ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 603

ตอนที่ 603 นรกที่แท้จริง
  ซูผิงรู้สึกโล่งใจเมื่อหลี่หยวนเฟิงเข้าไปในม้วนภาพ หลี่หยวนเฟิงเป็นนักรบที่ทรงพลัง แต่เมื่อตกเป็นเป้ากลับทำได้แค่หนี
  ซูผิงนำม้วนภาพเก็บ และมองไปยังชายหนุ่มตาแดงที่ยังไม่ลงมือทำอะไร
  เขาเห็นความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นในสายตาของชายหนุ่ม
  ชายหนุ่มตาแดงชี้ว่า “แกมีพลังอาชูร่า และพลังเทพที่แปลกประหลาด ฉันไม่คิดว่าแกเป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไป”
  ซูผิงจ้องมองเขา แล้วเคลื่อนย้ายในทันที
  พูดคุย?
  ไม่ได้ล้อเล่น ราชาอสูรร้ายนั้นสามารถพูดคุยกับเขาได้ แต่เขาจะเหมือนรอความตายถ้าเขายังคงอยู่ที่นั่น
  นี่คือถ้ำลึก ราชาอสูรร้ายจะผ่านมาในทุกๆนาที เขาคงหนีไม่พ้นถ้าถูกล้อมรอบด้วยราชาอสูร!
  เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าราชาอสูรร้ายนี่เป็นหัวหน้าใหญ่ที่สุดของถ้ำลึกหรือเปล่า ถ้าสรุปว่าเป็นแค่ลูกสมุน มันจะยิ่งอันตรายขึ้นไปอีกถ้ามีตัวที่สองมาจริงๆ!
  ชายหนุ่มตาแดงเลียริมฝีปากขณะที่ซูผิงรีบหนีไป “พลังอาชูร่านั้นบริสุทธิ์มาก การไปถึงระดับนั้นจะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไปถ้าฉันทำได้…” ชายหนุ่มพูดอย่างกระหายที่จะลิ้มรส
  บูซ!
  เขายกมือขึ้น อากาศข้างหน้าเขาบิดเบี้ยว
  ห่างออกไปหลายพันเมตร กำแพงเริ่มขยายต่อหน้าซูผิง มันเหมือนกับว่าเขากำลังจะตกลงไป เขาถูกดูดเข้าไปในพับมิติเหมือนแมลงในขวด!
  ”โจมตี!!” ซูผิงตะโกน เขาตัดผ่านพับมิติด้วยดาบของเขา
  บูม! เขาปลดปล่อยทั้งพลังอาชูร่าและพลังเทพด้วยการเคลื่อนไหวนั้น คลื่นดาบดำตัดผ่านพับมิติ!
  หวืด!
  ซูผิงหลุดพ้นจากการกักขัง!
  เขาเคลื่อนย้ายออกมาโดยไม่หันกลับมามอง
  ”อะไร?”
  รอยยิ้มที่มั่นใจของชายหนุ่มตาแดงหายไป เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชายที่อยู่ในระดับปรมาจารย์จะสามารถหลุดพ้นจากพับมิติของเขาได้ แม้แต่อสูรสภาวะชะตากรรมก็ยังไม่สามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดาย!
  “ดาบเล่มนั้นไม่ใช่ดาบธรรมดา!”
  ชายหนุ่มสังเกตได้ถึงสาเหตุที่แท้จริงในทันที ดาบนั้นแปลกและแสงนั่นก็กวนใจเขา
  นั่นเป็นการเคลื่อนไหวที่สามารถคุกคามชีวิตของคนที่อยู่ในสภาวะชะตากรรม!
  “ไม่น่าแปลกใจที่เขากล้าปล่อยให้มนุษย์สภาวะว่างเปล่าคนนั้นซ่อนตัว” ชายหนุ่มหรี่ตาลง เจตนาฆ่าปรากฏอยู่ในตาทั้งสี่ของเขา เขาตัดสินใจเลิกเล่นเกม ก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่าและหายตัวไปทันที
  ถ้าพับมิติไม่เพียงพอที่จะเก็บซูผิงไว้ข้างใน เขาจะไปและฆ่าซูผิงด้วยตัวเอง!
  บูม!!
  ซูผิงปรากฏตัวอีกครั้งในอีกจุดหนึ่ง
  ปัง! กรงเล็บแหลมคมยื่นออกมาจากด้านหน้า เล็งมาที่หัวของเขา แต่เขาก็หลบการโจมตีด้วยดาบของเขาได้สำเร็จ
  ชายหนุ่มตาแดงโผล่ออกมา เขาขมวดคิ้วกับความล้มเหลวของตัวเอง
  “การรับรู้ที่เฉียบแหลมเช่นนั้น แกคงเป็นคนแปลกในหมู่พวกมนุษย์”
  ชายหนุ่มหรี่ตาไม่ปิดบังเจตนาฆ่าของเขาอีกต่อไป ทักษะของซูผิงทำให้เขาหวาดกลัว บุคคลตรงหน้าอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์… เขาจะเป็นยังไงเมื่อไปถึงระดับตำนาน!
  ต้องจัดการกับอันตรายที่จะเกิดขึ้น!
  ซูผิงสามารถหนีได้ ทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณดาบ เขาเคลื่อนย้ายอีกครั้งโดยไม่พูดอะไร
  ดาบคมจำนวนมากโจมตีเขาทันทีที่เขาโผล่ออกมา
  เขาใช้ดาบของเขาตัดพวกมัน
  ปฏิกิริยาที่ว่องไวของซูผิงทำให้ชายหนุ่มตาแดงผิดหวัง
  “หยุด!”
  เขายกมือขึ้นและอากาศเริ่มสั่น ซูผิงรู้สึกราวกับว่ามีคนใช้ค้อนทุบหน้าอกของเขา การโจมตีนั้นคงจะฆ่าเขาได้ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีร่างกายที่แข็งแรงพิเศษ!
  นั่นคือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิตในสภาวะชะตากรรม!
  สิ่งมีชีวิตดังกล่าวสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่นที่สภาวะว่างเปล่าได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
  ”ไปให้พ้น!!” ซูผิงตะโกน เปลวไฟอันมืดมิดกำลังลุกไหม้อยู่รอบๆ ดาบ เขากวัดแกว่งดาบด้วยพลังทั้งหมดของเขา
  อากาศนั้นหนามากจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ อากาศส่งเสียงดังและดาบก็ทิ้งรอยร้าวไว้ในอากาศ
  อากาศปั่นป่วนเต็มไปด้วยรอยแตก ซูผิงก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเล
  “อืม!”
  ชายหนุ่มตาแดงดึงรอยร้าวไปด้านข้าง
  รอยร้าวขยายออกไป และมีบางอย่างผลักซูผิงออกไปมา
  ชายหนุ่มกล่าวว่า “โลกแห่งความว่างเปล่า!”
  ซูผิงกลายเป็นปัญหาที่ยุ่งยากกว่าที่เขาคิด ทักษะมิติเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะหยุดซูผิง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ เขาจำต้องใช้ทักษะอื่น
  โลกแห่งความว่างเปล่าเป็นทักษะธรรมชาติที่เขาใช้ได้ตั้งแต่เกิด
  มันเป็นการโจมตีทางวิญญาณที่อาจส่งผลต่ออสูรร้ายสภาวะชะตากรรม แต่ไม่ใช่ทักษะที่ทำให้เขาสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตสภาวะชะตากรรมได้!
  ชายหนุ่มตาแดงไม่เก่งในการต่อสู้ระยะประชิด เขาถนัดทักษะด้านการโจมตีทางวิญญาณระยะไกลมากกว่า
  ความเงียบ!
  โลกไร้เสียง!
  ลำแสงสีแดงพุ่งออกมาจากดวงตาของชายหนุ่ม และทำให้ทั้งโลกสว่างไสว
  แสงสีแดงที่ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งซูผิง ชายหนุ่มจะมีโอกาสใช้ทักษะนี้เมื่อคนอื่นมองเข้ามาในดวงตาของเขา แต่แล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องรออีกต่อไป
  ซูผิงรู้สึกว่าโลกเปลี่ยนเป็นสีแดงต่อหน้าต่อตาเขา วินาทีถัดมา เขาพบว่าตัวเองตกลงไปในสิ่งที่อ่อนนุ่ม และในไม่ช้าสารนั้นก็ทำให้เขารู้สึกเย็น ชา และลื่น
  เขามองไปรอบๆ เขาอยู่ในทะเลเลือด!
  ชายหนุ่มตาแดงปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า เขามองลงมาที่ซูผิงที่กำลังแช่อยู่ในทะเลเลือด และตัดสินว่า “มนุษย์ เตรียมพบกับความกลัว”
  เขาหงุดหงิดเพราะซูผิงสามารถหลบการโจมตีได้หลายครั้ง
  มันเหมือนกับเวลาที่คุณพยายามจะฆ่ายุง และทำไม่ได้สักทีทั้งที่พยายามแล้วหลายครั้ง คุณอาจสูญเสียแรงกระตุ้นนั้นหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง
  ทะเลเลือดอันเงียบสงบเริ่มสั่นคลอน ซูผิงเห็นอสูรร้ายมากมายที่โผล่ขึ้นมาจากทะเลเลือด รูปร่างหน้าตาของพวกมันทั้งน่าเกลียดและชั่วร้าย บางตัวมีอวัยวะที่งอกออกมานอกร่างกายซึ่งค่อนข้างน่าสยดสยอง กลิ่นเลือดรุนแรง จนซูผิงคิดว่าเขาจะตายจริงๆ ถ้าเขาตายในทะเลเลือดนี่!
  ชายหนุ่มตาแดงพูดกับซูผิงว่า “แกไม่จำเป็นต้องสงสัย สมองของแกจะตายที่นี่ และแกจะไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้อีก!”
  ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ
  เขาแค่คิด
  “ฉันสามารถสัมผัสทุกความคิดที่แกมีได้ในโลกแห่งความว่างเปล่าของฉัน ดังนั้นแกจึงไม่มีโอกาสหลบหนี นี่คือสิ่งที่เหมือนกับทุ่งแห่งกฏ… แกรู้ไหมว่าทุ่งแห่งกฏคืออะไร” ชายหนุ่มตาแดงถามด้วยความรังเกียจ
  ทุ่งแห่งกฏเป็นสิ่งที่เฉพาะคนที่อยู่ในระดับดวงดาวเท่านั้นที่สามารถสร้างได้
  นั่นเป็นระดับที่เขาปรารถนาจะไปถึง!
  แน่นอนว่ามันไม่สนุกเลยที่จะพูดถึงความคาดหวังอันยิ่งใหญ่ของเขากับมนุษย์
  “บางอย่างเช่นทักษะระดับดวงดาว?”
  ซูผิงตกใจกลัว อสูรพันตานี่เป็นอสูรร้ายที่ทรงพลังมากกว่าราชาสวรรค์ต่างโลก
  “แกรู้จักระดับดวงดาวหรอ?” ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจที่รู้ความคิดของซูผิง
  ซูผิงไม่พูดอะไร และไม่สนใจอสูรร้ายที่คลานเข้ามาใกล้เขา พลังอาชูร่าพุ่งออกมาจากตัวเขา เฉือนอสูรร้ายออกเป็นชิ้น ๆ
  “นี่หรอความกลัวที่แกพูดถึง?” ซูผิงค่อยๆ ลุกขึ้นจากทะเลเลือด และจ้องมองชายหนุ่มตาแดงอย่างใจเย็น
  “อืม”
  ซูผิงไม่ยอมที่จะยอมแพ้ ชายหนุ่มตาแดง “นี่แค่น้ำจิ้ม!”
  ซูผิงได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนเมื่อเสียงของเขาจางหายไป อสูรร้ายคลานออกมาจากทะเลเลือด บางตัวถูกสร้างขึ้นจากอวัยวะในร่างกาย และมันน่าขยะแขยงมาก
  ซูผิงมองไปที่อสูรร้ายที่กำลังเข้ามาใกล้เขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ถูกรบกวน
  “ในเมื่อแกสามารถเห็นความคิดของฉัน…
  “งั้นก็เห็นนรกที่แท้จริงซะ…” ซูผิงกล่าว
  เสียงของเขาแทบจะยังไม่ทันจางหายไป พื้นที่ที่มีความมืดและเงาปรากฏขึ้นข้างหลังเขา สนามพลังของเขาถูกเปิดออก มันเต็มไปด้วยการฆ่าและทารุณ คราวนี้สนามพลังดูเหมือนจะสามารถขยายไปถึงอนันต์
  เขาอยู่ในอาณาจักรวิญญาณ ความแข็งแกร่งของสนามพลังนั้นสัมพันธ์กับความแข็งแกร่งของวิญญาณของเขา
  โลกโบราณและน่ากลัวปรากฏขึ้นในสนามพลัง
  ภูเขาถูกสร้างขึ้นด้วยซากศพและเลือดเป็นน้ำ ปีศาจและอสูรอยู่ทั่วโลกนั้น
  กรี๊ซซซ!
  มีเสียงร้องที่แปลกแต่ไร้คำบรรยาย ร่างขนาดมหึมาโผล่ออกมาจากท้องฟ้า ร่างนั้นใหญ่กว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ร่างของมันบังเมฆ ใครๆ ก็เป็นบ้าได้เพราะความกลัวเมื่อได้เห็น!
  อย่างไรก็ตามมีบางอย่างคว้าร่างยักษ์นั้น และผลักกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า เสียงกรีดร้องของความเจ็บปวดก้องอยู่ในท้องฟ้าและบนพื้น ในเวลาเดียวกันก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเคี้ยวกระดูก เลือดหยดลงมาจากฟากฟ้า
  เมฆกลายเป็นสีแดงและทะเลเลือดก็เต็มไปด้วยหยดเลือด มีบางส่วนที่หลงเหลืออยู่ในสายฝนเลือด
  รูม่านตาของชายหนุ่มตาแดงหดตัวเมื่อเห็นเหตุการณ์นั้น ความหวาดกลัวบนใบหน้าของเขานั้นรุนแรงมาก
ตอนที่ 604 เปลวเพลิงเเห่งความโกรธเกรี้ยว
  ”ไม่มีทาง!”
  ชายหนุ่มตาแดงกำหมัดจนตัวสั่น “พลังนี่ ความรู้สึกนี่… ไม่ แกไม่สามารถจินตนาการถึงสิ่งนี้ได้ แกเคยเห็นสิ่งนี้หรอ? ไม่ ไม่มีทาง… ฉันไม่คิดว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่!” เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
  หากนั่นเป็นโลกที่มีอยู่จริง มันจะเป็นความจริงที่น่าตกตะลึงสุด
  โลกนั้นเพียงพอที่จะทำให้คนเป็นบ้าได้!
  “นั่นเป็นสถานที่ที่ฉันเคยเห็น มันมีอยู่จริง” ซูผิงกล่าวความจริงอย่างใจเย็น
  นั่นเป็นสถานที่ที่เขาเคยไปเยี่ยมชมอย่างแน่นอน
  มันเป็นเพียงมุมหนึ่งของอาณาจักรโกลาหลแห่งอันเดธ
  นั่นคือโลกที่ชัดเจนที่สุดของสิ่งมีชีวิตอันเดธ มุมมองดังกล่าวเป็นของจริงในสถานที่นั้น มันคือโลกที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านรก ที่ซึ่งสิ่งมีชีวิตอันเดธทั้งหมดในประวัติศาสตร์รวมตัวกัน
  สิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายและน่าขยะแขยงที่สุดสามารถพบเห็นได้ทั่วทุกที่
  และซูผิงไปอยู่ที่นั่นเป็นเดือนๆ
  เขาได้เห็นสิ่งน่ากลัวมามากพอแล้ว ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณระบบและโอกาสในการคืนชีพไม่จำกัด เขาไม่ได้เสียสติเพราะเขาได้ขัดเกลาเจตจำนงและจิตวิญญาณของเขา
  “ฉันไม่เชื่อ!!” ชายหนุ่มตะโกน แต่เขาไม่สามารถซ่อนความกลัวในดวงตาของเขาได้อีกต่อไป
  จากนั้น—จากก้อนเมฆที่อยู่ด้านหลังซูผิง
  —สิ่งที่กินกระดูกก็หยุดกะทันหัน และเสียงคำรามที่รุนแรงที่สุดก็ดังขึ้น
  เสียงคำรามยังคงก้องอยู่ในท้องฟ้า ทะเลเลือดร่วงโรยอย่างรุนแรง
  ชายหนุ่มตัวสั่นและดวงตาของเขาเบิกกว้างจนลูกตาของเขาอาจหลุดออกมาได้ เสียงคำรามนั้นน่ากลัวกว่าเสียงคำรามของมังกร เขารู้สึกเหมือนมดยืนอยู่หน้าอสูรยักษ์ เขาสามารถถูกกินหรือเหยียบตายได้ทุกเมื่อ
  เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
  แม้แต่ผู้ปกครองที่เขาพบในส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำลึกก็ยังถือว่าอ่อนแอเมื่อเทียบกับสิ่งมีชีวิตนั้น!
  แต่โลกแห่งความว่างเปล่ากำลังบอกเขาว่ามันเป็นโลกที่มนุษย์ได้เห็นกับตาของเขาเองจริงๆ!
  นั่นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์คิด!
  โลกภายนอกถ้ำลึกกลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างนี้ไปแล้วหรือ?
  ชายหนุ่มตาแดงกลัว และสับสน
  เขากำลังถูกรบกวนทางจิตใจ ร่างใหญ่น่าเกลียดมากมายปรากฏขึ้นในสนามพลังของซูผิง แต่ละร่างต่างก็ข่มขู่ พวกมันต้องอยู่เหนือระดับตำนาน แม้กระทั่งเหนือระดับดวงดาว เป็นระดับที่ชายหนุ่มไม่สามารถเข้าใจได้!
  แต่มีมากกว่าหนึ่งตัว!
  ”อ๊า!!!”
  ชายหนุ่มร้องไห้ขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาก้มหัวและร้องไม่หยุด โลกเลือดนี่กำลังแตก
  ทะเลเลือดกำลังถูกดูดเข้าไปในกระแสน้ำลึกใต้ฝ่าเท้าของซูผิง
  สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายจะหายไปทันทีหลังจากที่พวกมันเข้ามาอยู่ในทะเลเลือด
  ปัง!!
  โลกทั้งใบพังทลายลงในที่สุด
  ทะเลเลือดหายไป ท้องฟ้าก็หายไป ซูผิงเห็นถนนมืดในทางเดินอีกครั้ง
  สนามพลังยังคงอยู่เบื้องหลังซูผิง แต่ไม่ได้กว้างใหญ่เท่ากับตอนที่ซูผิงติดอยู่ในโลกแห่งความว่างเปล่า จะมีการปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวเป็นครั้งคราวในสนามพลังที่จำกัด ซึ่งเหมือนสิ่งมีชีวิตจริงที่กักขังอยู่ในอีกมิติหนึ่ง
  ฟริ้ว!
  ฟริ้ว!
  ชายหนุ่มตาแดงกำลังหอบ น้ำตาไหลจากตาทั้งสี่ของเขา เขาจ้องมาที่ซูผิง ความกลัวในดวงตาของเขากลายเป็นความโกรธและเจตนาฆ่าในไม่ช้า
  เขาไม่ต้องการที่จะยอมรับมัน แต่เขาก็แค่กลัวจนน้ำตาคลอ!
  มันคือความอัปยศ!
  เขาอยู่ที่สภาวะชะตากรรม และมาถึงสภาวะนี้ในถ้ำลึกด้วยความชั่วร้ายและเจตนาฆ่า!
  ถึงกระนั้น เขาก็ยังกลัวสิ่งมีชีวิตที่เป็นมนุษย์ น่าอัปยศมาก!
  ”แก แกจะต้องเน่าตายในนรก!!”
  ชายหนุ่มตาแดงกัดฟันแน่น เขาคงขบกรามแรงเกินไปจนฟันของเขาเสียรูป
  ไม่ว่าโลกที่คาดการณ์ไว้จะน่ากลัวเพียงใด มันไม่ใช่พลังต่อสู้ที่แท้จริง ต้องใช้กรงเล็บและฟันเพื่อต่อสู้!
  อ๊ากก!!
  ชายหนุ่มใช้แรงเต็มกำลังทันที เขากักขังมิติโดยรอบก่อนแล้วจึงเคลื่อนย้ายหาซูผิง โดยมุ่งที่จะทุบหัวของซูผิงด้วยกรงเล็บอันแหลมคมของเขา
  ในระหว่างนี้ซูผิงลืมตาขึ้น เขาเห็นชายหนุ่มกำลังจะมาถึงเขา ซูผิงยกมือขึ้นและแรงกระแทกจากการสัมผัสก็กระแทกจนเขาถอยหลัง เขาหยุดอยู่ที่กำแพงห่างออกไปหลายร้อยเมตร ทางเดินทั้งหมดสั่นสะเทือน
  ซูผิงรู้สึกเจ็บที่แขน เขามองดู กระดูกสีขาวบนมือของเขาร้าว แต่ได้รับการรักษาแล้ว
  โครงกระดูกน้อยปกป้องเขา มิฉะนั้นเขาจะถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ
  วิ่ง!
  เขาวิ่งหนีทันทีโดยไม่ลังเล
  เขาสามารถหลุดพ้นจากการโจมตีทางวิญญาณของราชาอสูรร้ายได้โดยใช้สนามพลัง ถึงกระนั้นเขามั่นใจว่าเขาไม่มีความสามารถในการต่อสู้กับราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรม ราชาอสูรร้ายนี่น่ากลัวกว่าราชาสวรรค์ต่างโลกมาก ทางเดียวที่ทำได้คือวิ่ง
  ชายหนุ่มตะโกนว่า “แกจะไปไหนไม่ได้!!”
  เขาเหวี่ยงแขนและพื้นที่เริ่มเปลี่ยนไป ซูผิงกำลังวิ่งไปข้างหน้า แต่ในความเป็นจริงเขากลับถอยหลัง ซูผิงต้องการใช้ดาบของเขาเพื่อตัดมิติ แต่ชายหนุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเขา และชายหนุ่มกำลังข่วนอากาศด้วยกรงเล็บอันแหลมคมของเขา อากาศบิดเบี้ยวอีกครั้ง
  ซูผิงต้องหันหลังกลับเพื่อหยุดกรงเล็บไม่ให้มาโดนเขา
  ปัง!
  ราชาอสูรร้ายทุบซูผิงอีกครั้ง “ไปลงนรกซะ!” ชายหนุ่มเข้าหาซูผิง
  ซูผิงยืนไม่ติดพื้น แขนของเขาชา กระดูกสีขาวบนแขนของเขามีรอยร้าวมากเกินไปหลังจากรับการโจมตีหลายครั้ง มันน่ากลัวมาก
  ซูผิงรู้ว่าโครงกระดูกน้อยไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาเป็นห่วง
  อันที่จริงนักรบอสูรกิตตติมศักดิ์อย่างเขาไม่มีกำลังเพียงพอที่จะจัดการกับราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรม
  ภายในม้วนภาพ
  หวืด!
  หลี่หยวนเฟิงเข้าไปแล้ว เขายืนอยู่ตรงที่ที่ม้วนภาพปิดลง และเห็นสิ่งที่ดูเหมือนเป็นท้องฟ้าสีคราม หลี่หยวนหน้าซีด เขาฝากความหวังทั้งหมดไว้กับซูผิงแล้วในขณะนั้น
  ถ้าซูผิงตาย เขาก็จะตายด้วย
  ”คุณ?”
  ซูหลิงเยวี่ยรีบเข้ามาหาเขา เธอยังมีเกล็ดสีเงินอยู่บนร่างกาย และเธอสามารถบินได้
  หยานปิงเยว่ไม่อยากจะเชื่อ
  เธอปราบหญิงสาวได้อย่างง่ายดายระหว่างลีกนักรบในเมืองฐานหลงเจียง ซูหลิงเยวี่ยต่อสู้ได้เพราะมังกรประหลาดตัวนั้น แต่ที่นี่ผู้หญิงคนนี้บินได้
  เธอถึงระดับกิตติมศักดิ์แล้วเหรอ!
  หลี่หยวนเฟิงก็สังเกตเห็นว่าซูหลิงเยวี่ยกำลังบินอยู่ แต่เขาไม่มีอารมณ์ที่จะถาม ตอนนี้เขากังวลเกินไป
  ซูหลิงเยวี่ยสังเกตเห็นความกังวลบนใบหน้าของเขา เธอต้องถามว่า “พี่ชายของฉันอยู่ที่ไหน?”
  “พี่ชายของเธออยู่ข้างนอก” หลี่หยวนเฟิงกล่าว
  ซูหลิงเยวี่ยไม่เข้าใจ “แล้วคุณล่ะ?”
  หลี่หยวนเฟิงตัดสินใจว่าเขาควรจะบอกเธอเพราะเธอเป็นน้องสาวของซูผิง“เราเจอปัญหาบางอย่าง อสูรพันตา สิ่งมีชีวิตที่ปกป้องทางเดินสังเกตเห็นเรา และมันกำลังตามล่าเราอยู่ในขณะนี้”
  “อสูรพันตา?”
  ซูหลิงเยวี่ยสามารถเดาความหมายที่เป็นลางร้ายซึ่งซ่อนอยู่เบื้องหลังคำพูดง่ายๆ เหล่านั้นได้
  “พี่ชายของฉันไม่สามารถจัดการเรื่องนี้คนเดียวได้ คุณเอ่อ…” ซูหลิงเยวี่ยกังวล
  หลี่หยวนเฟิงอธิบายว่า “พี่ชายของเธออยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ แต่เขาเก่งกว่าฉันมาก ฉันจะมีแต่ถ่วงเขา”
  ซูหลิงเยวี่ยถาม “พี่ชายของฉันอยู่ข้างนอกคนเดียว กับอสูรพันตา?”
  หลี่หยวนเฟิงกำหมัด และพยักหน้า
  “ฉัน…” ด้วยแรงกระตุ้นที่บริสุทธิ์ ซูหลิงเยวี่ยอยากจะบอกว่าเธอสามารถออกไปช่วยได้
  แต่ก่อนที่เธอจะพูดคำว่า “ช่วย” เธอก็ได้สติ
  ฉันสามารถช่วยได้จริงๆหรอ?
  ตาของเธอแดงก่ำ
  ถ้ำลึกเต็มไปด้วยราชาอสูรร้าย แต่ซูผิงเข้ามาโดยไม่คำนึงว่าจะต้องเสี่ยงชีวิต
  ในทางกลับกัน เธอไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเขาได้แม้แต่น้อย
  เธอต้องอยู่ที่นี่
  ถ้าซูผิงตาย พวกเธอจะตายไปกับเขาด้วย แต่เธอไม่คิดอย่างนั้น เธอเป็นเหตุผลที่ทำให้ซูผิงต้องเสี่ยงแบบนี้
  เธอรู้ว่าซูผิงมีพรสวรรค์ มากกว่าใครๆ ที่เธอรู้จัก
  พี่ชายของเธอไม่ใช่คนขี้แพ้แบบที่เธอเคยคิดว่าเขาเป็น แต่เขาเป็นอัจฉริยะ!
  เธอได้พบกับนักเรียนหลายคนที่ถือว่ามีพรสวรรค์หลังจากเข้าศึกษาที่สถาบัน รวมถึงคนที่มีนามสกุลว่า “เฟย หนาน จี้ และกั๋ว”
  แต่เมื่อเทียบกับพี่ชายที่ “ใจร้าย” ของเธอแล้วนักเรียนที่มีความสามารถเหล่านั้นก็ทั่วๆไป
  เมื่อเวลาผ่านไป ซูผิงจะสามารถไปถึงสถานะสูงที่ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ และเธอเชื่ออย่างนั้น!
  แต่…
  เพียงเพื่อเห็นแก่เธอ ซูผิงพี่ชายของเธอซึ่งมีอนาคตที่สดใส—เข้ามาในสถานที่นี้และอาจถึงกับตายในนี้
  ฉันมีค่าพอ?
  ฉันเหรอ? ซูหลิงเยวี่ยกัดริมฝีปากของเธอจนเลือดไหล
  รสชาติของเลือดขมในปากของเธอ
  เธอหวังว่าเธอจะแลกชีวิตที่เหลือ ชาติหน้า และชีวิตหลังจากนั้น เพื่อความปลอดภัยของซูผิง
  หากพระเจ้าเมตตา และขอค่าตอบแทนจากเธอ เธอจะตกลงโดยไม่ลังเล
  แต่ความจริงก็คือมันจะไม่เกิดขึ้น
  สิ่งใดก็ตายที่เธอทำจะไม่มีความหมายใดๆ นั่นคือความสิ้นหวังที่แท้จริง!
  ภายในทางเดินที่ซับซ้อน
  ราชาอสูรร้ายออกมาจากถ้ำ มุ่งหน้าไปยังที่แห่งหนึ่ง
  มีคำสั่งที่พวกมันไม่สามารถฝ่าฝืนได้ ในเวลาเดียวกันราชาอสูรร้ายต่างก็กระหายที่จะลิ้มรสเลือด พวกมันมีความสุขมากที่จะได้ฆ่าผู้บุกรุก
  ขณะที่ราชาอสูรร้ายกำลังเดินทาง พวกมันได้ยินเสียงเห่าดังก้องในทันใด
  ปัง!!
  หัวของสุนัขปรากฏขึ้น มันคือสุนัขมังกรดำ
  มันปรากฏขึ้นจากที่ไหนก็ไม่รู้และยืนอยู่ตรงหน้าซูผิง ปลดปล่อยทักษะระดับตำนานกว่าร้อยทักษะ ในขณะที่มันปรากฏตัว แสงจ้าก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้โลกสว่างขึ้น!
  ทักษะระดับตำนานนั้นยากที่จะได้รับ ไม่ต้องพูดถึงการเชี่ยวชาญมากกว่าร้อยทักษะในเวลาเดียวกัน นี่คงเป็นฉากที่น่าประทับใจสำหรับทุกคน และรวมถึงราชาอสูรร้ายด้วย
  ทั้งหมดเป็นทักษะป้องกัน!
  ชายหนุ่มหยุดการโจมตี
  เขาหรี่ตาลงขณะที่จ้องมองไปที่สุนัขที่กำลังโกรธ เขาตกใจกับเจตนาฆ่าในสายตาของสุนัข
  เมื่อกี้คืออะไร?
  ชายหนุ่มขยับออกห่าง เขาต้องสังเกตอสูรก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว