ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 221

ตอนที่ 221 ความสามารถราชาอสูร
หมูสวรรค์เคยเป็นอสูรดวงดาวระดับสามที่มีรูปร่างน่ารักและสีชมพู
เกินกว่าจะทำให้คนกลัวได้ การอยู่ในคอกเลี้ยงดูช่วยให้มันมาถึง
ระดับสี่ แม้ว่าการพัฒนาดังกล่าวจะไม่ได้ช่วยให้หลีกเลี่ยงความรู้สึก
หวาดกลัวจากกลิ่นอายที่ทำลายจิตใจ มันเริ่มกรีดร้องราวกับว่าถูก
ลากไปโรงเชือด
การปรากฏตัวของมังกรเพลิงนรกนั้นเพียงพอที่จะทำให้อสูรระดับ
ต่ำเช่นนั้นอ่อนเปลี้ยลง ไม่ต้องพูดถึงว่ามีบางสิ่งที่น่ากลัวกว่าอยู่ที่
นั่น
“โอ๊กก!”
สมองของหมูทำงานไม่ปกติอีกต่อไป สัญชาตญาณทางร่างกายของ
มันกระตุ้นให้มันวิ่งหนี
“จิ๊…”
ซูผิงปลดปล่อยทักษะ “เจตนาฆ่า” อีกครั้งผ่านสัญญาอสูรชั่วคราว
ทำให้หมูสวรรค์หยุดนิ่งและวิ่งกลับมา ในขณะที่ดวงตาที่นิ่งของมัน
เปล่งประกายสีแดงเล็กน้อย ภายใต้คำสั่งของซูผิงหมูพุ่งเข้าสู่สนาม
รบด้วยกีบเล็ก ๆ ของมัน
อย่างไรก็ตาม ผลของทักษะนั้นอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อหนวดที่มี
ลักษณะคล้ายแส้โผล่ออกมาบนพื้นตรงหน้าหมูจนเกือบจะตัดจมูก
ของมันออก
“อี้ดดดด…”
สิ่งมีชีวิตที่น่าสงสารเริ่มตัวสั่นอีกครั้ง จากนั้นมันก็หันกลับและหนี
ไป
“โห ทักษะของฉันล้มเหลวเร็วขนาดนี้ได้ไง” ซูผิงเฝ้าดูมันวิ่งและ
บ่น “แกขี้ขลาดที่สุดเท่าที่ฉันเคยฝึกมา”
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ทักษะอีกครั้ง บังคับให้หมูหันกลับมา
และต่อสู้อีกครั้ง คราวนี้เขาต้อง “รีเฟรช” ทักษะให้ทันเวลาเพื่อไม่ให้
หมูตื่นตัวเร็วเกินไป
มันได้ผล แต่นั่นไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรมากนักในการต่อสู้ เพราะหมู
กลายเป็นชิ้นเนื้อทันทีที่มันเข้าใกล้ศัตรู ซูผิงบังคับให้หมูโดนตีจน
ตายซ้ำ ๆ สิ่งนี้จะไม่ช่วยให้มันเอาชนะและไม่ช่วยให้หมูเรียนรู้เทคนิค
ใหม่ ๆ การทำเช่นนั้นซูผิงต้องการให้หมูอยู่ภายใต้แรงกดดันจาก
การถูกฆ่า เพื่อที่มันจะได้รับสิ่งใหม่ ๆ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์
ที่สิ้นหวัง
ทั้งสุนัขมังกรดำของเขาและมังกรเพลิงนรกเรียนรู้ที่จะจู่โจมและ
ระมัดระวังในเวลาเดียวกันจาก “การฝึกความตาย” ของพวกมัน นี่
คือเหตุผลที่พวกมันสามารถฟังคำสั่งของเขา เผชิญหน้ากับราชาอสูร
และเทพธิดาโดยไม่ทิ้งเขา
ซูผิงให้ความสนใจกับอสูรของตัวเองเป็นหลักในระหว่างการต่อสู้
เพราะมันสำคัญกว่าที่จะให้พวกมันได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ สำหรับ
หมูสวรรค์ กรณีนี้ต้องการให้มันพัฒนาไหวพริบสักเล็กน้อยเท่านั้น
มันไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไป
หวีด!
โครงกระดูกน้อยเคลื่อนย้ายไปรอบ ๆ อสูร เพื่อมองหาจุดอ่อน
ส่วนใหญ่แล้วโครงกระดูกน้อยจะปลอดภัยเพราะสุนัขมังกรดำและ
มังกรเพลิงนรกจะดึงความสนใจ นอกจากนี้มันค่อนข้างทำได้ดีใน
การหลบหลีกการโจมตี แม้แต่ราชาอสูรก็ยังต้องใช้ความพยายามใน
การจับมัน
“ใช้ทาสอันเดธ!” ซูผิงสั่งเมื่อเขาเห็นกระดูกมากมายที่สามารถใช้ได้
ในบริเวณโดยรอบ ขนาดของโครงกระดูกเหล่านั้นบ่งบอกว่าพวกมัน
อาจเคยเป็นราชาอสูรตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาไม่แน่ใจว่าโครงกระดูก
น้อยแข็งแกร่งพอที่จะเปลี่ยนราชาอสูรให้เป็นทาสได้หรือเปล่า แต่
เขาจะไม่เสียเวลาคิดหาโอกาสอื่น เขาแค่ต้องลอง
ตามคำสั่งของเขา โครงกระดูกน้อยปรากฏตัวขึ้นบนกองกระดูก
หนึ่งกอง ปลดปล่อยเมฆมืดออกมารอบ ๆ ทำให้กระดูกเริ่มกระตุก
เมื่อสูญเสียความช่วยเหลือจากโครงกระดูกน้อย อสูรตัวอื่น ๆ ก็เริ่ม
ตายเร็วเกินไป โดยไม่มีเวลาให้ซูผิงมากพอที่จะเรียกพวกมันกลับมา
เมื่อเห็นเช่นนี้ซูผิงก็กระโดดลงจากอสรพิษม่วง ขอให้มันเข้าร่วม
การต่อสู้ด้วย
หลังจากนั้นเขาก็ต้องคอยระวังอันตรายอยู่ตลอดเวลา
อสรพิษม่วงไม่ได้ทำได้ดีไปกว่าหมูสวรรค์เพราะมันไม่สามารถทำ
อะไรได้
เช่นเดียวกับเพื่อน ๆ ของมันอสรพิษยังคงทุ่มเทกับการฝึกนี้ ปลด
ปล่อยศักยภาพที่ซ่อนอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าเพียงเพื่อให้ทันต่อวินาที
พิเศษทุกครั้งที่มันกลับมา
ห่างจากพวกมัน โครงกระดูกน้อยจัดการกองกระดูกได้สำเร็จ และ
ยืนขึ้น รูปร่างทั่วไปของมันดูเหมือนจะเป็นช้าง แต่มีความสูงอย่าง
น้อยหนึ่งร้อยเมตร
กรู๊ฟ!
สิ่งแรกที่มันทำคือคำรามใส่โครงกระดูกน้อย ต่อต้านการควบคุม
ของมัน
โครงกระดูกน้อยสั่นราวกับว่าร่างของมันกำลังแตก เบ้าตากลวงของ
มันสว่างขึ้นและเงาของโครงกระดูกที่ใหญ่กว่าก็โผล่ออกมาจาก
ด้านหลัง ส่งกลิ่นอายครอบงำจากมิติอื่น
“ช้าง” ล้มลงก่อนที่กระดูกบางส่วนจะลอยกลับขึ้นมารวมตัวกันเพื่อ
สร้างรูปร่างที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งค่อย ๆ เคลื่อนเข้าหาจระเข้ปู
ซูผิงสามารถบอกได้ว่าโครงกระดูกน้อยถึงขีดจำกัดผ่านการเชื่อมต่อ
ของพวกเขา แต่ผลลัพธ์ก็น่าพึงพอใจ โครงกระดูกน้อยสามารถ
ควบคุมร่างของราชาอสูรได้ แม้มันจะเป็นแค่อสูรดวงดาวระดับหก
ก็ตาม คงไม่มีใครเชื่อถ้าซูผิงบอกว่าโครงกระดูกระดับหกสามาร
ควบคุมราชาอสูรได้
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณสายเลือดของราชาโครงกระดูกที่ซ่อนอยู่ใน
โครงกระดูกน้อย
สายเลือดถูกมองว่า “ด้อยกว่า” โดยระบบเท่านั้น ซูผิงสงสัยว่าราชา
โครงกระดูกที่แท้จริงสามารถทำอะไรได้บ้าง
การมาถึงของ “กึ่งราชาอสูร” ดึงดูดความสนใจของจระเข้อย่าง
รวดเร็ว มันทิ้งศัตรูที่อ่อนแอกว่าและมุ่งหน้าไปทางนั้น
สุนัขมังกรดำและมังกรเพลิงนรกพบว่ามีโอกาสที่จะปลดปล่อยการ
โจมตีที่ดีที่สุดของพวกมัน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ผลกับร่างกายที่แข็ง
ของอสูร
กรู๊ฟ!
มังกรเพลิงนรกรู้สึกอับอายเพราะความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ มัน
รวบรวมพลังงานเล็กน้อยที่มีอยู่ในร่างกายและปล่อยเพลิงนรกใส่
อสูร
พลังทำลายล้างรุนแรงซึ่งบรรจุเพลิงนรกนี้ทำให้จระเข้หยุดลง
ชั่วขณะ
เพลิงนรกฝังลงบนหางของอสูรและติดไฟ อสูรพยายามดับเปลวไฟ
โดยใช้ทรายรอบ ๆ แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงไฟก็ยังคงอยู่ในขณะที่
ทิ้งแอ่งทรายที่ละลายไว้ข้างหลัง
ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย อสูรจึงกระแทกกรงเล็บที่เหมือน
ปากนกแก้วลงบนพื้น ส่งคลื่นกระแทกวงกลมออกไป
ซูผิงมีเวลาเพียงแค่ลอยตัวขึ้นจากพื้นเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตี แต่อสูร
ทั้งหมดของเขายกเว้นโครงกระดูกน้อยถูกคลื่นกระแทก ระเบิด
ออกเป็นก้อนเลือด
น่าแปลกที่คลื่นกระแทกนั้นไม่มีผลต่อทาสกระดูกที่ควบคุมโดย
โครงกระดูกน้อย
ซูผิงถอนหายใจอย่างโล่งอกและฟื้นคืนชีพอสูรของเขา เพื่อ
ดำเนินการต่อ
“เมื่อกี้คืออะไร…?” เขาเหลือบมองไปที่หางของอสูรซึ่งยังคงลุกเป็น
ไฟก่อนที่เขาจะใช้ทักษะระบุกับมังกรเพลิงนรก
เขาเห็นทักษะใหม่ปรากฏขึ้น
[ไฟมังกรเพลิงนรก (ระดับ 1)]
ดูเหมือนว่าการโจมตีด้วยไฟดั้งเดิมของมังกรเพลิงนรกเพิ่งได้รับชื่อ
ใหม่พร้อมกับระดับที่อยู่ข้าง ๆ แต่เขาจำไม่ได้ว่าเห็นทักษะอื่นที่มี
ป้ายกำกับแบบนี้
ดังนั้น … ฉันสามารถยกระดับทักษะนี้ให้สูงขึ้นได้ในอนาคตได้ใช่
ไหม?
เขาตัดสินใจโยนคำถามไปที่ระบบ ระบบมักใจกว้างพอที่จะตอบ
คำถามง่าย ๆ แม้ว่าบางครั้งเขาก็ต้องจ่ายในราคาเหมาะสม
“การตอบกลับ : ระดับจะแสดงเสมอเมื่อทักษะที่ราชาอสูรใช้ถูก
ดัดแปลง เจ้านายจะเห็นคำอธิบายโดยละเอียดมากขึ้นเมื่อนายเรียนรู้
ระบุ (ระดับกลาง) เจ้านายต้องการเรียนรู้ตอนนี้หรือไม่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว