิญญาณเท่านั้นที่สามารถรองรับการทำงานของหุ่นเชิดระดับหลิงหวังได้ หินแก่นวิญญาณหนึ่งก้อนเช่นนี้ สามารถรองรับอยู่ได้นานเป็นสองเท่าของ งการต่อสู้เมื่อครู่นี้”
“…” เจียงหลีกระตุกมุมปาก แอบก่นด่าในใจ หุ่นพวกนี้กินจุมาก ข้าเลี้ยงไม่ไหวๆ
“อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงหุ่นเชิดระดับต่ำสุดเท่านั้น”
ห้ะ!
คำพูดของเว่ยจี๋ ทำให้เจียงหลีล้มเลิกความคิดที่จะเรียนวิชาปลุกเสกหุ่น “หุ่นเชิดระดับต่ำสุด ก็คือระดับหลิงหวังอย่างนั้นหรือ”
“ไม่ได้กำหนดระดับขั้นของหุ่นเชิดแบบนี้หรอก” เว่ยจี๋ส่ายศีรษะ “หุ่นเชิดที่เจ้าเห็น เป็นหุ่นเชิดที่อยู่ในระดับต่ำที่สุด ส่วนหุ่นเชิดที่อยู่ในระดับสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภ ภายนอกหรือความคิดก็เหมือนคนจริงๆ อย่างไม่เป็นที่สงสัย”
เมื่อเจียงหลีได้ยินก็เบิกตาอ้าปากค้าง
“หุ่นเชิดแบบนั้น เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านพลังของพวกเขา พวกเขาสามารถเปรียบเสมือนมนุษย์ที่ดึงดูดพลังวิญญาณด้วยตัวเองและกักเก็บไว้ในคลังได้ ทั้งยังมีสติปัญญาเฉี ยบคม สามารถใช้ความคิดได้” เว่ยจี๋พูดเสียงเรียบ
“นี่มัน…”
เจียงหลีตะลึงพรึงเพริดไปเสียแล้ว
เว่ยจี๋มองนางแล้วเอ่ยแซว “ช่วงเวลานี้ที่เจ้าอยู่ในดินแดนผนึกมาร ก็เอารัดเอาเปรียบไม่น้อย เรียนรู้ทักษะการต่อสู้ตั้งมากมาย แต่ทว่าทักษะการต่อสู้พวกนี้ ไม่มีประเภทไหนที่เหมาะ ะสมกับเจ้าเลย เจ้าสามารถเลือกทักษะการต่อสู้บางประเภทที่ไม่เหมาะสมกับเจ้า โดยใช้วิธีพิเศษประทับเข้าไปในหุ่นเชิด พวกเขาสามารถควบคุมทักษะการต่อสู้ประเภทนี้ได้ แน่นอน หากเจ้าใช้จ จนชินแล้ว ก็สามารถประทับได้ พวกเขาไม่เลือกหรอก”
เหอะๆ!
ความรู้เรื่องหุ่นเชิดของเจียงหลีได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงโดยเว่ยจี๋ เวลานี้ นางก็เห็นด้วยกับคำวิจารณ์ของเว่ยจี๋ที่มีต่อศพหุ่นเชิดของสำนักหลีหุนจง
ศพหุ่นเชิดของสำนักหลีหุนจง ดูแล้วน่าสยดสยองยิ่งนัก แต่ทว่า พวกมันกลับเทียบหุ่นเชิดเหล่านี้ของเว่ยจี๋ไม่ได้สักกระผีก!
“แม้ว่าหุ่นเชิดจะไม่มีวิญญาณยุทธ์ ไม่มีพลังวิญญาณ แต่พลังความสารมารถในการป้องกันของพวกมันนั้นยอดเยี่ยมเด็ดขาดมาก หากวัสดุที่ใช้ยิ่งดี พลังการป้องกันก็จะยิ่งแข็งแกร่ง สามรถ เป็นโล่กำลังให้เจ้าในยามจำเป็น อีกอย่าง ในด้านความเร็วและพลังคนธรรมดาก็เทียบไม่ได้”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์