ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 1030

”หยุด!” เสียงคำรามดังออกมาจากห้องนักบินพร้อมกับประตูที่ระเบิด เมื่อชายชรากำลังจะใช้ทักษะขั้นสูงสุดของเขา นักบินหนุ่มที่ดูไร้เดียงสาสวมหน้ากากหน้ายิ้มกำลังต่อสู้กับโหลวหลานหลิน แต่เธอถูกข่มโดยโลกใบเล็กของเขาและเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
  “ฉันจะฆ่าเธอถ้าแกไม่หยุด!”
  “ไม่ต้องสนใจฉัน! ฉันยังทนได้!” โหลวหลานหลินกรีดร้อง
  เธอไม่คิดว่านักบินจะน่ากลัวขนาดนี้ เธอเป็นเจ้าดวงดาวที่อยู่ในสามสิบอันดับแรกของอันดับราชาเทพ แต่เธอกลับแพ้!
  ในขอบเขตของเขตดาวทองคำ มีเจ้าดวงดาวเพียงสามสิบคนหรืออาจจะมากกว่านั้นที่แข็งแกร่งกว่าเธอ และนักบินก็เป็นหนึ่งในนั้น!
  “ทนได้หรอ? แกคงตายไปแล้วถ้าฉันต้องการฆ่าแกจริงๆ!” ชายหนุ่มสวมหน้ากากกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาเพิ่มแรงกดดันและโลกใบเล็กของเขากำลังบีบโหลวหลานหลิน
  “ไม่ต้องสนใจ!” โหลวหลานหลินตะโกน รูปแบบลับพิเศษปรากฏบนร่างกายของเธอ มันเป็นเทคนิคลับของตระกูลโหลวหลานที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งชั่วคราว เธอไม่ต้องการให้ซูผิงเสียสมาธิเพราะเธอ
  “แกรนหาที่ตาย!”
  ดวงตาของชายหนุ่มที่สวมหน้ากากเย็นชายิ่งกว่าเดิม
  “เท่าที่ฉันเห็น แกต่างหากที่กำลังจะตาย” เสียงสงบของซูผิงดังใกล้ๆ เสียงนั้นเย็นชามาก
  มีคนปรากฏด้านหลังซูผิง มันเป็นร่างโคลนที่สร้างขึ้นจากกระจกท้องฟ้า แม้ว่าร่างโคลนจะเทียบกับตัวเขาเองไม่ได้ แต่มันก็ยังคงมีพลังของเขาครึ่งหนึ่ง!
  นั่นคือพลังของสมบัติ
  “บัดซบ!”
  ชายหนุ่มสวมหน้ากากหยุดลังเล เนื่องจากซูผิงไม่สนใจความปลอดภัยของคนของโหลวหลาน เขาจึงวางแผนจะฆ่าโหลวหลานหลินแล้วจัดการซูผิงร่วมกับชายชรา
  เขาไม่เคยเชื่อจริงๆ หรอกว่าซูผิงจะถูกคุกคามจากความเป็นความตายของคนตระกูลโหลวหลาน ท้ายที่สุดซูผิงเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ในจักรวาล ไม่น่าเป็นไปได้เท่าไหร่ที่เขาจะสนใจคนอื่น
  นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาพบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับซูผิง รวมทั้งบ้านเกิดและพ่อแม่ของเขา แต่ไม่กล้าจับพวกเขามาเพื่อข่มขู่เขา
  พวกเขากลัวว่าเขาจะรู้ตัวก่อนที่พวกเขาจะคุกคามเขา!
  ”ฮะ?”
  ชายหนุ่มสวมหน้ากากยังไม่ทันได้โจมตีก็ตระหนักว่าโหลวหลานหลินซึ่งเขาเคยปราบปรามไว้หายไปแล้ว ความสนใจของเขามุ่งไปที่ซูผิงเพียงอย่างเดียว จากนั้นเขาก็พบว่าเธอปรากฏตัวอีกครั้งข้างๆ ซูผิง
  “ทำได้ยังไง…?”
  ชายหนุ่มสวมหน้ากากยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นเขาก็เห็นร่างโคลนของซูผิงพุ่งเข้าใส่เขา เขารีบต่อต้านการโจมตี
  ”ฉัน…”
  โหลวหลานหลินก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอมองซูผิงอย่างเหม่อลอย ในไม่ช้าเธอก็ตระหนักว่ามันคือกฎแห่งเวลา เขาใช้กฎแห่งเวลาโดยไม่มีใครรู้
  เขาหยุดเวลาไว้ชั่วขณะหรือย้อนเวลากลับไป?
  หรือเขาใช้วิธีอื่น?
  โหลวหลานหลินไม่แน่ใจ แต่เธอรู้ว่าซูผิงแข็งแกร่งมาก เขาช่วยเธอจากชายหนุ่มสวมหน้ากากที่น่าสะพรึงกลัวโดยไม่ส่งเสียง เธอยังคิดว่าอีกฝ่ายมีความสามารถพอๆ กับสามอันดับแรกของอันดับราชาเทพ!
  ปัง!
  ชายชราที่อยู่ข้างๆซูผิงก็ลงมือทันทีเมื่อเห็นว่าซูผิงทำให้ชายหนุ่มสวมหน้ากากฟุ้งซ่าน กริชปรากฏขึ้นในมือของเขา อาวุธเป็นสีดำล้วน ปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนาทึบ ชายชราทำท่าแทง ส่งมันเข้าไปในมิติลึกและเปิดใช้เทคนิคคำสาปลับของเขา
  เขากำลังจะฆ่าซูผิงด้วยพลังคำสาปลับที่เขาได้รับมาจากศพโบราณ!
  เขาจะประสบความสำเร็จตราบเท่าที่เขาสามารถแทงร่างกายของซูผิงได้!
  ดิ๊ง!
  วินาทีต่อมา เสียงที่ไม่คาดคิดก็ดังขึ้น โล่สีม่วงโผล่ขึ้นมาบนร่างของซูผิง ขวางกริชไว้ มันเป็นหนึ่งในของขวัญจากอาจารย์ของเขา ซึ่งสามารถต้านทานการโจมตีจากเจ้าดวงดาวที่แข็งแกร่งที่สุดได้ ย้อนกลับไปในตอนนั้นซูผิงยังไม่ถึงระดับดวงดาวและเจ้าดวงดาวก็ถือเป็นภัยคุกคามที่สำคัญสำหรับเขา สมบัติยังไม่ได้ใช้จนถึงตอนนี้
  ”ตายซะ!!”
  ตาของชายชราเกือบจะถล่นออกมา เขาต้องฉวยโอกาสนี้! เขาล้มเหลวไม่ได้!
  กริชเจาะเกราะในขณะที่เขาใช้พลังเต็มที่ ในที่สุดก็แทงโดนตัวซูผิง แต่ดูเหมือนว่าจะโดนสิ่งที่แข็งมากๆ
  ชายชราตกตะลึง จากนั้นเขาเห็นขนนกสีแดงโผล่ขึ้นมาจากจุดที่กริชของเขาสัมผัส
  ขนนก?
  ชายชรารู้สึกสับสน
  แต่แล้วรัศมีที่แผดเผาก็แผ่ซ่านออกมาและปกคลุมเขาไว้ กฎแห่งไฟที่เกือบจะสมบูรณ์พลันโหมกระหน่ำ
  ซูผิงเชี่ยวชาญกฎแห่งไฟก่อนกฎอื่น มันเกือบจะสมบูรณ์แล้วในขณะนี้ ต้องขอบคุณเศษความทรงจำที่ส่งต่อผ่านสายเลือดอีกาทองคำ พวกมันช่วยซูผิงได้มาก
  “ผนึกวิญญาณ!”
  ซูผิงมองเขาอย่างเฉยเมยและยกมือขึ้น ซึ่งตาของชายชราก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่ากำลังจะปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า!
  ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
  กฎแห่งไฟกวาดและหลอมละลายแขนของชายชรา ผมและเสื้อผ้าของเขาถูกไฟไหม้อย่างรวดเร็ว และพลังดวงดาวในร่างกายของเขาก็เช่นกัน เขาสูญเสียการบ่มเพาะอย่างรวดเร็ว จิตสำนึกของเขายังอยู่ในมือซูผิง แต่ยังไม่ปะทุ แต่ก็ค่อยโดนปิดกั้น
  “ขอฉันดูหน่อยว่าใครเป็นคนบงการการโจมตีครั้งนี้” ดวงตาของซูผิงเย็นชา เขากำลังจะค้นความทรงจำของชายชรา ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา
  เขาได้รับเทคนิคลับพิเศษทุกประเภทในสนามบ่มเพาะ การแทรกซึมจิตใจเป็นหนึ่งในนั้น เขาเรียนรู้มันจากสิ่งมีชีวิตอันเดธมานานมากแล้ว
  วิญญาณจำนวนมากสามารถทำได้ โครงกระดูกน้อยก็ทำได้เช่นกัน
  “ไม่มีทาง!” ชายชราคำรามอย่างน่ากลัว ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ไม่ชัดเจนว่าเกิดจากความกลัวหรือความเจ็บปวด หมอกสีดำปะทุออกมาจากร่างกายของเขาราวกับว่าผีกำลังร้องไห้
  “แกต้องสาป?” ซูผิงรู้สึกว่าหมอกดำค่อนข้างแปลก มีกลิ่นอายของคำสาปที่มีเพียงสิ่งมีชีวิตอันเดธที่น่าสะพรึงกลัวเท่านั้นถึงจะสามารถควบคุมได้ ชายชราคนนี้กำลังบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด คำสาปสามารถครอบงำชายชราและแทนที่จิตสำนึกของเขาได้ตลอดเวลา!
  ชายชรากรีดร้องอย่างน่าสังเวช หมอกสีดำพุ่งขึ้นและรวมตัวกันก่อนที่จะชี้มาที่ซูผิงเหมือนนิ้วดำ
  ซูผิงหน้าเสียเล็กน้อยและพ่นลมหายใจ ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีทองบริสุทธิ์ ก่อนที่เขาจะพ่นไฟอีกาทองคำออกมา
  เปลวไฟที่ครอบงำมากที่สุดในโลกได้ปรากฏขึ้น ทำให้ห้องโดยสารลุกเป็นไฟเกือบทั้งห้อง แม้แต่กฎและความว่างเปล่าก็ถูกละลาย
  มีควันมาจากนิ้วดำ ราวกับนิ้วกำลังไหม้ เสียงพ่นลมหายใจดังขึ้นตอนมันกำลังโดนละลาย
  เสียงพ่นลมหายใจกระทบจิตใจของซูผิงอย่างหนัก ราวกับค้อน การโจมตีดังกล่าวทำให้เขาตกใจมาก เขาคงจะสลบไปแล้วหากเขาไม่ได้เข้าทะเลมายามาก่อน!
  นิ้วที่สร้างจากหมอกสีดำค่อยๆ กระจายไปพร้อมกับกลิ่นอายที่น่าขนลุกและมืดมิดในอากาศ การแสดงออกของซูผิงแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนั้นได้รับสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ น่าจะเป็นพลังจิตสำนึกที่คงอยู่ของยอดฝีมือที่ตายไปแล้ว หรือยอดฝีมืออาจพยายามคืนชีพโดยใช้คำสาป!
  โชคดีที่มันเป็นเพียงจิตสำนึกที่หลงเหลืออยู่… ซูผิงแอบโล่งใจ เขามองชายชราที่กำลังดิ้นรนและคำรามโดยไม่แสดงความเมตตาใดๆ
  การรับรู้ที่เหลืออยู่ของชายชราดูเหมือนจะตระหนักว่าเขาถึงวาระแล้ว เขาวางแผนที่จะระเบิดตัวเองทันที
  อย่างไรก็ตาม พลังจิตของซูผิงนั้นยิ่งใหญ่กว่าเจ้าดวงดาวใดๆ เขาระงับชายชราไว้อย่างสมบูรณ์ เขาไม่ให้โอกาสชายชราฆ่าตัวตาย
  “แกต้องการที่จะฆ่าตัวตายหรอ? ไม่ใช่ตอนนี้” ซูผิงมองชายหนุ่มสวมหน้ากากอย่างเย็นชาหลังจากจับวิญญาณของชายชราไว้เขาเห็นว่าชายคนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจากร่างโคลนของเขา
  แม้ว่าร่างโคลนของเขาจะมีพลังเพียงครึ่งเดียวของตัวเขา แต่ก็ยังเพียงพอที่จะปราบปรามคู่ต่อสู้ของเขา
  “หยุด!”
  ซูผิงชี้นิ้ว ทำให้มิติเวลาสั่นสะเทือน ชายหนุ่มสวมหน้ากากที่ยังคงดิ้นรนต่อสู้ตัวแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง ร่างโคลนของซูผิงฉวยโอกาสนี้ปราบปรามเขา ส่งเขาไปยังโลกใบเล็ก
  โลกของร่างโคลนก็สมบูรณ์เช่นกัน เพียงแต่มีพลังเพียงครึ่งเดียวของซูผิง
  ถึงกระนั้น ชายหนุ่มสวมหน้ากากก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้
  ยานอวกาศได้รับความเสียหายอย่างหนัก และทุกคนเผชิญกับอวกาศอยู่ในตอนนี้
  โหลวหลานหลินรู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นว่าซูผิงจัดการพวกซุ่มโจมตีได้ภายในพริบตา เธอตกใจมากกว่าเดิมเมื่อเห็นชายหนุ่มสวมหน้ากากเข้าไปในโลกใบเล็กของร่างโคลนและพยายามดิ้นรนจะออกมา
  “ถ้านายเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับพวกเขา ทำไมนายไม่ทำอะไรก่อนหน้านี้ล่ะ?”โหลวหลานหลินถามซูผิงหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง
  ณ ตอนนี้ซูผิงกำลังแทรกซึมเข้าไปในจิตใจของชายชราและอ่านความทรงจำทั้งหมดของเขา เมื่อได้ยินคำถามของโหลวหลานหลินเขาก็ตอบว่า “แม้ว่าพวกเขาจะซ่อนการบ่มเพาะของพวกเขา แต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะทำร้ายเรา ถ้าพวกเขาเป็นคนดีจริง ๆ ล่ะ?”
  “พวกเขามีพิรุธมากเกินไป พวกเขาจะไม่ทำร้ายเราได้ยังไง?” โหลวหลานหลินไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
  “ฉันคิดว่ามีเพียงสภาวะเทพดวงดาวเท่านั้นที่จะถูกส่งมาเพื่อฆ่าพวกเรา” ซูผิงส่ายหัว “ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าพวกเขาจะส่งลูกน้องแบบนี้มา”
  โหลวหลานหลินตะลึงงันกับคำตอบ กำลังคิดที่จะเถียงกับเขา อย่างไรก็ตามเธอถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นวิญญาณเชื่องช้าของชายชราที่ถูกซูผิงบีบอยู่ บวกกับนักฆ่าอีกคนที่ถูกขังอยู่ในโลกใบเล็ก
  นักฆ่าเจ้าดวงดาวผู้แข็งแกร่งสองคนถูกซูผิงปราบปรามอย่างง่ายดาย เธอเองก็รู้สึกว่าโลกนี้มันบ้าไปแล้ว!
  “เธอรู้จักหอคอยทมิฬไหม?” ซูผิงถาม
  โหลวหลานหลินหรี่ตาลง ขนลุกไปทั้งตัว เธอถามด้วยความตกใจ “พวกเขาเป็นคนของหอคอยทมิฬหรอ? เป็นไปได้ยังไง?”
  “มันเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากหรอ?” ซูผิงเกือบจะค้นหามันบนนาฬิกาของเขา
  “คนทั่วไปไม่เคยได้ยินหรอก อย่างไรก็ตามในแง่ของการลอบสังหาร มันเป็นอันดับ 1 ในจักรวาลทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย!”
  โหลวหลานหลินอดไม่ได้ที่จะอธิบายเพิ่มเติมว่า “เป้าหมายของหอคอยทมิฬไม่เคยรอด นักฆ่าในหอคอยทมิฬไม่เคยกลัวใคร ว่ากันว่ามียอดฝีมือเทพอมตะอยู่เบื้องหลังหอคอยทมิฬ ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาถูกส่งมาเพื่อฆ่านาย มันสมเหตุสมผล มีเพียงหอคอยทมิฬ ท่านั้นที่กล้าส่งสภาวะเทพดวงดาวมาฆ่านายโดยไม่ต้องกังวลกับการตอบโต้ของอาจารย์นาย!”
  โหลวหลานหลินเข้าใจทุกอย่างและอ้าปากค้าง
  “อย่างไรก็ตาม ฉันจะเป็นข้อยกเว้น” ซูผิงกล่าวอย่างไม่เป็นทางการ แต่เขาค่อนข้างเคร่งขรึม
  หอคอยทมิฬได้รับการสนับสนุนจากยอดฝีมือสภาวะเทพอมตะ พวกเขาเลือกที่จะโจมตีเขาด้วยความคิดของพวกเขาเองหรือว่าเป็นสัญญา?
  แม้ว่าชายชราจะฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ แต่ดูเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะถูกซูผิงจับ ความทรงจำของเขาได้รับการแก้ไข ซึ่งทำให้ซูผิงไม่สามารถหาข้อมูลทั้งหมดได้
  อย่างไรก็ตาม เขาได้พบหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับการจู่โจม
  ตัวอย่างเช่นชื่อของยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวคือหยินซิง เขาจะจำไว้ไม่ลืม!
  นอกจากนี้ ระบบดาวเคราะห์ปราสาทฟ้ายังถูกนักฆ่ากวาดล้าง นักฆ่าอีกสี่คนวางกับดักขนาดใหญ่ไว้ที่นั่น พร้อมที่จะฆ่าซูผิง
  น่าเสียดายที่เมื่อพวกเขาพยายามวางยาพิษซูผิงบนยานอวกาศเพื่อทำให้ร่างกายอ่อนแอลง พวกเขาไม่ได้คิดว่าโหลวหลานหลินจะมีสมบัติลับที่สามารถตรวจจับพิษได้
  พวกเขารู้สึกมั่นใจในยาพิษที่ซื้อมามาก คงไม่มีนักฆ่าที่คนไหนจะสังเกตเห็น อย่างไรก็ตามโหลวหลานหลินสังเกตเห็นและไหวตัวทัน
  เขาเดินทางผ่านมิตินนับร้อยและในที่สุดก็มาถึงภูมิภาคนี้ และอีกฝ่ายก็วางกับดักไว้ในสถานที่นี้แล้ว! ซูผิงค่อนข้างประทับใจหลังจากอ่านความทรงจำของชายชรา
  มิติโดยรอบถูกปิดกั้น สภาวะเทพดวงดาวที่ชื่อหยินซิงได้วางแผนที่จะขวางผู้พิทักษ์สภาวะเทพดวงดาวของซูผิงไว้เท่านั้น จากนั้นจึงผลักซูผิงเข้าไปใน “กระเป๋า” ที่พวกเขาเตรียมไว้ล่วงหน้า
  ส่วนหนึ่งของมิตินั้นคือด้านในของกระเป๋า
  ถ้าซูผิงไม่รู้แผนการ เขาจะต้องติดอยู่ในกระเป๋าไม่ว่าเขาจะเคลื่อนย้ายกี่ครั้งก็ตาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว