ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 354

ตอนที่ 354 เสียงคำรามของซูผิง
  ซูผิงรู้สึกอยากลอง
  สิ่งเลวร้ายสุดที่อาจเกิดขึ้นคือเขาจะต้องใช้แต้มพลังงานในการคืนชีพ
  อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับประโยชน์ของการกลั่นพลังงานของเขาด้วยบททดสอบสวรรค์แล้ว ซูผิงเชื่อว่าแต้มพลังงานจะถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่า นี่เป็นสิ่งที่เขาอาจพบได้ด้วยโชคเท่านั้นไม่ใช่จากการค้นหา!
  เนื่องจากการทดสอบของสวรรค์สามารถทำให้อสูรของเขาพัฒนาขึ้นได้มันจึงสามารถพัฒนาพลังงานของเขาได้เช่นกัน
  ความแข็งแกร่งและอำนาจของเขาเองก็มีความสำคัญหลังจากที่มีพลังเพียงพอแล้ว เขาจะสามารถควบคุมอสูรที่ดุร้ายได้ มิฉะนั้นอสูรที่ดุร้ายอย่างมังกรเพลิงนรกและสุนัขมังกรดำจะไม่เชื่อฟังเขา
  “ฉันอยากลองดู” ซูผิงพูดกับโจแอนนา
  หลังจากประหลาดใจเพียงครู่เดียวโจแอนนาก็เข้าใจเจตนาของซูผิง เธอยิ้มออกมาอย่างฝืน ๆ มีเพียงคนอย่างซูผิงที่ไม่รู้จักตายเท่านั้นที่สามารถใช้บททดสอบสวรรค์เพื่อฝึกฝนได้
  บททดสอบสวรรค์เป็นการลงโทษทางวินัยประเภทต่างๆอย่างไรก็ตาม สำหรับซูผิงการทดสอบได้กลายเป็นเครื่องมือฝึกฝน ดูเหมือนว่าสวรรค์กำลังทำงานให้กับซูผิง…“ เอาเลย” โจแอนนากล่าว เธอถอนหายใจกับตัวเอง เธอคงจะโกหกถ้าเธอบอกว่าเธอไม่ได้อิจฉาเขา จะมีอะไรบ้างที่เธอไม่สามารถทำได้ ถ้าเธอมีความสามารถแบบเขา
  ซูผิงพยักหน้า
  สายฟ้ารอบที่สี่เริ่มต้นขึ้น
  คราวนี้มีสายฟ้ามีจำนวนมากขึ้นสายฟ้าแล่ ฟ้าร้องดังกึกก้อง ขณะที่สายฟ้า 18 สายกำลังผ่าลงมา นั่นเกินกว่าที่ชายวัยกลางคนจะแบกรับทั้งหมดด้วยตัวเอง
  หากเขาอยู่คนเดียวบททดสอบสวรรค์ของเขาจะสิ้นสุดลงหลังจากผ่านไปเพียงสามรอบ พลังของเมฆสายฟ้าก็จะหมดลงเพราะเขากระตุ้นให้เกิดเมฆสายฟ้าที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งพันเมตรเท่านั้น
  อย่างไรก็ตามความจริงก็คือเขาต้องเผชิญหน้ากับรอบที่สี่
  ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากเมฆสายฟ้ารุนแรงขึ้นเรื่อยๆแทนที่จะลดลง แถมมันน่าจะมีรอบที่ห้า หรือแม้แต่รอบที่หก!
  “โล่แห่งแอรีส…”
  ชายวัยกลางคนรู้สึกประหม่าที่พึ่งเดียวที่เขามีคือโล่
  ตูม!
  ฟ้าผ่าลงมา
  โฮก!!
  มังกรเพลิงนรกเหวี่ยงตัวไปที่สายฟ้าทนต่อการโจมตีด้วยร่างกายเพียงอย่างเดียว สายฟ้านั้นแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา ไม่นานเกล็ดมังกรก็แตกออก เนื้อของมันฉีกขาด เลือดไหลออกมาจากทั่วร่างกาย
  มังกรไม่หยุดนิ่งมันคำรามและคำรามขณะที่มันพุ่งใส่สายฟ้าอีกสาย
  ตูม!
  สายฟ้าลูกนี้ได้ระเบิดปีกมังกร
  ตูม!
  สายฟ้าที่สามตามมาเหมือนค้อนขนาดใหญ่ทุบลงบนตัวมังกร กดมันลงกับพื้น เกล็ดของมังกรไหม้เกรียมและบิดเบี้ยว ทั้งวิญญาณและจิตสำนึกของมังกรเพลิงนรกตายแล้ว
  ในการทดลองครั้งแรกมังกรเพลิงนรกสามารถผ่านการโจมตีได้ถึงสี่ครั้งแต่คราวนี้มันตายหลังจากสาม
  สายฟ้าฟาดรอบที่สี่มีพลังมากกว่าก่อนหน้านี้มาก
  หวีด!
  ซูผิงให้มังกรเพลิงนรกคืนชีพขึ้นมาทันทีในขณะเดียวกันเขาก็บินขึ้นไปบนฟ้า
  ปัง!
  สายฟ้าฟาดลงมาใส่ชายวัยกลางคนและตกใส่ร่มในมือของเขา แต่การโจมตีได้ผ่านร่ม เข้าปะทะกับโล่แห่งแอรีส
  โล่แห่งแอรีสเปล่งสีทองจางๆ และกลายเป็นทรงกลมที่ปกคลุมชายวัยกลางคนอย่างสมบูรณ์
  สายฟ้าฟาดไม่สามารถทำลายทรงกลมได้
  หลังจากนั้นชายวัยกลางคนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นความตื่นเต้นเข้ามาในดวงตาของเขา ไม่น่าแปลกใจที่โล่แห่งแอรีสมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งแดนเทพ โล่นี่คู่ควรกับชื่อเสียง!
  แต่ทว่าสายฟ้ากลับสลายหายไป
  ไม่มีสายฟ้าโจมตีเขาอีกแล้วสายฟ้าที่เหลือทั้งหมดกลับเข้าไปในเมฆดำ
  เกิดอะไรขึ้น?
  ชายวัยกลางคนงงงวย
  หลังจากนั้นเขาสังเกตเห็นว่าเมฆมืดเริ่มปั่นป่วนเหมือนน้ำเดือดจากนั้นมันก็เริ่มขยับขยายอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการเทน้ำเดือดลงบนชามที่เต็มปริ่มขอบแล้ว
  เมฆสายฟ้ากำลังขยายอีกครั้ง!
  ชายวัยกลางคนตกตะลึง
  เขาได้ยินเสียงดังเขาหันกลับไป เห็ซูผิง มนุษย์ที่เขาพบในช่วงสั้น ๆ บินมาหาเขา
  อะไร…?
  ชายวัยกลางคนตกตะลึงเขารู้ว่ามนุษย์หนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา เขาเป็นมนุษย์ แต่เทพในท้องถิ่นทั้งหมดกลับปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ ชายวัยกลางคนเคยถามทหารยามและได้รับแจ้งว่ามนุษย์คนนี้เป็นแขกผู้มีเกียรติของท่านหญิงโจแอนนา
  เมื่อพิจารณาสถานะของโจแอนนาแล้วมันก็สามารถจินตนาการได้ว่าแขกของเธอจะพิเศษแค่ไหน “ คุณ…” ชายวัยกลางคนไม่เข้าใจว่าซูผิงจะมาที่นี่ทำไม เขาไม่รู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของซูผิง เขารู้สึกว่าซูผิงอ่อนแอ แต่ใครจะบอกได้ว่าซูผิงซ่อนความสามารถของเขาไว้หรือเปล่า?
  ถ้าซูผิงเป็นเหมือนเทพสวรรค์หรือเทพนักรบความแข็งแกร่งของบททดสอบสวรรค์จะเพิ่มขึ้นในระดับที่เขาไม่สามารถจินตนาการได้!
  อย่างไรก็ตามความศักดิ์สิทธิ์ของสวรรค์ไม่ใช่สิ่งที่จะท้าทายได้!
  แม้ว่าเมื่อเทพที่ทรงพลังต้องการช่วยเหลือคนรุ่นหลังวิธีเดียวคือให้ของวิเศษบางอย่างแก่คนรุ่นหลัง พวกเขาไม่สามารถแทรกแซงเป็นการส่วนตัวได้ มิฉะนั้นบททดสอบของสวรรค์จะถือว่าพวกเขาเป็นผู้เข้าร่วม ถ้าเป็นเช่นนั้นการทดสอบสวรรค์จะไม่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ในตอนนั้นอีกต่อไป ซูผิงยืนอยู่ข้างชายวัยกลางคนในอากาศ เขายังงุนงงว่าทำไมสายฟ้าถึงหยุด แต่ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจเนื่องจากเขาสังเกตเห็นว่าเมฆดำกำลังขยายตัว
  การทดสอบสวรรค์กำลังขยายครั้งใหญ่ดูเหมือนว่าศักยภาพของฉันจะเหนือกว่ามังกรเพลิงนรก ไม่งั้นการทดสอบนี้จะไม่ตอบสนองเช่นนี้ ซูผิงคิด ความคิดนี้ทำให้เขาพอใจ บททดสอบสวรรค์กลายเป็น “ผู้ตัดสิน” ที่ค่อนข้างยุติธรรม
  “ฉันสงสัยว่ามันจะใหญ่แค่ไหน…” ซูผิงตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเห็นผลลัพธ์เพื่อให้เข้าใจถึงศักยภาพของเขาอย่างชัดเจน
  เขาสามารถดูคะแนนไหวพริบของอสูรได้แต่ระบบไม่อนุญาตให้เข้าถึงเพื่อดูคะแนนของตัวเอง ระบบรู้ แต่ไม่ยอมบอกเขา ดังนั้นเขาจึงไม่รู้
  ตูม~!
  เมฆสายฟ้าระเบิดและมีขนาดใหญ่ขึ้น
  ในพริบตาเส้นผ่านศูนย์กลางของเมฆขยายเป็นสี่หมื่นเมตรและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
  “ไม่มีทาง…”เทพนักรบที่ยืนอยู่บนพื้นไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้ เขากลัวเล็กน้อย เขาสามารถบอกได้ว่าซูผิงอยู่ในระดับหกและไม่ได้ซ่อนอะไรไว้ เขาแน่ใจว่าเขามองไม่ผิดเกี่ยวกับซูผิง เว้นแต่ซูผิงจะมีระดับสูงกว่าเขา
  จากประสบการณ์และปฏิสัมพันธ์ของเขากับซูผิงเทพนักรบมั่นใจว่าซูผิงไม่ได้ปิดบังเรื่องระดับของเขา เขาอยู่ที่ระดับหกจริง
  สี่หมื่นเมตร…
  ซูผิงมีศักยภาพระดับเทพนักรบ!
  หากคนอื่นรู้เรื่องนี้ขุมกำลังจำนวนมากในแดนเทพจะพยายามรับสมัครเขา!
  เทพนักรบจะมีชนชั้นสูงในแดนเทพ
  ท้ายที่สุดแล้วผู้ที่มีอำนาจมากกว่าเทพนักรบก็คือเทพหลักซึ่งมีอยู่ไม่กี่คนและอยู่ห่างไกลจากแดนเทพทั้งหมด
  เทพนักรบมีสีหน้าเคร่งขรึมก่อนวันนี้เขาปฏิบัติต่อซูผิงด้วยความเคารพเพราะโจแอนนา แต่หลังจากการเปิดเผยศักยภาพส่วนตัวของซูผิง เขาจะเคารพต่อซูผิงจากใจจริง
  ในทางกลับกันโจแอนนาเฝ้าดูเมฆดำขยายใหญ่ขึ้นดูเหมือนเธอจะไม่แปลกใจเลย
  เธอตระหนักดีว่าซูผิงมีศักยภาพมากกว่าอสูรของเขาเขาเป็นเจ้าของพวกมัน เนื่องจากอสูรของเขาสามารถก้าวหน้าในสนามบ่มเพาะนี้ได้ จึงไม่มีเหตุผลที่เขาจะทำแบบเดียวกันไม่ได้
  นอกจากนี้ซูผิงจะไม่ตายจริงในขณะที่เขาอยู่ที่นี่เขามีทักษะที่สามารถย้อนเวลาได้
  ซูผิงได้รับการสนับสนุนจากขุมอำนาจลึกลับโจแอนนาเชื่อว่าซูผิงเป็นศิษย์ของใครบางคน เป็นที่เข้าใจได้ว่าศิษย์ของคนแบบนั้นจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเทพนักรบ
  บูม_!
  เมฆสายฟ้ากำลังม้วนตัวและในไม่ช้าเส้นผ่านศูนย์กลางของมันก็เพิ่มขึ้นเป็นห้าหมื่นเมตร
  ภูเขาทั้งลูกอยู่ภายใต้ร่มเงาของเมฆดำเทพแท้จริงและเทพสวรรค์จำนวนมากต่างจ้องมองไปที่เมฆสายฟ้าขนาดใหญ่ด้วยความประหลาดใจ
  พวกเขาไม่เคยกระตุ้นอะไรที่ใหญ่ขนาดนั้นตอนทำการทดสอบนี่เป็นสัญญาณของบุตรแห่งสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้!
  เหล่าเทพจ้องมองด้วยความประหลาดใจเมฆดำก็ยังคงขยายใหญ่ ในไม่ช้าเส้นผ่านศูนย์กลางก็กว้างถึงหกหมื่นเมตรและมันยังคงขยายต่อไป
  เจ็ดหมื่น…แปดหมื่น…เก้าหมื่น…
  หนึ่งแสน!
  ภายในไม่กี่นาทีเส้นผ่านศูนย์กลางของเมฆมืดก็ขยายออกไปเกินกว่าแสนเมตร!
  เทพนักรบตกใจมากจนดวงตาแทบถลน
  ขนาดนั้นบ่งบอกถึงศักยภาพที่ทัดเทียมกับเทพหลัก!
  แถมยังเป็นเทพหลักที่โดดเด่นอย่างมาก!
  ชายหนุ่มคนนี้น่ากลัวขนาดนี้เลยหรือ?
  เทพนักรบเป็นผู้รอบรู้และมีชีวิตอยู่มาเป็นเวลานานถึงกระนั้นเขาก็แทบไม่เคยเห็นเมฆสายฟ้าขนาดนี้ เมื่อใดก็ตามที่เกิดเมฆสายฟ้า เทพทั้งหมดจะได้รับการแจ้งเตือน!
  ในขณะนี้ไม่มีใครเลย- จากยอดเขาถึงตีนเขา – ที่ส่งเสียงใด ๆ
  บรรดาเทพแท้จริงและเทพแห่งสวรรค์ต่างตกตะลึงและยืนอ้าปากค้าง
  “หนึ่งแสนเมตร…”
  โจแอนนาถึงกับผงะเธอจ้องมองชายหนุ่มที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ด้วยความช่วยเหลือจากตัวตนที่แท้จริงของเธอ โจแอนนาจึงได้รับของวิเศษล้ำค่ามากมายกับเลือดของสิ่งมีชีวิตพิเศษ จนสามารถสร้างร่างกายเช่นนี้ได้ แต่เธอไม่เคยคิดว่าซูผิงเองก็มีศักยภาพเช่นนั้น
  ศักยภาพและความสามารถไม่สามารถอธิบายสิ่งนี้ได้และทรัพยากรเพียงอย่างเดียวก็ไม่ใช่คำตอบ มันต้องโชคดีอย่างมาก!
  บนท้องฟ้า
  ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆซูผิงรู้สึกมึนงงเป็นเวลานานเขาปล่อยให้ปากของเขาอ้ากว้าง ไม่สามารถหุบขากรรไกรได้สนิท
  ฉันเป็นใคร?
  ฉันอยู่ที่ไหน?
  ฉันกำลังทำอะไร?!
  มีความวุ่นวายในใจของเขา
  นี่เป็นบททดสอบสวรรค์ของเขาหรือเปล่า?
  สิ่งที่อยู่เหนือหัวของเขาคือบททดสอบสวรรค์?!
  เขารู้สึกอยากจะหันหลังกลับและวิ่งหนีเขาพร้อมจะส่งต่อโอกาสในการทดสอบนี้ให้ใครก็ได้!
  ชายวัยกลางคนหันไปมองซูผิงด้วยสีหน้าสิ้นหวังเขาตะลึงกับสิ่งที่เห็น
  เขาเห็นแสงเรืองรองส่องสว่างรอบๆ ซูผิง!
  ดูเหมือนว่าจะมีรอยสักบางอย่างเป็นเหมือนสัญลักษณ์ซึ่งส่องแสงเหนือซูผิง รูปร่างเหมือน…นกไฟ!
  ชายวัยกลางคนรู้สึกสับสนอีกครั้ง
  ร้อนมาก!
  ซูผิงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะนึกถึงสิ่งที่คนอื่นคิดหรือแม้แต่บททดสอบสวรรค์เอง เขารู้สึกว่าตัวเองแสบร้อนและมีบางอย่างกำลังจะพุ่งออกมาจากผิวหนังของเขา
  เขาก้มหัวลงเห็นว่าเส้นเลือดของเขาปูดออกมา เขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนผ่านผิวหนังของเขา
  แต่ไม่ใช่เส้นเลือดทั้งหมดเส้นเลือดบางส่วนยังมองไม่เห็น ส่วนที่เส้นเลือดปูดออกมาก่อตัวเป็นลวดลาย ลวดลายของ..อีกาทองคำ!
  ซูผิงยืนอยู่ในความงุนงง
  เขาได้ฝึกฝนกายแสงอาทิตย์และอยู่เพียงระดับแรก มีเพียงเศษเสี้ยวของพลังงานอีกาทองคำในตัวเขา เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากที่มันถูกปลุกให้ตื่นด้วยบททดสอบสวรรค์
  ดังนั้นมันเป็นเรื่องจริงบททดสอบสวรรค์สามารถรับรู้ถึงศักยภาพของบุคคล
  ซูผิงหายใจเข้าลึกและพยายามเก็บพลังงานแผดเผานี้ พลังงานนั้นกลับเข้าสู่ร่างกาย และเริ่มหมุนเป็นคลื่น เขามองเข้าไปในเมฆดำ ในขณะนั้นเขารู้สึกอยากจะเผาอะไรบางอย่างและอยากถูกเผาในเวลาเดียวกัน!
  ในที่สุดเมฆดำก็หยุดขยาย
  นั่นคือหนึ่งแสนสองหมื่นหกพันเมตร!
  นั่นคือเส้นผ่านศูนย์กลางของเมฆสายฟ้า
  เมื่อเมฆหยุดขยายตัวพลังงานภายในก็เริ่มร่วงโรยอย่างรุนแรง ในไม่ช้าสายฟ้ารอบสี่ที่ถูกขัดจังหวะก็ฟาดลงมาอีกครั้ง คราวนี้มีสายฟ้า 36 สาย!
  สายฟ้าคำรามและสายฟ้าแลบ!
  ซูผิงรู้สึกว่าแสงสะท้อนของสายฟ้ากำลังทำให้ตาของเขามองไม่ชัด
  ถึงกระนั้นเขาก็เล็งไปที่สายฟ้าสายหนึ่งขว้างตัวเองไปที่มัน ตามความเป็นจริงเขาเชื่อว่าสายฟ้าจะมาหาเขาด้วยความสมัครใจ
  ปัง!
  ซูผิงเริ่มสั่นสะท้านเมื่อสายฟ้าสัมผัสกับร่างกายของเขาจากนั้นจิตใจของเขาก็ว่างเปล่า สายตา การได้ยิน และสัมผัสของเขากำลังเลือนหายไป
  เขาไม่สามารถแม้แต่จะรู้สึกถึงร่างกายของเขา
  แต่ความรู้สึกนั้นคงอยู่เพียงหนึ่งวินาทีจากนั้นความรู้สึกทั้งหมดก็กลับมา ความเจ็บปวดที่ฉีกขาด การเผาไหม้ และความรู้สึกเสียดแทง พวกมันทั้งหมดกลับเข้ามาในจิตใจของเขา
  เลือดตาแทบกระเด็น!
  ซูผิงกัดฟันแน่นบอกตามตรง เขารู้สึกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาทำแบบนั้น เขาทำมันโดยสัญชาตญาณ เขาไม่ได้ตะโกน เขาแค่คิดแบบทหาร!
  เขากำลังผ่านการชำระล้างอย่างรุนแรงเจตจำนงของเขาทำด้วยเหล็กกล้า เขาแหงนมองขึ้นไปบนเมฆสายฟ้า พุ่งเข้าใส่สายฟ้าอีกสาย!
  ปัง!
  เขารู้สึกได้ถึงสายฟ้าที่ฟาดใส่เขาระดับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทันที เขาคิดว่าเลือดและพลังดวงดาวของเขากำลังเดือด และในไม่ช้าก็ถูกเผาไหม้
  จิตสึกแหลกสลาย
  ความมืดเข้ามาครอบงำเขาความมืดที่ดูเหมือนจะรอเขามานาน
  คืนชีพ!
  เขาสามารถมองเห็นแสงสว่างได้อีกครั้งซูผิงลืมตาขึ้น เห็นว่าเขาตื่นขึ้นมาบนยอดเขา เขาเห็นว่าสายฟ้ายังคงคำราม สุนัขมังกรดำและมังกรเพลิงนรกกำลังจ้องมองไปที่เมฆดำด้วยความกลัว และขาดความกล้าที่จะลองอีกครั้ง “ไป!” ซูผิงร้องลั่น
  หลังจากได้รับคำสั่งแล้วสุนัขมังกรดำไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวิ่งไปที่สายฟ้า
  ในไม่ช้าสุนัขมังกรดำก็กลายเป็นศพและล้มลง
  ”นายไป!!”
  มังกรเพลิงนรกบินขึ้นกรีดร้องและตัวสั่น
  หลายวินาทีต่อมาศพของมันก็ร่วงลงสู่พื้นเช่นกัน
  ซูผิงไม่หยุดช่วงเวลาที่มังกรเพลิงนรกกำลังร่วงลง ซูผิงก็กระโดดขึ้นไป เขาคืนชีพมังกรเพลิงนรกในวินาทีที่มันตาย ขณะที่เขาพุ่งเข้าใส่สายฟ้า
  ความเจ็บปวดกล้ามเนื้อฉีกขาด เผาไหม้!
  ซูผิงเชื่อว่านี่ต้องเป็นความรู้สึกเดียวกับตอนตกนรก
  บางทีนี่อาจจะเป็นนรก
  ในขณะนี้พื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยเมฆดำคือนรก!
  ซูผิงสามารถหยุดการฝึกได้อย่างง่ายดายแต่เขาขับไล่ความคิดออกไปทันทีที่มันเข้ามาในหัวของเขา
  การจะเป็นลูกผู้ชายที่เข้มแข็งได้เขาต้องอดทน!
  การเดินทางสู่ความแข็งแกร่งโดยปราศจากความเจ็บปวดจะไม่สมบูรณ์!!
  อ๊ากก!!
  ซูผิงตะโกนอย่างดุเดือดและเสียงคำรามของมังกรก็ดังออกมาจากลำคอของเขา!
  เสียงร้องของเขาดังไปทั่วทั้งภูเขาและแม้แต่ในเมือง!
  แม้ว่าเขาจะเป็นมนุษย์แต่เขาก็คำรามออกมาเหมือนอสูรในแดนเทพเพราะแรงกดดันจากบททดสอบสวรรค์!
  เทพนักรบเหมือนโดนหยุดเวลา
  เขาไม่เข้าใจว่าทำไมซูผิงถึงกลับมามีชีวิตได้และทำไมซูผิงถึงได้ทำอะไรที่ไร้จุดหมายเช่นนี้
  เขาทำตัวอย่างอิสระในการทดสอบของผู้อื่นและจะไม่ได้รับ “รางวัล” แต่สุดท้าย ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการฝึกฝนเท่านั้น!
  แต่นั่นไม่ใช่การฝึกฝนมันเป็นการเดินทางสู่นรกครั้งแล้วครั้งเล่า!
  เทพนักรบไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมมนุษย์ที่อยู่ในระดับหกถึงมีจิตตานุภาพเช่นนี้เขาต้องผ่านอะไรมาบ้างถึงจะฝึกจิตใจได้ขนาดนี้?
  คราวนี้เทพนักรบไม่ใช่คนเดียวที่ตะลึงแม้แต่โจแอนนาก็ยังดูประหลาดใจ
  เธอมีความเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่าซูผิงเป็นเพียงคนขี้เกียจที่มีแค่โชคแต่ในขณะนี้ในที่สุดเธอก็ได้เห็นความจริง และสาเหตุที่เขามีพลังขนาดนี้
  ความมุ่งมั่นและความตั้งใจของเขาที่จะรับมือกับทุกความท้าทาย!
  เธอจำวันที่พวกเธออยู่ที่ร้านได้เขายิ้มกว้างตอนรับเงินจากลูกค้า เขาเป็นทาสของเงิน จากนั้นเมื่อเห็นเขาชุ่มไปด้วยเลือด ตะโกนอยู่ใต้เมฆดำ เธอก็สงสัยว่านี่คือคนละคนกันหรือเปล่า
  คนละคน?
  บางทีเขาอาจแค่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว