“อย่าทำให้ฉันเสียเวลา ซูหลิงเยวี่ยอยู่ที่ไหน?”
ซูผิงจ้องเข้าไปในดวงตาของหนานเฟิงเทียน สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่าการหายตัวไปของซูหลิงเยวี่ยมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนานเฟิงเทียน
เขาฝืนยิ้มออกมา “คุณซู ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเธออยู่ที่ไหน ผมเพิ่งรู้เนี่ยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ผมบ่มเพาะอยู่ … “
ฉั้ว!
หนานเฟิงเทียนถูกบังคับให้หยุดพูด เพราะแขนข้างหนึ่งของเขาขาด เลือดพุ่งออกมา
การจู่โจมอย่างกะทันหันนั้นทำให้หนานเฟิงเทียนไม่ทันระวัง เขาใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด เขามองซูผิงด้วยความหวาดกลัวและเจตนาฆ่าในดวงตาของซูผิงบอกเขาว่าชายหนุ่มไม่เชื่อเขาแม้แต่น้อย ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ซูผิงก็จะฆ่าเขา!
หนานเฟิงเทียนก้าวถอยหลัง “คุณเข้าใจผมผิด!”
“ผู้ท้าทายโชคชะตาซู!”
อวิ๋นว่านหลี่ทนเห็นลูกศิษย์ของเขาถูกทารุณอย่างโหดร้ายไม่ได้ เขาเข้าไปขวางซูผิง “ผู้ท้าทายโชคชะตาซู คุณไม่มีหลักฐาน ผมหวังว่าคุณจะแสดงความเมตตา หนานเฟิงเทียนเป็นนักเรียนของเรา และเป็นทายาทของนักรบอสูรในตำนาน บรรพบุรุษของเขาอยู่ในถ้ำลึกและเสียสละเพื่อมนุษยชาติ เขาไม่สมควรโดนแบบนี้…”
“หลบไป!” ซูผิงพูดอย่างไร้ความรู้สึกใดๆ
“ผู้ท้าทายโชคชะตาซู!”
อวิ๋นว่านหลี่ดึงหน้า และปลดปล่อยพลังดวงดาวของเขา เขารู้ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะซูผิงได้ แต่เขาไม่สามารถทนเห็นซูผิงทำร้ายนักเรียนของเขาที่นี่ได้
“คุณซูผมเข้าใจว่าน้องสาวของคุณหายไป…” หานยู่เซียงต้องการทำให้ซูผิงสงบลงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ซูผิงหายตัวไปต่อหน้าอวิ๋นว่านหลี่ เขาปรากฏตัวต่อหน้าหนานเฟิงเทียนอีกครั้ง เขาวางมือรอบคอของหนานเฟิงเทียน และยกเขาขึ้นจากพื้น
อวิ๋นว่านหลี่กลัว เขารู้ว่าสิ่งเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้นทันทีที่ซูผิงหายตัวไป หนานเฟิงเทียนอยู่ในมือของเขาแล้ว
“ผู้ท้าทายโชคชะตาซู!”อวิ๋นว่านหลี่ตะโกน ผมและเคราของเขาสะบัดอยู่ในอากาศ เขาเดือดพล่านด้วยความโกรธ
“ไม่มีใครสามารถช่วยแกได้ในวันนี้ ฉันจะถามอีกครั้ง ซูหลิงเยวี่ยอยู่ที่ไหน?” ซูผิงพูดกับหนานเฟิงเทียน หนานเฟิงเทียนรู้สึกว่าเขาอยู่ภายใต้แรงกดดันมากกว่าตอนที่เขาไปชั้นที่ 19 ใบหน้าของเขาแดงก่ำเพราะหายใจไม่ออก และพยายามบีบคำตอบของเขาออกมา “แกกล้าดียังไงที่ว่าฉันโกหก? แกไม่มีหลักฐาน แกกำลังใส่ร้ายฉัน ฉันเป็นคนดี…”
“คำพูดของฉันเป็นเครื่องพิสูจน์ ฉันบอกว่าแกโกหกก็คือแกโกหก” ซูผิงกล่าวคำกล้าหาญเหล่านั้น เขาไม่ได้ทำอะไรเลยแต่มีบาดแผลปรากฏบนหน้าอกของหนานเฟิงเทียน เลือดไหลออกมา
“บอกมา ไม่งั้นฉันจะฆ่าล้างตระกูลแก!” ซูผิงกล่าวอ้าง หัวใจของหนานเฟิงเทียนเต้นแรงด้วยความกลัวและความโกรธผสมกัน เขากัดฟันและหันไปมองอวิ๋นว่านหลี่ “อาจารย์ช่วยผมด้วย…” อาจารย์ใหญ่กลัวที่จะทำอะไร เพราะว่าหนานเฟิงเทียนอยู่ในมือของซูผิง “ผู้ท้าทายโชคชะตาซู ผมปฏิบัติกับคุณด้วยความเคารพ แต่คุณตอบแทนผมด้วยการดูถูก คุณต้องการที่จะกลายเป็นศัตรูกับเราและมนุษยชาติทั้งหมดหรือยังไง?”
“แล้วไง?”
ซูผิงหันกลับมา และพูดต่ออย่างเฉยเมย “ฉันเคยไปที่หอคอยแล้ว คนเหล่านั้นเป็นเพียงกลุ่มแมลงน่ารังเกียจ พูดอีกคำเดียวฉันจะฆ่าแกด้วย”
“แก-ฮึ่ม!
อวิ๋นว่านหลี่หน้าม่วงด้วยความโกรธ
เฟยเทียนอวี่และหญิงสาวไม่เชื่อในสิ่งที่ซูผิดพูด
อาจารย์ใหญ่อยู่ในระดับตำนาน และซูผิงยังคงอ้างว่าเขาจะฆ่าเขาโดยไม่คำนึงถึงอะไร?
หานยู่เซียงตัวสั่น เขาเคยได้ยินเรื่องราวของซูผิง เขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวเลยเพราะกลัวว่าซูผิงจะโกรธจนกลายเป็นนักฆ่าที่ไม่หยุดยั้งคนนั้นอีก ซูผิงสามารถทำให้ทั้งโรงเรียนจมด้วยเลือด!
หนานเฟิงเทียนไม่สามารถซ่อนความกลัวในสายตาของเขาได้ เมื่อซูผิงสบตาเขาอีกครั้งใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดและปากสั่น หนานเฟิงเทียนกล่าวว่า “ผม ผมจะบอก คุณหนูซูอยู่ในถ้ำลึก…” ซูผิงไม่คิดเลยว่าหนานเฟิงเทียนจะยอมแพ้ง่ายๆ แต่ซูผิงก็ต้องหน้าซีดเมื่อได้ยิน “เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกทีสิ!” ซูผิงจ้องหนานเฟิงเทียนด้วยสายตาน่ากลัว
เขารู้เรื่องถ้ำลึกระหว่างลีกสูงสุด
เขาเข้าใจว่าหอคอยจะต้องส่งนักรบอสูรในตำนานไปยังถ้ำลึกที่เต็มไปด้วยอันตรายตลอดทั้งปี หนานเฟิงเทียนใกล้จะโดนบีบคอจนตาย เขาพยายามดิ้นรนสุดกำลังที่จะบีบคำพูดออกมา “ผม ผมพูดความจริง…”
ซูผิงจ้องไปที่หนานเฟิงเทียนราวกับว่าเขาเป็นปีศาจ ซูผิงใช้เวลาสองสามวินาทีในการควบคุมเจตนาฆ่าของเขา เขาคลายมือออกเล็กน้อยแล้วถามว่า “เธอไปทำอะไรในถ้ำลึก?”
เสียงของหนานเฟิงเทียนสั่น “เธอ เธออยากไปเอง เธอบอกว่าเธออยากฝึกที่นั่น…”
ซูผิงเงียบไป
ทันใดนั้นอวิ๋นว่านหลี่และหานยู่เซียงก็เข้ามาใกล้พวกเขา อวิ๋นว่านหลี่ดีใจที่เห็นว่าซูผิงเริ่มโกรธน้อยลง “คุณเพิ่งบอกว่าไม่รู้ คุณหนูซูไปถ้ำลึกตอนไหน? ทำไมคุณไม่ห้ามเธอ”อวิ๋นว่านหลี่ดุหนานเฟิงเทียน
“ทำไมไม่ห้าม? นั่นเป็นสถานที่ที่อันตราย แม้แต่นักรบอสูรในตำนานก็สามารถตายได้ นั่นไม่ต่างอะไรกับการไปตาย” หานยู่เซียงกล่าวเสริม
“ผม ผมหยุดเธอไม่ได้…” หนานเฟิงเทียนกล่าวขอโทษ
“คุณ…”อวิ๋นว่านหลี่ถอนหายใจขณะมองหนานเฟิงเทียนที่ดูไร้เดียงสา ก่อนจะพูดกับซูผิงว่า “ผู้ท้าทายโชคชะตาซูเราไม่มีเวลาแล้ว ผมจะไปหาน้องสาวคุณเดี๋ยวนี้”
“น้องสาว?”
หนานเฟิงเทียนไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นพี่ชายของซูหลิงเยวี่ย
หนานเฟิงเทียนกลืนน้ำลาย
ซูผิงชำเลืองมองอวิ๋นว่านหลี่ จากนั้นสายตาก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของหนานเฟิงเทียนอีกครั้ง เสียงของเขาฟังดูอำมหิต “เธอคงไม่ไปที่นั่นโดยไม่มีเหตุผล และแม้ว่าเธอจะยืนยัน เธอก็คงไม่ปฏิเสธนายโดยตรง จี้เฟิงบอกฉันแล้วว่าทำไมกล้องวงจรจึงไม่ทำงานรอบหอคอยมังกร”
หนานเฟิงเทียนหน้าซีดทันที เขาตัวสั่นและเข่างอด้วยความตกใจ เขาร้องไห้ เขาพูดว่า “ผม ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่คิดว่ามันน่าสนุก และเธอก็ไปจริง ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอ…”
อวิ๋นว่านหลี่ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว