หนานอู๋เฮิ่นเห็นเขาปฏิเสธเจียงหลีมาตลอด แผนการต่อสู้ที่เก็บพลังเอาไว้ใช้กับวิญญาณยุทธ์เมื่อครู่นี้ทำให้เขาเผลอยิ้มออกมา “ถ้าไม่ใช่เพราะสติปัญญาที่ล้ำเลิศของเด็กคนนี้ ที่ค่อยๆ ล่อให้คู่ต่อสู้ตกหลุมพรางที่นางวางเอาไว้แล้ว ต่อให้มีพลังที่แข็งแกร่งแล้วจะมีประโยชน์อะไร”
อู๋เชียนเงยหน้า พูดกับหนานอู๋เฮิ่นอย่างเยือกเย็นว่า “แต่แบบนี้เรียกว่าฉลาดที่ไหนกัน และตอนนี้ หลิงเจี้ยงที่เก่งกาจของตระกูลเย่ว์ก็มาถึงแล้ว กลอุบายเหล่านั้นของนางใช้ไม่ได้ผลหรอก ข้าดูแล้วเรื่องนี้คงจบแค่ตรงนี้แหละ”
“ข้าไม่คิดเช่นนั้น หลิงซื่อจะข้ามลำดับขั้นมาฆ่าคน ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้” หนานอู๋เฮิ่นยิ้มแล้วพูด
อู๋เชียนกลับยิ้มถากถาง “เจ้าคิดว่าทุกคนจะเหมือนกับไป๋หลี่เฟิ่งงั้นหรือ ยิ่งไปกว่านั้นที่ไป๋หลี่เฟิ่งสามารถฆ่าหลิงเจี้ยงได้ เพราะเดิมทีเขาพลังหลิงซื่อระดับเก้า หลิงเจี้ยงคนนั้นที่ถูกฆ่าก็เป็นเพียงแค่สวะ แล้วเจียงหลีเพิ่งจะเป็นหลิงซื่อระดับไหนเอง หลิงซื่อระดับห้า ฆ่าหลิงเจี้ยงงั้นรึ ท่านอาจารย์หนาน ท่านกำลังล้อเล่นอยู่รึ!”
“หรืออาจจะเพราะว่าฆ่าไม่ได้ ก็เลยหนี แต่ก็หนีไม่ได้ ข้าดูท่านางแล้ว คือวางแผนหนีไปให้ถึงจวนตระกูลลู่ ขอเพียงแค่นางไปถึงจวนตระกูลลู่……เอ๊ะ?” หนานอู๋เฮิ่นหยุดชะงัก กวาดสายตามองไปที่ไกลๆ เมื่อครู่นี้เหมือนเขารับรู้ได้ถึงพลังขั้นสูงอย่างเลือนราง
พวกเขาซ่อนตัวอยู่ พลังมากกว่าหลิงเจี้ยงตระกูลเย่ว์พวกนั้นอีก และไม่ได้คิดจะเป็นศัตรูกับเจียงหลี หรือว่า…… หนานอู๋เฮิ่นหัวเราะแบบไม่มีเสียง พูดในใจว่า ดูแล้ว ตระกูลลู่ก็ใช่ว่าจะไม่เตรียมพร้อม วันนี้เด็กผู้หญิงคนนี้คงตายยากแล้วล่ะ
พลังของเขามากกว่าอู๋เชียนอยู่เล็กน้อย พลังที่รางเลือนนั้นก็ปรากฏเพียงวูบเดียว ตอนนี้หายเข้ากลีบเมฆไปนานแล้ว
ดังนั้นหนานอู๋เฮิ่นถึงสัมผัสได้ แต่อู๋เชียนกลับไม่รับรู้เลย
เขาในตอนนี้มองเจียงหลีที่ถูกทิ้งไว้อีกครั้ง ความเยือกเย็นในแววตา แยกไม่ออกว่าหมายความว่าอย่างไร
ถนนใหญ่หน้าประตูเมือง ผู้คนมากมายถูกคลื่นพลังเมื่อครู่ดึงดูดให้มา ในตอนที่พวกเขาเห็นเหล่าหลิงเจี้ยงล้อมสาวชุดดำเพียงคนเดียว ล้วนแต่แปลก
เจียงหลียิ้มอย่างสดใส ในดวงตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยามที่เย็นชา “ตระกูลเย่ว์นี่เก่งจริงๆ ถึงกับต้องส่งหลิงเจี้ยงมารับมือกับเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียว มาคนเดียวไม่พอ มาตั้งสี่คน”
หา?
เรื่องอะไรกัน!
หลิงเจี้ยงตระกูลเย่ว์มาตั้งสี่คน เพื่อฆ่าเด็กคนเดียว?
ผู้คนแห่กันมาเหมือนฝูงผึ้ง ได้ยินคำพูดของเจียงหลี ต่างตกใจ สายตาที่มองหลิงเจี้ยงตระกูลเย่ว์เปลี่ยนไป
นี่มันรังแกกันชัดๆ!
หนึ่งในหลิงเจี้ยงของตระกูลเย่ว์ มองและพูดกับเจียงหลีอย่างเย็นชา “เจ้าฆ่านายน้อยเย่ว์ของพวกข้า แล้วยังวางแผนฆ่าหลิงซื่อตระกูลเย่ว์อีกสิบกว่าคน ข้ารอรับคำสั่งจากนายท่าน มาที่นี่เพื่อนำตัวเจ้ากลับไป หากขัดขืน ตายสถานเดียว!”
หืมมม
ผู้คนที่ดูอยู่รอบๆ ได้ฟังคำพูดนี้ สีหน้าเปลี่ยนทันที
พวกเขาฟังไม่ผิดใช่ไหม เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ฆ่านายน้อยเย่ว์งั้นหรือ แล้วยังฆ่าหลิงซื่ออีกสิบกว่าคน เป็น…เป็นไปได้หรือ
“นางก็คือเจียงหลีคนนั้น”
“คนที่ถอนหมั้น?”
“ใช่ คนที่ถอนหมั้นคนนั้นแหละ!”
“ตอนนี้มีเรื่องน่าสนใจแล้ว สามเดือนก่อนถอนหมั้นต่อหน้าสาธารณชน สามเดือนต่อมาก็ได้ฆ่าอดีตคู่หมั้น”
“เด็กผู้หญิงที่มีพลังเช่นนี้หายาก อายุแค่นี้ แต่กลับโหดเ**้ยม น่าเสียดายที่วันนี้ต้องมาตกตายที่นี่”
“นั่นน่ะสิ”
“……”
ผู้คนต่างถกเถียงกัน แต่ว่าเจียงหลีไม่สนใจ พวกหลิงเจี้ยงตระกูลเย่ว์ก็ไม่ได้สนใจ
นางมองไปที่หลิงเจี้ยงทั้งสี่คนนั้น น้ำเสียงยังคงเต็มไปด้วยความถือดี “เลิกพูดจาไร้สาระ คิดว่าจับได้ก็เข้ามาสิ!”
“โอหัง!”
“อวดดี!”
“โง่เขลา!”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์