ตอนที่ 747 การแข่งขันอสูร
”ฮะ?”
คำตอบของซูผิงทำให้เขาตกตะลึง
ซูผิงกล่าวต่อ “ผมขอรับรองว่าอสูรที่ขายในร้านนี้คือที่สุด เราต้องทำการทดสอบเพื่อให้แน่ใจ กรุณารออย่างอดทน มาพรุ่งนี้ถ้าคุณต้องการซื้ออสูร หากคุณต้องการให้เราฝึกหรือดูแลอสูรของคุณ เราพร้อมให้บริการในตอนนี้”
ลูกค้าทุกคนรู้สึกท้อแท้กับคำตอบของเขา
ทุกคนมาที่นี่เพื่อมังกรอัสนีบาตรสวรรค์ ไม่มีใครสนใจการฝึกอะไรทั้งนั้น
พวกเขาชอบฝึกอสูรของพวกเขาในร้านค้าที่พวกเขาคุ้นเคย เพราะอสูรจะถูกทำลายในร้านค้าผิดกฎหมาย
นอกจากนี้อสูรมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการต่อสู้ของเหล่านักรบอสูร… ใครจะพร้อมมอบมันให้กับร้านค้าสุ่มสี่สุ่มห้าล่ะ?
ลูกค้าจากกันไปทีละคนหลังจากนั้นไม่นาน เหลืออยู่แค่ไม่กี่คน
ลูกค้าส่วนใหญ่มาเพื่อดูการขายมังกร พวกเขาทั้งหมดจากไปเมื่อพวกเขารู้ว่ามังกรไม่พร้อมใช้งาน
ท้ายที่สุด มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถซื้อมังกรอัสนีบาตสวรรค์และทำสัญญากับมันได้
ซูผิงไม่ได้ว่าอะไรลูกค้าที่จากไป มังกรที่เขาพามาที่ร้านทำหน้าที่เป็นโฆษณาที่ดีที่สุดสำหรับเขา อย่างน้อยก็บนถนนสายนี้ เขาจะดึงดูดลูกค้าบางคนให้มาใช้บริการอื่นๆ ในร้านของเขาเมื่อมังกรถูกขายในวันถัดไป
ในขณะนั้นเองมีคนที่ดูเหมือนสนใจอยากรู้จักบริการนี้ เขาถามว่า “เจ้าของร้านคุณสามารถฝึกอสูรสภาวะว่างเปล่า ได้ไหม?”
แม้ว่าเขาจะไม่เคยมาที่ร้านของซูผิงมาก่อน แต่เขามั่นใจว่าใครก็ตามที่สามารถมีมังกรอัสนีบาตสวรรค์ได้ถึง 10 ตัวในคราวเดียวจะไม่ใช่คนที่มีคุณสมบัติธรรมดาอย่างแน่นอน!
เขารับรู้ถึงพลังของร้าน และคิดว่ามันน่าจะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่ๆ
ซูผิงมองไปที่ชายหนุ่มและพบว่าเขาเป็นนักรบสภาวะสมุทร เขากล่าวว่า “ผมสามารถฝึกอสูรที่อยู่ต่ำกว่าระดับดวงดาวได้”
“อสูรตัวไหนก็ได้ที่อยู่ต่ำกว่าระดับดวงดาว” ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เชื่อมั่นในการคาดเดาของเขามากขึ้น เขาถามว่า “แล้วประเภทล่ะ? ผมตั้งใจจะฝึกมังกรปีกจองจำสภาวะว่างเปล่า!”
มันเป็นอสูรยอดนิยมอีกตัวที่อยู่ต่ำกว่าระดับดวงดาวในซิลวี่ มันเป็นลูกผสมระหว่างปีศาจกับมังกร มันเกือบจะแข็งแกร่งพอๆ กับมังกรอัสนีบาตสวรรค์!
ซูผิงยิ้มและกล่าวว่า “ไม่มีข้อจำกัด คุณสามารถฝึกอสูรประเภทใดก็ได้ที่นี่”
ชายหนุ่มเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย ไม่มีข้อจำกัด ? นับว่าน่าทึ่งมาก!
ผู้ฝึกสอนทุกคนมีอสูรที่พวกเขาคุ้นเคย พวกเขาจะไม่ฝึกอสูรประเภทอื่น ท้ายที่สุดมีอสูรหลายแสนสายพันธุ์
แต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการทำความคุ้นเคยกับคุณสมบัติเหล่านั้น
เมื่อซูผิงอ้างว่าเขาสามารถฝึกอสูรประเภทใดก็ได้ เขาไม่ได้หมายความว่ามีผู้ฝึกสอนกลุ่มใหญ่อยู่หลังร้านใช่ไหม?
เขาร่วมมือกับสมาคมผู้ฝึกสอนบางแห่งหรือเปล่า?
ชายหนุ่มคิดอย่างรวดเร็วและให้ความสำคัญกับร้านของซูผิงมากกว่าเดิม
เขาไม่ได้มาที่ถนนสายนี้บ่อยนัก แต่เขาก็เป็นคนท้องถิ่นในวอฟเฟ็ตอยู่ดี และเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับร้านของซูผิงมาก่อน ซึ่งอาจหมายความได้เพียงว่าร้านเปิดดำเนินการมาได้ไม่นาน!
ท้ายที่สุดแล้ว ร้านค้าที่มีมังกรอัสนีบาตสวรรค์สิบตัวจะไม่เป็นที่รู้จักในวอฟเฟ็ตได้ยังไง?
ร้านค้าเปิดใหม่มักจะให้บริการที่ดีที่สุดเสมอเพื่อดึงดูดลูกค้า นั่นเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะไปเยี่ยมร้านของพวกเขา!
ขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ชายหนุ่มก็ถามทันทีว่า “เจ้าของร้านต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการฝึกอสูร?”
“ครึ่งวันถ้าคุณรีบ ถ้าไม่รีบ คุณก็สามารถรับอสูรของคุณได้ในวันถัดไป” ซูผิงตอบด้วยรอยยิ้ม
“…”
ฟีลัสค่อนข้างตกใจ
ครึ่งวัน ถ้ารีบ?
วันหนึ่งถ้าไม่?
มันเป็นการฝึกอสูรหรือการอาบน้ำอสูร?
เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าการฝึกจะเสร็จสิ้นรวดเร็วแบบนี้ เว้นแต่สำหรับอสูรขั้นต่ำของผู้ฝึกหัดที่เพิ่งกลายเป็นนักรบอสูร…
แต่เขาบอกไปแล้วไงว่าเป็นอสูรสภาวะว่างเปล่า!
แม้แต่ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ก็ไม่สามารถเสร็จสิ้นการฝึกได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้!
ฟีลัสเริ่มสงสัยร้านของซูผิงชั่วขณะหนึ่ง
ซูผิงสังเกตเห็นความสงสัยในสายตาของลูกค้าและรู้สึกหมดหนทาง เขาสงสัยว่าเขาต้องเก็บอสูรไว้สักหนึ่งสัปดาห์หรือสองสัปดาห์เพื่อเอาใจลูกค้า
เขาคงจะทำอย่างนั้นเพื่อจบปัญหาถ้ามันไม่ส่งผลกระทบต่อเขา
อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้จะใช้พื้นที่อย่างมากในร้านของเขา!
ซูผิงทำได้เพียงพยายามเกลี้ยกล่อมลูกค้า “อย่ากังวล แม้การฝึกจะสั้นแต่ได้ผลแน่นอน อย่างน้อยอสูรของคุณจะเข้าใจทักษะใหม่หรือมีพลังต่อสู้ที่ดีขึ้นเล็กน้อย”
ร้านใหม่ของเขายังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เขาตั้งเป้าว่าจะดึงดูดลูกค้าทุกคนที่เขาพบ
ต่อมาเขาจะมีลูกค้าประจำอย่างมีอาและสามารถประหยัดเวลาและปัญหาของเขาได้
“…”
ฟีลัสพูดไม่ออก
เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับร้านของซูผิงก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เขาเกือบจะแน่ใจว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร้านนี้!
นายกำลังบอกฉันว่าการฝึกครึ่งวันหรือหนึ่งวันก็เพียงพอแล้วสำหรับอสูรของฉันที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่หรือพัฒนาพลังต่อสู้ของมัน
นายคิดว่าฉันโง่หรือไง?
ผู้ฝึกสอนจะดีได้ขนาดนั้นได้ยังไง? ผู้ชายคนนี้เป็นผู้ฝึกสอนระดับสุดยอดสองดาว หรือไง?
อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ฝึกสอนแบบนั้นในดาวเคราะห์นี้นี้!
ผู้ฝึกสอนระดับสุดยอดสองดาวไม่ค่อยพบเห็นในระบบสุริยะของเซรุปรันทั้งหมด ไม่งั้นผู้นำของตระกูลไลเยฟา ผู้ปกครองระบบสุริยะนั้นจะไม่ลังเลเลยที่จะไปเยี่ยมพวกเขาที่บ้าน
สำหรับผู้ฝึกสอนระดับสุดยอดหนึ่งดาว … ในซิลวี่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น!
“เจ้าของร้านผมมาจากตระกูลโมเรโน” ฟีลัสพูดกับซูผิงขณะจ้องมองเขา
ซูผิง: “?”
ฉันเสนอฝึกอสูรของนาย ทำไมถึงบอกชื่อตระกูล
”คุณหมายถึงอะไร?” ซูผิงมองเขาอย่างสงบ
ความโกรธที่พุ่งสูงขึ้นของฟีลัสจางหายไปทันทีเมื่อเขามองไปที่ความสงบในดวงตาของซูผิง จากนั้นเขาก็จำมังกรอัสนีบาตสวรรค์สิบตัวได้อีกครั้ง เมื่อพิจารณาจากขนาดแล้ว อย่างน้อย 3 ตัวเป็นอสูรสภาวะชะตากรรม
ร้านนี้…ฟีลัส กลืนความสงสัยที่เขากำลังจะพูดออกมา
เขาไม่แน่ใจจริงๆ
เจ้าของร้านอาจเป็นคนหลอกลวง แต่จำเป็นไหมที่เขาจะต้องหลอก ถ้าเขาสามารถหามังกรสภาวะชะตากรรมได้ 3 ตัวในการออกนอกบ้านครั้งเดียว?
ร้านนี้ได้รับการสนับสนุนโดยผู้ฝึกสอนระดับสุดยอดหรือไง?
ฟีเลียสครุ่นคิดอยู่ลึกๆ เขาลังเลราวกับว่าเขากำลังเล่นพนันอยู่
“นี่ใช่ฟีลัสไหมเนี่ย!”
ในขณะนี้ได้ยินเสียงเยาะเย้ยใกล้ประตู จากนั้นชายหนุ่มในชุดแฟชั่นดังก็เดินเข้ามา นาฬิกาบนข้อมือของเขาเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ไม่ใช่แค่เพื่อการแต่งตัวเท่านั้น พลังงานที่ฝังอยู่นั้นแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานการโจมตีของสภาวะชะตากรรม!
นาฬิกาเรือนนั้นมีเพียงผู้ที่มีอำนาจและมีคอนเน็คชั่นเท่านั้นที่สามารถซื้อได้
มันยังเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นสูง
ชายหนุ่มควงหญิงสาวสวย สูง ผมยาวสีม่วง ใบหน้าเย็นชา แต่มีความอ่อนโยนในดวงตาเมื่อเธอมองไปที่ผู้ชายข้างๆเธอ
“พาร์ค!”
ฟิลิอุสหันกลับมาและเห็นชายหนุ่ม จากนั้นเขาก็เคร่งขรึม มีแสงเย็นวาบในดวงตาของเขา
“นายมาที่นี่เพื่อฝึกอสูรของนายหรอ? ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างพูดว่าร้านนี้มีมังกรอัสนีบาตสวรรค์สิบตัว จริงหรือเปล่า? เฮ้ คุณเป็นเจ้าของร้านงั้นเหรอ?”
ครึ่งหลังของประโยคของเขาพูดกับซูผิง
“ก็จริง แต่จะไม่สามารถขายได้จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้” ซูผิงตอบด้วยรอยยิ้มสบายๆ
”จริงหรอ?” พาร์คก้าวไปข้างหน้าและยิ้ม “เจ้าของร้าน ช่วยยกเว้นผมหน่อยได้ไหม? ผมต้องการซื้อวันนี้ แม้ว่ามันจะหมายถึงการจ่ายเพิ่ม เงินไม่ได้มีความหมายอะไรกับผม”
จากนั้นเขาก็เหลือบมองฟีลัสและหัวเราะ “นายกำลังฝึกอสูรของนายที่นี่เพราะต้องการท้าทายฉันในการแข่งขันอสูรอย่างงั้นหรอ?”
ฟีลัส พูดอย่างเย็นชาว่า “เป้าหมายของฉันคือจุดสูงสุดของเมืองวอฟเฟ็ดและนายเป็นเพียงบันไดขั้นหนึ่งในสายตาของฉัน นายไม่สมควรเป็นเป้าหมายของฉัน!”
“ฮ่าฮ่า…” พาร์คหัวเราะและพูดว่า “นายต้องเอาชนะฉันให้ได้ก่อนถึงจะคุยโวเรื่องจุดสูงสุดได้ อะไรทำให้นายคิดว่านายสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้ นายจะใช้มังกรปีกจองจำขี้แพ้ตัวนั้นนะหรอ?”
ฟีลัส กำหมัดแน่นและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันแค่ประมาท!”
“คนแพ้มักมีข้ออ้างเสมอ ตลกและน่าสมเพช…” พาร์คส่ายหัวด้วยรอยยิ้มและพูดกับสาวสวยที่อยู่ข้างๆ เขาว่า “เธอเห็นไหม? เขามาจากตระกูลโมเรโน เธอควรรักษาระยะห่างจากตระกูลของเขา พวกมันจะถูกทำลายในไม่ช้า!”
สาวสวยมองที่ ฟีลัส อย่างสงสัยและเม้มปากด้วยรอยยิ้มหลังจากได้ยินอย่างนั้น เธอไม่ได้พูดอะไร แต่รอยยิ้มของเธอทำให้ ฟีลัสรู้สึกแย่มาก
“เจ้าของร้าน ว่ายังไง? คุณจะขายให้ผมหนึ่งตัวได้ไหม?” พาร์คเพิกเฉยต่อ ฟีลัส และพูดกับซูผิงว่า“ผมสามารถจ่ายให้คุณอีกร้อยล้านถ้าคุณขายให้ผมวันนี้ ฟังดูเป็นยังไง?”
ซูผิงมองไปยังลูกค้าสองคนที่เห็นได้ชัดว่าเป็นศัตรู แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อย่างที่ผมบอกไป ถ้าคุณต้องการซื้อให้กลับมาใหม่พรุ่งนี้ นอกจากนี้ราคาของอสูรในร้านนี้ได้รับการคำนวณมาดีแล้ว คุณไม่สามารถจ่ายมากกว่าหรือน้อยกว่าได้”
”ฮะ?”
พาร์คเลิกคิ้วและมองไปที่ซูผิง “เจ้าของร้าน นั่นเป็นกฎที่ค่อนข้างอวดดี!”
ซูผิงยิ้ม “กฎก็คือกฎ และลูกค้าทุกคนในร้านนี้ต้องปฏิบัติตามกฎของผม”
พาร์คหรี่ตาและจ้องไปที่ซูผิง ในที่สุดเขาก็หัวเราะและพูดว่า “ในเมื่อเจ้าของร้านปฏิเสธที่จะหารายได้พิเศษก็ตามใจ ผมจะดูว่าผมมีอารมณ์ที่จะมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้ไหม… เพราะผมไม่เหมือนบางคน ผมมีมังกรอัสนีบาตสวรรค์อยู่แล้ว…”
เขาหันกลับมาขณะพูด เดินควงหญิงสาวออกไป
พาร์คหยิ่งแต่ไม่โง่ ความจริงที่ว่าร้านของซูผิงมีมังกรอัสนีบาตสวรรค์สิบตัว แสดงว่ามีบริษัทใหญ่ๆ หรือตระกูลใหญ่ที่คอยสนับสนุนเขา
มันคงเป็นเรื่องงี่เง่าที่จะทำให้คนๆหนึ่งโกรธโดยที่ไม่รู้ภูมิหลังของเขาชัดเจน
ในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลใหญ่ พาร์คได้รับการสอนเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นมาตั้งแต่วัยเด็ก ความเย่อหยิ่งเพียงอย่างเดียวไม่ได้ทำให้เขาเติบโต
ซูผิงมองไปที่ฟีลัสหลังจากที่พาร์คออกไป ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะมีอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาถามเขาด้วยรอยยิ้มว่า “การแข่งขันอสูรที่คุณพูดถึงคืออะไร? มีรางวัลอะไรไหม?”Aileen-novel
ดูเหมือนว่าฟีลัสจะฟื้นจากความเศร้าโศกและโทสะ เขามองไปที่ซูผิงและตอบคำถามอีกข้อหนึ่งว่า“เจ้าของร้านการฝึกฝนของคุณรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจริงหรอ?”
ซูผิงเลิกคิ้วโดยไม่สนใจคำถามของเขาที่ยังไม่ได้รับคำตอบ เขากล่าวว่า “ผมไม่ต้องการพูดซ้ำ คุณสามารถลองได้”
ฟีลัสกัดฟันและพูดว่า “โอเค!”
จากนั้นในที่สุดเขาก็จำคำถามของซูผิงได้และพูดอย่างเชื่องช้า “ขออภัย ผมไม่ได้ตอบคำถามของคุณ คุณไม่รู้จักการแข่งขันอสูรเหรอ? มันเป็นงานที่จัดขึ้นบนดาวรีอาทุก ๆ สามปี!”
“อย่างนั้นหรอ? ผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับที่นี่นัก” ซูผิงกล่าวพร้อมส่ายหัว
ฟีลัสสังเกตเห็นสีผมและรูปลักษณ์ของซูผิง โดยตระหนักว่าเขาเป็นมาจากต่างดาว เขาจึงเสริมว่า “คุณต้องยังใหม่กับที่นี่ เจ้าของร้านการแข่งขันอสูรเป็นการแข่งขันของอสูรตามชื่อ เจ้าของของพวกมันจะไม่ก้าวเข้าไป อสูรต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง!
“การแข่งขันแบ่งออกเป็นสามประเภท:สภาวะสมุทร สภาวะว่างเปล่า และสภาวะชะตากรรม!
“ผู้เข้าแข่งขันสิบอันดับแรกของแต่ละระดับจะได้รับรางวัล!
“หากคุณสามารถรักษาตำแหน่งสูงสุดในทุกระดับ ไม่เพียงแต่คุณจะได้รับรางวัลใหญ่เท่านั้น คุณยังอาจได้รับความชื่นชมจากยอดฝีมือระดับดวงดาว!
“เจ้าแห่งดาวเคราะห์ของเรามักเชิญเพื่อนระดับดวงดาวของเขามาดูรอบชิงชนะเลิศ พวกเขาให้ทิปผู้เข้าแข่งขันอย่างใจกว้าง ที่สำคัญกว่านั้น อสูรของคุณอาจมีชื่อเสียงหลังจากการต่อสู้เพียงครั้งเดียว!”
การแนะนำของ ฟีลัส ทำให้ซูผิงเข้าใจการแข่งขันมากขึ้น
อสูรจะต่อสู้กันเองโดยปราศจากการแทรกแซงของเจ้าของ?
ดังนั้นอสูรที่มีความแข็งแกร่งและไหวพริบสูงสุดจะเป็นผู้ชนะในแต่ละประเภทอย่างงั้นใช่ไหม?
น่าเสียดายที่ข้อกำหนดขั้นต่ำคือสภาวะสมุทร เป็นไปไม่ได้ที่โครงกระดูกน้อยจะเข้าร่วม มิฉะนั้นพวกเขาคงจะสนุกมาก ซูผิงรู้สึกเสียใจอยู่หน่อยๆ
อย่างไรก็ตามโครงกระดูกน้อยดูเหมือนกำลังจะทะลวงผ่านไป ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นไปได้ที่จะเข้าร่วมในประเภทสภาวะสมุทร เมื่อพิจารณาถึงไหวพริบแล้ว ก็ไม่ยากที่จะๆได้ตำแหน่งสูงสุด
“คุณสามารถค้นหาได้ทางอินเทอร์เน็ตหากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม คุณสามารถรับรางวัลมากมายในการจัดอันดับระดับภูมิภาคและระดับดาวเคราะห์ในทุกขั้นตอนของการแข่งขัน หากอสูรของคุณได้รับการยอมรับว่าเป็นอสูรที่ดีที่สุดในดาว จะได้รับผลไม้ที่สามารถกระตุ้นพลังไหวพริบและยกระดับความสามารถให้สูงขึ้นไปอีก!
“เจ้าของอสูรก็จะได้รับรางวัลเช่นกัน คุณอาจได้รับหินดวงดาวสิบล้านก้อน!” ฟีลัสประกาศด้วยสายตาที่หลงไหล เขารู้ว่ามันเป็นเป้าหมายที่ยากมากสำหรับเขาในการคว้าตำแหน่งสูงสุดในเมืองวอฟเฟ็ต
ยกตัวอย่างเช่นพาร์คเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือในท้องถิ่นอีกมากมาย
“หินดวงดาว?” ซูผิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย พวกมันคืออะไร?
แต่เขาไม่ได้ถาม เขาจะค้นหาพวกมันด้วยตราผู้ปกครองในภายหลัง เขาไม่ต้องการทำตัวงี่เง่าถ้าเป็นเรื่องพื้นฐาน ซึ่งจะทำให้ลูกค้าไม่ไหวใจร้านซะเปล่าๆ
“เจ้าของร้านผมต้องการฝึกจระเข้เขียวสภาวะสมุทร” ฟีลัส กล่าว
เขาไม่ได้เลือกมังกรปีกจองจำของเขา อย่างไรก็ตามคำกล่าวอ้างของซูผิงนั้นเหลือเชื่อเกินไป เขาอยากลองทำด้วยตัวอื่นดูก่อน
ซูผิงเลิกคิ้วหลังจากได้ยินการตัดสินใจของชายผู้นี้ โดยตระหนักถึงจุดประสงค์ของเขา
ถึงกระนั้นเขาเลือกที่จะไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เนื่องจากต้องใช้เวลากว่าจะชนะใจใครซักคน
”ตกลง” เขารีบรับงานนี้
ฟีลัส ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกลไกการปรับขนาดในร้านของซูผิงเมื่อเขาเรียกอสูรตัวนี้ออกมาและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เขาจำมังกรอัสนีบาตสวรรค์สิบตัวที่หายตัวไปในร้านของซูผิงได้ในทันที ทำให้เขารู้สึกมีความหวังมากขึ้นเกี่ยวกับร้าน หากการฝึกได้ผลจริงอย่างที่ซูผิงอ้าง เขาสามารถให้อสูรของเขาได้รับการฝึกฝนที่นี่ทุกวันก่อนที่จะมีการจัดแข่งขันอสูร
ปล.ตอนต่อไปแอดเปิดกลุ่มใหม่นะคะ เริ่มลวอีกทีวันจันทร์น้า ถ้าสนใจเข้ามาดูข้อมูลได้ที่เพจFacebook Sbb Translate นะคะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว