ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 444

ตอนที่ 444 การประชุม
  ”นาย!!”
  หญิงสาวชุดขาวมีสีหน้าตกใจ
  ปฏิกิริยาของซูผิงคล้ายกัน“ ใช่ฉันเอง”
  ชือหาวจื่อก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน“ รู้จักกันหรอ?”
  สองสาวและซูผิงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ชือหาวจื่อทำไมคุณถึงดูประหลาดใจ?
  ชือหาวจื่อกลับมามีสติ“ รู้จักกันด้วยเหรอ?” เขาถาม
  “ไม่”
  ”รู้”
  “อืม!”
  คำตอบที่แตกต่างกันสามคำออกมาในเวลาเดียวกันช่างเป็นเรื่องบังเอิญ
  อืมถูกพูดโดยผู้หญิงผมสีน้ำตาลเธอกอดอก เธอยังคงไม่พอใจที่ที่ซูผิงจากไปโดยไม่สนใจเธอ
  ชือหาวจื่อยืนอยู่ในความงุนงงเป็นเวลาสองวินาทีเขาสวมรองเท้าแตะ และเดินเข้าไปข้างใน ขณะที่เขาแนะนำซูผิงให้ทุกคนรู้จัก“ พวกเธอเป็นลูกสาวของผม เจิ้นเซียงและทงทง”
  หญิงสาวชุดขาวคือเจิ้นเซียง
  คนผมสีน้ำตาลคือทงทง
  ซูผิงมองหญิงสาวชุดขาวชื่อของเธอคือชือเจิ้นเซียงนี่เอง
  ชือหาวจื่อแนะนำซูผิงว่า“นี่คือคุณซู แขกผู้มีเกียรติของเรา พวกลูกเรียกเขาว่าพี่ซูก็ได้ แม้เขาจะอายุเท่าพวกลูก แต่ก็เป็นผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์แล้ว ช่างเหลือเชื่อจริงๆ!”
  ลูกสาวสองคนของเขาจ้องไปที่ซูผิงด้วยความประหลาดใจ
  ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์?
  เขาเนี่ยนะ?
  เพื่อนคนนี้?
  “พ่อวันนี้พ่อดื่มเหล้าหรือเปล่า?” ทงทง สาวผมสีน้ำตาลถาม
  ชือหาวจื่อปฏิเสธอย่างไม่พอใจ“พ่อไม่ได้ดื่ม เอาจริงนะ พ่อไม่ได้ล้อเล่น อย่าลืมเรียนรู้จากน้องซู อย่าคิดว่าตัวเองเก่งกาจเสมอไป จำไว้ว่ามีคนที่เก่งกว่าเสมอ ลูกควรเอาน้องซูเป็นเยี่ยงอย่าง”
  ทงทงโต้“พ่อ เขาอายุเท่าไหร่? ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์? ไม่มีทาง ทำไมหนูไม่เคยได้ยินชื่อเขา ”
  เจิ้นเซียงมองซูผิงอย่างอยากรู้อยากเห็น
  ชือหาวจื่อยังคงหน้ายิ่ง“ ลูกรู้ไหมว่าเจ้าเหลืองของเราไปที่ห้องนอนของลูก และนอนบนพรมเมื่อคืนนี้”
  ทงทงกระทืบเท้าของเธอ”ตอนไหน? ทำไมหนูไม่รู้”
  “มีหลายอย่างที่ลูกไม่รู้”ชือหาวจื่อตะคอก เขาพูดกับซูผิงขณะที่เขาก้าวไปที่ห้องนั่งเล่น“ ผมเลี้ยงลูกมาไม่ดีเอง…พวกเธอไม่มีมารยาท อย่าสนใจพวกเธอเลย”
  “ครับ”
  ซูผิงพยักหน้า
  หญิงสาวทั้งสองกลอกตาใส่ซูผิงพร้อมกัน
  ชือหาวจื่อบอกให้ซูผิงนั่งและทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้าน เขาต้องขึ้นไปชั้นบนเพื่อจัดการบางอย่าง แน่นอนว่าเหลือเพียงซูผิงและหญิงสาวสองคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่น แน่นอนว่ายังมีแม่บ้านและสาวใช้ที่เดินวนเวียนอยู่ในห้อง
  แม่บ้ายและสาวใช้:???
  ซูผิงนั่งลงบนโซฟาและมองไปรอบ ๆ คฤหาสน์หลังนี้อยู่ในย่านรุ่งเรืองของเมืองแสงศักดิ์สิทธ์ และมูลค่าของมันอย่างต่ำก็ต้องมีหลายร้อยล้าน ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์สามารถทำเงินได้มากขนาดนี้เชียว! เขาอุทานอยู่ในใจ
  ”ฟังนะนายหลอกพ่อฉันทำไม?”
  ทงทงเลิกคิ้วขณะที่ซูผิงนั่งลงและทำตัวเหมือนอยู่บ้าน “ หลอกเขาเหรอ? ฉันไม่รู้ ฉันพูดไม่กี่คำพ่อของเธอก็เชื่อฉัน” ซูผิงตอบ
  ทงทงขมวดคิ้วอย่างไรก็ตามเธอรู้สึกว่าซูผิงกำลังเล่นตลก และพูดเหมือนว่าพ่อของเธอไม่ค่อยฉลาด
  “พ่อของฉันเป็นผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ นายรีบแสดงความจริงทั้งหมดมาจะดีกว่า” ทงทงหัวเราะเยาะ
  “ทั้งหมด…เธอหมายถึงจิตวิญญาณ หรือร่างกายของฉันล่ะ?”
  ”นาย!”
  ทงทงหน้าแดงด้วยความโกรธ
  หมอนี่มันทุเรศ!
  เจิ้นเซียงเขินอายเช่นกันเธอดึงมือของทงทง “ อาจจะมีบางอย่างที่เราไม่รู้ ค่อยไปถามพ่อทีหลัง”
  ทงทงไม่สามารถทำอะไรซูผิงได้คำตอบเดียวที่เธอได้คือคำพูดที่ทำให้หงุดหงิด
  เนื่องจากหญิงสาวทั้งสองไม่พูดอะไรอีกซูผิงจึงมีความสุขอยู่ชั่วขณะนึง ในไม่ช้าชือหาวจื่อก็จัดการธุระของเขาเสร็จ เขาลงมาชั้นล่างและเห็นทั้งสามคนในห้องนั่งเล่น “ แล้วเป็นยังไงบ้าง? หนุ่มๆสาวๆคุยกัน พนันได้เลยว่าทุกคนน่าจะเข้ากันได้ดี”
  “ไปได้ด้วยดีครับ”ซูผิงลืมตา
  พูดออกมาได้!
  ด้วยความโกรธจากการตอบกลับของเขาทงทงตะคอกอีกครั้ง
  เจิ้นเซียงรู้สึกอึดอัดใจเงียบๆ
  “คุณคงจะหิว ผมจะบอกให้พวกเขาเตรียมอาหารเย็นให้พร้อม”ชือหาวจื่อกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาบอกให้แม่บ้านให้เตรียมอาหารเย็นให้พร้อม
  ชือหาวจื่อนั่งลงในห้องนั่งเล่นและบอกกับลูกสาวของเขาว่า“ พวกลูกทั้งสองคนต้องเรียนรู้จากน้องซู เขาจะเข้าร่วมการประชุมผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ในวันพรุ่งนี้”
  “เขากำลังเข้าร่วมการประชุมผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์เหรอ?!”
  สองสาวแทบจะกระโดดด้วยความตกใจ
  ไม่ได้ล้อเล่น
  ซูผิงไม่ได้แค่หลอกพ่อของเราตอนนี้เขากำลังจะเข้าร่วมการประชุม?
  “พ่ออย่ามาโกหก” ทงทงตะโกน
  ”พ่อพูดจริง”
  ชือหาวจื่อกล่าวเสริมว่า“น้องซูได้รับเชิญจากสำนักงานใหญ่ ลูกคิดว่าพ่อเป็นคนชวนเขาหรือไง? ลูกกำลังคิดอะไรอยู่”
  “สำนักงานใหญ่?”
  สองสาวไม่อยากจะเชื่อ
  พวกเธอคิดว่าซูผิงหลอกพ่อของพวกเธอให้พาเขาเข้าร่วมการประชุม
  ปรากฎว่าซูผิงได้รับคำเชิญจากสำนักงานใหญ่ดังนั้น…
  สำนักงานใหญ่ก็ถูกซูผิงหลอกด้วย?
  ป๊ะ!
  เขาคือผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์จริงๆ?!
  สองสาวมองหน้ากันทั้งคู่สามารถเห็นความประหลาดใจที่มีร่วมกันในสายตาของแต่ละคน
  พวกเธอหันกลับไปมองซูผิงที่ยังคงนิ่งเหมือนเดิมพวกเธอก็ยิ่งอยากรู้เกี่ยวกับตัวเขามากขึ้น ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ตั้งแต่อายุยังน้อย? มันเป็นไปได้ยังไง?
  พวกเธอไม่เคยได้ยินมาก่อน!
  ไม่มีใครเหมือนเขาในเมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์!
  ถ้าทุกอย่างเป็นจริงเขาก็ทำลายสถิติของผู้ฝึกสอนที่อายุน้อยที่สุดจนถึงปัจจุบัน!
  “ผมไม่ใช่” ซูผิงตอบ
  ”นายไม่ใช่?”
  ”ใช่ผมไม่ใช่”
  ทงทงกำลังสูญเสียความคิดเขากำลังล้อเลียนเธอ!
  เธอไม่ควรถามคำถามใดๆ
  ไอ้ปากเสีย!ทงทงโกรธทั้งตัวเองและซูผิง เธอนั่งหน้าบึ้ง ชือหาวจื่อยิ้มให้ลูกสาวที่กำลังโกรธ ในที่สุดก็มีคนตามเธอทัน!
  ไม่นานอาหารเย็นก็มาเสิร์ฟ
  มีทั้งอาหารทะเลและเนื้ออสูรอื่นๆ แต่ทุกจานปรุงด้วยส่วนที่อร่อยที่สุดของเนื้ออสูรที่กินได้ ในช่วงบ่ายชือหาวจื่อได้โทรกลับมาที่บ้าน บอกให้สาวใช้เตรียมของให้พร้อม
  นี่เป็นครั้งแรกที่ซูผิงจะได้เพลิดเพลินกับอาหารมื้อใหญ่เช่นนี้ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงประโยชน์ของเงิน
  เงินมีประโยชน์แม้ว่าคน ๆ นั้นจะไม่มีพลังต่อสู้ก็ตาม!
  อย่างน้อยก็เลี้ยงได้ดี!
  “ลูกเตรียมชุดทางการสำหรับการประชุมในวันพรุ่งนี้หรือยัง?”ชือหาวจื่อถามลูกสาวของเขาตอนอาหารค่ำ
  เจิ้นเซียงพยักหน้า”เรียบร้อยค่ะพ่อ”ชือหาวจื่อมองชุดลำลองที่ซูผิงสวมอยู่ “ น้องซูให้ผมเตรียมชุดให้ไหม?” “
  ซูผิงกลืนอาหารลงคอ”ไม่เป็นไรครับขอบคุณ นั่นจะมากเกินไป”
  เขาและชือหาวจื่อไม่ได้เป็นญาติหรือเป็นเพื่อนกันเขารู้สึกแย่พอสมควรแล้วที่มาอยู่ที่นี่…แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกอายตอนที่กำลังกลืนอาหาร
  แน่นอนว่าเขาจะไม่ไปไกลถึงขั้นให้ชือหาวจื่อหาชุดสูทให้เขา
  นอกจากนี้เขาไม่คิดว่าเสื้อผ้าของเขามีอะไรผิดปกติเขาจ่ายไปตั้งหลายร้อยเหรียญ
  “ได้เลย”ชือหาวจื่อตอบ
  หญิงสาวทั้งสองมองซูผิงแปลกๆ ผู้ชายคนนี้กำลังจะเข้าร่วมการประชุมจริงๆหรอ? ในฐานะผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์?
  หญิงสาวทั้งสองรู้สึกถึงความรู้สึกที่ผสมผสานกันอย่างแปลกประหลาด
  อิจฉาเกลียด เศร้าใจ …
  อาช่างเป็นอารมณ์ที่ซับซ้อน
  “อิ่มแล้ว!” ทงทงวิ่งขึ้นไปชั้นบนทันทีหลังอาหารค่ำ เธอแทบรอไม่ไหวที่จะรู้ว่าซูผิงมีทักษะของผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์หรือไม่ ในการประชุมวันพรุ่งนี้
  แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์คนอื่นๆ ?
  ซูผิงต้องอายแน่หากเขาไม่สามารถตอบคำถามใดๆ ที่ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์คนอื่นถามได้!
  ทงทงยังไม่เชื่อพ่อที่ไม่น่าไว้ใจของเธอ
  “พ่อ หนูอิ่มแล้ว ขอตัวค่ะ” เจิ้งเซียงวางตะเกียบลง และเดินขึ้นไปชั้นบนเช่นกัน
  หญิงสาวทั้งสองคนไปสุมหัวคุยกันที่ชั้นบนชือหาวจื่อส่ายหัว “ น้องซูอย่าไปสนใจพวกเธอเลย ทานต่อให้อร่อยเถอะ” เขากล่าวกับซูผิง “ แน่นอนครับ” ซูผิงกวาดจานจนเกลี้ยง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว