กงเสวี่ยฮวาถูกกวาดจนปลิวไป ส่วนอวิ๋นเซียวก็ย่างก้าวเข้ามาหาเจียงเฮ่า “สู้กันสักตั้ง” เขาคำรามลั่น แล้วท้าทายเจียงเฮ่า
ม่านตาของเจียงเฮ่าควบแน่น และร่างของเขาก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่าในทันทีเพื่อต่อสู้กับอวิ๋นเซียว
“วันนี้ เจ้าจะต้องตายที่นี่ ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษที่เจ้าเป็นศิษย์ของฮวงเสิน!” ปราณวิญญาณยุทธ์ในตัวของอวิ๋นเซียวปะทุออกมา จนรอบกายเขาเปล่งประกายไปด้วยแสง แรงกดดันจากผู้ที่อยู่ ในหลิงหวังถาโถมเข้ามาดั่งคลื่นระลอกใหญ่ และบดขยี้ทุกคนในอาณาเขตจื๋อจัง
แข็งแกร่งยิ่งนัก!
คนจากกลุ่มอำนาจอื่นที่มุงดู อยู่ภายใต้แรงกดดันของหลิงหวัง ต่างพากันหน้าถอดสี และอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปเล็กน้อย
กงเสวี่ยฮวาล้มลงกับพื้น เมื่อประคองกายได้มั่นคงแล้ว ก็มองไปที่การต่อสู้ระหว่าผู้ที่อยู่ในหลิงหวังในห้วงอากาศนั้นด้วยสายตาดำดิ่ง เจียงเฮ่าไม่ได้ขยับปราณใดๆ เพราะคำพ พูดของอวิ๋นเซียว เขายืนตรงข้ามอวิ๋นเซียว
พลังปราณที่หนาแน่นและมั่นคงของหลิงหวังก็กระจายออกไปเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้ครอบงำเหมือนอวิ๋นเซียว แต่ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงภูเขาอันหนักอึ้ง ด้วยพลังของผู้ที่อยู่ในหลิง หวังทั้งสอง ทำเอาคนที่อยู่ในอาณาเขตจื๋อจั้งรู้สึกราวกับมีก้อนกินใหญ่กดทับหัวใจ ทั้งอึดอัดและทรมาน
ในบรรดากลุ่มอำนาจทั้งเจ็ด มีหลายคนที่สามารถมีชื่อแย่งชิงเข้ามาในดินแดนผนึกมารได้ และหลายคนก็สามารถเข้าสู่คนที่อยู่ในระดับหลิงหวัง แต่ทว่า พวกเขาคิดว่าคนสองคนที่อยู่ ตรงหน้านี้ ระดับของผู้ที่อยู่ในหลิงหวังอย่างพวกเขา สามารถโดนบี้ให้ตายง่ายดายเหมือนมด
“มาสิ” คำพูดของเจียงเฮ่า สั้นๆ แต่ทรงพลัง
แววตาของอวิ๋นเซียวเย็นเยียบ เขาก้าวขาออกไป ทันใดนั้น บรรยากาศรอบตัวของเขาและเจียงเฮ่าดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยบรรยากาศที่เฉียบคม
วิญญาณยุทธ์ที่อยู่ข้างหลังเขาเหมือนกับของอวิ๋นเซียว ล้วนเป็นวิญญาณยุทธ์ประเภทสัตว์ปีก แต่ทว่า ความรู้สึกของความคมชัดและความเร็วนั้นหนักกว่าอวิ๋นซู่
จิตวิญญาณการต่อสู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้จุดประกายในสายตาของเจียงเฮ่า
ผู้คนบนพื้นดินมองเจียงเฮ่ากับอวิ๋นเซียว แต่สำหรับอวิ๋นเซียวแล้ว พวกเขาต่างก็เคยได้ยินและรู้ว่าเขาเก่งกาจยอดเยี่ยม แต่ทว่าเจียงเฮ่า พวกเขาไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่นัก
“เสียดายที่เจียงเฮ่าผู้นี้ ยังไม่ทันมีชื่อเสียงในซีฮวงเลย ก็ต้องมาถูกอวิ๋นเซียวฆ่าตายในที่นี่ซะแล้ว”
“ใช่น่ะสิ! ใครใช้ให้เขาดันมาเจออวิ๋นเซียวเล่า”
“…”
ทุกคนต่างจ้องไปที่เงาร่างทั้งสองในพื้นที่โล่ง ตอนนี้ลืมเรื่องจื๋อจั้งไปก่อนชั่วคราว
กงเสวี่ยฮวากลับมายืนข้างฉินเทียนอีและไหวปี้ แล้วก็จับจ้องไปที่สงครามในพื้นที่โล่งเหมือนพวกเขา และอยู่ตรงข้ามพวกป้อมปราการเฟยอวิ๋น หากไม่ได้รับคำสั่งจากอวิ๋นเซียว พวกเขาก ก็ไม่ลงมือ
อวิ๋นเซียวก้าวเข้าไปหาเจียงเฮ่าหนึ่งก้าว
ทันใดนั้น เขาก็หายตัวไป ไม่เหลือแม้กระทั่งพลังปราณ
เจียงเฮ่าหรี่ตา พลังวิญญาณในร่างกายระเบิดออกมาจนหมดสิ้น และร่างของเขาก็หายไปจากที่เดิมเช่นกัน และเปลี่ยนทิศทางในพื้นที่ว่างเปล่าอย่างต่อเนื่อง
เจียงเฮ่าเป็นคนซื่อตรง ไม่ชอบกลอุบาย ดังนั้นวิญญาณยุทธ์ประเภทโจมตีที่หลอมรวมเข้ากับร่างกายเขา จึงล้วนเป็นพลังรุนแรงและต่อสู้กับศัตรูด้วยพละกำลัง
จากมุมมองนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับอวิ๋นเซียวซึ่งมีข้อได้เปรียบด้านความเร็ว การเปลี่ยนแปลงของเขาดูยุ่งยากกว่ามาก
ร่างของอวิ๋นเซียวปรากฏขึ้นอีกครั้ง ราวกับว่าเขาเปล่งประกายออกมาจากธาตุอากาศ ไม่สามารถจับวิถีการเคลื่อนที่ของเขาได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้ง พลังของเขาก็แข็งแก กร่งขึ้น
เจียงเฮ่ายังคงเปลี่ยนตำแหน่งของเขาและต้องการตามล่าร่องรอยเส้นทางของอวิ๋นเซียว
แต่ทุกครั้งมันกลับช้ามาก
“เจ้าคงตามข้าทันหรอก” อวิ๋นเซียวพูดจาดูถูก
ทันทีที่สิ้นเสียง ร่างของเจียงเฮ่าก็หยุดและยืนนิ่งในทันใด รู้สึกเหมือนได้กลายร่างเป็นที่ตั้งตระหง่านระหว่างฟ้ากับดิน
“ทำไมเขาถึงไม่ขยับล่ะ เขาจะยืนให้ถูกตีหรือ”
“ข้าไม่รู้! หรือว่าความเร็วของเขาจะสู้อวิ๋นเซียวไม่ได้แล้วก็เลยยอมแพ้ไปง่ายๆ”
“…”
คนที่กำลังดูละครฉากเด็ดต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์
ส่วนกงเสวี่ยฮวา ฉินเทียนอีและคนอื่นๆ กลับมองเห็นเบาะแส


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์