ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 442
ตอนที่ 442 ยอมจำนน
คนที่ถูกแช่แข็งในจุดนั้นคือหลินเฟิงร่วมถึงหยิงหยิงและเพื่อนคนอื่น ๆ ของเขาที่กำลังรอเข้าแถวเพื่อเข้ารับการทดสอบ
ผู้คุมปฏิบัติต่อชายหนุ่มคนนั้นอย่างดีหลินเฟิงและเพื่อน ๆ ของเขาจำได้ทันทีว่าเป็นชายหนุ่มคนเดียวกันที่สร้างปัญหาก่อนหน้านี้
เขาถือ…เหรียญผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์?
หลินเฟิงและเพื่อนๆ ต่างก็ตกตะลึง ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์จริงๆหรอ?
เย่หยิงหยิงตะลึงผู้ชายคนนั้นอายุเท่าเธอ เธอยังคงดิ้นรนที่จะผ่านการทดสอบสำหรับระดับหกแต่ผู้ชายคนนั้นได้กลายเป็นผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์แล้ว!
ในขณะที่พวกเขายังคงตกตะลึงซูผิงสังเกตเห็นความวุ่นวายจากคำพูดของผู้คุม เขาขมวดคิ้วและรีบออกไป เขาไปยังเส้นทางที่กำหนดไว้ “สำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น” และเข้าไปในศูนย์ทดสอบ
เป็นเวลานานหลังจากที่ซูผิงจากไปหลินเฟิงและเพื่อนของเขาจึงกลับมาได้สติ พวกเขามองหน้ากัน จากนั้นก็ตวัดตามองหลินเฟิง
หลินเฟิงรู้สึกอับอายแก้มของเขาก็แดงจนแทบไหม้ ในขณะที่พวกเขาต่อแถวนี้ หลินเฟิงยังจ้อไม่หยุดถึงคราวซวยของซูผิง
อย่างไรก็ตามปรากฏว่าชายคนนั้นสามารถเข้าไปได้และเขาถือเหรียญผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ ผู้คุมพาผู้ชายคนนั้นเข้าไปในอาคารด้วยความเคารพ
ไม่ว่าเหรียญผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์จะเป็นของเขาหรือไม่ก็ไม่สำคัญความจริงที่ว่าชายคนนี้ยังคงปลอดภัยเป็นข้อพิสูจน์ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น โดยที่หลินเฟิงไม่รู้
หลินเฟิงคงจะไม่บ้าคลั่งถึงขนาดที่คิดว่าปรมาจารย์ผู้ฝึกสอนถูกผู้ชายคนนี้หลอกท้ายที่สุดแล้วผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ไม่ใช่คนโง่ที่ใครจะมาหลอกได้ง่ายๆ
“โอ้ แย่แล้ว ไอ้บ้านั่นคงจำฉันไม่ได้หรอกมั้ง?” หลิยเฟิงกำลังเคร่งเครียด เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะตอบสนองต่อท่าทีของเพื่อน
ที่ศูนย์ทดสอบ
ซูผิงเดินผ่านทางเดินยาว
ทางซ้ายของเขาคือประตูที่ทางเข้าประตูนั้นมีกระดานที่มีคำว่า“ ผู้สึกสอนระดับหนึ่ง” เขียนอยู่ นั่นคือสถานที่สำหรับทดสอบผู้ฝึกสอนระดับหนึ่ง
ทางด้านขวาของเขาคือประตูที่นำไปสู่สถานที่สำหรับทดสอบผู้ฝึกสอนระดับสอง
เขาเดินต่อไปประตูทางซ้ายนำไปสู่การทดสอบระดับสาม และทางขวาคือประตูสำหรับระดับสี่
แต่ละประตูอยู่ห่างกันมากซูผิงเดินต่อไป เมื่อเขากำลังจะมาถึงประตูที่นำไปสู่สถานที่ทดสอบสำหรับระดับสามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ซูผิงเหลือบมองเข้าไปข้างใน มันเป็นทางเดินที่ยาวและมืดสลัว ซูผิงเดินเข้าไป สุดทางเป็นประตูเหล็กหนา ซึ่งมีผู้คุมสวมชุดเกราะสีเงินอ่อนยืนอยู่ “ คุณมาที่นี่เพื่อทำการทดสอบใช่หรือไม่?” ผู้คุมถาม
“ไม่ แค่มาเดินเล่น”
“เดินเล่นเหรอ?”
เห็นได้ชัดว่าผู้คุมไม่เชื่อ
ซูผิงไม่อยากรู้ต่อไปเนื่องจากด้านในได้รับการปกป้อง
เขาเดินต่อไปตามทางเดิน
ซูผิงสังเกตเห็นว่ามีผู้คนจำนวนมากรวมตัวกันในเส้นทางที่นำไปสู่สถานที่ทดสอบของระดับสี่ห้าและหก หลายคนยืนต่อแถว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทดสอบระดับห้า หลายสิบคนกำลังรอเข้ารับการทดสอบ
ซูผิงเดินต่อไปเขาไม่เห็นประตูถัดไป เขาเลี้ยวที่หัวมุมตรงปลายสุดของทางเดิน ในไม่ช้าเขาก็มาถึงที่โล่ง
ที่เชื่อมต่อกับล็อบบี้กว้างขวางเป็นเส้นทางใหม่หลายเส้นทาง
ซูผิงเห็นระลอกคลื่นของพลังดวงดาวบนผนังซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงม่านพลัง
ซูผิงมองไปรอบๆ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากทางหนึ่ง ดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังทำการทดสอบ
ซูผิงรู้สึกทึ่งมากตรงปลายยังมีประตูโลหะหนัก แต่ไม่มีคนเฝ้าอยู่ ซูผิงเดินไปข้างหน้า ผลักประตูเบา ๆ และประตูก็เปิดออก
ซูผิงผลักประตูให้เปิดกว้าง
โฮก!!
เขาได้ยินเสียงร้องคำรามเหมือนเสือหรือสิงโตแต่ซูผิงจำได้ทันทีว่ามันคือมังกร!
ถึงกระนั้นมังกรก็ไม่ได้ดูมีพลังมาก
ซูผิงมองไปรอบๆ มันเป็นห้องกว้างขวาง หรือน่าจะเป็นพลาซ่า มีมังกรตัวหนึ่งหมอบอยู่ตรงกลางห้องซึ่งมีความสูง 7-8 เมตรมันคือมังกรดำซากศพ!
มันเป็นอสูรร้ายที่มีสายเลือดระดับแปด!
แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วมันจะไม่ได้อยู่ในตระกูลมังกรเลือดบริสุทธิ์มังกรดำซากศพเป็นผลมาจากการรวมมังกรเข้ากับปีศาจ โดยปกติแล้วมังกรดำซากศพถือเป็นสายพันธุ์ย่อยของมังกรเช่นเดียวกับปีศาจ
เมื่อพิจารณาจากขนาดและรูปลักษณ์ของมังกรดำซากศพซูผิงตัดสินใจว่ามังกรตัวนี้อยู่ที่ระดับเจ็ดและเพิ่งถึงวัยผู้ใหญ่
แต่เนื่องจากมังกรดำซากศพมีสายเลือดระดับแปดและมีสายเลือดปีศาจผสมอยู่ด้วย มังกรดำซากศพจึงโหดร้ายและโหดเหี้ยมอย่างไม่น่าเชื่อยิ่งกว่ามังกรทั่วไปเสียอีก!
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามังกรดำซากศพคือผู้หญิงในชุดสีขาวเธอวางมือลงบนหน้าผากของมังกรดำซากศพ มีแสงสีฟ้าออกมาจากฝ่ามือของเธอ ดูเหมือนสีของพลังดวงดาว แต่เข้มกว่า แสงนั้นกะพริบและสีของมันก็เปลี่ยนไป ซูผิงเชื่อว่าหญิงสาวกำลังพยายามควบคุมมัน
เหงื่อไหลซึมออกมาจากหน้าผากของหญิงสาวเธอกำลังพยายาม“ สู้มัน!” หญิงสาวอีกคนกล่าว เธอยังดูเด็กมาก ผู้หญิงคนที่สองมีผมสีน้ำตาล ผมสั้นทำให้เธอดูสะอาดและเรียบร้อย เธอกำหมัดแน่นหวังว่าเธอจะสามารถมอบความแข็งแกร่งให้กับหญิงสาวที่สวมชุดสีขาวได้
อย่างไรก็ตามในขณะที่ผู้หญิงผมสีน้ำตาลเปล่งคำว่า“สู้มัน” มังกรดำซากศพที่หมอบอยู่ก็ถูกกระตุ้น ดวงตาของอสูรร้ายนั้นเป็นสีแดงขณะที่มันส่งเสียงคำรามออกมา นี่ไม่ใช่แค่การคำราม มังกรดำซากศพได้พยายามครอบงำหญิงสาวในชุดสีขาว!
เสียงคำรามของมังกรทำให้หญิงสาวรู้สึกเวียนหัวเธอสูญเสียการควบคุมมังกรดำซากศพ และถูกบังคับให้ไปด้านข้าง
มังกรดำซากศพที่สง่างามเงยหน้าขึ้นมันยังคงเป็นมังกร การถูกบังคับให้หมอบเป็นการดูถูก!
“โอ้ ให้ตาย!” หญิงสาวผมสั้นตะโกนด้วยความประหลาดใจ เธอรีบไปช่วยหญิงสาวในชุดสีขาว
“ฉันล้มเหลวอีกแล้ว”
ต้องขอบคุณสาวผมสีน้ำตาลหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวไม่เป็นอันตราย แม้ว่าเธอจะตัวซีดไปแล้วก็ตาม ด้วยความผิดหวัง เธอรีบเหลือบมองมังกรดำซากศพที่โกรธแค้น
โฮก!
มังกรดำซากศพยังคงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวสติสัมปชัญญะสุดท้ายที่เหลืออยู่ในสมองทำให้อสูรร้ายไล่ตามเด็กสาวทั้งสองไปไม่ได้ นั่นเป็นเพราะมังกรดำซากศพยังคงสามารถรับความรู้สึกอึดอัดจากสองสาวได้ ในไม่ช้ามังกรดำซากศพก็พบเหยื่อและเปลี่ยนทิศทาง
หญิงสาวทั้งสองไม่ได้กลัวว่ามังกรดำซากศพจะหนีไปพวกเธอกำลังจะหยุดมันตอนสังเกตเห็นว่ามันกำลังวิ่งไปทางประตู แต่ก่อนจะรู้ตัว ประตูก็ได้เปิดออกและมีชายหนุ่มยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว!
ทั้งสองต่างหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่พลิกผันนี้
มังกรดำซากศพเร็วเกินไป!
พวกเธอไม่มีเวลามากพอที่จะหยุดมัน!
”วิ่ง!”ผมสีน้ำตาลตะโกนใส่ซูผิง
”ห้ะ?”
ซูผิงจ้องมองมังกรซากศพที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขาเขาดึงหน้าตึงเมื่อเขาตระหนักว่ามังกรกำลังโกรธ พลังงานที่เย็นและรุนแรงระเบิดออกมาจากเขา เขามองไปที่มังกรดำซากศพราวกับว่ามันไม่มีค่าอะไรมากไปกว่า สำหรับเขาแล้วมังกรดำซากศพไม่น่ากลัวอะไร แม้ว่ามันจะอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับแปด แต่เขาสามารถทุบอสูรร้ายเป็นชิ้น ๆ ได้!
ฟ่อ!
จู่ๆมังกรดำซากศพที่เกือบจะบ้าคลั่งก็รู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่ามนุษย์ตัวเตี้ยกำลังสร้างความรู้สึกแปลก ๆ นี้ ทันใดนั้นมังกรดูเหมือนจะสามารถมองเห็นปีศาจจำนวนมากบินข้ามมาจากด้านหลังของมนุษย์
ปีศาจเหล่ามีพลังและน่ากลัวมากนั่นเป็นความแข็งแกร่งชนิดหนึ่งที่มังกรดำซากศพไม่มีวันเข้าใจหรือจินตนาการถึง มันเป็นอะไรที่สามารถทำลายโลกและสวรรค์ได้
วินาทีต่อมามังกรดำซากศพพลันหยุดนิ่งดวงตาสีแดงค่อยๆจางหาย มันจ้องมนุษย์ตัวเตี้ยด้วยความกลัว
สายเลือดปีศาจในมังกรดำซากศพบอกว่าชายหนุ่มอันตรายมากและมีกลิ่นแห่งความตายที่มังกรดำซากศพคุ้นเคย
มันแทบไม่สามารถจินตนาการได้ว่าชายหนุ่มจะต้องผ่านการฆ่ามากี่ครั้งถึงส่งกลิ่นแห่งความตายนี้ได้มังกรดำซากศพไม่สามารถหยุดสั่นได้ จากนั้นอสูรร้ายที่น่าสงสารก็ค่อยๆคุกเข่าลงต่อหน้ามนุษย์ และเอาหัวขนาดใหญ่ของมันวางลงบนพื้น มังกรดำซากศพห่อปีกที่เน่าเปื่อยไว้รอบหัวด้วยความกลัว
คนที่ถูกแช่แข็งในจุดนั้นคือหลินเฟิงร่วมถึงหยิงหยิงและเพื่อนคนอื่น ๆ ของเขาที่กำลังรอเข้าแถวเพื่อเข้ารับการทดสอบ
ผู้คุมปฏิบัติต่อชายหนุ่มคนนั้นอย่างดีหลินเฟิงและเพื่อน ๆ ของเขาจำได้ทันทีว่าเป็นชายหนุ่มคนเดียวกันที่สร้างปัญหาก่อนหน้านี้
เขาถือ…เหรียญผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์?
หลินเฟิงและเพื่อนๆ ต่างก็ตกตะลึง ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์จริงๆหรอ?
เย่หยิงหยิงตะลึงผู้ชายคนนั้นอายุเท่าเธอ เธอยังคงดิ้นรนที่จะผ่านการทดสอบสำหรับระดับหกแต่ผู้ชายคนนั้นได้กลายเป็นผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์แล้ว!
ในขณะที่พวกเขายังคงตกตะลึงซูผิงสังเกตเห็นความวุ่นวายจากคำพูดของผู้คุม เขาขมวดคิ้วและรีบออกไป เขาไปยังเส้นทางที่กำหนดไว้ “สำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น” และเข้าไปในศูนย์ทดสอบ
เป็นเวลานานหลังจากที่ซูผิงจากไปหลินเฟิงและเพื่อนของเขาจึงกลับมาได้สติ พวกเขามองหน้ากัน จากนั้นก็ตวัดตามองหลินเฟิง
หลินเฟิงรู้สึกอับอายแก้มของเขาก็แดงจนแทบไหม้ ในขณะที่พวกเขาต่อแถวนี้ หลินเฟิงยังจ้อไม่หยุดถึงคราวซวยของซูผิง
อย่างไรก็ตามปรากฏว่าชายคนนั้นสามารถเข้าไปได้และเขาถือเหรียญผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ ผู้คุมพาผู้ชายคนนั้นเข้าไปในอาคารด้วยความเคารพ
ไม่ว่าเหรียญผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์จะเป็นของเขาหรือไม่ก็ไม่สำคัญความจริงที่ว่าชายคนนี้ยังคงปลอดภัยเป็นข้อพิสูจน์ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น โดยที่หลินเฟิงไม่รู้
หลินเฟิงคงจะไม่บ้าคลั่งถึงขนาดที่คิดว่าปรมาจารย์ผู้ฝึกสอนถูกผู้ชายคนนี้หลอกท้ายที่สุดแล้วผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ไม่ใช่คนโง่ที่ใครจะมาหลอกได้ง่ายๆ
“โอ้ แย่แล้ว ไอ้บ้านั่นคงจำฉันไม่ได้หรอกมั้ง?” หลิยเฟิงกำลังเคร่งเครียด เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะตอบสนองต่อท่าทีของเพื่อน
ที่ศูนย์ทดสอบ
ซูผิงเดินผ่านทางเดินยาว
ทางซ้ายของเขาคือประตูที่ทางเข้าประตูนั้นมีกระดานที่มีคำว่า“ ผู้สึกสอนระดับหนึ่ง” เขียนอยู่ นั่นคือสถานที่สำหรับทดสอบผู้ฝึกสอนระดับหนึ่ง
ทางด้านขวาของเขาคือประตูที่นำไปสู่สถานที่สำหรับทดสอบผู้ฝึกสอนระดับสอง
เขาเดินต่อไปประตูทางซ้ายนำไปสู่การทดสอบระดับสาม และทางขวาคือประตูสำหรับระดับสี่
แต่ละประตูอยู่ห่างกันมากซูผิงเดินต่อไป เมื่อเขากำลังจะมาถึงประตูที่นำไปสู่สถานที่ทดสอบสำหรับระดับสามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ซูผิงเหลือบมองเข้าไปข้างใน มันเป็นทางเดินที่ยาวและมืดสลัว ซูผิงเดินเข้าไป สุดทางเป็นประตูเหล็กหนา ซึ่งมีผู้คุมสวมชุดเกราะสีเงินอ่อนยืนอยู่ “ คุณมาที่นี่เพื่อทำการทดสอบใช่หรือไม่?” ผู้คุมถาม
“ไม่ แค่มาเดินเล่น”
“เดินเล่นเหรอ?”
เห็นได้ชัดว่าผู้คุมไม่เชื่อ
ซูผิงไม่อยากรู้ต่อไปเนื่องจากด้านในได้รับการปกป้อง
เขาเดินต่อไปตามทางเดิน
ซูผิงสังเกตเห็นว่ามีผู้คนจำนวนมากรวมตัวกันในเส้นทางที่นำไปสู่สถานที่ทดสอบของระดับสี่ห้าและหก หลายคนยืนต่อแถว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทดสอบระดับห้า หลายสิบคนกำลังรอเข้ารับการทดสอบ
ซูผิงเดินต่อไปเขาไม่เห็นประตูถัดไป เขาเลี้ยวที่หัวมุมตรงปลายสุดของทางเดิน ในไม่ช้าเขาก็มาถึงที่โล่ง
ที่เชื่อมต่อกับล็อบบี้กว้างขวางเป็นเส้นทางใหม่หลายเส้นทาง
ซูผิงเห็นระลอกคลื่นของพลังดวงดาวบนผนังซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงม่านพลัง
ซูผิงมองไปรอบๆ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากทางหนึ่ง ดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังทำการทดสอบ
ซูผิงรู้สึกทึ่งมากตรงปลายยังมีประตูโลหะหนัก แต่ไม่มีคนเฝ้าอยู่ ซูผิงเดินไปข้างหน้า ผลักประตูเบา ๆ และประตูก็เปิดออก
ซูผิงผลักประตูให้เปิดกว้าง
โฮก!!
เขาได้ยินเสียงร้องคำรามเหมือนเสือหรือสิงโตแต่ซูผิงจำได้ทันทีว่ามันคือมังกร!
ถึงกระนั้นมังกรก็ไม่ได้ดูมีพลังมาก
ซูผิงมองไปรอบๆ มันเป็นห้องกว้างขวาง หรือน่าจะเป็นพลาซ่า มีมังกรตัวหนึ่งหมอบอยู่ตรงกลางห้องซึ่งมีความสูง 7-8 เมตรมันคือมังกรดำซากศพ!
มันเป็นอสูรร้ายที่มีสายเลือดระดับแปด!
แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วมันจะไม่ได้อยู่ในตระกูลมังกรเลือดบริสุทธิ์มังกรดำซากศพเป็นผลมาจากการรวมมังกรเข้ากับปีศาจ โดยปกติแล้วมังกรดำซากศพถือเป็นสายพันธุ์ย่อยของมังกรเช่นเดียวกับปีศาจ
เมื่อพิจารณาจากขนาดและรูปลักษณ์ของมังกรดำซากศพซูผิงตัดสินใจว่ามังกรตัวนี้อยู่ที่ระดับเจ็ดและเพิ่งถึงวัยผู้ใหญ่
แต่เนื่องจากมังกรดำซากศพมีสายเลือดระดับแปดและมีสายเลือดปีศาจผสมอยู่ด้วย มังกรดำซากศพจึงโหดร้ายและโหดเหี้ยมอย่างไม่น่าเชื่อยิ่งกว่ามังกรทั่วไปเสียอีก!
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามังกรดำซากศพคือผู้หญิงในชุดสีขาวเธอวางมือลงบนหน้าผากของมังกรดำซากศพ มีแสงสีฟ้าออกมาจากฝ่ามือของเธอ ดูเหมือนสีของพลังดวงดาว แต่เข้มกว่า แสงนั้นกะพริบและสีของมันก็เปลี่ยนไป ซูผิงเชื่อว่าหญิงสาวกำลังพยายามควบคุมมัน
เหงื่อไหลซึมออกมาจากหน้าผากของหญิงสาวเธอกำลังพยายาม“ สู้มัน!” หญิงสาวอีกคนกล่าว เธอยังดูเด็กมาก ผู้หญิงคนที่สองมีผมสีน้ำตาล ผมสั้นทำให้เธอดูสะอาดและเรียบร้อย เธอกำหมัดแน่นหวังว่าเธอจะสามารถมอบความแข็งแกร่งให้กับหญิงสาวที่สวมชุดสีขาวได้
อย่างไรก็ตามในขณะที่ผู้หญิงผมสีน้ำตาลเปล่งคำว่า“สู้มัน” มังกรดำซากศพที่หมอบอยู่ก็ถูกกระตุ้น ดวงตาของอสูรร้ายนั้นเป็นสีแดงขณะที่มันส่งเสียงคำรามออกมา นี่ไม่ใช่แค่การคำราม มังกรดำซากศพได้พยายามครอบงำหญิงสาวในชุดสีขาว!
เสียงคำรามของมังกรทำให้หญิงสาวรู้สึกเวียนหัวเธอสูญเสียการควบคุมมังกรดำซากศพ และถูกบังคับให้ไปด้านข้าง
มังกรดำซากศพที่สง่างามเงยหน้าขึ้นมันยังคงเป็นมังกร การถูกบังคับให้หมอบเป็นการดูถูก!
“โอ้ ให้ตาย!” หญิงสาวผมสั้นตะโกนด้วยความประหลาดใจ เธอรีบไปช่วยหญิงสาวในชุดสีขาว
“ฉันล้มเหลวอีกแล้ว”
ต้องขอบคุณสาวผมสีน้ำตาลหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวไม่เป็นอันตราย แม้ว่าเธอจะตัวซีดไปแล้วก็ตาม ด้วยความผิดหวัง เธอรีบเหลือบมองมังกรดำซากศพที่โกรธแค้น
โฮก!
มังกรดำซากศพยังคงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวสติสัมปชัญญะสุดท้ายที่เหลืออยู่ในสมองทำให้อสูรร้ายไล่ตามเด็กสาวทั้งสองไปไม่ได้ นั่นเป็นเพราะมังกรดำซากศพยังคงสามารถรับความรู้สึกอึดอัดจากสองสาวได้ ในไม่ช้ามังกรดำซากศพก็พบเหยื่อและเปลี่ยนทิศทาง
หญิงสาวทั้งสองไม่ได้กลัวว่ามังกรดำซากศพจะหนีไปพวกเธอกำลังจะหยุดมันตอนสังเกตเห็นว่ามันกำลังวิ่งไปทางประตู แต่ก่อนจะรู้ตัว ประตูก็ได้เปิดออกและมีชายหนุ่มยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว!
ทั้งสองต่างหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่พลิกผันนี้
มังกรดำซากศพเร็วเกินไป!
พวกเธอไม่มีเวลามากพอที่จะหยุดมัน!
”วิ่ง!”ผมสีน้ำตาลตะโกนใส่ซูผิง
”ห้ะ?”
ซูผิงจ้องมองมังกรซากศพที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขาเขาดึงหน้าตึงเมื่อเขาตระหนักว่ามังกรกำลังโกรธ พลังงานที่เย็นและรุนแรงระเบิดออกมาจากเขา เขามองไปที่มังกรดำซากศพราวกับว่ามันไม่มีค่าอะไรมากไปกว่า สำหรับเขาแล้วมังกรดำซากศพไม่น่ากลัวอะไร แม้ว่ามันจะอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับแปด แต่เขาสามารถทุบอสูรร้ายเป็นชิ้น ๆ ได้!
ฟ่อ!
จู่ๆมังกรดำซากศพที่เกือบจะบ้าคลั่งก็รู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่ามนุษย์ตัวเตี้ยกำลังสร้างความรู้สึกแปลก ๆ นี้ ทันใดนั้นมังกรดูเหมือนจะสามารถมองเห็นปีศาจจำนวนมากบินข้ามมาจากด้านหลังของมนุษย์
ปีศาจเหล่ามีพลังและน่ากลัวมากนั่นเป็นความแข็งแกร่งชนิดหนึ่งที่มังกรดำซากศพไม่มีวันเข้าใจหรือจินตนาการถึง มันเป็นอะไรที่สามารถทำลายโลกและสวรรค์ได้
วินาทีต่อมามังกรดำซากศพพลันหยุดนิ่งดวงตาสีแดงค่อยๆจางหาย มันจ้องมนุษย์ตัวเตี้ยด้วยความกลัว
สายเลือดปีศาจในมังกรดำซากศพบอกว่าชายหนุ่มอันตรายมากและมีกลิ่นแห่งความตายที่มังกรดำซากศพคุ้นเคย
มันแทบไม่สามารถจินตนาการได้ว่าชายหนุ่มจะต้องผ่านการฆ่ามากี่ครั้งถึงส่งกลิ่นแห่งความตายนี้ได้มังกรดำซากศพไม่สามารถหยุดสั่นได้ จากนั้นอสูรร้ายที่น่าสงสารก็ค่อยๆคุกเข่าลงต่อหน้ามนุษย์ และเอาหัวขนาดใหญ่ของมันวางลงบนพื้น มังกรดำซากศพห่อปีกที่เน่าเปื่อยไว้รอบหัวด้วยความกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว