ตอนที่ 454 วิวัฒนาการ
ติงเฟิงชุนจะทำตามข้อเสนอนั้นดังที่กล่าวไปแล้วรองประธานจะไม่เข้ามายุ่งเมื่อทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ยอมถอย นอกจากนี้เขายังกระตือรือร้นที่จะค้นหาว่าซูผิงสามารถทำอะไรได้บ้าง
การฝึกฝนพิเศษของมังกรจันทราเหมันต์ที่แสดงในวิดีโอทำให้เขาสนใจการทดสอบยังไม่เริ่ม แต่รองประธานหวังว่าซูผิงจะพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเป็นผู้ฝึกสอนที่แท้จริง
แม้รองประธานจะรู้ว่ามีโอกาสน้อย
ในทางกลับกันหากปรากฎว่าซูผิงเป็นผู้ฝึกสอนจริงๆ รองประธานจะสอบถามว่าซูผิงฝึกมังกรจันทราเหมันต์อย่างไร…การพัฒนาของมันนั้นยอดเยี่ยม และครอบคลุมมากทีเดียว รองประธานอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะคิดว่าเขาอาจจะได้คำตอบ
“ไปที่ศูนย์ทดสอบกันเถอะ”
รองประธานลุกขึ้นยืน
ทั้งซูผิงและติงเฟิงชุนไม่มีอะไรจะพูดนอกจากลุกตามคนอื่น ๆ ก็ทำตามเช่นกัน พวกเขาระตือรือร้นที่จะค้นหาว่าความยุ่งเหยิงทั้งหมดนี้จะจบลงอย่างไร
จ้าวแห่งไฟและดาวโดดเดี่ยวไม่อยากยุ่งเรื่องโต้แย้งระหว่างผู้ฝึกสอนแต่พวกเขาอยากรู้เกี่ยวกับการทดสอบของซูผิง ชายหนุ่มได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ทำให้ทั้งสองคนตกใจกลัว โดยเฉพาะดาวโดดเดี่ยวหลังจากต่อสู้กับซูผิงด้วยตนเอง เขารู้ดีว่าซูผิงยังสามารถเอาชนะเขาได้ แม้ว่าเขาจะร่วมมือกับจ้าวแห่งไฟก็ตาม
ซูผิงต้องอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด
ดีที่สุดของที่สุด…
หากซูผิงมีทักษะของผู้ฝึกสอนทั้งที่เขาเป็นนักรบอสูรที่น่าเกรงขามอยู่แล้วความมั่นใจของดาวโดดเดี่ยวจะต้องพังยับเยิน
เขามีความภาคภูมิใจในระดับหนึ่ง
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงศูนย์ทดสอบ
มีผู้ฝึกสอนคนอื่นๆ ที่เข้าร่วมการทดสอบในวันนี้
ศูนย์สอบมีผู้คนหนาแน่นและเป็นแบบนี้ทุกวัน
เหล่าผู้ฝึกสอนที่รอถึงรอบของพวกเขาต่างตกใจเมื่อรองประธานมาพร้อมกับซูผิงนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดสองคน และผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์อีกหลายคน
เกิดอะไรขึ้น?
สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องประชุมไม่ได้ทำให้ผู้คนตกใจเพราะมันอยู่ห่างกันคนที่กำลังจะเข้ารับการทดสอบได้ยินเสียงดังบ้าง แต่พวกเขาก็ไม่ได้เอะใจอะไร นอกจากนี้แม้ว่าพวกเขาจะได้รับแจ้งว่ามีบางคนกำลังต่อสู้อยู่ที่นั่น พวกเขาก็คงจะหัวเราะออกมา “คุณซู คุณอยากเริ่มด้วยระดับไหน?” รองประธานถามซูผิง
“ระดับหนึ่งแล้วกัน” ซูผิงตอบ เขามาที่นี่เพราะสนใจที่จะค้นหาว่าผู้ฝึกสอนในแต่ละระดับต้องรู้อะไรบ้าง ซึ่งควรเป็นความรู้ทั่วไปสำหรับผู้ฝึกสอนคนอื่น ๆ
“ระดับหนึ่ง? ได้เลย”
รองประธานรู้สึกประหลาดใจแต่ไม่ได้ขัด
ติงเฟิงชุนยิ้มเยาะ“ มันไม่มีความหมายหรอก “
ซูผิงจ้องมองเขาอยากโดนอีกหรอบหรือไง?
ติงเฟิงชุนตกใจเมื่อเห็นสายตาของซูผิงถึงแม้จะไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
ไม่ว่าจ้าวแห่งไฟและดาวโดดเดี่ยวรวมถึงรองประธานจะอยู่ที่นี่สิ่งที่ซูผิงทำไว้ก็เตือนติงเฟิงชุน หากไม่ใช่เพราะเขาไม่สามารถทนต่อความอัปยศได้ เขาจะผูกมิตรกับซูผิง ชายคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา การตัดสินใจที่ดีสุดคือการเป็นเพื่อนกับผู้ชายคนนี้ แทนที่จะทำให้เขาขุ่นเคือง
น่าเสียดายสำหรับติงเฟิงชุนเรื่องทั้งหมดเกิดจากคำพูดที่ไม่คิดให้รอบคอบ เขาทำให้ซูผิงขุ่นเคือง แม้เรื่องราวจะยุติ เขาก็ไม่คิดว่าซูผิงจะยอมรับการปฏิบัติที่ดีจากเขา ต่อให้เขาจะยอมทิ้งศักดิ์ศรีของเขาก็ตาม นั่นจะยิ่งทำให้เขาอับอายมากขึ้น ท้ายที่สุดเขาต้องทำงานที่สำนักงานใหญ่ต่อ ถ้าเขายอมจำนนแล้วนักเรียนของเขา และผู้ฝึกสอนคนอื่น ๆ จะคิดกับเขายังไง?
“เชิญครับ” รองประธานกล่าวกับซูผิง
ซูผิงตามเขาไปยังสถานที่สำหรับการทดสอบระดับหนึ่ง
“การทดสอบระดับหนึ่งนั้นค่อนข้างง่าย ประการแรกผู้ฝึกสอนจะต้องเชี่ยวชาญทักษะการทำให้เชื่องระดับพื้นฐาน อีกประการหนึ่งผู้ฝึกสอนควรเชี่ยวชาญการประสานพลังดวงดาว มันเป็นความรู้ทฤษฏี” รองประธานกล่าว
ไม่มีผู้ตรวจสอบอยู่ไม่ค่อยมีใครมาที่สำนักงานใหญ่เพื่อทดสอบระดับหนึ่ง
”ทฤษฎี?”
ซูผิงเม้มปากของเขาช่างเป็นการทดสอบที่เลวร้าย
“งั้น ก็เริ่มกันที่การทดสอบระดับสอง มันต้องใช้ความรู้ทางทฤษฎีด้วยไหม?” ซูผิงถาม
รองประธานรู้สึกประหลาดใจที่ซูผิงไม่รู้ข้อมูลง่ายๆเช่นนี้
ในความคิดที่สองเขาจำได้ว่าซูผิงเรียนรู้ด้วยตัวเอง “ แน่นอน เราไม่มีการทดสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับทฤษฎีตั้งแต่ระดับสองขึ้นไป ระดับอื่นๆจะเป็นการปฏิบัติจริงทั้งหมด”
“ไปกันเถอะ”
“ผู้ฝึกสอนระดับสองต้องทำให้อสูรร้ายเชื่อง และทำให้ขนของหนูสีขาวเป็นสีดำภายในสิบห้านาที”รองประธานกรรมการกล่าว
หนูขาวแม้แต่การทดสอบของผู้ฝึกสอนก็ยังต้องการพวกมัน
“ผมจะลองดู” ซูผิงกล่าว เขาไม่เคยทำมาก่อน จึงไม่แน่ใจว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่
ย้อมขนให้เป็นสีดำ… ถ้าเขามีสีย้อมผม เขาจะทำให้มันเกิดขึ้นได้ภายในพริบตา
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูผิงได้ยินเกี่ยวกับการย้อมขนด้วยพลังดวงดาว
ผู้สังเกตการณ์กำลังถามถึงความสามารถของซูผิงเขาจะทำได้ไหม?
เจิ้นเซียงและทงทงยืนอยู่ข้างหลังชือหาวจื่อพวกเธอมองซูผิงที่ยืนเคียงข้างรองประธานด้วยความกังวล พวกเธอเป็นห่วงเขา และในขณะเดียวกันก็กลัวว่าพ่อของพวกเธอจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเพราะซูผิง
พวกเธอมักจะกังวลเกี่ยวกับพ่อที่ตรงไปตรงมาเกินไปของพวกเธอ
ไม่นานพวกเขาก็เข้ามาในห้องผู้ตรวจสอบกำลังดูแลผู้เข้าร่วมซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่น ในขณะนี้เด็กหนุ่มกำลัง“ ย้อมขน’
ซูผิงเห็นว่าเด็กหนุ่มถือหนูสีขาวไร้เดียงสาไว้ในมือและพยายามอย่างเต็มที่จนตัวบิดตัวเบี้ยวขนของหนูสีขาวครึ่งหนึ่งมีสีดำปนเปื้อน
ซูผิงสังเกตว่าพลังดวงดาวหลั่งไหลเข้าไปยังไง
เขาเข้าใจกลไกหลังจากนั้นไม่นาน
นี่เป็นการทดสอบการควบคุมพลังดวงดาวของผู้ฝึกสอน
สำหรับผู้ฝึกสอนพลังดวงดาวเปรียบเสมือนมีดผ่าตัดและการจัดการพวกมันต้องใช้ความแม่นยำสูง
รองประธานอธิบายเหตุผลของการมาที่นี่แก่ผู้ตรวจสอบซึ่งทำให้พวกเขาตกใจ ผู้ตรวจสอบมองไปที่ซูผิงเมื่อรู้ว่านี่คือคนที่จะถูกทดสอบ ผู้ตรวจสอบไม่คิดว่าซูผิงเป็นคนที่สร้างความวุ่นวายที่สำนักงานใหญ่ แต่เป็นเหมือนลูกหลานของชนชั้นสูงบางคน
ในไม่ช้าผู้ตรวจสอบก็หยิบกิ้งก่ากรงเล็บเปื่อยระดับสองซึ่งมีความยาวมากกว่าหนึ่งเมตรออกมากิ้งก่าสีน้ำตาลมีพิษเป็นอสูรป่าดุร้าย ซูผิงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับทักษะการฝึกฝน แต่เขาใช้พลังดวงดาวบางอย่างเพื่อขู่ให้เจ้าตัวน้อยยอมจำนน และผ่านการทดสอบในส่วนแรกไปแล้ว
ถัดไปคือการย้อมขนของหนูสีขาว
ผู้ตรวจสอบยื่นกรงที่มีหนูสีขาวตัวน้อยอยู่ให้ซูผิง
ซูผิงเปิดกรงและคว้าหนูตัวเล็กสีขาวออกมาขนมันยาวน่ารักจริงๆ
เขายังคงประหม่าแม้ว่าเขาจะได้พบกับสิ่งที่รู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำเขานึกถึงวิธีการที่เขาเพิ่งเรียนรู้จากเด็กหนุ่ม และเทพลังดวงดาวลงใส่หนูขาว
การทดสอบนี้คือการใช้พลังดวงดาวเพื่อกระตุ้นการเติบโตของโครมาโตเฟอเรสอื่นๆ ในหนูสีขาว และใช้พลังดวงดาวมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการเติบโต
ไม่นานขนของหนูสีขาวก็เริ่มเปลี่ยนสี
มันกลายเป็นสีดำและจากนั้นก็เป็นสีแดงเลือด
ซูผิงคิดไอเดียออกเขาแอบใส่พลังดวงดาวบางอย่างที่มีพลังงานไฟฟ้า ทันใดนั้นขนของหนูสีขาวก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงและดูเหมือนว่าจะมีสายฟ้าซ่อนอยู่ท่ามกลางขนของมัน
”นั่นอะไร…”
รองประธานปรมาจารย์ไป่ ชือหาวจื่อและคนอื่น ๆ ทั้งหมดรู้สึกว่าตัวเองโง่
พวกเขาสามารถเปลี่ยนสีได้หลายสีเช่นกันแต่สายฟ้านั่นคืออะไร? แม้แต่ปรมาจารย์ไป่ และรองประธานก็ไม่สามารถเข้าใจการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ ซูผิงวางหนูที่มีขนสีม่วงลง
บูซ!
หนูดูเหมือนจะค่อนข้างตื่นเต้นแม้จะยังกระวนกระวายใจเล็กน้อย อสูรตบกรงและประกายไฟฟ้ายังคงแลบไปมา ซูผิงมีความสุขที่การทดลองของเขาได้ผล
หนูตัวเล็กสีขาวเป็นมากกว่าหนูในขณะนี้มันสามารถพัฒนาได้
หากนำหนูสีขาวไปไว้ในป่ามีโอกาสที่มันจะกลายเป็นอสูรร้ายขั้นต่ำของตระกูลสายฟ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว