ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 519

“ ตำนานทะเลร่องลึก นักรบอสูรในตำนานมาแล้วครับ”

ชายวัยกลางคนหยุดในระยะไกล และโค้งคำนับให้ชายชราที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้

ชายชราดูเหมือนจะกำลังเพลิดเพลิน เขาเหลือบมามองฉินตู้หวง เขารู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวของฉินตู้หวงเมื่อชายวัยกลางคนรายงานให้เขาทราบ

นักรบอสูรระดับตำนานที่ไม่คุ้นเคย

เด็กใหม่

“ ฉันต้องเรียกนายว่าอะไร?” ตำนานทะเลร่องลึกถาม

ฉินตู้หวงสามารถบอกได้ว่าชายชราไม่ได้มีนิสัยที่เป็นมิตร “ ผมชื่อฉินตู้หวงจากเมืองฐานหลงเจียง” เขาตอบโดยไม่ลังเล

“ ตระกูลฉินจากเมืองฐานหลงเจียง?” ตำนานทะเลร่องลึกพยักหน้า “ แล้วฉินเทียนชานเกี่ยวข้องกับนายยังไง?”

“ คุณรู้จักปู่สามของผมด้วยหรอ?”

“ปู่สาม?” ตำนานทะเลร่องลึกเหลือบมองไปที่ฉินตู้หวง“ ฉันรู้จักเขาตอนที่ฉันเป็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ ฉันเสียใจมากที่เขาจากไป และดีใจมากที่ได้เห็นลูกหลานที่มีความสามารถของเขา”

ฉินตู้หวงพยายามคิดหาคำ ในที่สุดเขาก็สามารถหาคำพูดได้เพียงไม่กี่คำ“ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณครับ”

เขาต้องถ่อมตัว

ชายชราคนนั้นเพิ่งอ้างว่าเขารู้จักฉินเทียนชานตั้งแต่เริ่มการสนทนาและเขามีพลังมากกว่าฉินตู้หวง

ฉินตู้หวงไม่ทราบว่าเขาจะยังถูกดูแคลนหลังจากที่เขาขึ้นสู่ระดับตำนาน

เขารู้สึกเสียใจ เขากลายเป็นระดับตำนานสายเกินไป เขาถูกนับว่าเป็นหนึ่งในผู้อ่อนแอเมื่อเทียบกับนักรบอสูรในตำนานคนอื่น ๆ

“ น้องฉิน นายถ่อมตัวเกินไป ตอนนี้นายอยู่ในระดับตำนานแล้ว เราควรถูกมองว่าเท่ากันที่นี่” ตำนานทะเลร่องลึกยิ้ม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ไม่มีความหมาย เขากำลังเตือนฉินตู้หวงว่าอย่าแสดงท่าทีที่เกินเลย

ฉินตู้หวงพยักหน้า “ ถ้าเป็นเช่นนั้นผมจะเรียกคุณว่าตำนานทะเลร่องลึก”

“แน่นอน”

ตำนานทะเลร่องลึกพยักหน้า “ มานั่งนี่สิ”

เขาสนใจแค่ฉินตู้หวงเท่านั้น ซูผิงและเซี่ยจินชุ่ย ตำนานทะเลร่องลึกไม่สนใจที่จะมองพวกเขาแม้แต่ครั้งเดียว พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับตำนานและไม่อยู่ในความสนใจของเขา “ ตำนานทะเลร่องลึกครับ” ซูผิงไม่โกรธแม้ว่าเขาจะถูกเพิกเฉยก็ตาม “ ผมชื่อซูผิงจากเมืองฐานหลงเจียง ผมได้ยินมาว่าผมสามารถหาผู้เยียวยาวิญญาณได้ที่นี่ ท่านช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าผมจะหามันได้ที่ไหน ผมยินดีที่จะแลกกับสมบัติหรืออะไรก็ได้ที่ผมมี”

“อะไร?”

ตำนานทะเลร่องลึกขมวดคิ้ว “ เขาเป็นคนรับใช้ของนายหรือ?” เขาถามฉินตู้หวง

ฉินตู้หวงรู้ว่า ตำนานทะเลร่องลึกต้องเข้าใจสถานะของพวกเขาผิด “ ผมไม่กล้าให้เขามาเป็นคนรับใช้ของผมหรอกครับ ตำนานทะเลร่องลึกคุณอาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่คุณซูคือคนที่ช่วยชีวิตผม คุณซูไม่ได้อยู่ในระดับตำนาน แต่เขามีพลังมากกว่านักรบอสูรในตำนานหลายคน ผมคนเดียวไม่สามารถเอาชนะเขาได้”

เขารู้ว่าพลังคือทุกอย่าง ดังนั้นเขาจึงชี้ให้เห็นพลังของซูผิงตรงๆ

“ นายล้อเล่นฉันเหรอ?” ตำนานทะเลร่องลึกฟังดูไม่พอใจ“ น้องฉินนายอาจจะเพี้ยนไป นายเพิ่งมาถึงระดับตำนาน และมีสิ่งที่นายไม่รู้ โชคดีที่นายพูดกับฉัน ฉันจะไม่ใส่ใจเรื่องตลกนี่เพราะพี่เทียนชาน แต่นักรบอสูรในตำนานคนอื่น ๆ จะตำหนินาย!”

ใบหน้าของฉินตู้หวงขุ่นมัวเล็กน้อย เขาไม่ได้พูดคำเหล่านั้นอย่างหุนหันพลันแล่น เขาได้พูดหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว

เขาเชื่อว่าซูผิงมีพลังมากกว่านักรบอสูรในตำนานหลายๆคน

นักรบอสูรในตำนานคนใดที่สามารถเอาชนะราชาสวรรค์ต่างโลกได้เพียงลำพังบ้าง?

หากทำได้หอคอยคงจะส่งนักรบอสูรในตำนานไปเมืองฐานหลงเจียงแล้ว

ตำนานทะเลร่องลึกส่งเสียงดัง

เขาไม่ชอบฉินตู้หวงซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเขาในขณะนี้

นักรบอสูรในตำนานจะสายตาไม่ดีได้ยังไง?

เหนือกว่านักรบอสูรในตำนานมากมาย?

เขาสามารถบอกได้ทันทีว่าซูผิงไม่ใช่แบบนั้น

นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดที่มีภูมิหลังแข็งแกร่งและความสามารถโดดเด่นสามารถเหนือกว่านักรบอสูรในตำนานได้ แต่สำหรับคนที่อ่อนแออย่างฉินตู้หวงเท่านั้น หลังจากผ่านการฝึกฝนมาแล้ว และได้แทนที่อสูรเดิมทั้งหมดด้วยราชาอสูรร้าย นักรบอสูรในตำนานสามารถปลดปล่อยพลังที่ผู้คนแทบจะไม่สามารถจินตนาการได้!

ตำนานทะเลร่องลึกเข้าประเด็น

ถ้าเขาต้องการ เขาสามารถฆ่าฉินตู้หวงได้ทันที!

เขายังไปไม่ถึงสภาวะว่างเปล่า แต่อสูรเจ็ดตัวของเขาคือราชาอสูรร้ายทั้งหมด เขาไม่ต้องลงมือเอง อสูรของเขาอย่างเดียวก็สามารถทำลายฉินตู้หวงได้

อย่างไรก็ตามนักรบอสูรระดับในตำนานคนใหม่จะไม่มีราชาอสูรมากนัก

“ มีสามสถานะในระดับตำนานและน้องฉิน นายจะพบว่าทั้งสามสถานะนั้นแตกต่างกันมาก นักรบอสูรในตำนานที่ทรงพลังสามารถเอาชนะเราได้อย่างง่ายดาย และพวกอ่อนแอบางคนก็ไม่สามารถเอาชนะผู้ที่อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดได้” แน่นอนผู้ที่อ่อนแอที่เขาหมายถึงคือฉินตู้หวง

ที่หอคอยไม่มีนักรบอสูรในตำนานคนไหนที่อ่อนแอขนาดนั้น

ตำนานทะเลร่องลึกหัวเราะ“ นายไม่รู้เรื่องนี้ การแข่งขันที่ต่ำกว่าระดับตำนานนั้นน่าเบื่อมาก พวกเขาให้อสูรต่อสู้กันเท่านั้น นั่นอาจทำให้เสียเวลาและพลังงานไปมาก ไม่ต้องพูดถึงว่านายจะทำลายสถานที่โดยไม่จำเป็น แต่การแข่งขันที่ไม่มีการต่อสู้นั้นไม่เหมือนกัน ใช้การแข่งขันนับแต้มเป็นตัวอย่าง เป็นการจับคู่เพื่อดูว่าอสูรตัวใดสามารถนับได้เร็วกว่ากัน! ไม่น่าสนใจเหรอ มันมีความหมายในตัวเอง การแข่งขันประเภทนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาว่าอสูรตัวใดมีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วกว่า เมื่อเราเลือกอสูร ความแข็งแกร่งไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเราอีกต่อไป ไหวพริบต่างหากที่สำคัญ!

“ ยิ่งไหวพริบสูงขึ้นเท่าใดอสูรก็จะสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และแม้แต่ทักษะพิเศษได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นความสามารถในการต่อสู้ก็เพิ่มขึ้นด้วย!

“ ในทางกลับกันตัวที่มีความสามารถในการต่อสู้สูง แต่ไหวพริบต่ำเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่โง่เขลา พวกมันไม่มีศักยภาพมากนัก”

ฉินตู้หวงเข้าใจแล้ว แต่เขาก็ยังสงสัยว่ามันน่าสนใจตรงไหน

เซี่ยจินชุ่ยไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

ซูผิงไม่แม้แต่จะฟังคำอธิบาย เขาแค่ต้องการหาตัวตำนานพลูโตและเอาผู้เยียวยาวิญญาณมา

ในไม่ช้าพวกเขาก็ออกจากวังของตำนานทะเลร่องลึก

ฉินตู้หวงบินไปพร้อมกับตำนานทะเลร่องลึก

ซูผิงและเซี่ยจินชุ่ยติดตามพวกเขา

พวกเขาบินผ่านวังลอยฟ้าหลายแห่ง ภูเขาลูกหนึ่งโดดเด่นเข้ามาในสายตาของพวกเขาไม่นานหลังจากนั้น ในอากาศมีแม่น้ำไหลอยู่รอบ ๆ ภูเขา และลอยอยู่ในอากาศด้วย ราวกับว่าไม่มีแรงโน้มถ่วง

มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมากมายอยู่บนภูเขานั้น

ฉินตู้หวงหน้าซีดก่อนที่พวกเขาจะเข้าใกล้ เขาสังเกตเห็นการปรากฏตัวของนักรบอสูรในตำนานมากมาย เขายังสามารถสัมผัสได้ถึงคนที่ทำให้เขาตัวสั่นด้วยความกลัว พวกเขาเป็นนักรบอสูรในตำนานกันหมด?

สถานที่คึกคักไปด้วยเสียง นอกเหนือจากนักรบอสูรในตำนานแล้วยังมีข้ารับใช้กิตติมศักดิ์อีกด้วย

นักรบอสูรในตำนานหลายคนนั่ง หรือนอนอยู่บนแท่นดอกบัว

มีผลไม้หายากบนโต๊ะ นักรบอสูรในตำนานบางคนกำลังกอดผู้หญิงสวย ๆ ผู้หญิงเหล่านั้นอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ พวกเธอต่างก็เอนตัวอยู่ในอ้อมแขนคนเหล่านั้น และป้อนผลไม้ที่ปอกแล้วให้พวกเขา

ด้านหน้าของพวกเขาคืออสูรร้ายขนาดใหญ่สองตัวที่กำลังหมอบอยู่หน้าแท็บเล็ตที่เขียนโจทย์คณิตศาสตร์ง่ายๆ

ราชาอสูรร้ายสองตัวที่อาจคุกคามเมืองฐานกำลังพยายามแก้โจทย์ปัญหา …

ซูผิง เซี่ยจินชุ่ย และฉินตู้หวงตกตะลึงอย่างมาก

พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นนักรบอสูรระดับตำนานจำนวนมากที่นี่ แถมยังรวมหัวกันทำเรื่องไร้ประโยชน์อีกด้วย!

ทันใดนั้น ความโกรธก็วิ่งพล่านไปทั่วทั้งตัวพวกเขา