ตอนที่ 683 ก้าวข้าม
อู่กวนเฉิงสะดุ้งตกใจ เขาโค้งคำนับซูผิงและขอบคุณ “คุณซูผมก็เหมือนกัน!”
ซูผิงรู้ว่าทั้งสองจะต้องตื่นเต้นกับเรื่องนี้ แต่พวกเขาจริงจังกับมันมากเกินไป มากกว่าที่เขาคาดไว้ “อย่าพูดถึงมัน จำไว้ว่านี่เป็นข้อตกลงทางธุรกิจ แค่คิดว่ามันเป็นการซื้อของตามปกติ”
ทั้งสองยิ้มอย่างขมขื่นอยู่ข้างใน ใช่ มันเป็นข้อตกลงทางธุรกิจ แต่ซูผิงมีสิทธิ์เลือกผู้ซื้อ พวกเขารู้สึกขอบคุณที่ซูผิงเลือกพวกเขา!
“ราคาของผลไม้…” ซูผิงจำได้ว่าเขายังไม่ได้ดูราคา เขารีบย้ายผลไม้ทั้งสองจากที่เก็บของไปยังร้าน
ผลไม้ถูกจัดประเภทเป็นอาหารอสูร
ราคา…
ห้าร้อยล้าน?
ซูผิงประหลาดใจที่เห็นว่าผลไม้มีราคาแพงกว่าอสูร ห้าร้อยล้านสำหรับผลไม้หนึ่งผล… เดี๋ยวก่อน มันแพงเหรอที่จะทำให้คนคนนึงไปถึงระดับตำนานด้วยห้าร้อยล้าน?
ซูผิงรู้สึกว่าเขาได้รับผลกระทบอย่างมากจากระบบ
“ผลละห้าร้อยล้าน” ซูผิงประกาศราคา สิ่งนี้ทำให้ดูเหมือนว่าเขาตัดสินใจราคาทันทีตรงนี้
ห้าร้อยล้าน?
อู่กวนเฉิง โจวเทียนหลินรวมถึงปรมาจารย์ดาบ และฉินตู้หวงที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต่างตกตะลึงกับราคา
ไปถึงระดับตำนานแต่ราคาถูกขนาดนี้?
โอกาสที่จะไปถึงระดับตำนานขายเพียงห้าร้อยล้าน?
พวกเขาเชื่อว่าซูผิงเพิ่งจะคิดราคา!
ผู้ชายคนนี้… ทำไมเขาต้องบอกราคาตอนที่เขาแจกผลไม้โดยเปล่าประโยชน์? ช่างเป็นผู้ชายที่น่าภาคภูมิใจ “คุณซูแค่ห้าร้อยล้าน?”โจวเทียนหลินยังคงไม่เชื่อ ราคาทำให้เขาตกใจ ไม่ใช่ว่าราคาสูงเกินไป มันต่ำเกินไปมาก!
นั่นเป็นโอกาสที่แท้จริงที่จะไปถึงระดับตำนาน โจวเทียนหลินอยู่ต่ำกว่าระดับตำนาน แต่เขาเชื่อมั่นว่านักรบอสูรในตำนานสามารถทำอะไรก็ได้ในโลก
อู่กวนเฉิงไม่ได้แปลกใจน้อยกว่าโจวเทียนหลิน เขารู้สึกแบบเดียวกัน…
“คุณคิดว่าผลไม้แพงหรือถูกเกินไปล่ะ?” ซูผิงล้อเลียนพวกเขา
คำถามทำให้โจวเทียนหลินเบิกตากว้าง “แน่นอนว่าราคาถูกเกินไป คุณซู ผลไม้นี้ล้ำค่า แต่คุณคิดแค่ห้าร้อยล้าน ผม ผมไม่…” เขาไม่พบคำใดที่จะแสดงความขอบคุณ
”จริงๆ? ผมบอกคุณแล้วว่าผลไม้มีผลข้างเคียงบางอย่าง นี่เป็นเพียงระดับตำนาน ถ้าคุณถามผม ผมคิดว่าห้าร้อยล้านนั้นสูงเกินไป ท้ายที่สุดแล้วอสูรเหล่านั้นในสภาวะว่างเปล่าราคาแค่สามร้อยล้านเท่านั้น…” ซูผิงพยายามปลอบโยนโจว เทียนหลิน
เขากำลังพูดความจริง แม้แต่อสูรในสภาวะว่างเปล่าระยะหลังก็ขายได้เพียงประมาณสามร้อยล้านเท่านั้น ซูผิงแปลกใจมากที่ผลไม้นั้นมีราคาห้าร้อยล้าน
“เอ่อ…”
ปรมาจารย์ดาบ ถังยู่หราน เซี่ยจินชุ่ย และคนอื่น ๆ พูดไม่ออก ห้าร้อยล้านก็ยังสูงไป? อันที่จริงคุณซูเป็นปริศนาที่… พวกเขาไม่มีทางแก้ได้!
อย่างไรก็ตาม ไม่มีคนสติดีคนไหนจะขายอสูรสภาวะว่างเปล่า นับประสาอะไรกับจำนวนขนาดนี้ ไม่มีใครสามารถขายอสูรสภาวะว่างเปล่าจำนวนมากได้!
“คุณเลือกอสูรไป คุณมากับผม ผลไม้อยู่นี่” ซูผิงจบการสนทนาเรื่องราคา เนื่องจากทั้งสองตกลงกัน เขาต้องการทำธุรกรรมต่อไป และให้ผลไม้แก่พวกเขาในคราวเดียว เพื่อที่พวกเขาจะได้เริ่มเลือกอสูร
ซูผิงปล่อยปรมาจารย์ดาบและฉินตู้หวงให้กับถังยู่หราน ในขณะที่เขาพาโจวเทียนหลินและอู่กวนเฉิงไปที่อีกด้านหนึ่งซึ่งมีโชว์อาหารอสูรทุกชนิด
ลูกค้าจะไม่ค่อยสังเกตเห็นด้านนี้ ท้ายที่สุดซูผิงก็มีชื่อเสียงที่สุดในการฝึกอสูร และอสูรที่เขาขาย…
“นี่แหละ”
ซูผิงหยิบผลไม้สุกใสสองผลจากอาหารอสูรหลากหลายชนิด โจวเทียนหลินและอู่กวนเฉิงตื่นเต้นมากจนริมฝีปากสั่น ระหว่างนั้นทั้งสองก็เหลือบมองรายการอื่นๆ ….พระเจ้า ผลไม้ที่สามารถช่วยให้พวกเขาไปถึงระดับตำนานถูกวางไว้ที่นี่ในที่ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ?!
อีกครั้งที่พวกเขารู้สึกตกตะลึง
ซูผิงมอบผลไม้ให้แต่ละคน และบอกให้พวกเขาจ่ายเงินก่อน หากพวกเขากินผลไม้ก่อนจ่ายเงิน…ระบบจะโจมตีพวกเขาให้ตายด้วยสายฟ้าที่แรงที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็น
ทั้งสองรู้สึกถึงน้ำหนักบางอย่างในมือ ผลไม้รู้สึกอบอุ่นราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่หายใจได้ ทั้งสองตื่นเต้นมากจนลืมจ่ายหากซูผิงไม่เตือนพวกเขา เขาตั้งราคาน้อยมากจนพวกเขาแทบจำไม่ได้
เขาได้ยินการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ ซูผิงจึงดูยอดเงินในบัญชีของเขา
-ห้าร้อยล้านต่อคน นั่นเท่ากับห้าล้านแต้มพลังงาน ในตอนนี้เขามีแต้มพลังงานทั้งหมดสิบล้านแต้ม
นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะเลื่อนขั้นร้านค้าจากระดับ 2 เป็นระดับ 3 สิบครั้ง!
แต่ร้านค้าอยู่ที่ระดับ 3 แล้ว เขาต้องการแต้มพลังงานหนึ่งร้อยล้านคะแนน เพื่อให้ร้านไปถึงระดับ 4!
จำนวนแต้มพลังงานที่ต้องใช้เพื่อให้ร้านค้าไปถึงระดับ 4 จากระดับ 3 นั้นสูงกว่ามาก ซูผิงบ่นในใจ แต่เขายังคิดด้วยว่าร้านค้าจะพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการเลื่อนขั้น! การขายผลไม้ทั้งสองเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาได้แต้มพลังงานมากพอที่จะเลื่อนขั้นร้าน อย่างไรก็ตาม อสูรของสภาวะว่างเปล่าขายได้ตัวละประมาณสามร้อยล้าน นั่นคือแต้มพลังงานสามล้าน การขายอสูรสิบตัวจะได้รับแต้มพลังงานสามสิบล้านแต้ม เขาสามารถสะสมแต้มพลังงานได้เพียงพอจากการขายอสูรประมาณสามสิบตัว ถ้าเขาสามารถขายได้ทั้งหมดสี่สิบตัว เขาก็จะมีมากเกินพอที่จะเลื่อนขั้นร้าน!
ช่างเป็นการเดินทางที่คุ้มค่า
แต่มันก็เป็นการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อย ซูผิงทำราวกับว่าเขาไม่เป็นไร แต่การทำสัญญาและยกเลิกสัญญากับอสูรสี่สิบตัวทีละตัวส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขา
เขาสามารถคืนชีพในสนามบ่มเพาะได้ แต่ความเหนื่อยล้าของจิตวิญญาณจะไม่ถูกลบออก เว้นแต่เขาจะตายเพราะการโจมตีทางจิตวิญญาณ อย่างไรก็ตามสำหรับความเหน็ดเหนื่อยที่มากับการทำสัญญาและยกเลิกสัญญาอย่างต่อเนื่อง มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะกำจัดได้ด้วยการคืนชีพ
โจวเทียนหลินเกาหัว เขาถามอย่างระมัดระวังว่า “อืม… คุณซู เราจะใช้สิ่งนี้ยังไง?”
อู่กวนเฉิงมองซูผิงเหมือนกัน… เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
ซูผิงยิ้มให้ทั้งสองคน “แค่กินมัน นี่เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง ดังนั้นจงกินมันเหมือนกินผลไม้”
แค่นั้น?
แต่เนื่องจากซูผิงกล่าวเช่นนั้น มันจะต้องเป็นความจริง วิธีง่ายๆ…
ผู้นำตระกูลที่สามารถมีอิทธิพลต่อเมืองฐานทั้งหมด และผู้รักษาอาวุโสระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดถือผลไม้ที่ส่องแสงเหมือนสาวน้อยที่ต้องถนุถนอม พวกเขาระมัดระวังและอ่อนโยน… กัดผลไม้ อย่างไรก็ตามซูผิงรู้สึกว่ามุมมองนั้นขัดกับสายตาของเขา
โป๊ะ โป๊ะ!
แบ็คกราวน์มิวสิคจาก ‘Chūka Ichiban(ยอดกุ๊กแดนมังกร)!’ น่าจะดีที่สุดสำหรับช่วงเวลานี้ ทั้งสองลืมตาราวกับว่าพวกเขาเกิดการเห็นแจ้ง กลิ่นหอมจากผลไม้อ่อนๆ และเนื้อก็นุ่ม
พวกเขาหลงใหลไปกับรสชาติของผลไม้ เนื้อของผลไม้ละลายในปากของพวกเขา เนื้อของผลไม้กลายเป็นพลังดวงดาวบริสุทธิ์และลึกซึ้งซึ่งพุ่งเข้าสู่ร่างกายของพวกเขา แผ่ขยายไปทั่วทุกเซลล์ ราวกับว่าร่างกายของพวกเขาเป็นกองฟืนที่เพิ่งถูกจุดไฟ!
เดือด!
ตื่นเต้นและมึนเมาในรสชาติ ทั้งสองละทิ้งกิริยาทั้งหมดและกินผลไม้ให้หมด ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังเช็ดให้แน่ใจว่าจะไม่พลาดน้ำจากผลไม้แม้แต่หยดเดียว ผลไม้ไม่มีแกนอยู่ข้างใน พวกเขากินผลไม้ที่เหลือจนหมด รวมทั้งเม็ดเล็กๆ ที่เหลืออยู่ของผลด้วย
ซูผิงต้องการบอกพวกเขาว่าเมล็ดไม่มีผลใดๆ แต่เขาไม่ได้พูดเนื่องจากทั้งสองดูเหมือนจะเพลิดเพลินกับผลไม้อย่างมาก ท้ายที่สุดแล้วนักรบอสูรกิตติมศักดิ์สามารถย่อยเมล็ดเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย
ทันใดนั้นเสื้อผ้าของพวกเขาก็ฉีกออก!
ไม่นานหลังจากนั้น หลังจากที่พวกเขากินผลไม้ โจวเทียนหลินและอู่กวนเฉิงก็รู้สึกถึงพลังดวงดาวภายในพวกเขา เสื้อผ้าของพวกเขาหลุดออกและโมเมนตัมขก็เพิ่มขึ้น พลังดวงดาวของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้น มีความรู้สึกกว้างใหญ่รวมเข้ากับร่างกายของพวกเขา ขยายจากระดับกิตติมศักดิ์เป็นสภาวะสมุทร… พลังดวงดาวไม่เพียงแต่จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น มันยังบริสุทธิ์ขึ้นอีกด้วย
เพื่อให้เปรียบเทียบง่ายๆ ถ้าพลังดวงดาวของนักรบกิตติมศักดิ์คือหนึ่งร้อย พลังดาวของสภาวะสมุทรจะเท่ากับหนึ่งหมื่น ยิ่งไปกว่านั้นพลังดวงดาวมูลค่าหมื่นจะทรงพลังมากกว่าพลังดวงดาวที่ของระดับกิตติมศักดิ์นับล้านเท่า!
กว้างใหญ่และลึกซึ้ง ถูกบีบอัดและบริสุทธิ์ นั่นคือเหตุผลที่นักรบสภาวะสมุทรสามารถครอบงำนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ได้อย่างง่ายดาย
นักรบสภาวะสมุทรไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะใด ๆ พลังดวงดาวเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะบดขยี้ใครบางคนในระดับกิตติมศักดิ์ได้!
นั่นคือความแข็งแกร่งของระดับตำนาน!
ฉินตู้หวงและปรมาจารย์ดาบซึ่งขณะนี้กำลังเลือกอสูรอยู่รู้สึกบางอย่าง แปลกใจ พวกเขาเปลี่ยนความสนใจไปยังแหล่งพลังงานใหม่ พวกเขาหันกลับมาและเห็นว่ามีคนสองคนไล่ตามระดับของพวกเขา… ระดับตำนาน!
ปรมาจารย์ดาบและฉินตู้หวงรีบเดินไปดู
ถังยู่หรานและเซี่ยจินชุ่ยก็ตามไปเช่นกัน
”คุณ…”
เสื้อของโจวเทียนหลินและอู่กวนเฉิงถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ เผยให้เห็นทรวงอกของผู้ชายในขณะที่กางเกงของพวกเขายังคงไม่ฉีกขาด ฉินตู้หวงหรี่ตาลง ไม่มีบททดสอบสวรรค์ปรากฏอยู่เหนือพวกเขา อย่างไรก็ตามทั้งสองถึงระดับตำนานแล้วจริงๆ!
ปรมาจารย์ดาบสังเกตุเช่นกัน เขารู้สึกประหลาดใจ เขารู้ว่าซูผิงจะไม่พูดเล่นเกี่ยวกับความสามารถของผลไม้ แต่การได้เห็นจริง ๆ ว่าซูผิงช่วยคนสองคนให้ไปถึงระดับตำนานได้อย่างไรก็ยังน่าประหลาดใจ
เซี่ยจินชุ่ยและถังยู่หรานตกตะลึงและอิจฉา พวกเขาไม่ได้พยายามปิดบังความจริงที่ว่าพวกเขาอิจฉา ตรงนั้นจะเป็นพวกเขา ถ้าซูผิงให้โอกาส พวกเขาก็จะได้ไปถึงระดับตำนานเหมือนกัน!
แต่ถังยู่หรานก็ปลอบตัวเอง เธอเป็นผู้นำตระกูลถัง เธอจะไปถึงระดับตำนานด้วยตัวเธอเองไม่ช้าก็เร็ว! เซี่ยจินชุ่ยในขณะที่รู้สึกผิดหวังก็เริ่มสงบสติอารมณ์เช่นกัน ไม่ว่าซูผิงจะเลือกใครก็ตาม มันจะดีสำหรับพวกเขา เซี่ยจินชุ่ยคิดว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับซูผิง แต่เขาต้องยอมรับความจริงที่ว่าซูผิงมีเพื่อนสนิท
อู่กวนเฉิงและโจวเทียนหลินลืมตา พวกเขารู้สึกถึงกระแสพลังดวงดาวที่ลึกซึ้ง และความรู้สึกของพวกเขาเพิ่มขึ้นยังไง พวกเขาตื่นเต้นมาก
“ยินดีด้วย!”
“ยินดีด้วย ทั้งสองคน! เรามีนักรบอสูรในตำนานเพิ่มอีกสองคน! ฮ่าฮ่า!”
ปรมาจารย์ดาบและฉินตู้หวงเข้าหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มสดใส ซูผิงมีหนทางที่จะส่งเสริมนักรบสองคนให้อยู่ระดับตำนานได้อย่างง่ายดาย แต่เขามักจะอ้างว่าเขายังอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ คงไม่มีใครเชื่อ! ปรมาจารย์ดาบและฉินตู้หวงรู้สึกว่าซูผิงอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ แต่พวกเขาไม่เชื่อในความรู้สึกของพวกเขา
อู่กวนเฉิงและโจวเทียนหลินกลับมาได้สติอีกครั้ง พวกเขารู้ว่าพวกเขามาถึงระดับตำนานแล้วจริงๆ
ทั้งสองสังเกตเห็นเช่นเดียวกับปรมาจารย์ดาบและฉินตู้หวง พลังดวงดาวของพวกเขานั้นพิเศษ ลึกซึ้ง และบีบอัด พวกเขาอยู่ในระดับตำนาน!
โจวเทียนหลินหันกลับมาและโค้งคำนับให้ซูผิงอีกครั้ง “ขอบคุณครับ คุณซู!” เขาพูดอย่างจริงใจ
อู่กวนเฉิงโค้งคำนับซูผิงเช่นกัน “ขอบคุณคุณซู!”
ซูผิงพยุงพวกเขาขึ้น “ผมบอกคุณแล้วว่านี่เป็นเพียงข้อตกลงทางธุรกิจ และก่อนหน้านี้คุณขอบคุณผมไปแล้ว ตอนนี้คุณได้กลายเป็นนักรบอสูรในตำนานสภาวะสมุทรหากคุณมีคำถามใด ๆ ให้ถามสองคนนั้นทีหลัง ตอนนี้ไปเลือกอสูรของคุณก่อน”
เมื่อกล่าวถึงอสูร ปรมาจารย์ดาบ และฉินตู้หวงกำหมัดและรีบกลับไปที่ห้องโชว์ โจวและอู่อยู่ในระดับตำนานแล้ว หมายความว่าพวกเขาจะแข่งขันกันเพื่อแย่งอสูร พวกเขาต้องรีบเลือก อู่กวนเฉิงและโจวเทียนหลินกล่าวขอบคุณซูผิงอีกครั้ง และรีบเข้าไปในห้องโชว์ เมื่อถึงระดับตำนานแล้วทั้งสองก็วิ่งเร็วจนแทบจะหยุดไม่ได้
ซูผิงกลับไปที่ห้องโชว์พร้อมกับเซี่ยจินชุ่ยและถังยู่หรานเขาตบไหล่ของเซี่ยจินชุ่ยและพูดว่า “คุณเซี่ยไปเลือกอสูรสภาวะสมุทร ซื้อตัวไหนก็ได้ที่คุณชอบ คุณมีศักยภาพดี ผมหวังว่าคุณจะสามารถไประดับตำนานได้ด้วยตัวเองในอนาคต ขอให้โชคดี”
เซี่ยจินชุ่ยคิดว่าซูผิงแค่ปลอบโยนเขา แต่สายตาที่จริงใจในดวงตาของเขาพิสูจน์ว่าเขาคิดผิด เซี่ยจินชุ่ยงงงัน ศักยภาพดี? ทำไมผมไม่คิดอย่างนั้น เขาไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้นเมื่อเทียบกับปรมาจารย์ดาบ เขาอายุสี่สิบแล้ว แต่เขายังอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ เขาไม่มั่นใจว่าเขาจะไปถึงระดับตำนานได้
แต่ซูผิงเพิ่งบอกว่าเขามีศักยภาพดี บางทีนั่นอาจเป็นความจริง?
เซี่ยจินชุ่ยส่ายหัว เขาตัดสินใจที่จะไม่คิดถึงเรื่องนั้น สิ่งสำคัญคือการก้าวผ่านวิกฤต
เนื่องจากซูผิงไม่ได้ปลอบโยนเธอ ถังยู่หรานจึงขมวดคิ้ว “ฉันจะไปถึงระดับตำนานให้ได้!”
ซูผิงกลอกตาและพูดอย่างไม่พอใจ “เธอควรตั้งเป้าให้สูงขึ้น เป้าหมายของเธอควรจะไปถึงระดับดวงดาว เข้าใจไหม? เธอจะต้องจัดการกับลูกค้าที่มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้หญิงระดับตำนานไม่ดีพอที่จะเป็นลูกจ้างของฉัน มุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะของเธอเมื่อมีเวลา อย่ามัวแต่เสียเวลากับเรื่องอื่น”
ถังยู่หรานจ้องเขา “นายเสียสติไปแล้วเหรอ? ระดับตำนานไม่ใช่เป้าหมายที่สูงสุด? ระดับดวงดาว?นายล้อเล่นหรือเปล่า พูดนะได้ แต่ฉันไม่กล้าคิด!”
”ไม่เป็นไร ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ให้กับตัวเอง รีบขึ้นไปสู่ระดับตำนานแล้วกัน” ซูผิงกล่าว เธอจะไม่พยายามมากกว่านี้ถ้าเขาไม่ผลักดันเธอสักหน่อย
ตอนที่ 684 ยกเลิกสัญญา
ปรมาจารย์ดาบ และคนอื่นๆ กำลังตรวจสอบอสูรในห้องโชว์ บางครั้งพวกเขาบอกถังยู่หรานว่าพวกเขาต้องการซื้อตัวไหน
“พวกมันทั้งหมดอยู่ที่สภาวะว่างเปล่าระยะหลัง…” พวกเขาเห็นอสูรมากกว่าสิบสองตัว พวกเขาประหลาดใจหลังจากยืนยันว่าซูผิงไม่ได้โกหก อสูรทั้งหมดอยู่ที่สภาวะว่างเปล่า!
ซูผิงเจออสูรเหล่านี้ในถ้ำลึกหรือเปล่า?
นั่นคงจะเป็นเรื่องตลก
พิชิตถ้ำลึกด้วยอสูรจากถ้ำลึก?
ในไม่ช้าหลายคนก็ตัดสินใจว่าต้องการซื้ออสูรตัวไหน “หก…”
มีความลังเลตอนเขามองดูภาพฉายของอสูรตัวอื่นๆ เขามีตำแหน่งอสูรสิบเอ็ดตำแหน่ง แต่เขามีอสูรหลายตัวแล้ว เขาเหลือเพียงสามที่ แต่เขากำลังจะซื้อหก นั่นคือเขาต้องยกเลิกสัญญาสาม!
จากอสูรที่มีอยู่แปดตัว เขาสามารถเลือกสามตัวที่จะเลือกยกเลิกสัญญาได้ แต่อีกห้าตัว… พวกมันติดตามเขามาเป็นเวลานาน และช่วยชีวิตเขาไว้!
เขาไม่สามารถยกเลิกสัญญากับพวกมันได้! ปรมาจารย์ดาบไม่ใช่คนเดียวที่ลำบากใจ ในไม่ช้าฉินตู้หวงก็จบลงในสถานการณ์เดียวกัน เขามีอสูรหลายตัวแล้ว นอกเหนือจากราชาอสูรร้ายที่ซูผิงขายเขา อสูรอื่นๆ เป็นเพื่อนเก่าของเขา
ฉันควรทิ้งพวกมันไหม?
ใบหน้าของฉินตู้หวงสะท้อนถึงการต่อสู้ภายในใจขณะที่เขาจ้องไปที่อสูรสภาวะว่างเปล่า
ซูผิงสังเกตเห็น เขารู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ การต่อสู้นี่เป็นสิ่งที่เขาดิดเอาไว้แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้น และเขามองว่ามันเป็นการทดสอบสำหรับพวกเขา
พวกเขาจะละทิ้งเพื่อนเก่าและเลือกเพื่อนใหม่ที่ทรงพลังกว่าหรือเปล่า? หรือพวกเขาจะอยู่กับเพื่อนเก่าของพวกเขา?
ทั้งสองวิธีไม่มีถูกหรือผิด
สุดท้ายแล้วอสูรป่าจะมา การเลือกเพื่อนเก่าหมายความว่าพวกเขาภักดี แต่ก็หมายความว่าพวกเขาจะไม่มีพลังมากพอ พวกเขาจะถึงวาระในยามวิกฤต
แต่ละทิ้งอสูรที่มีอยู่ทั้งหมด… ซูผิงไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนั้นได้เช่นกัน
”คุณซู”
ปรมาจารย์ดาบถามซูผิงเสียงต่ำ “คุณมีโซ่ล็อคหรือกรงอสูรร้ายหรือเปล่า?”
มันคืออะไรกัน… ซูผิงสับสน แต่ระบบให้คำตอบในเวลาที่เหมาะสม “โซ่ล็อคและกรงอสูรเป็นเครื่องมือบรรจุอสูรร้ายขั้นต่ำเป็นเครื่องมือที่พัฒนาบนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน พวกมันสามารถใช้เก็บอสูรร้ายได้”
นั่นคือคำตอบ
งั้นก็แหวนจับอสูรร้ายขั้นต่ำ “ถูกต้อง” ระบบกล่าว
ซูผิงกล่าวกับปรมาจารย์ดาบ “ผมไม่มี แต่ผมคิดว่าร้านขายอสูรอื่นๆ น่าจะขายของเหล่านั้น คุณต้องการใช้พวกมันกับอสูรที่คุณจะยกเลิกสัญญาใช่ไหม?”
ปรมาจารย์ดาบประหลาดใจที่รู้ว่าซูผิงไม่มีของเหล่านั้น… เขาจับอสูรเหล่านี้ได้อย่างไร? ด้วยหมัดของเขา?
ปรมาจารย์ดาบขดริมฝีปาก นั่นไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้…
“ถ้าอย่างนั้น ผมจะต้องไปร้านขายอสูรอีกแห่ง” ปรมาจารย์ดาบตอบ “ผมต้องการเก็บอสูรที่ผมยกเลิกสัญญาไว้ข้างๆ ผมจะมีที่ว่างสำหรับสัญญามากขึ้นเมื่อผมไปถึงสภาวะว่างเปล่า ผมจะพาพวกมันกลับมา”
เขาไม่เต็มใจที่จะทิ้งเพื่อนเก่าของเขา… ซูผิงพยักหน้า “ไม่มีปัญหา คุณสามารถยกเลิกสัญญาได้ที่นี่ และคุณสามารถฝากไว้ในคอกเลี้ยงดูของผมได้ คุณสามารถกลับมาหาพวกมันได้เมื่อคุณพบโซ่ล็อก แน่นอนผมคิดค่าธรรมเนียมสำหรับคอกเลี้ยงดู”
ปรมาจารย์ดาบโล่งใจ “นั่นดีเลย ”
เขาสามารถยกเลิกสัญญาก่อนได้ โดยไม่ต้องซื้อโซ่ล็อก
ฉินตู้หวงก้าวเข้ามาและพูดกับปรมาจารย์ดาบด้วยรอยยิ้มบังคับว่า “เฮ้ ผมเห็นว่าเราไม่ได้เลือกอสูรตัวเดียวกัน”
“เห้อ คุณซูมีอสูรมากเกินพอ…” ปรมาจารย์ดาบตอบ
ผมจะต่อสู้กับคุณเพื่อให้ได้อสูรถ้าซูผิงขายเพียงหนึ่งหรือสอง! ฉินตู้หวงกระตุกปาก นั่นเป็นความจริง
ฉินตู้หวงถามซูผิงว่า “คุณซูผมเลือกแปดตัว ผมได้ยินมาว่าคุณมีคอกเลี้ยงดู ยังเหลืออีกไหม?”
”เหลือ” ซูผิงตอบสั้น ๆ ขณะที่เหลือบมองที่ฉินตู้หวง ดังนั้นเขาจึงเหลืออสูรของเขาสองหรือสามตัว หนึ่งในนั้นคือราชาอสูรร้ายที่เขาซื้อครั้งล่าสุด ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาบอกว่าฉินตู้หวงสามารถยกเลิกสัญญากับราชาอสูรร้ายได้หลังจากผ่านไป 10 ปีเท่านั้น กฎได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการขายต่อหรืออะไรก็ตามที่จะทรมานอสูร
แต่ในกรณีพิเศษ ผู้ซื้อสามารถยกเลิกได้เร็วกว่านี้โดยได้รับอนุมัติจากเขา
ตัวอย่างเช่น ซูผิงจะอนุญาตหากฉินตู้หวงต้องการแทนที่ราชาอสูรร้ายนั้นด้วยอสูรอยู่ในสถานะว่างเปล่า ท้ายที่สุดเขาก้าวผ่านความลำบากในการรับอสูรมามากมาย มันเพื่อช่วยให้ทุกคนมีความพร้อมที่จะรับมือกับการโจมตีที่จะเกิดขึ้น “ดี…”ฉินตู้หวงโล่งใจ ฉินตู้หวงอธิบายว่า “ผมจะขอให้สมาชิกในตระกูลของผมกลับมารับอสูรเหล่านั้นในไม่ช้า พวกมันอยู่กับผมมานาน พูดตามตรง ผมรู้สึกเศร้าที่ต้องแยกทางกับพวกมัน แต่ข้อดีคือผมสามารถมอบอสูรให้สมาชิกในตระกูลที่อายุยังน้อยได้ ด้วยวิธีนี้อสูรของผมสามารถปกป้องตระกูลฉินได้หลายชั่วอายุคน!”
“นั่นจะดีมาก” ซูผิงชมเชย
นั่นเป็นทางเลือกที่ฉลาด หากวันนั้นมาถึงเมื่อเขาต้องยกเลิกสัญญากับอสูร เขาจะพยายามให้ซูหลิงเยวี่ยได้รับอสูรของเขา ด้วยวิธีนี้อสูรของเขาจะดูแลเธอในที่สุด และเขาจะยังคงเห็นอสูรของเขา
ปรมาจารย์ดาบถอนหายใจ
เขาอยู่คนเดียว เขาไม่มีตระกูลใหญ่ เขาจะต้องนำอสูรที่เขายกเลิกสัญญากลับไปในสักวันหนึ่ง
เดี๋ยวนะ บางที… ฉันสามารถรับศิษย์บางคนมาได้นิ
ปรมาจารย์ดาบสนใจความคิดนั้น เขาสามารถมอบอสูรของเขาให้กับศิษย์ของเขาได้ในภายหลัง นั่นจะดีสำหรับศิษย์ของเขา และเพื่อนสนิทของเขา
ความคิดนี่ดีมาก!
ยิ่งเขาคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งชอบแผนนี้มากขึ้นเท่านั้น รอยยิ้มกลับมาที่ใบหน้าของเขา
“รีบไปยกเลิกสัญญา คุณจะรู้สึกอ่อนแอในอีกสองสามวันข้างหน้า หวังว่าอสูรป่าจะไม่มาเร็ว ๆ นี้” ซูผิงกล่าว
แน่นอนไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น ข้อดีคือถึงแม้ว่าพวกมันจะอ่อนแอ พวกเขาก็ยังสามารถส่งอสูรของพวกเขาออกไปสู่สนามรบได้
ท้ายที่สุดแล้วอสูรเหล่านั้นอาจช่วยได้มากกว่าปรมาจารย์ดาบและฉินตู้หวงเอง
“แน่นอน”
ทั้งสองเรียกอสูรของพวกเขา และยกเลิกสัญญาทีละตัว
แสงปกคลุมทั้งสองและอสูรตามลำดับ เมื่อสัญญาถูกยกเลิก ความทรงจำในช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันจะถูกลบออกจากจิตใจของอสูร พวกมันจะมองว่าเจ้านายในอดีตของพวกมันเป็นคนแปลกหน้า
ในทางกลับกัน มนุษย์จะไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้
โฮก!
หลังจากสับสนอยู่ครู่หนึ่งลิงลมระดับเก้าของปรมาจารย์ดาบก็เริ่มคลุ้มคลั่ง อสูรร้ายแยกเขี้ยวขู่ ลิงลมรู้สึกว่ามีบางอย่างถูกลบออกจากหัวของมัน การสูญเสียทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบาย มันไม่สามารถระบุได้ว่าอะไรที่หายไปเนื่องจากไม่มีความทรงจำอีกต่อไป ความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นได้กระตุ้นธรรมชาติที่รุนแรงของลิงลม
ปรมาจารย์ดาบจ้องมองไปที่ลิงลมรู้สึกเศร้าและเสียใจ เขาพยายามเอื้อมมือออกไปปลอบอสูรของเขา
โฮก!
ลิงลมจ้องไปที่ปรมาจารย์ดาบในขณะที่ตื่นตัวเต็มที่ ดูเหมือนกำลังพูดว่า “อย่าเข้ามา”!
ปรมาจารย์ดาบรู้สึกไม่สบายใจ เขาถอนหายใจ “ฉันขอโทษ…”
โฮก!
ลิงลมรู้สึกถึงภัยคุกคามบางอย่างจากเขา
”คุณซู คอกเลี้ยงดูอยู่ที่ไหน?” ปรมาจารย์ดาบถามซูผิง หวืด หญิงสาวที่มีรูปร่างสมบูรณ์และใบหน้าที่สมบูรณ์แบบปรากฏขึ้นข้างๆ ซูผิง เธอคือโจแอนนา
เธอมีผมสีทองและกระดูกไหปลาร้าของเธอก็เซ็กซี่มาก เธอจ้องไปที่ลิงลมและแสงสีทองก็สว่างออกมาจากดวงตาของเธอ
เธอไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เปลือกตาของลิงลมปิดลงทันใด อสูรเกือบจะล้มลงกับพื้น แต่พลังงานที่มองไม่เห็นได้ยกร่างของลิงลมขึ้น
“นำไปที่คอกเลี้ยงดู” ซูผิงกล่าว
โจแอนนาพยักหน้า เธอหันหลังกลับและพาลิงลมไปที่ห้องอสูร
ปรมาจารย์ดาบและฉินตู้หวงหรี่ตาลง โจแอนนาไม่ได้ปลดปล่อยพลังดวงดาวใดๆ ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็รู้สึกสั่นสะท้านในใจเมื่อเธอยืนอยู่ข้างซูผิง สัญชาตญาณของพวกเขาได้กระตุ้นให้พวกเขาคุกเข่าลงและคำนับ
ผู้หญิงคนนั้นเกือบจะฆ่าหยวนเทียนเฉินตอนที่เขามาที่ร้าน ปรมาจารย์ดาบฝืนยิ้มขมขื่น
ร้านของซูผิงซ่อนอัจฉริยะที่ยังไม่ถูกค้นพบมากมาย!
ปรมาจารย์ดาบกลับมายกเลิกสัญญาเมื่อเขาสงบสติอารมณ์ลง
ก่อนที่เขาจะยกเลิกสัญญาฉินตู้หวงก็พูดกับเต่าหินระดับเก้าด้วยและถอนหายใจ “ลาก่อนเพื่อนเก่าของฉัน”
เต่าตัวใหญ่และเคลื่อนไหวช้า เต่าเงยหน้าขึ้นและจ้องมองที่ฉินตู้หวงอย่างนุ่มนวลแสดงออกถึงความรักและความเศร้า
ฉินตู้หวงแทบจะไม่สามารถมองเต่าได้ เขายกเลิกสัญญา
ในไม่ช้า แสงสว่างก็ปรากฏขึ้นเหนือเต่าและหายไป สิ่งมีชีวิตดูเหมือนจะงุนงง แต่ความสับสนก็หายไปหลังจากนั้นไม่นาน เต่ามองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตัวเต็มที่ มันสร้างชั้นป้องกันบางส่วนและถอยหลังกลับโดยมองว่าผู้คนที่อยู่ใกล้ๆเป็นศัตรู
โจแอนนาเข้ามา เต่ารู้สึกง่วงและไม่นานหลังจากนั้นโจแอนนาก็ย้ายมันไปที่ห้องอสูร
ฉินตู้หวงหน้าซีด ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าการยกเลิกนั้นทำให้จิตใจของเขาทรุดโทรมหรือว่าเขาเสียใจกับการจากลา เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เรียกอีกตัวหนึ่งมาและยกเลิกสัญญา
ทีละตัว…
อำลาแล้วอำลาเล่า ไม่นานพวกเขาก็ยกเลิกเสร็จ ทั้งสองดูซีดเซียว พวกเขาแทบจะยืนไม่ไหว กระบวนการนี้ส่งผลต่อจิตวิญญาณของพวกเขา พวกเขาจะรู้สึกอ่อนแอไปอีกสองสามวัน
ซูผิงถอนหายใจ
จู่ๆเขาก็มีคำถาม ทำไมอสูรถึงไม่สามารถเก็บความทรงจำในอดีตของพวกมันไว้ได้เมื่อสัญญาถูกยกเลิก? มันจะดีกว่ามากถ้ามีสัญญาที่สามารถปกป้องความทรงจำของอสูรได้ …
คราวนี้ระบบไม่ตอบ เขาไม่รู้ว่าระบบเลือกที่จะไม่สอดแนมจิตใจของเขาในตอนนี้ หรือว่ามันไม่มีคำตอบ ทั้งสองพักสักครู่ พวกเขาจ่ายเงินให้ซูผิงสำหรับอสูร และพวกเขาก็เลือกพวกมันทีละตัว
อสูรที่สูงหลายร้อยเมตรหดตัวเหลือสิบเมตรตามกฎของระบบ แต่ขนาดของอสูรจะไม่ส่งผลต่อการทำสัญญาแต่อย่างใด
โฮก!!
อสูรไม่ได้เป็นเพียงภาพฉายอีกต่อไป พลังงานที่เป็นของอสูรร้ายในสภาวะว่างเปล่าระยะหลังเริ่มแผ่ขยายออกมา ทำให้ทุกคนตกใจ
พวกเขาจะหนีไปถ้าไม่ใช่เพราะซูผิงอยู่ที่นี่
น่ากลัวมาก!
ปรมาจารย์ดาบ—ผู้เตรียมพร้อมที่จะทำสัญญาใหม่-จ้องไปที่อสูรที่เขาเพิ่งซื้อ ความเยือกเย็นและความรุนแรงมองเห็นได้ในสายตาของอสูร แต่มีบางอย่างที่เขาไม่รู้สึกจากร่างอวตาร เขาเริ่มขนลุก
“ไม่ต้องกังวล มันจะไม่โจมตีคุณ ไปทำสัญญาเถอะ” ซูผิงให้กำลังใจเขา
ระบบจะหยุดไม่ให้อสูรร้ายโจมตีไม่ว่าพวกมันจะดุร้ายแค่ไหนก็ตาม
ตามสัญชาตญาณ ปรมาจารย์ดาบต้องการถามซูผิงว่าเขาแน่ใจไหมว่าอสูรร้ายจะไม่โจมตี แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจไม่ถามเขาเอื้อมมือออกไปด้วยนิ้วที่สั่นเทาและทำสัญญา
ไม่นานหลังจากนั้น แสงสว่างก็ปกคลุมอสูรและปรมาจารย์ดาบ
เมื่อพลังแห่งสัญญาหมดสิ้น อสูรก็หยุดมองปรมาจารย์ดาบด้วยความรุนแรง แต่ความเย็นยะเยือกในดวงตายังคงน่ากลัวอยู่
ปรมาจารย์ดาบสามารถรับรู้ความรู้สึกและความคิดของอสูรผ่านสายสัมพันธ์ทางสัญญาได้ เขาบอกอสูรทันทีว่าเขาไม่มีความประสงค์ร้าย จากนั้นเขาก็ลูบอสูรร้ายอย่างระมัดระวัง
อสูรไม่ต่อสู้กลับ
ปรมาจารย์ดาบรู้สึกโล่งใจ เขารู้สึกถึงความรุนแรง ความเย็นชา ความโกรธ และความเจ็บปวดในใจ อสูรชั่วร้ายตัวนี้… ได้ผ่านความทุกข์ทรมานมามากมายอย่างแน่นอน
ปรมาจารย์ดาบรู้สึกสงสารอสูรร้าย มันเหมือนกับเมื่อคุณเห็นคนที่ไม่รู้จักหมกมุ่นอยู่กับความทุกข์ยาก คุณอาจไม่รู้สึกอะไรเลย แต่สัญญาทำให้ทุกอย่างแตกต่างออกไป เขากำลังมองอสูรเหมือนครอบครัวของเขา เขารู้สึกเสียใจและต้องการดูแลอสูร
“ต่อจากนี้ไปสู้ไปด้วยกันนะ” ปรมาจารย์ดาบกระซิบบอกอสูร
อสูรจ้องมองคนที่กำลังลูบขาและพ่นลมหายใจ การแสดงออกนั้นอาจเป็นการแสดงการดูหมิ่นหรือการอนุมัติ
ฉินตู้หวงเริ่มทำสัญญากับอสูรที่เขาซื้อทันที
โจวเทียนหลินและอู่กวนเฉิงมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ นั่นคืออสูรสภาวะว่างเปล่าระยะหลัง น่ากลัวมาก!
พวกเขาเชื่อว่ากางเกงของพวกเขาจะเปียกถ้าพวกเขาเห็นอสูรเหล่านั้นโจมตี
ทั้งสองตั้งสมาธิและเริ่มเลือกอสูรของตัวเองอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว