ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 513

“ไสหัวไป!”

กรี๊สส !!

ราชาสวรรค์โลกคำรามเพราะความเจ็บปวดและเจตนาฆ่าของซูผิง เสียงร้องมันเป็นเสียงที่ได้ยินในยมโลกเท่านั้นซึ่งสามารถพรากวิญญาณของคน ๆ หนึ่งไปได้ อสูรป่าที่วิ่งพล่านในสนามรบต่างตกตะลึงกับเสียงร้องนั้น อสูรป่าบางตัวหลังจากที่พวกมันได้สติก็หมอบ และตัวสั่นด้วยความกลัว

อสูรป่าบางตัวที่อยู่ใกล้ชิดกับราชาสวรรค์กลัวจนควบคุมตัวเองไม่ได้

นักรบอสูรที่ยืนอยู่บนกำแพงด้านนอกไม่ได้ดีไปกว่าพวกมัน พวกเขาอ่อนแอ หัวเข่าและใบหน้าของพวกเขาไร้สี พวกเขารู้สึกว่าได้เห็นความน่าสะพรึงกลัวที่ไม่อาจจินตนาการได้ แม้แต่วิญญาณของพวกเขาก็ได้รับผลกระทบ ขวัญกำลังใจไม่เหลือ รู้แค่กลัว

แม้แต่คนที่กล้าหาญก็กลัวตาย นั่นคือพลังของราชาสวรรค์ต่างโลก

ถึงกระนั้นซูผิงซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของราชาสวรรค์โลกก็ไม่ได้รับผลกระทบเลย ความโกรธในดวงตาของซูผิงยิ่งโดดเด่นมากขึ้น เขาหันหน้าไปหาเสียงร้องนั้น

นอกเหนือจากการยับยั้งแล้ว เสียงร้องอาจทำให้เกิดความเสียหายทางกายภาพ แต่กระดูกสีขาวของซูผิงได้ป้องกันเขาจากอันตรายนั่น

พรึ่บ!

ซูผิงยังคงอ้าปากด้วยท่าทางที่น่ารังเกียจเผยให้เห็นลิ้นและลำคอที่ซ่อนอยู่หลังเขี้ยว

เขายกเท้ากระทืบคอ!

ปัง!

ราชาสวรรค์สั่นสะท้าน ซูผิงกระทืบยอดเกสรอย่างแรงจนพื้นแตก

“ ไม่ ไม่ได้ !!”

ราชาสวรรค์ต่างโลกไม่เชื่อว่าชายหนุ่มจะเพิกเฉยต่อเจตนาฆ่าของมันได้ เขาเป็นอะไร? เครื่องจักร?

มันรู้สึกหวาดกลัวกับความแข็งแกร่งของซูผิง และสงสัยอยู่ครู่หนึ่งว่ามันควรจะหนีไปไหม

ความคิดต่างๆทำให้มันโกรธ ราชาอสูรร้ายจะกลัวมนุษย์ระดับเจ็ดได้ยังไง?

เป็นไปไม่ได้!

ปัง!

พื้นแตก ราชาสวรรค์ใช้หมอกเลือดมากขึ้นเพื่อควบคุมดาบมาต่อสู้กับซูผิง

มันกวัดแกว่งดาบเหมือนมนุษย์ด้วยทักษะแปลก ๆ ที่เรียนรู้ในอาณาจักรลับ

ดาบมีพลังที่สามารถทิ้งรอยดำไว้ในอากาศ บริเวณใกล้กับพื้นที่ที่ถูกเฉือนปั่นป่วน แม้แต่ราชาอสูรร้ายที่สภาวะว่างเปล่าก็อาจได้รับบาดเจ็บจากอากาศที่แปรปรวนนี้ หลังจากเข้ามาใกล้พื้นที่นั้น ราชาอสูรร้ายในสภาวะสมุทรจะต้องตายในไม่ช้า!

ซูผิงยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากความโกลาหลนั้น ดาบอากาศที่พุ่งเข้าหาเขาจากทุกทิศทางจะกระเด็นออกไป ต้องขอบคุณกระดูกสีขาวที่สร้างเกราะแข็งแกร่งให้เขา!

ปัง! ปัง! ปัง!

ซูผิงต่อยและหมัดขับไล่วิญญาณก็ทุบลำแสงทั้งหมดไป

เขาก้าวไปข้างหน้าใกล้กับราชาสวรรค์มากขึ้น เขาไม่ถืออาวุธ เขาคว้าราชาสวรรค์โดยตรงและเริ่มฉีกมันออกจากกัน

“ แกถึงวาระแล้ว! ตายซะ!” ราชาสวรรค์ต่างโลกคำราม มันไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อน ราชาสวรรค์โบกมือเถาวัลย์ พยายามที่จะปัดป้องการโจมตี มันกำลังถ่วงเวลา มันไม่เก่งในการต่อสู้ระยะใกล้ แต่มันคงอยู่ได้นานกว่านี้แน่นอน ยิ่งมีเวลามากเท่าไหร่หมอกเลือดก็สามารถทำอันตรายได้มากขึ้นเท่านั้น การโจมตีครั้งนี้สามารถกัดกร่อนสิ่งมีชีวิตที่จุดสูงสุดของสภาวะชะตากรรมได้ เลวร้ายถึงขนาดที่ว่าสิ่งมีชีวิตนั้นจะตายหลังการระเบิดครั้งแรก

แซ่บ! แซ่บ!

ซูผิงระเบิดเถาวัลย์ออกไปด้วยหมัด และการเตะ จากนั้นพุ่งเข้าหาดอกไม้ ฉีกกลีบหลายกลีบ

เขาไม่เคยใช้หมัดขับไล่วิญญาณด้วยพลังเช่นนี้ เขาต่อยได้อย่างสบายๆด้วยความแข็งแกร่งที่พลุ่งพล่านภายในตัวเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้มากขึ้นเกี่ยวกับทักษะนี้

ตูม !!

เขาเหวี่ยงหมัดที่ทำให้อากาศส่งเสียงร้องโหยหวน

ราชาสวรรค์หันมอง มีบางอย่างที่บ่งบอกถึงความตาย

ยังไง?

ราชาอสูรร้ายคำราม และพยายามอย่างหนักที่จะต่อสู้กลับ แต่มีหลุมปรากฏขึ้นที่เกสรของมันในวินาทีถัดมา เลือดที่พุ่งออกมาบ่งบอกว่ามันถูกขย้ำอย่างรุนแรง!

มันกึ่งตายไปแล้ว มนุษย์คนนี้อยู่ในระดับเจ็ดเท่านั้น มันทำร้ายฉันได้ยังไง?

ต้องกำจัดมนุษย์คนนี่! ราชาสวรรค์ต่างโลกมุ่งมั่น เรื่องที่สับสนที่สุดคือการเห็นซูผิงไม่สะทกสะท้านใดๆ ทำไมเขาไม่แสดงอาการอ่อนแรงลงหลังจากอยู่ในหมอกเลือดมานานขนาดนี้? ถ้าเป็นราชาอสูรร้ายตัวอื่นในสภาวะชะตากรรมความแข็งแกร่งของมันจะลดลงไปหลายเท่าแล้ว

ราชาอสูรร้ายในสภาวะว่างเปล่าคงจะเน่าเฟะไปแล้ว! ราชาสวรรค์ตระหนักในไม่ช้าว่าหมอกเลือดไม่สามารถทะลุกระดูกสีขาวที่น่าทึ่งนั่นได้ มันมีภูมิคุ้มกันต่อหมอกเลือด!

ความสามารถที่มันภาคภูมิใจไม่ได้ผล?

โครงกระดูกนั่นคืออะไร?

หลังจากความตกตะลึงในช่วงแรก ราชาสวรรค์มีความคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน และกดความโกรธเอาไว้ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะสงวนความแข็งแกร่งอีกต่อไป ในขณะที่ดอกไม้ยังคงปกคลุมซูผิง ราชาสวรรค์ฉีกอากาศออกจากกัน และหายเข้าไปในที่นั้น

โห่!

ราชาสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งท่ามกลางกลุ่มอสูรป่าที่อยู่ห่างออกไปหลายพันเมตร

หมอกเลือดกัดกร่อนอสูรร้ายที่ตกใจก่อนที่พวกมันจะหมอบคลานด้วยความกลัว กลายเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงหมอกเลือด

มันไม่หยุด มันเคลื่อนย้ายหลายครั้งเพื่อหนีโดยไม่สนใจอสูรร้ายที่ตายในระหว่างนี้

อสูรป่าเหล่านั้นไม่มีค่าอะไรนอกจากอาหาร พวกมันไม่ได้อร่อยด้วยซ้ำ ราชาสวรรค์ไม่ได้สนใจ

หลังจากการเคลื่อนย้ายหลายรอบ ราชาสวรรค์ก็สามารถกลับไปยังดอกบัวขนาดใหญ่ในสนามรบได้ ดอกบัวนั้นเป็นรูปแบบภายนอกของมัน มันทะยานเข้าไป และรวมเข้ากับดอกบัวในครั้งเดียว

ตูม!

พลังรุนแรงกวาดไปทั่วสนามรบ

ราชาสวรรค์ต่างโลกตัวจริงกลับมาแล้ว!

พลังงานที่ท่วมท้นระเบิดไปทั่ว ทั้งอสูรป่าและนักรบอสูรต่างตกใจกับพลังนั้น พวกเขาจ้องมองไปที่ร่างใหญ่โตและน่ากลัวในสนามรบ นั่นคือราชาสวรรค์ต่างโลกตัวจริงใช่ไหม?

ซูผิงรู้สึกกดดัน แต่เขาไม่ยอมถอยแน่ แรงกดดันนั้นไม่มีอะไรเลยเมื่อเทียบกับพลังเทพสวรรค์ในหลุมศพกึ่งเทพ!

อ่อนแอมาก!

ถึงกระนั้นสิ่งที่อ่อนแอเช่นนี้ก็ได้ฆ่ามังกรเพลิงนรก!

“ตาย!!” ซูผิงตะโกน เขาพุ่งไปข้างหน้า ทำให้เกิดเสียงดังเนื่องจากการบินที่รวดเร็วมากของเขา

ความเร็ว

โดยไม่รู้ตัวซูผิงเริ่มเคลื่อนย้ายและวิ่ง ราวกับว่าเขากำลังกระโดดไปมาในอากาศ ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น

ราชาสวรรค์ก็คำรามเช่นกัน ลำแสงสีแดงเข้มที่ออกมาจากตาข้างเดียวทำให้เกิดพลังที่สามารถทำลายทุกสิ่งได้ ปัง!! ลำแสงนั้นข้ามสนามรบ และพุ่งเข้าใส่ซูผิง

พลังนั้นทำให้ซูผิงรู้สึกเจ็บปวด

แรงกดดันทำลายซูผิงมากขึ้น เขาตะโกนในขณะที่ต่อยหมัดด้วยพลังทั้งหมดของเขา สิ่งมีชีวิตที่สง่างามกำลังก่อตัวในสนามพลัง แม้ว่าจะคลุมเครือแต่ก็ยังมีคนเห็นร่างที่เปื้อนเลือดนั่งอยู่บนบัลลังก์โบราณ ในขณะที่ซูผิงยกหมัดขึ้นร่างอันงดงามนั้นก็ชูหมัดขึ้นเช่นกัน!

บูซ!บูซ!

สวรรค์และโลกสั่นสะเทือน อากาศปั่นปวนมาก ผลกระทบมากเกินกว่าจะรับได้!

หมัดของซูผิงและหมัดของโครงกระดูกอันสง่างามหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในทันที ความเงียบมีชัยในขณะนั้น หมัดเสมือนจริงที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าปกติพุ่งไปข้างหน้า!

ลำแสงสีแดงเข้มนั้นกลายเป็นควันและขี้เถ้า หมัดขนาดใหญ่นั้นมีพลังมหาศาล ห่อหุ้มราชาสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ไว้

“ นี่เป็นไปไม่ได้ !!” ราชาสวรรค์ตะโกน คราวนี้ มันกลัวจริงๆ!

สิ่งนั้นคืออะไร?

มันพยายามใช้ทักษะมิติทันที ในขณะเดียวกัน พื้นก็สั่นเหมือนพรมขณะที่การโจมตีเคลื่อนไปหาเป้าหมาย

ตูม !!

กำแพงดินแตกร้าว นั่นคือทักษะป้องกันของราชาสวรรค์ แต่มันทนอยู่ได้ไม่นาน แค่ชั่วอึดใจเดียว ในขณะที่กำแพงพังทลาย กำแพงอากาศจำนวนมากที่ราชาสวรรค์สร้างขึ้นก็ถูกระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ ลอยไปมาในอากาศ!

ดวงตาของอสูรร้ายหดตัว มันใช้ทักษะมิติอีกครั้ง

พับมิติ!

ตูม!