ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 749

ตอนที่ 749 บททดสอบสวรรค์ของสุนัขมังกรดำ
　　ซูผิงมองไปที่อสูรของเขาในขณะที่ครุ่นคิด
　　โครงกระดูกน้อยอยู่ในระดับเก้าขั้นสูง
　　มังกรเพลิงนรกยังอยู่ในขั้นกลาง
　　สุนัขมังกรดำพัฒนาจากระดับเก้าขั้นกลางเป็นขั้นสูงหลังจากถูกเจ้าแห่งถ้ำลึกต้อนจนมุม
　　ส่วนอสรพิษม่วงนั้นยังอยู่ในระดับหก แม้ว่าจะมีพลังต่อสู้เท่าสภาวะสมุทรและมีไหวพริบสูง แต่ก็ยังห่างไกลจากสภาวะสมุทร
　　ซูผิงไม่ได้ตั้งใจจะพัฒนาระดับของมันเช่นกัน ท้ายที่สุดยิ่งระดับต่ำการฝึกก็ยิ่งง่าย เขาตั้งใจที่จะฝึกอสูรที่มีความสามารถสูงสุดเพื่อปลดล็อกบริการใหม่ๆของระบบ
　　ถึงเวลาปลดผยึกมรดกมังกรที่ถูกผนึกไว้ในร่างของสุนัขมังกรดำแล้ว ซูผิงคิด
　　แน่นอนว่าเขายังไม่สามารถปลดผนึกได้ทั้งหมด
　　มีผนึกเก้าชั้นอยู่ภายในสุนัขมังกรดำ มันสามารถทะลวงไปสู่สภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุดได้หากพวกมันทั้งหมดถูกปลด!
　　อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของระดับนั้นแทบจะไม่สามารถแปลงเป็นพลังต่อสู้ได้ หากปราศจากการขัดเกลาอย่างเหมาะสม
　　เป็นสาเหตุหนึ่งที่ซูผิงไม่ปลดผนึกระหว่างการทำสงครามกับเจ้าแห่งถ้ำลึก นอกจากนี้ในตอนนั้นเขายังเป็นเพียงนักรบระดับเก้า และถึงแม้เขาจะปลดผนึกก็ตาม สุนัขมังกรดำก็จะไปถึงสภาวะสมุทรขั้นสูงสุดเท่านั้น
　　การพัฒนาเพียงระดับเดียวจะไม่มีความสำคัญในสนามรบ สุนัขมังกรดำจะมีพลังงานเพิ่มขึ้นเพียงสิบเท่าหลังจากไปถึงสภาวะสมุทร มันจะถูกศัตรูของสภาวะชะตากรรมจัดการได้อย่างง่ายดาย
　　“แกจะเป็นอสูรระดับราชาตัวแรกของฉัน!”ไอรีนโนเวล
　　ซูผิงเข้าใกล้สุนัขมังกรดำแล้ววางมือบนตัวมัน
　　สุนัขมังกรดำสับสน
　　พลังวิญญาณมังกรที่ซ่อนอยู่ในร่างกายถูกดึงออกมา มันเปล่งแสงสีทองซึ่งแผ่กลิ่นอายของมังกรออกมาด้วย
　　”ทำลาย!”
　　”ทำลาย!”
　　”ทำลาย!”
　　”ทำลาย!”
　　ซูผิงทำลายผนึกสี่ผนึกติดต่อกัน ร่างกายของอสูรเปล่งพลังงานออกมาอย่างท่วมท้น ขนของมันนุ่มลื่นราวกับแช่น้ำมาหมาดๆ
　　ขนหย่อม ๆ เรืองแสงจากด้านล่างกลายเป็นทอง!
　　นั่นคือการตื่นของสายเลือดมังกรล้างสวรรค์ ในร่างกายของมัน
　　สุนัขมังกรดำแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผนึกถูกปลดออก ในไม่ช้าก็ทำลายขีดจำกัดและพุ่งขึ้นสู่สภาวะสมุทรขั้นสูงสุดอย่างรวดเร็ว
　　ดวงตาของสุนัขมังกรดำกลายเป็นสีทองอร่ามราวกับดวงดาว
　　มีความสับสนเล็กน้อยในดวงตาของมัน
　　ไม่เพียงแต่สายเลือดมังกรที่ซ่อนอยู่จะตื่นขึ้นเมื่อผนึกถูกปลดออกเท่านั้น ข้อมูลทางพันธุกรรมบางอย่างก็ถูกส่งไปยังจิตใจของสุนัขด้วย
　　มันเป็นมรดกของมังกรล้างสวรรค์ที่บินอยู่บนทะเลทรายโบราณ
　　ความทรงจำฝังลึกในหัวของสุนัขมังกรดำทำให้รู้สึกเหมือนเป็นมังกรล้างสวรรค์ที่แท้จริง
　　มันเริ่มแผ่แรงกดดันที่น่ากลัวของมังกรและทำให้มังกรเพลิงนรกก้มหัวลงและมองไปที่เพื่อนเล่นของมัน แรงกดดันมังกรที่ปล่อยออกมาจากสุนัขมังกรดำนั้นดูน่าเกรงขามมากกว่าของมังกรเพลิงนรก
　　มังกรเพลิงนรกจะต้องตกใจและหวาดกลัวหากพวกมันไม่ได้มีนายคนเดียวกัน และได้ต่อสู้ร่วมกันมาเป็นเวลานาน!
　　โครงกระดูกน้อยเหลือบมองสุนัขแต่ไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ
　　อสรพิษม่วงก็ดูอยากรู้อยากเห็น ถึงกระนั้นมันก็เห็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวมามากเกินไปตั้งแต่เริ่มติดตามซูผิง
　　แม้แต่อสูรร้ายสภาวะชะตากรรมก็ยังสั่นสะท้านด้วยความกลัวหากสุนัขมังกรดำปล่อยกลิ่นอายมังกรออกมา!
　　พลังงานดังกล่าวเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ สายเลือดของมังกรล้างสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่กว่าของระดับดวงดาว มังกรชราที่ถ่ายโอนมรดกให้สุนัขมังกรดำมีความสามารถสูงสุด มันยังไม่ได้กระตุ้นศักยภาพทั้งหมดของมัน เพียงแค่ไปถึงระดับดวงดาวในท้ายที่สุด
　　ไม่เลว…
　　ซูผิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจในขณะที่เขามองการเปลี่ยนแปลงของสุนัขมังกรดำ
　　เขาดูสถานะอสูรของเขาอีกครั้ง
　　ตระกูลมังกร (หนึ่งในเจ็ดของสายเลือดปีศาจ)
　　ระดับ: สภาวะสมุทรขั้นสูงสุด
　　พลังต่อสู้: 34.2
　　ไหวพริบ : กลาง-สูง
　　ทักษะพรสวรรค์: ทักษะว่องไวพื้นฐาน
　　ทักษะสายเลือด: เสียงคำรามสะเทือนสวรรค์, เงามืดขั้นกลาง ไฟมิติ
　　ทักษะ: การป้องกันลม การป้องกันน้ำแข็ง, การป้องกันไฟ, การป้องกันดิน, เกราะเทพสายฟ้า…(อีกมากกว่าสิบ)
　　…
　　พลังต่อสู้ของมันเพิ่มขึ้นจาก 26 เป็น 34 นั่นคือการเพิ่มขึ้นแปดแต้ม!
　　ซูผิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่แล้วก็พบว่ามันเข้าใจได้ ท้ายที่สุดการพัฒนาจากขั้นระดับเก้าขั้นสูงไปสู่สภาวะสมุทรจะมีผลต่อความแข็งแกร่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
　　บางทีอสูรอาจแข็งแกร่งขึ้นหลังจากย่อยมรดก
　　พลังต่อสู้ครั้งก่อนของสุนัขมังกรดำนั้นเป็นเรื่องปกติในสภาวะว่างเปล่า ท้ายที่สุดมันน่าทึ่งพอแล้วที่สามารถต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตสภาวะว่างเปล่าได้
　　อสูรสภาวะว่างเปล่าไม่ได้เป็นภัยคุกคาม เว้นแต่ว่าพวกมันจะมีความสามารถสูง รวมถึงพลังต่อสู้ที่เกินกว่าระดับของพวกมัน
　　เงามืดขั้นกลางสามารถเปลี่ยนร่างของมันให้เป็นเงาได้ ดังนั้นมันจึงมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีทางกายภาพหรือพลังงานใด ๆ ? ซูผิงรู้สึกทึ่งกับทักษะของสุนัขมังกรดำ
　　ความสามารถทางสายเลือดทั้งสามนั้นทรงพลังและสุนัขมังกรดำก็ยังไม่คุ้นเคยกับพลังใหม่หลังจากการปลดผนึกเหล่านั้น มันจะกลายเป็นอสูรสภาวะชะตากรรมเมื่อมันเข้าใจมรดกอย่างเต็มที่
　　อย่างไรก็ตามในขณะนี้ซูผิงสามารถทำสัญญากับอสูรสภาวะว่างเปล่าได้เท่านั้น เขาจะต้องยกเลิกสัญญาถ้าเขาปลดผนึกที่เหลือออก
　　ถึงเวลาฝึกและขัดเกลาแล้ว มันต้องย่อยพลังใหม่ นอกจากนี้ฉันสามารถสอนทักษะใหม่ของฉันให้กับอสูรได้… ซูผิงคิด
　　เขาให้มันแค่ทักษะว่องไวพื้นฐาน
　　เขาทำอย่างนั้นด้วยคู่มือการตรัสรู้เพื่อปลุกพรสวรรค์
　　ปัจจุบันซูผิงมีคู่มือการเร่งขั้นกลาง ซึ่งเป็นคู่มือการตรัสรู้ซึ่งสามารถปลุกพรสวรรค์ที่สองได้
　　คู่มือการเร่งขั้นกลางและทักษะว่องไวพื้นฐานนั้นเกี่ยวกับความเร็ว แต่พวกมันมีพื้นฐานมาจากกลไกที่แตกต่างกัน
　　ดังนั้นพวกมันจึงสามารถแสดงทักษะทั้งสองอย่างที่ซูผิงทำได้
　　ซูผิงนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ทำไมสุนัขมังกรดำถึงไม่กระตุ้นการลงทัณฑ์ของสวรรค์?
　　การบุกทะลวงสู่สภาวะสมุทรจะทำให้เกิดการลงทัณฑ์ของสวรรค์ เราต้องผ่านมันไปให้ได้เพื่อที่จะไปถึงสภาวะสมุทร
　　อย่างไรก็ตามสุนัขมังกรดำเพิ่งมาถึงสภาวะสมุทรโดยไม่ต้องผ่านการลงทัณฑ์ของสวรรค์ใด ๆ !
　　“การลงทัณฑ์ของสวรรค์จะถูกยกเลิกชั่วคราวหากนายทะลวงผ่านในร้านนี้” ระบบกล่าวอย่างเฉยเมย
　　ซูผิงไม่รู้จะพูดอะไร
　　เขารู้สึกทึ่งกับระบบอีกครั้ง
　　มันทำให้บททดสอบสวรรค์เป็นโมฆะได้? นี่มันสุดยอดไปแล้ว!
　　ซูผิงอดไม่ได้ที่จะถาม “สุนัขมังกรดำจะทำให้เกิดการลงทัณฑ์ของสวรรค์หรือไม่ถ้าฉันปล่อยให้มันเดินออกจากร้าน?”
　　ระบบพูดอย่างไม่เป็นทางการว่า “ใช่ แต่นายต้องพิจารณาว่าจะอนุญาตให้การลงทัณฑ์ของสวรรค์เกิดขึ้นในที่สาธารณะหรือไม่ นับประสาอะไรกับการอยู่ในพื้นที่ธุรกิจ”
　　ซูผิงพูดไม่ออก มันเป็นความจริงที่การลงทัณฑ์ของสวรรค์ถูกห้ามในวอฟเฟ็ต นอกจากนี้ไม่มีใครจะทำอย่างนั้นได้แม้ว่าจะต้องการก็ตาม ใครก็ตามที่ผ่านการลงทัณฑ์ของสวรรค์จะมีพลังเพิ่มเป็นสองเท่า แต่ใครก็ตามที่ถูกทดสอบอาจถูกฆ่าตายเพราะมัน
　　“ถ้าอย่างนั้น อย่างน้อยฉันก็สามารถไปที่สนามบ่มเพาะสักที่ก็ได้ใช่ไหม…?” ซูผิงพูดได้เพียงเท่านั้น
　　ระบบไม่ได้ปฏิเสธ ดังนั้นคำตอบจึงชัดเจน
　　โดยไม่พูดอะไรซูผิงเรียกอสูรของเขาทั้งหมดแล้วทำสัญญาชั่วคราวกับจระเข้เขียวของฟีลัสในห้องอสูร จากนั้นเขาก็ขอให้โจแอนนาไปด้วย
　　ไปกันเถอะ!
　　ทันทีที่พวกเขาไปถึงหลุมศพกึ่งเทพ ซูผิงก็ตรวจพบกลิ่นที่คุ้นเคยของการลงทัณฑ์ของสวรรค์
　　บูม~!
　　เมฆมืดและสายฟ้าวาววับเริ่มรวมตัวกันเหนือหัวของพวกเขา
　　“การลงทัณฑ์สวรรค์?”โจแอนนาตกตะลึงและสังเกตเห็นว่าสุนัขมังกรดำได้ทะลวงไปสู่สภาวะสมุทรแล้ว เธอตกใจเมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
　　อสูรของซูผิงไปถึงสภาวะสมุทรตั้งแต่ที่ร้าน แต่ไม่มีการลงทัณฑ์ของสวรรค์ใด ๆ เกิดขึ้น ทำไมถึงมาเกิดที่นี่?
　　อสูรทะลวงเข้าสู่สภาวะสมุทรโดยไม่ผ่านการลงทัณฑ์สวรรค์?
　　เธอตกใจมาก เพราะมันบ่งบอกว่าซูผิงขัดขวางการลงทัณฑ์สวรรค์ไว้!
　　จะมีใครขัดขวางการลงทัณฑ์ได้?
　　หมายความว่าซูผิงหลอกสวรรค์ในโลกของเขา!
　　ความประหลาดใจของโจแอนนาเพิ่มมากขึ้น แม้แต่เทพสูงสุดในหลุมศพกึ่งเทพก็ไม่เคยไปถึงระดับสวรรค์ได้ เธอแค่ได้ยินมาว่ามีระดับสูงที่กว่าเทพสูงสุด และนั่นคือ’สวรรค์’ซึ่งควบคุมทุกความเป็นไปในโลก
　　สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งราวกับสวรรค์นั้นไม่สามารถจินตนาการได้สำหรับพวกเธอ!
　　โจแอนนาตั้งตาคอยที่จะไปแดนเทพอาเคี่ยนตามที่ซูผิงสัญญาไว้กับเธอ แต่เธอเพิ่งมารู้สึกมั่นใจเอาก็ตอนนี้
　　ซูผิงมีผู้สนับสนุนที่สามารถหลอกสวรรค์ได้ การไปแดนเทพอาเคี่ยนดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวแล้ว
　　“ให้สุนัขมังกรดำจัดการเอง”
　　จากนั้นซูผิงก็ขอให้โครงกระดูกน้อยและโจแอนนาถอย
　　เขาสามารถชุบชีวิตสุนัขได้แม้ว่าจะถูกสายฟ้าผ่าก็ตาม ไม่จำเป็นที่ต้องช่วยมัน
　　โจแอนนาเงยหน้าขึ้นและเห็นสุนัขมังกรดำอยู่บนท้องฟ้า ขนสีทองของมันพองขึ้นและหางก็ยาวขึ้น มันถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองพร่ามัวที่ดูเหมือนภาพลวงตา
　　เมฆมืดเหนือหัวของสุนัขมังกรดำนั้นกว้างใหญ่มาก
　　โจแอนนาค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่เธอเห็น
　　เมฆปกคลุมเกือบร้อยกิโลเมตร!
　　และยังคงขยายต่อไป!
　　ห้านาทีต่อมา รัศมีไปถึงหนึ่งร้อยห้าสิบกิโลเมตรแล้ว!
　　เมฆนั้นกว้างกว่าร่างนี้ของโจแอนนาตอนเธอผ่านการลงทัณฑ์ของสวรรค์เพื่อไปถึงสภาวะสมุทร!
　　แม้ว่าเธอจะไม่ได้ใช้วัตถุดิบหายากมากมายกับร่างกายนี้หรือฝึกฝนทักษะเทพใด ๆ แต่มันก็สืบทอดทางเลือดของเธอซึ่งเป็นของเทพไททันอยู่ดี
　　เลือดของเทพไททันเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะยกระดับความสามารถของเธอให้ถึงจุดสูงสุดและทำให้เกิดการก่อตัวของเมฆในรัศมีหนึ่งร้อยกิโลเมตร!
　　ถึงกระนั้นสุนัขของซูผิงก็ยังแซงหน้าเธอ!
　　รัศมีของเมฆเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าสุนัขมีศักยภาพที่จะกลายเป็นเทพหลัก!
　　เทพหลักคืออะไร?
　　พวกเขาเป็นสุดยอดฝีมือแม้กระทั่งในหลุมศพกึ่งเทพ!
　　เทพหลักเป็นอันดับสองรองจากเทพผู้ปกครองและเทพสูงสุด!
　　ซูผิงรู้สึกประหลาดใจพอๆ กันที่ได้เห็นศักยภาพของสุนัขมังกรดำ จากนั้นเขาก็ตระหนักว่าอาจเป็นเพราะสายเลือดของมังกรล้างสวรรค์ที่เพิ่งถูกเปิดผนึก
　　ท้ายที่สุดแล้วเผ่าพันธุ์มังกรล้างสวรรค์นั้นแข็งแกร่งกว่าระดับดวงดาวมาก
　　หากสุนัขมังกรดำได้รับการปลดผนึกจนหมดและได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเพื่อปลุกพลังสายเลือดทั้งหมดของมัน มันอาจไปไกลเกินระดับดวงดาวและกลายเป็นเจ้าดวงดาว มันยังมีโอกาสไปถึงสภาวะเทพดวงดาว(แก้จากสภาวะสวรรค์)อีกด้วย!
　　บูม!
　　ในไม่ช้า เมฆก็รวมตัวกันอย่างสมบูรณ์ และสายฟ้าก็ฟาดลงมา ห่อหุ้มสุนัขมังกรดำ
　　ซูผิงสังเกตจากระยะไกล ตรวจสอบบรรยากาศของการลงทัณฑ์สวรรค์