ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 357
ตอนที่ 357 ทักษะทั้งสอง
“ติ๊ง!”
”ได้รับการยืนยัน:อสูรของเจ้าของได้รับ” การเสริมแกร่งพลังงาน “และ” การเสริมแกร่งคุณสมบัติ“สำเร็จ 30% ของ [ภารกิจผู้ฝึกสอนระดับพื้นฐาน) เจ้าของสามารถจับรางวัลที่สองและสามได้ การจับรางวัลจะเริ่มภายในสามนาที” ระบบระบุทันที แต่ซูผิงไม่ได้ตกใจเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าจะมีการแจ้งเตือน
“การเสริมคุณสมบัติ?”
อย่างไรก็ตามซูผิงรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินชื่อนี้เขาจำได้ว่าเขามีความต้านทานสายฟ้าเพิ่ม และมีพลังกับพลังป้องกันเพิ่ม แต่ไม่รู้ว่านั่นจะเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมคุณสมบัติ
กล่าวคือการทดสอบบททดสอบสวรรค์แบบอิสระช่วยให้เขาทำภารกิจสองส่วนสำเร็จ
ส่วนที่เหลือของภารกิจต้องทำด้วยการเห็นแจ้งหลังจากได้รับคู่มือการตรัสรู้แล้ว ภารกิจจะสำเร็จลุล่วงโดยสิ้นเชิง “ เริ่ม” ซูผิงกล่าวเมื่อผ่านไปสามนาที วงล้อที่เขาคุ้นเคยโผล่ออกมา รางวัลมากมายมีแสงสว่างจาง ๆ
คำพูดของซูผิงทำให้วงล้อเริ่มหมุนครู่ต่อมาซูผิงก็หยุดมัน
วงล้อค่อยๆหยุดลงและหนังสือเล่มหนึ่งก็เด้งออกมา
“การกลั่นไฟนกฟีนิกส์(ระดับพื้นฐาน)”
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจวิธีการกลั่น?
“โปรดรับรางวัล”
”โอเค”
“ใช้เลยไหม”
“ทีหลัง” ซูผิงตอบ เขาต้องการจับรางวัลที่สองก่อน หนังสือการกลั่นไฟนกฟีนิกส์กลายเป็นลำแสงและกลับไปที่พื้นที่เก็บของของเขา ซูผิงเริ่มจับรางวัลที่สอง ล้อเริ่มขยับอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานซูผิงก็หยุดมัน หนังสืออีกเล่มพุ่งออกมา
การเสริมพลัง(ระดับพื้นฐาน)
ซูผิงเลิกคิ้วดูเหมือนว่ารางวัลทั้งสามนั้นเกี่ยวข้องกับความสำเร็จของเขา ตัวอย่างเช่นหลังจากที่เขาเสริมทักษะการเสริมแกร่งสำเร็จ เขาได้รับกฏสายฟ้าเบื้องต้นซึ่งสามารถใช้เพื่อพัฒนาทักษะอสูรของเขาได้
หนังสือการกลั่นน่าจะเกี่ยวข้องกับการกลั่นพลังงานของเขามันควรจะสามารถช่วยปรับแต่งพลังงานอสูรของเขาได้
สำหรับการเสริมพลัังนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบน่าจะเหมือนกับอีกสองอย่าง
ซูผิงหยิบการเสริมพลังเปิดใช้งานหนังสือทักษะทั้งสองเล่มในพื้นที่เก็บของของเขาโดยไม่ลังเล
อันดับแรกคือการกลั่นไฟนกฟีนิกส์
หวีด!
หนังสือการกลั่นไฟนกฟีนิกส์กลายเป็นกลุ่มพลังงานที่จมอยู่บนหน้าผากของเขาข้อมูลมากมายไหลเข้ามาในหัวของเขา
ด้วยความงุนงงซูผิงดูเหมือนจะเห็นนกฟีนิกซ์บินอย่างอิสระตรงหน้าเขา มันบินผ่านโลกอันกว้างใหญ่ นั่นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เทียบได้กับมังกร แถมนกฟีนิกซ์ยังมีน้อยกว่ามังกร เพราะนกฟีนิกซ์ไม่มีความสามารถในการสืบพันธุ์ นี่เป็นสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์
หวีด!
เมื่อฟีนิกซ์บินไปรอบๆ เปลวไฟที่ร้อนแรงก็ถูกกวาดไปทั่วโลก
สสารนับไม่ถ้วนในโลกถูกย่อยสลายและกลั่นภายใต้เปลวไฟที่ลุกโชนท้ายที่สุด มันหลงเหลือสสารเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ยังคงอยู่และเปล่งแสงพราว
ซูผิงสามารถเห็นองค์ประกอบของเปลวไฟที่ลุกโชนและกระบวนการย่อยสลายของสารแต่ละชนิด
มุมมองที่แปลกประหลาดนั้นทำให้เขาเปิดใจ
เวลาผ่านไปนาน
ซูผิงกลับมามีสติภาพในร้านกลับเข้ามาในสายตา เขาตระหนักว่าเวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งนาทีในความเป็นจริง ฉากนิรันดร์ที่เขาเห็นใช้เวลาเพียงครู่เดียว
“การกลั่น..ไฟของนกฟีนิกส์ซูผิงพึมพำกับตัวเอง
จากข้อมูลที่เขาได้รับเขาได้เรียนรู้ว่าการกลั่นนี้เป็นการใช้ไฟนกฟีนิกส์เพื่อทำให้เกิดพลังงานบริสุทธิ์ เปลวไฟดังกล่าวเป็นของโบราณซึ่งพบได้ในนกฟีนิกซ์ที่อยู่ในระดับตำนานเท่านั้น ไฟนกฟีนิกส์บริสุทธิ์และมีอุณหภูมิสูง
นกฟีนิกซ์จะใช้ไฟของมันทุกครั้งที่เจอวิกฤตซึ่งคุกคามชีวิต
การใช้ไฟจะทำร้ายฟีนิกซ์เอง
การใช้เปลวไฟดังกล่าวจะทำให้อายุของมันสั้นลงดังนั้นแม้ว่านกฟีนิกซ์จะมีอายุยืนยาวกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ แต่พวกมันก็ยังคงระมัดระวังในการใช้พลังนี้
ในเวลาเดียวกันไฟนกฟีนิกส์ก็น่ากลัวมากมันสามารถทำลายทุกสิ่งที่สัมผัสได้อย่างง่ายดาย!
ซูผิงไม่มีร่างของนกฟีนิกซ์ทักษะนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถเชี่ยวชาญได้ ถึงกระนั้นจากหนังสือทักษะนั้นเขาเข้าใจกลไกการทำงานของไฟนกฟีนิกส์และเขาสามารถเรียกใช้การจำลองของฟีนิกส์ที่สร้างขึ้นภายในตัวเขาได้!
แน่นอนว่าไฟนกฟีนิกส์ที่เกิดจากมนุษย์จะอ่อนแอกว่ามากดังที่กล่าวไว้ผลการกลั่นจะเหมือนกับของจริง นอกจากนี้การใช้ทักษะนี้จะไม่เผาผลาญชีวิตของเขา มันจะใช้พลังงานบางส่วนของเขาเท่านั้น
”รวม!”
พลังงานเริ่มรวมตัวกันในร่างกายของซูผิงและมีเปลวไฟเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
มันเหมือนกับกลุ่มของประกายไฟมากกว่าเปลวไฟ
พลังที่รวมกันคล้ายกับรูปร่างของนกฟีนิกซ์ซูผิงออกคำสั่งด้วยความคิดของเขา และนกฟีนิกซ์ที่สร้างขึ้นจากประกายไฟก็เริ่มส่งเสียงร้องอย่างมีความสุข บินไปรอบ ๆ ราวกับว่ามันมีชีวิต
เมื่อใดก็ตามที่นกฟีนิกซ์บินผ่านพลังดวงดาวที่อยู่ในแกนเซลล์ใกล้เคียงจะเริ่มเดือด และจะมีไอน้ำจาง ๆ นั่นเป็นสัญญาณว่าสิ่งไม่ดีกำลังถูกเผาไหม้
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่าพลังดวงดาวในตัวเขาถูกขัดเกลามากขึ้นด้วยไฟนกฟีนิกส์แม้ว่าเขาจะผ่านการทดสอบสวรรค์แล้วก็ตาม
กล่าวคือยังมีสิ่งแปลกปลอมมากมายในพลังดวงดาวของเขาซูผิงคิดถึงเรื่องนี้ และพบว่าสิ่งนี้เข้าใจได้ บางทีพลังดวงดาวคงบริสุทธิ์ในสายตาเท่านั้น แต่ถ้าเขามองด้วยกล้องจุลทรรศน์ เขาอาจจะเห็นสิ่งสกปรกต่างๆ สิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนืออาณาจักรในตำนานจะมีพลังงานที่บริสุทธิ์กว่าด้วยซ้ำ!
ไม่มีกระบวนการกลั่นใดๆ ที่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน มันเป็นงานที่ยากลำบากซึ่งต้องใช้ความพยายามในระยะยาว
ซูผิงให้ฟีนิกซ์ประกายไฟหยุดเขาไม่ได้วางแผนที่จะทำการกลั่นพลังต่อในเวลานี้ ด้วยการทดสอบสั้น ๆ นั้นเขารู้สึกได้ว่าเขากำลังสูญเสียพลังงาน และแรงกดดันต่อวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้น ในไม่กี่ชั่วโมงพลังดวงดาวของเขาจะหมดลง และพลังทางจิตวิญญาณของเขาก็เช่นกัน
เขาคิดว่าการกลั่นพลังงานอาจเป็นเรื่องยาก
เขาต้องขับรถพาซูหลิงเยวี่ยไปยังสถานที่จัดงานในวันนี้ เขาอยากอยู่ในสภาพที่พร้อมสุด เผื่อมีคนมาซุ่มโจมตีพวกเขาระหว่างทาง
เหนือสิ่งอื่นใดเขาได้เรียนรู้เคล็ดบ่มเพาะและสามารถเริ่มกลั่นได้ตลอด
จากนั้นซูผิงเริ่มย่อยหนังสือการเสริมพลังพื้นฐานเล่มนั้น
ชื่อนี้ระบุว่า”พื้นฐาน” แต่นั่นไม่ใช่อย่างที่ซูผิงเห็นเลย เขาเคยชินกับความแปลกประหลาดของการจัดหมวดหมู่ของระบบ
หลายนาทีต่อมา
ซูผิงได้ย่อยหนังสือการเสริมพลังด้วยเช่นกันมันคล้ายกับวิธีการดูแลพลังงานขั้นพื้นฐานที่สุดที่ผู้ฝึกใช้บนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
แม้ว่าจะมีความแตกต่างบางอย่างแต่การเสริมพลังไม่ได้เกี่ยวกับการดูแลพลังงานโดยสิ้นเชิง มีสิ่งที่ซับซ้อนมากกว่า นอกเหนือจากการฟูมฟักพลังงาน
การเสริมแกร่งยังยังรวมถึงการกระตุ้นพลังงานและรูนที่เพิ่มความแข็งแกร่ง
ตัวกระตุ้นพลังงานมีหน้าที่ในการฟื้นฟูแกนเดิมในเซลล์เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ให้เกิดศักยภาพ
รูนเพิ่มพลังคือขั้นตอนที่รูนถูกสลักบนผนังชั้นในของแกนเซลล์แบบนี้ มันคล้ายกับทักษะเสริมความแข็งแกร่งที่นักรบใช้กับอสูร แต่ทว่า อย่างหลังมีผลแค่ชั่วคราวที่อาจไร้ผลโดยทักษะอื่น เพราะทักษะเสริมพลังจะสลักแค่บนผิวหนัง
ในทางกลับกันรูนเพิ่มความแข็งแกร่งจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของผนังด้านในของแกนเซลล์ราวกับว่าถูกสลักไว้ รูนเพิ่มความแข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มพลังดวงดาวภายในแกนอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบจะคงอยู่ตลอดไปเว้นแต่การบาดเจ็บรุนแรงที่ทำลายแกนเซลล์
ท้ายที่สุดเมื่อแกนเดิมทั้งหมดภายในเซลล์แตกออกสิ่งนั้นจะกลายเป็นควันและขี้เถ้า!
การเสริมพลังเป็นหนึ่งในทักษะที่อยู่ในหมวดการเสริมแกร่งคุณสมบัติมีทักษะอื่นๆ เช่นการเสริมวิญญาณ การเพิ่มความเร็ว และการเสริมพลังป้องกัน
ทักษะที่ซูผิงได้รับจะช่วยเขาในด้านความแข็งแกร่งเท่านั้น
หลังจากที่เขาย่อยข้อมูลสิ่งแรกที่โผล่เข้ามาในความคิดของเขาก็คือเขาต้องการลองแกะสลักรูนเสริมความเร็ว และการเพิ่มความกระชับซึ่งเป็นวิธีการเสริมพื้นฐานสองในสี่วิธีที่ใช้ในสหพันธ์ ด้วยวิธีนี้เขาจะมีทักษะมากกว่าหนึ่งอย่างในหมวดเสริมแกร่งคุณสมบัติ อย่างไรก็ตาม กระบวนการถูกขัดขวางในช่วงที่ซูผิงพยายามสลักอักษรรูนเสริมความเร็วครั้งแรก
อักษรรูนไม่สามารถสร้างปฏิกิริยาใดๆ จากพลังดวงดาวที่เก็บไว้ได้ พูดง่ายๆก็คืออักษรรูนเสริมความเร็วนั้นหยาบเกินไปที่จะมีอิทธิพลต่อพลังดวงดาว
ซูผิงรู้สึกหดหู่เล็กน้อยที่เห็นการทดสอบของเขาล้มเหลว
ดูเหมือนว่าเขาต้องพึ่งพาการสุ่มหรือร้านค้าของระบบเพื่อรับทักษะเสริมแกร่งคุณสมบัติอื่น ๆ
“ฉันใช้ได้แค่วิธีเสริมพลังกับเซลล์ของนิ้วหนึ่งนิ้วเท่านั้น และมันช่วยเพิ่มความแข็งแรงของนิ้วนั้นได้ถึงสองเท่า”
ซูผิงค่อยๆชูนิ้วกลางขึ้น
นิ้วกลางมีพลังมากกว่านิ้วอื่น
ความแข็งแรงของนิ้วกลางเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าซึ่งสัมพันธ์กับความแข็งแกร่งเดิมของนิ้วเขา ในทำนองเดียวกัน เมื่อร่างกายเขาแข็งแกร่งจนออกแรงได้ 50 กิโลกรัม รูนจะเพิ่มพลังขึ้นเป็นหนึ่งร้อยกิโลกรัม … เมื่อถึงเวลาที่เขาสามารถออกแรงได้เท่ากับสองร้อยห้าสิบกิโลกรัม ผลของรูนจะเปลี่ยนเป็นห้าร้อย ผลจะถาวร!
“ถ้าฉันสามารถสลักอักษรรูนบนแขนทั้งหมดนี้ได้ แล้วใช้ ‘หมัดขับไล่วิญญาณ’ …”
ซูผิงกัดปากตัวเองเขาไม่สามารถจินตนาการถึงพลังนั้นได้
“ติ๊ง!”
”ได้รับการยืนยัน:อสูรของเจ้าของได้รับ” การเสริมแกร่งพลังงาน “และ” การเสริมแกร่งคุณสมบัติ“สำเร็จ 30% ของ [ภารกิจผู้ฝึกสอนระดับพื้นฐาน) เจ้าของสามารถจับรางวัลที่สองและสามได้ การจับรางวัลจะเริ่มภายในสามนาที” ระบบระบุทันที แต่ซูผิงไม่ได้ตกใจเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าจะมีการแจ้งเตือน
“การเสริมคุณสมบัติ?”
อย่างไรก็ตามซูผิงรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินชื่อนี้เขาจำได้ว่าเขามีความต้านทานสายฟ้าเพิ่ม และมีพลังกับพลังป้องกันเพิ่ม แต่ไม่รู้ว่านั่นจะเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมคุณสมบัติ
กล่าวคือการทดสอบบททดสอบสวรรค์แบบอิสระช่วยให้เขาทำภารกิจสองส่วนสำเร็จ
ส่วนที่เหลือของภารกิจต้องทำด้วยการเห็นแจ้งหลังจากได้รับคู่มือการตรัสรู้แล้ว ภารกิจจะสำเร็จลุล่วงโดยสิ้นเชิง “ เริ่ม” ซูผิงกล่าวเมื่อผ่านไปสามนาที วงล้อที่เขาคุ้นเคยโผล่ออกมา รางวัลมากมายมีแสงสว่างจาง ๆ
คำพูดของซูผิงทำให้วงล้อเริ่มหมุนครู่ต่อมาซูผิงก็หยุดมัน
วงล้อค่อยๆหยุดลงและหนังสือเล่มหนึ่งก็เด้งออกมา
“การกลั่นไฟนกฟีนิกส์(ระดับพื้นฐาน)”
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจวิธีการกลั่น?
“โปรดรับรางวัล”
”โอเค”
“ใช้เลยไหม”
“ทีหลัง” ซูผิงตอบ เขาต้องการจับรางวัลที่สองก่อน หนังสือการกลั่นไฟนกฟีนิกส์กลายเป็นลำแสงและกลับไปที่พื้นที่เก็บของของเขา ซูผิงเริ่มจับรางวัลที่สอง ล้อเริ่มขยับอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานซูผิงก็หยุดมัน หนังสืออีกเล่มพุ่งออกมา
การเสริมพลัง(ระดับพื้นฐาน)
ซูผิงเลิกคิ้วดูเหมือนว่ารางวัลทั้งสามนั้นเกี่ยวข้องกับความสำเร็จของเขา ตัวอย่างเช่นหลังจากที่เขาเสริมทักษะการเสริมแกร่งสำเร็จ เขาได้รับกฏสายฟ้าเบื้องต้นซึ่งสามารถใช้เพื่อพัฒนาทักษะอสูรของเขาได้
หนังสือการกลั่นน่าจะเกี่ยวข้องกับการกลั่นพลังงานของเขามันควรจะสามารถช่วยปรับแต่งพลังงานอสูรของเขาได้
สำหรับการเสริมพลัังนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบน่าจะเหมือนกับอีกสองอย่าง
ซูผิงหยิบการเสริมพลังเปิดใช้งานหนังสือทักษะทั้งสองเล่มในพื้นที่เก็บของของเขาโดยไม่ลังเล
อันดับแรกคือการกลั่นไฟนกฟีนิกส์
หวีด!
หนังสือการกลั่นไฟนกฟีนิกส์กลายเป็นกลุ่มพลังงานที่จมอยู่บนหน้าผากของเขาข้อมูลมากมายไหลเข้ามาในหัวของเขา
ด้วยความงุนงงซูผิงดูเหมือนจะเห็นนกฟีนิกซ์บินอย่างอิสระตรงหน้าเขา มันบินผ่านโลกอันกว้างใหญ่ นั่นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เทียบได้กับมังกร แถมนกฟีนิกซ์ยังมีน้อยกว่ามังกร เพราะนกฟีนิกซ์ไม่มีความสามารถในการสืบพันธุ์ นี่เป็นสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์
หวีด!
เมื่อฟีนิกซ์บินไปรอบๆ เปลวไฟที่ร้อนแรงก็ถูกกวาดไปทั่วโลก
สสารนับไม่ถ้วนในโลกถูกย่อยสลายและกลั่นภายใต้เปลวไฟที่ลุกโชนท้ายที่สุด มันหลงเหลือสสารเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ยังคงอยู่และเปล่งแสงพราว
ซูผิงสามารถเห็นองค์ประกอบของเปลวไฟที่ลุกโชนและกระบวนการย่อยสลายของสารแต่ละชนิด
มุมมองที่แปลกประหลาดนั้นทำให้เขาเปิดใจ
เวลาผ่านไปนาน
ซูผิงกลับมามีสติภาพในร้านกลับเข้ามาในสายตา เขาตระหนักว่าเวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งนาทีในความเป็นจริง ฉากนิรันดร์ที่เขาเห็นใช้เวลาเพียงครู่เดียว
“การกลั่น..ไฟของนกฟีนิกส์ซูผิงพึมพำกับตัวเอง
จากข้อมูลที่เขาได้รับเขาได้เรียนรู้ว่าการกลั่นนี้เป็นการใช้ไฟนกฟีนิกส์เพื่อทำให้เกิดพลังงานบริสุทธิ์ เปลวไฟดังกล่าวเป็นของโบราณซึ่งพบได้ในนกฟีนิกซ์ที่อยู่ในระดับตำนานเท่านั้น ไฟนกฟีนิกส์บริสุทธิ์และมีอุณหภูมิสูง
นกฟีนิกซ์จะใช้ไฟของมันทุกครั้งที่เจอวิกฤตซึ่งคุกคามชีวิต
การใช้ไฟจะทำร้ายฟีนิกซ์เอง
การใช้เปลวไฟดังกล่าวจะทำให้อายุของมันสั้นลงดังนั้นแม้ว่านกฟีนิกซ์จะมีอายุยืนยาวกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ แต่พวกมันก็ยังคงระมัดระวังในการใช้พลังนี้
ในเวลาเดียวกันไฟนกฟีนิกส์ก็น่ากลัวมากมันสามารถทำลายทุกสิ่งที่สัมผัสได้อย่างง่ายดาย!
ซูผิงไม่มีร่างของนกฟีนิกซ์ทักษะนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถเชี่ยวชาญได้ ถึงกระนั้นจากหนังสือทักษะนั้นเขาเข้าใจกลไกการทำงานของไฟนกฟีนิกส์และเขาสามารถเรียกใช้การจำลองของฟีนิกส์ที่สร้างขึ้นภายในตัวเขาได้!
แน่นอนว่าไฟนกฟีนิกส์ที่เกิดจากมนุษย์จะอ่อนแอกว่ามากดังที่กล่าวไว้ผลการกลั่นจะเหมือนกับของจริง นอกจากนี้การใช้ทักษะนี้จะไม่เผาผลาญชีวิตของเขา มันจะใช้พลังงานบางส่วนของเขาเท่านั้น
”รวม!”
พลังงานเริ่มรวมตัวกันในร่างกายของซูผิงและมีเปลวไฟเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
มันเหมือนกับกลุ่มของประกายไฟมากกว่าเปลวไฟ
พลังที่รวมกันคล้ายกับรูปร่างของนกฟีนิกซ์ซูผิงออกคำสั่งด้วยความคิดของเขา และนกฟีนิกซ์ที่สร้างขึ้นจากประกายไฟก็เริ่มส่งเสียงร้องอย่างมีความสุข บินไปรอบ ๆ ราวกับว่ามันมีชีวิต
เมื่อใดก็ตามที่นกฟีนิกซ์บินผ่านพลังดวงดาวที่อยู่ในแกนเซลล์ใกล้เคียงจะเริ่มเดือด และจะมีไอน้ำจาง ๆ นั่นเป็นสัญญาณว่าสิ่งไม่ดีกำลังถูกเผาไหม้
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่าพลังดวงดาวในตัวเขาถูกขัดเกลามากขึ้นด้วยไฟนกฟีนิกส์แม้ว่าเขาจะผ่านการทดสอบสวรรค์แล้วก็ตาม
กล่าวคือยังมีสิ่งแปลกปลอมมากมายในพลังดวงดาวของเขาซูผิงคิดถึงเรื่องนี้ และพบว่าสิ่งนี้เข้าใจได้ บางทีพลังดวงดาวคงบริสุทธิ์ในสายตาเท่านั้น แต่ถ้าเขามองด้วยกล้องจุลทรรศน์ เขาอาจจะเห็นสิ่งสกปรกต่างๆ สิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนืออาณาจักรในตำนานจะมีพลังงานที่บริสุทธิ์กว่าด้วยซ้ำ!
ไม่มีกระบวนการกลั่นใดๆ ที่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน มันเป็นงานที่ยากลำบากซึ่งต้องใช้ความพยายามในระยะยาว
ซูผิงให้ฟีนิกซ์ประกายไฟหยุดเขาไม่ได้วางแผนที่จะทำการกลั่นพลังต่อในเวลานี้ ด้วยการทดสอบสั้น ๆ นั้นเขารู้สึกได้ว่าเขากำลังสูญเสียพลังงาน และแรงกดดันต่อวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้น ในไม่กี่ชั่วโมงพลังดวงดาวของเขาจะหมดลง และพลังทางจิตวิญญาณของเขาก็เช่นกัน
เขาคิดว่าการกลั่นพลังงานอาจเป็นเรื่องยาก
เขาต้องขับรถพาซูหลิงเยวี่ยไปยังสถานที่จัดงานในวันนี้ เขาอยากอยู่ในสภาพที่พร้อมสุด เผื่อมีคนมาซุ่มโจมตีพวกเขาระหว่างทาง
เหนือสิ่งอื่นใดเขาได้เรียนรู้เคล็ดบ่มเพาะและสามารถเริ่มกลั่นได้ตลอด
จากนั้นซูผิงเริ่มย่อยหนังสือการเสริมพลังพื้นฐานเล่มนั้น
ชื่อนี้ระบุว่า”พื้นฐาน” แต่นั่นไม่ใช่อย่างที่ซูผิงเห็นเลย เขาเคยชินกับความแปลกประหลาดของการจัดหมวดหมู่ของระบบ
หลายนาทีต่อมา
ซูผิงได้ย่อยหนังสือการเสริมพลังด้วยเช่นกันมันคล้ายกับวิธีการดูแลพลังงานขั้นพื้นฐานที่สุดที่ผู้ฝึกใช้บนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
แม้ว่าจะมีความแตกต่างบางอย่างแต่การเสริมพลังไม่ได้เกี่ยวกับการดูแลพลังงานโดยสิ้นเชิง มีสิ่งที่ซับซ้อนมากกว่า นอกเหนือจากการฟูมฟักพลังงาน
การเสริมแกร่งยังยังรวมถึงการกระตุ้นพลังงานและรูนที่เพิ่มความแข็งแกร่ง
ตัวกระตุ้นพลังงานมีหน้าที่ในการฟื้นฟูแกนเดิมในเซลล์เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ให้เกิดศักยภาพ
รูนเพิ่มพลังคือขั้นตอนที่รูนถูกสลักบนผนังชั้นในของแกนเซลล์แบบนี้ มันคล้ายกับทักษะเสริมความแข็งแกร่งที่นักรบใช้กับอสูร แต่ทว่า อย่างหลังมีผลแค่ชั่วคราวที่อาจไร้ผลโดยทักษะอื่น เพราะทักษะเสริมพลังจะสลักแค่บนผิวหนัง
ในทางกลับกันรูนเพิ่มความแข็งแกร่งจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของผนังด้านในของแกนเซลล์ราวกับว่าถูกสลักไว้ รูนเพิ่มความแข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มพลังดวงดาวภายในแกนอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบจะคงอยู่ตลอดไปเว้นแต่การบาดเจ็บรุนแรงที่ทำลายแกนเซลล์
ท้ายที่สุดเมื่อแกนเดิมทั้งหมดภายในเซลล์แตกออกสิ่งนั้นจะกลายเป็นควันและขี้เถ้า!
การเสริมพลังเป็นหนึ่งในทักษะที่อยู่ในหมวดการเสริมแกร่งคุณสมบัติมีทักษะอื่นๆ เช่นการเสริมวิญญาณ การเพิ่มความเร็ว และการเสริมพลังป้องกัน
ทักษะที่ซูผิงได้รับจะช่วยเขาในด้านความแข็งแกร่งเท่านั้น
หลังจากที่เขาย่อยข้อมูลสิ่งแรกที่โผล่เข้ามาในความคิดของเขาก็คือเขาต้องการลองแกะสลักรูนเสริมความเร็ว และการเพิ่มความกระชับซึ่งเป็นวิธีการเสริมพื้นฐานสองในสี่วิธีที่ใช้ในสหพันธ์ ด้วยวิธีนี้เขาจะมีทักษะมากกว่าหนึ่งอย่างในหมวดเสริมแกร่งคุณสมบัติ อย่างไรก็ตาม กระบวนการถูกขัดขวางในช่วงที่ซูผิงพยายามสลักอักษรรูนเสริมความเร็วครั้งแรก
อักษรรูนไม่สามารถสร้างปฏิกิริยาใดๆ จากพลังดวงดาวที่เก็บไว้ได้ พูดง่ายๆก็คืออักษรรูนเสริมความเร็วนั้นหยาบเกินไปที่จะมีอิทธิพลต่อพลังดวงดาว
ซูผิงรู้สึกหดหู่เล็กน้อยที่เห็นการทดสอบของเขาล้มเหลว
ดูเหมือนว่าเขาต้องพึ่งพาการสุ่มหรือร้านค้าของระบบเพื่อรับทักษะเสริมแกร่งคุณสมบัติอื่น ๆ
“ฉันใช้ได้แค่วิธีเสริมพลังกับเซลล์ของนิ้วหนึ่งนิ้วเท่านั้น และมันช่วยเพิ่มความแข็งแรงของนิ้วนั้นได้ถึงสองเท่า”
ซูผิงค่อยๆชูนิ้วกลางขึ้น
นิ้วกลางมีพลังมากกว่านิ้วอื่น
ความแข็งแรงของนิ้วกลางเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าซึ่งสัมพันธ์กับความแข็งแกร่งเดิมของนิ้วเขา ในทำนองเดียวกัน เมื่อร่างกายเขาแข็งแกร่งจนออกแรงได้ 50 กิโลกรัม รูนจะเพิ่มพลังขึ้นเป็นหนึ่งร้อยกิโลกรัม … เมื่อถึงเวลาที่เขาสามารถออกแรงได้เท่ากับสองร้อยห้าสิบกิโลกรัม ผลของรูนจะเปลี่ยนเป็นห้าร้อย ผลจะถาวร!
“ถ้าฉันสามารถสลักอักษรรูนบนแขนทั้งหมดนี้ได้ แล้วใช้ ‘หมัดขับไล่วิญญาณ’ …”
ซูผิงกัดปากตัวเองเขาไม่สามารถจินตนาการถึงพลังนั้นได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว