ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 752
ตอนที่ 752 การเติบโตอย่างรวดเร็ว
ซูผิงหยุดถ่ายทอดความรู้
เผ่าแมลงก็เป็นอสูรของเขาเช่นกัน แต่เขาไม่ได้ฝึกมันมากนัก เขาเพิ่งทำสัญญากับมันเพราะเขาอยากรู้เกี่ยวกับแมลงพิเศษที่ครั้งหนึ่งเคยบุกรุกหลุมศพกึ่งเทพ
แมลงจะกินเหล่าทวยเทพเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามซูผิงไม่เคยศึกษาศักยภาพอื่น ๆ ของมัน และไม่ได้ส่งมันไปต่อสู้ จึงยังไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดความรู้
สำหรับมังกรอัสนีบาตสวรรค์เกล็ดขาว เขาเพิ่งรู้จักมันไม่นาน เขายังไม่รู้ว่าจะเก็บไว้เป็นอสูรไหม
เขาจับมันมาเพื่อภารกิจของระบบเท่านั้น
แม้ว่าไหวพริบของมันจะไม่ได้แย่เพราะเป็นอสูรป่าขั้นกลาง แต่ซูผิงก็มีมังกรเพลิงนรกอยู่แล้ว
เขาให้คำมั่นว่าจะฝึกมังกรเพลิงนรกให้กลายเป็นมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!
ซูผิงตั้งเป้าที่จะทำตามสัญญาและไม่สนใจมังกรตัวอื่น แม้ว่าเขาจะได้มันมา เขาก็จะไม่ใช้เวลาและความพยายามมากเกินไปกับมัน
ท้ายที่สุดถ้าเขามีเวลา เขาจะใช้มันกับมังกรเพลิงนรกเพื่อทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น!
คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ เขาจะไม่คิดที่จะรับอสูรเพิ่มเว้นแต่ว่าเขาจะไม่สามารถพัฒนาอสูรที่เขามีต่อไปได้
อย่างไรก็ตามซูผิงยังห่างไกลจากขีดจำกัดของสิ่งที่อสูรของเขาสามารถทำได้
“หนังสือไหวพริบอสูรสามารถเพิ่มไหวพริบได้หนึ่งระดับใช่ไหม? ถ้าฉันนำไปใช้กับอสรพิษม่วง มันจะเข้าสู่จักรวาลคู่ขนานโกลาหลไหม?” ซูผิงถาม
“หนังสือไหวพริบอสูรสามารถเพิ่มอสูรให้อยู่ในระดับสุดยอด-สูงเท่านั้น” ระบบตอบ
ดวงตาของซูผิงเบิกกว้างและเขาถามว่า “ไม่ใช่การพัฒนาหนึ่งระดับหรอกหรอ?”
“นั่นเป็นการพัฒนาหนึ่งระดับอย่างแน่นอน”
“…”
ซูผิงตะลึงกับคำตอบ แต่ถึงกระนั้น เขาตระหนักว่ามันยังคงค่อนข้างน่ากลัวหากระดับสุดยอด-กลางได้รับการอัพเกรดเป็นสุดยอด-สูง อสรพิษม่วงน่าจะได้รับทักษะอันทรงพลังบางอย่าง
อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันเป็นไปไม่ได้ที่อสูรของเขาจะเข้าสู่จักรวาลคู่ขนานโกลาหล การให้หนังสือเล่มนี้จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด
แม้ว่าไหวพริบของมันจะได้รับการพัฒนาให้อยู่ในขั้นสุดยอด-สูง แต่ก็จะมีเพียงแค่พลังต่อสู้ของระดับดวงดาว
ซูผิงพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจที่จะเก็บมันไว้จนกว่าโครงกระดูกน้อยจะกลับมา
จนถึงตอนนี้โครงกระดูกน้อยเป็นอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา เขาไม่ได้ลำเอียง เขาแค่ต้องเสริมพลังให้อสูรที่ดีที่สุดของเขาเพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง
เหมือนกันกับคมดาบ ต้องเลือกดาบที่คมที่สุด โครงกระดูกน้อยเป็นดาบของซูผิง
หลังจากไตร่ตรองอีกเล็กน้อย ซูผิงตัดสินใจกลับไปที่วัดกับโจแอนนา
จากนั้นเขาก็ออกจากวัดและไปที่สถานที่อันตรายในหลุมศพกึ่งเทพพร้อมกับนักรบระดับดวงดาว
”ตายซะ!”
ซูผิงสั่งให้มังกรอัสนีบาตสวรรค์และจระเข้เขียวพุ่งเข้าใส่อสูรร้ายสภาวะสมุทร สิ่งมีชีวิตนั้นดูดซับพลังเทพและกลายเป็นอสูรกึ่งเทพ
อสูรร้ายสามารถปลดปล่อยพลังต่อสู้ใกล้กับสภาวะว่างเปล่าเมื่อมันใช้พลังเทพ
บูม!
จระเข้เขียวค่อนข้างโหด มันพุ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตามมันสูญเสียความดุร้ายไปอย่างรวดเร็วเมื่ออสูรร้ายคำรามใส่
จังหวะที่สั่นไหวนั้นเพียงพอแล้วที่อสูรร้ายจะเข้ามาใกล้ มันตบหัวจระเข้เขียวและฉีกหนังศีรษะบางส่วนออก
ความทรมานและการข่มขู่ได้ขโมยเจตจำนงการต่อสู้ของจระเข้เขียวไป มันหันหลังกลับด้วยความตกใจและหนีไป
สำหรับคำสั่งของซูผิง… พวกเขาทำสัญญาชั่วคราว สิ่งมีชีวิตนี้ภักดีต่อซูผิงเพียงส่วนเดียวเท่านั้น มันเริ่มโกรธเมื่อซูผิงสั่งให้มันไปฆ่าตัวตาย มันไม่เชื่อฟังเขาอีกต่อไป
ทักษะเจตนาฆ่าถูกเปิดใช้งาน!
ซูผิงชี้นิ้วของเขาจากระยะไกล
จระเข้ที่หนีอย่างบ้าคลั่งก็มีตาแดงก่ำในทันใด มันคำรามอย่างโกรธจัดและพุ่งเข้าใส่อสูรร้าย
อสูรร้ายรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าอยู่ดีๆเหยื่อจะรุนแรงถึงเพียงนี้
อย่างไรก็ตามแกกล้าที่จะต่อสู้กลับหรอ?ไอรีนโนเวล
ฉันจะฆ่าแก!
มังกรระดับเก้าที่อยู่ใกล้เคียงไม่ถอย มันปล่อยทักษะสายฟ้าที่หลากหลายเพื่อป้องกันการโจมตีของอสูรร้าย
บูม!
จระเข้เขียวที่ดุร้ายถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ จากนั้นอสูรร้ายก็คำรามเมื่อเห็นมังกรน้อย เพราะมันยังคงใช้ทักษะอยู่
เสียงคำรามค่อนข้างน่ากลัว แต่มังกรอัสนีบาตสวรรค์เกล็ดขาวไม่หยุดโจมตีหลังจากที่ตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง มันดูโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม
ซูผิงพยักหน้าเล็กน้อยขณะดูการต่อสู้
มังกรน้อยไม่เกรงกลัวเท่าจระเข้เขียว อาจเป็นเพราะมันเคยถูกราชามังกรข่มขู่มาก่อน
มังกรน้อยไม่กลัวเมื่อเผชิญหน้ากับอสูรร้ายสภาวะสมุทร ซึ่งอ่อนแอกว่าราชามังกรมาก
อสูรร้ายรู้สึกว่ามันถูกดูหมิ่นอย่างรุนแรงเมื่อเสียงคำรามของมันไม่ได้ทำให้ศัตรูของมันเกรงกลัว มันยิ่งโกรธและรีบลงมือ หอกหินผุดขึ้นจากพื้นดินและแทงทะลุมังกรอัสนีบาต
คืนชีพ!
คืนชีพ!
ซูผิงคืนชีพทั้งสองในทันทีและสั่งให้พวกมันต่อสู้ต่อไป
มังกรน้อยตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นคำสั่งของซูผิงก็มาถึง มังกรหันกลับมามองซูผิง จากนั้นก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในป่าอัสนีบาต
พ่อของมันใช้ตัวเองกันนักล่าเพื่อปกป้องมัน
แม่ของมันอ้อนวอนขอให้มันปลอดภัย
มันไม่เคยรู้สึกหมดหนทางหรือสิ้นหวังมากขนาดนั้นมาก่อน
โฮกกก!!
มังกรน้อยคำรามอย่างบ้าคลั่ง มุ่งมั่นที่จะแข็งแกร่งขึ้น!
ต้องแข็งแกร่งขึ้น!
มังกรน้อยพุ่งไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญยิ่งกว่าจระเข้เขียว โดยไม่ได้รับทักษะเจตนาฆ่าของซูผิง มันถูกปกคลุมด้วยสายฟ้าแลบที่ฉีกมิติรอบ ๆ ออกจากกัน ซึ่งเป็นความสามารถทางสายเลือดเฉพาะของมังกรอัสนีบาตสวรรค์
เผ่าพันธุ์มังกรนั้นคุ้นเคยกับมิติแต่กำเนิด พวกมันสามารถเข้าใจและเข้าสู่สภาวะว่างเปล่าโดยตรงเมื่อพวกมันโตเป็นผู้ใหญ่ ตราบใดที่สติปัญญาของพวกมันเป็นปกติ
ณ ตอนนี้
มังกรเกล็ดขาวอยู่ในระดับเก้าเท่านั้น แต่การเคลื่อนไหวของมันได้เขย่ามิติโดยรอบแล้ว ทักษะการโจมตีอสูรร้ายผ่านมิติเหมือนการหายตัว
ปัง!
ทักษะนี้โจมตีโดน แต่ก็ไม่ทำให้เกิดบาดแผลใดๆ
อสูรร้ายคำรามด้วยความตกใจและโกรธ มันเลิกสนใจจระเข้เขียวและพุ่งไปที่มังกรอัสนีบาตสวรรค์
หายตัว หลบหลีก และโจมตี!
มังกรน้อยแสดงพลังต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม หลบการโจมตีของอสูรร้ายอย่างรวดเร็ว และโจมตีกลับอย่างต่อเนื่อง
เห็นได้ชัดว่าจระเข้เขียวประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของเพื่อนตัวเตี้ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระดับของมันต่ำกว่ามาก!
เจตนาฆ่า!
ในขณะนั้นเอง ซูผิงใช้ทักษะของเขาและเสริมด้วยเจตนาฆ่า
โฮก!
จระเข้เขียวก็คำรามและพุ่งออกไป
ห้านาทีต่อมา
สถานที่ค่อยๆเงียบลงเมื่อการต่อสู้สิ้นสุด มังกรอัสนีบาตสวรรค์เกล็ดขาวและจระเข้เขียวโจมตีอสูรร้ายนั้นจนตาย มังกรน้อยรับรู้ถึงความลึกลับของมิติหลังการต่อสู้ มันจะสามารถทะลวงผ่านไปยังสภาวะว่างเปล่าได้หากมีการฝึกฝนเพียงพอ มันจะเป็นอสูรที่ยอดเยี่ยม!
ซูผิงเห็นว่าไหวพริบของมันได้รับการพัฒนาจากขั้นกลางเป็นขั้นกลาง-กลาง
การต่อสู้หนึ่งครั้งทำให้เกิดการพัฒนาอยู่เล็กน้อย
ซูผิงพยักหน้าเล็กน้อย เขาตั้งใจจะฝึกมังกรให้มีไหวพริบขั้นสูง
อสูรร้ายตัวเล็กมีพลังความเข้าใจดี ซูผิงจะเลือกมันเป็นอสูรหลักของเขาถ้าเขาไม่มีมังกรเพลิงนรกอยู่ก่อน พวกเขาได้พัฒนาความสัมพันธ์จนลึกซึ้ง
เขาสามารถฝึกให้มันเป็นอสูรรองได้เท่านั้นในขณะนี้
ซูผิงมีตำแหน่งอสูรค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว เขาสามารถเก็บไว้ได้จนกว่าจะพบอสูรที่เหมาะสมกว่า
มิติสั่นสะเทือนหลังจากกำจัดอสูรร้ายสภาวะสมุทร จากนั้นอสูรสภาวะว่างเปล่าก็พุ่งออกมา
ตรงเวลา
ซูผิงสั่งอสูรโจมตีในทันที นอกจากนี้เขายังขอให้สุนัขมังกรดำ มังกรเพลิงนรก และอสรพิษม่วงมองหาศัตรูอื่น ๆ
หากพวกมันต้องการออกกำลังกาย พวกมันสามารถมองหาได้แค่สภาวะชะตากรรมหรือระดับดวงดาวเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีผลไม้แปลกๆมากมายในสถานที่แห่งนี้
เทพหลายคนในหลุมศพกึ่งเทพจะเก็บผลไม้ แต่สถานที่นี้อันตรายมากจนอาจถูกฆ่าโดยไม่ได้ตั้งใจแม้ว่าผลไม้จะดีมากก็ตาม
ซูผิงเพียงแค่รวบรวมดอกไม้และผลไม้แปลก ๆ ที่เขาเห็นระหว่างทาง
เขามอบสิ่งที่เขารวบรวมได้เกือบทั้งหมดให้กับสุนัขมังกรดำ และมังกรเพลิงนรกแม้ว่าบางอย่างอาจทำให้ถึงตาย
อสูรสามารถฟื้นคืนชีพได้แม้ว่าจะถูกฆ่าตายก็ตาม หากกินผลไม้หนึ่งลูกจะทำให้อสูรถูกฆ่า พวกมันสามารถกินต่อไปจนกว่าพวกมันจะต้านทานและสามารถดูดซับพวกมันได้!
ผลไม้บางชนิดที่อสูรน้ำแข็งชอบมีพลังงานน้ำแข็งอันทรงพลัง มังกรเพลิงนรกรู้สึกไม่สบายใจหลังจากกินบางอย่าง ทว่าภายหลังสามารถรับรู้ทักษะทางน้ำบางส่วนหลังจากอาหารย่อยแล้ว
ส่วนผลไม้ที่เหลือ ซูผิงจะนำกลับไปขายในร้านของเขา
อย่างไรก็ตามในไม่ช้าซูผิงก็ตระหนักว่าอาหารอสูรนั้นแทบไม่ได้กำไรเท่าบริการฝึก นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมเขาถึงชอบให้อาหารอสูรอันล้ำค่าแก่อสูรของเขาแทนที่จะขาย
เขาชอบที่จะละทิ้งผลกำไรที่เป็นไปได้บางส่วน หากพวกมันสามารถเสริมความแข็งแกร่งด้วยผลไม้ได้
หนึ่งวันผ่านไป
จระเข้เขียวได้รับการฝึกฝนมาจนมีไหวพริบขั้นกลางแล้ว
แม้ว่าจะเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตสภาวะสมุทร แต่ก็เข้าใจความลึกลับของมิติพร้อมกับมังกรน้อย มันสามารถหายตัวไปมิติชั้นสองได้!
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทักษะเพื่อโจมตีศัตรูผ่านมิติชั้นสองได้
ผลลัพธ์ดังกล่าวพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถก้าวหน้าได้เร็วขึ้นโดยการทำตามนักเรียนที่เก่งๆ…
ในขณะที่ไหวพริบของมังกรอัสนีบาตสวรรค์เกล็ดขาวยังอยู่ในขั้นกลาง-กลาง แต่ก็คุ้นเคยกับความลึกลับของมิติมากขึ้น ซูผิงฝึกฝนมันเป็นอสูรรองของเขา เขาจะนำมันไปฝึกซ้อมด้วยในอนาคต และไหวพริบของมันจะไปถึงขั้นสูงในไม่ช้าก็เร็ว
ซูผิงกลับไปที่ร้านของเขา
จากนั้นเขาก็ไปที่หลุมศพกึ่งเทพอีกครั้ง คราวนี้ไปกับมังกรอัสนีบาตสวรรค์อีกตัวที่เขาจับได้
เนื่องจากมีสิบตัว เขาจึงต้องพาไปสองรอบ
ซูผิงได้เลือกมังกรสภาวะว่างเปล่าไว้เป็นชุดแรก
ทุกคนค่อนข้างประหลาดใจที่เห็นมังกรน้อย เนื่องจากเป็นเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ในเผ่าพันธุ์
เหลยซาน—ลูกของราชามังกรและนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์—ได้แต่งงานกับงูและให้กำเนิดลูกพันธุ์ผสม
มังกรอัสนีบาตสวรรค์เกล็ดขาวนั่นเป็น: ลูกผสมที่เกิดมาต่ำต้อย
อสูรร้ายยังประหลาดใจเมื่อเห็นเพื่อนร่วมเผ่า อย่างไรก็ตามไม่มีเวลาให้คิด มันเริ่มต่อสู้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง
มังกรน้อยนั้นดุร้ายยิ่งขึ้นในการต่อสู้รอบต่อไป และก้าวหน้าเร็วขึ้น!
มังกรอัสนีบาตสวรรค์ตัวอื่นตกตะลึงกับประสิทธิภาพของมัน พวกมันไม่ได้คิดว่าลูกผสมที่ต่ำต้อยกว่าจะโหดร้ายได้ขนาดนี้!
มันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตระดับเก้า แต่มันก็มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะต้านทานอสูรสภาวะว่างเปล่าได้กว่าครึ่งนาที!
แทบไม่น่าเชื่อ!
ซูผิงหยุดถ่ายทอดความรู้
เผ่าแมลงก็เป็นอสูรของเขาเช่นกัน แต่เขาไม่ได้ฝึกมันมากนัก เขาเพิ่งทำสัญญากับมันเพราะเขาอยากรู้เกี่ยวกับแมลงพิเศษที่ครั้งหนึ่งเคยบุกรุกหลุมศพกึ่งเทพ
แมลงจะกินเหล่าทวยเทพเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามซูผิงไม่เคยศึกษาศักยภาพอื่น ๆ ของมัน และไม่ได้ส่งมันไปต่อสู้ จึงยังไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดความรู้
สำหรับมังกรอัสนีบาตสวรรค์เกล็ดขาว เขาเพิ่งรู้จักมันไม่นาน เขายังไม่รู้ว่าจะเก็บไว้เป็นอสูรไหม
เขาจับมันมาเพื่อภารกิจของระบบเท่านั้น
แม้ว่าไหวพริบของมันจะไม่ได้แย่เพราะเป็นอสูรป่าขั้นกลาง แต่ซูผิงก็มีมังกรเพลิงนรกอยู่แล้ว
เขาให้คำมั่นว่าจะฝึกมังกรเพลิงนรกให้กลายเป็นมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!
ซูผิงตั้งเป้าที่จะทำตามสัญญาและไม่สนใจมังกรตัวอื่น แม้ว่าเขาจะได้มันมา เขาก็จะไม่ใช้เวลาและความพยายามมากเกินไปกับมัน
ท้ายที่สุดถ้าเขามีเวลา เขาจะใช้มันกับมังกรเพลิงนรกเพื่อทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น!
คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ เขาจะไม่คิดที่จะรับอสูรเพิ่มเว้นแต่ว่าเขาจะไม่สามารถพัฒนาอสูรที่เขามีต่อไปได้
อย่างไรก็ตามซูผิงยังห่างไกลจากขีดจำกัดของสิ่งที่อสูรของเขาสามารถทำได้
“หนังสือไหวพริบอสูรสามารถเพิ่มไหวพริบได้หนึ่งระดับใช่ไหม? ถ้าฉันนำไปใช้กับอสรพิษม่วง มันจะเข้าสู่จักรวาลคู่ขนานโกลาหลไหม?” ซูผิงถาม
“หนังสือไหวพริบอสูรสามารถเพิ่มอสูรให้อยู่ในระดับสุดยอด-สูงเท่านั้น” ระบบตอบ
ดวงตาของซูผิงเบิกกว้างและเขาถามว่า “ไม่ใช่การพัฒนาหนึ่งระดับหรอกหรอ?”
“นั่นเป็นการพัฒนาหนึ่งระดับอย่างแน่นอน”
“…”
ซูผิงตะลึงกับคำตอบ แต่ถึงกระนั้น เขาตระหนักว่ามันยังคงค่อนข้างน่ากลัวหากระดับสุดยอด-กลางได้รับการอัพเกรดเป็นสุดยอด-สูง อสรพิษม่วงน่าจะได้รับทักษะอันทรงพลังบางอย่าง
อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันเป็นไปไม่ได้ที่อสูรของเขาจะเข้าสู่จักรวาลคู่ขนานโกลาหล การให้หนังสือเล่มนี้จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด
แม้ว่าไหวพริบของมันจะได้รับการพัฒนาให้อยู่ในขั้นสุดยอด-สูง แต่ก็จะมีเพียงแค่พลังต่อสู้ของระดับดวงดาว
ซูผิงพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจที่จะเก็บมันไว้จนกว่าโครงกระดูกน้อยจะกลับมา
จนถึงตอนนี้โครงกระดูกน้อยเป็นอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา เขาไม่ได้ลำเอียง เขาแค่ต้องเสริมพลังให้อสูรที่ดีที่สุดของเขาเพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง
เหมือนกันกับคมดาบ ต้องเลือกดาบที่คมที่สุด โครงกระดูกน้อยเป็นดาบของซูผิง
หลังจากไตร่ตรองอีกเล็กน้อย ซูผิงตัดสินใจกลับไปที่วัดกับโจแอนนา
จากนั้นเขาก็ออกจากวัดและไปที่สถานที่อันตรายในหลุมศพกึ่งเทพพร้อมกับนักรบระดับดวงดาว
”ตายซะ!”
ซูผิงสั่งให้มังกรอัสนีบาตสวรรค์และจระเข้เขียวพุ่งเข้าใส่อสูรร้ายสภาวะสมุทร สิ่งมีชีวิตนั้นดูดซับพลังเทพและกลายเป็นอสูรกึ่งเทพ
อสูรร้ายสามารถปลดปล่อยพลังต่อสู้ใกล้กับสภาวะว่างเปล่าเมื่อมันใช้พลังเทพ
บูม!
จระเข้เขียวค่อนข้างโหด มันพุ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตามมันสูญเสียความดุร้ายไปอย่างรวดเร็วเมื่ออสูรร้ายคำรามใส่
จังหวะที่สั่นไหวนั้นเพียงพอแล้วที่อสูรร้ายจะเข้ามาใกล้ มันตบหัวจระเข้เขียวและฉีกหนังศีรษะบางส่วนออก
ความทรมานและการข่มขู่ได้ขโมยเจตจำนงการต่อสู้ของจระเข้เขียวไป มันหันหลังกลับด้วยความตกใจและหนีไป
สำหรับคำสั่งของซูผิง… พวกเขาทำสัญญาชั่วคราว สิ่งมีชีวิตนี้ภักดีต่อซูผิงเพียงส่วนเดียวเท่านั้น มันเริ่มโกรธเมื่อซูผิงสั่งให้มันไปฆ่าตัวตาย มันไม่เชื่อฟังเขาอีกต่อไป
ทักษะเจตนาฆ่าถูกเปิดใช้งาน!
ซูผิงชี้นิ้วของเขาจากระยะไกล
จระเข้ที่หนีอย่างบ้าคลั่งก็มีตาแดงก่ำในทันใด มันคำรามอย่างโกรธจัดและพุ่งเข้าใส่อสูรร้าย
อสูรร้ายรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าอยู่ดีๆเหยื่อจะรุนแรงถึงเพียงนี้
อย่างไรก็ตามแกกล้าที่จะต่อสู้กลับหรอ?ไอรีนโนเวล
ฉันจะฆ่าแก!
มังกรระดับเก้าที่อยู่ใกล้เคียงไม่ถอย มันปล่อยทักษะสายฟ้าที่หลากหลายเพื่อป้องกันการโจมตีของอสูรร้าย
บูม!
จระเข้เขียวที่ดุร้ายถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ จากนั้นอสูรร้ายก็คำรามเมื่อเห็นมังกรน้อย เพราะมันยังคงใช้ทักษะอยู่
เสียงคำรามค่อนข้างน่ากลัว แต่มังกรอัสนีบาตสวรรค์เกล็ดขาวไม่หยุดโจมตีหลังจากที่ตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง มันดูโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม
ซูผิงพยักหน้าเล็กน้อยขณะดูการต่อสู้
มังกรน้อยไม่เกรงกลัวเท่าจระเข้เขียว อาจเป็นเพราะมันเคยถูกราชามังกรข่มขู่มาก่อน
มังกรน้อยไม่กลัวเมื่อเผชิญหน้ากับอสูรร้ายสภาวะสมุทร ซึ่งอ่อนแอกว่าราชามังกรมาก
อสูรร้ายรู้สึกว่ามันถูกดูหมิ่นอย่างรุนแรงเมื่อเสียงคำรามของมันไม่ได้ทำให้ศัตรูของมันเกรงกลัว มันยิ่งโกรธและรีบลงมือ หอกหินผุดขึ้นจากพื้นดินและแทงทะลุมังกรอัสนีบาต
คืนชีพ!
คืนชีพ!
ซูผิงคืนชีพทั้งสองในทันทีและสั่งให้พวกมันต่อสู้ต่อไป
มังกรน้อยตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นคำสั่งของซูผิงก็มาถึง มังกรหันกลับมามองซูผิง จากนั้นก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในป่าอัสนีบาต
พ่อของมันใช้ตัวเองกันนักล่าเพื่อปกป้องมัน
แม่ของมันอ้อนวอนขอให้มันปลอดภัย
มันไม่เคยรู้สึกหมดหนทางหรือสิ้นหวังมากขนาดนั้นมาก่อน
โฮกกก!!
มังกรน้อยคำรามอย่างบ้าคลั่ง มุ่งมั่นที่จะแข็งแกร่งขึ้น!
ต้องแข็งแกร่งขึ้น!
มังกรน้อยพุ่งไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญยิ่งกว่าจระเข้เขียว โดยไม่ได้รับทักษะเจตนาฆ่าของซูผิง มันถูกปกคลุมด้วยสายฟ้าแลบที่ฉีกมิติรอบ ๆ ออกจากกัน ซึ่งเป็นความสามารถทางสายเลือดเฉพาะของมังกรอัสนีบาตสวรรค์
เผ่าพันธุ์มังกรนั้นคุ้นเคยกับมิติแต่กำเนิด พวกมันสามารถเข้าใจและเข้าสู่สภาวะว่างเปล่าโดยตรงเมื่อพวกมันโตเป็นผู้ใหญ่ ตราบใดที่สติปัญญาของพวกมันเป็นปกติ
ณ ตอนนี้
มังกรเกล็ดขาวอยู่ในระดับเก้าเท่านั้น แต่การเคลื่อนไหวของมันได้เขย่ามิติโดยรอบแล้ว ทักษะการโจมตีอสูรร้ายผ่านมิติเหมือนการหายตัว
ปัง!
ทักษะนี้โจมตีโดน แต่ก็ไม่ทำให้เกิดบาดแผลใดๆ
อสูรร้ายคำรามด้วยความตกใจและโกรธ มันเลิกสนใจจระเข้เขียวและพุ่งไปที่มังกรอัสนีบาตสวรรค์
หายตัว หลบหลีก และโจมตี!
มังกรน้อยแสดงพลังต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม หลบการโจมตีของอสูรร้ายอย่างรวดเร็ว และโจมตีกลับอย่างต่อเนื่อง
เห็นได้ชัดว่าจระเข้เขียวประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของเพื่อนตัวเตี้ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระดับของมันต่ำกว่ามาก!
เจตนาฆ่า!
ในขณะนั้นเอง ซูผิงใช้ทักษะของเขาและเสริมด้วยเจตนาฆ่า
โฮก!
จระเข้เขียวก็คำรามและพุ่งออกไป
ห้านาทีต่อมา
สถานที่ค่อยๆเงียบลงเมื่อการต่อสู้สิ้นสุด มังกรอัสนีบาตสวรรค์เกล็ดขาวและจระเข้เขียวโจมตีอสูรร้ายนั้นจนตาย มังกรน้อยรับรู้ถึงความลึกลับของมิติหลังการต่อสู้ มันจะสามารถทะลวงผ่านไปยังสภาวะว่างเปล่าได้หากมีการฝึกฝนเพียงพอ มันจะเป็นอสูรที่ยอดเยี่ยม!
ซูผิงเห็นว่าไหวพริบของมันได้รับการพัฒนาจากขั้นกลางเป็นขั้นกลาง-กลาง
การต่อสู้หนึ่งครั้งทำให้เกิดการพัฒนาอยู่เล็กน้อย
ซูผิงพยักหน้าเล็กน้อย เขาตั้งใจจะฝึกมังกรให้มีไหวพริบขั้นสูง
อสูรร้ายตัวเล็กมีพลังความเข้าใจดี ซูผิงจะเลือกมันเป็นอสูรหลักของเขาถ้าเขาไม่มีมังกรเพลิงนรกอยู่ก่อน พวกเขาได้พัฒนาความสัมพันธ์จนลึกซึ้ง
เขาสามารถฝึกให้มันเป็นอสูรรองได้เท่านั้นในขณะนี้
ซูผิงมีตำแหน่งอสูรค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว เขาสามารถเก็บไว้ได้จนกว่าจะพบอสูรที่เหมาะสมกว่า
มิติสั่นสะเทือนหลังจากกำจัดอสูรร้ายสภาวะสมุทร จากนั้นอสูรสภาวะว่างเปล่าก็พุ่งออกมา
ตรงเวลา
ซูผิงสั่งอสูรโจมตีในทันที นอกจากนี้เขายังขอให้สุนัขมังกรดำ มังกรเพลิงนรก และอสรพิษม่วงมองหาศัตรูอื่น ๆ
หากพวกมันต้องการออกกำลังกาย พวกมันสามารถมองหาได้แค่สภาวะชะตากรรมหรือระดับดวงดาวเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีผลไม้แปลกๆมากมายในสถานที่แห่งนี้
เทพหลายคนในหลุมศพกึ่งเทพจะเก็บผลไม้ แต่สถานที่นี้อันตรายมากจนอาจถูกฆ่าโดยไม่ได้ตั้งใจแม้ว่าผลไม้จะดีมากก็ตาม
ซูผิงเพียงแค่รวบรวมดอกไม้และผลไม้แปลก ๆ ที่เขาเห็นระหว่างทาง
เขามอบสิ่งที่เขารวบรวมได้เกือบทั้งหมดให้กับสุนัขมังกรดำ และมังกรเพลิงนรกแม้ว่าบางอย่างอาจทำให้ถึงตาย
อสูรสามารถฟื้นคืนชีพได้แม้ว่าจะถูกฆ่าตายก็ตาม หากกินผลไม้หนึ่งลูกจะทำให้อสูรถูกฆ่า พวกมันสามารถกินต่อไปจนกว่าพวกมันจะต้านทานและสามารถดูดซับพวกมันได้!
ผลไม้บางชนิดที่อสูรน้ำแข็งชอบมีพลังงานน้ำแข็งอันทรงพลัง มังกรเพลิงนรกรู้สึกไม่สบายใจหลังจากกินบางอย่าง ทว่าภายหลังสามารถรับรู้ทักษะทางน้ำบางส่วนหลังจากอาหารย่อยแล้ว
ส่วนผลไม้ที่เหลือ ซูผิงจะนำกลับไปขายในร้านของเขา
อย่างไรก็ตามในไม่ช้าซูผิงก็ตระหนักว่าอาหารอสูรนั้นแทบไม่ได้กำไรเท่าบริการฝึก นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมเขาถึงชอบให้อาหารอสูรอันล้ำค่าแก่อสูรของเขาแทนที่จะขาย
เขาชอบที่จะละทิ้งผลกำไรที่เป็นไปได้บางส่วน หากพวกมันสามารถเสริมความแข็งแกร่งด้วยผลไม้ได้
หนึ่งวันผ่านไป
จระเข้เขียวได้รับการฝึกฝนมาจนมีไหวพริบขั้นกลางแล้ว
แม้ว่าจะเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตสภาวะสมุทร แต่ก็เข้าใจความลึกลับของมิติพร้อมกับมังกรน้อย มันสามารถหายตัวไปมิติชั้นสองได้!
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทักษะเพื่อโจมตีศัตรูผ่านมิติชั้นสองได้
ผลลัพธ์ดังกล่าวพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถก้าวหน้าได้เร็วขึ้นโดยการทำตามนักเรียนที่เก่งๆ…
ในขณะที่ไหวพริบของมังกรอัสนีบาตสวรรค์เกล็ดขาวยังอยู่ในขั้นกลาง-กลาง แต่ก็คุ้นเคยกับความลึกลับของมิติมากขึ้น ซูผิงฝึกฝนมันเป็นอสูรรองของเขา เขาจะนำมันไปฝึกซ้อมด้วยในอนาคต และไหวพริบของมันจะไปถึงขั้นสูงในไม่ช้าก็เร็ว
ซูผิงกลับไปที่ร้านของเขา
จากนั้นเขาก็ไปที่หลุมศพกึ่งเทพอีกครั้ง คราวนี้ไปกับมังกรอัสนีบาตสวรรค์อีกตัวที่เขาจับได้
เนื่องจากมีสิบตัว เขาจึงต้องพาไปสองรอบ
ซูผิงได้เลือกมังกรสภาวะว่างเปล่าไว้เป็นชุดแรก
ทุกคนค่อนข้างประหลาดใจที่เห็นมังกรน้อย เนื่องจากเป็นเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ในเผ่าพันธุ์
เหลยซาน—ลูกของราชามังกรและนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์—ได้แต่งงานกับงูและให้กำเนิดลูกพันธุ์ผสม
มังกรอัสนีบาตสวรรค์เกล็ดขาวนั่นเป็น: ลูกผสมที่เกิดมาต่ำต้อย
อสูรร้ายยังประหลาดใจเมื่อเห็นเพื่อนร่วมเผ่า อย่างไรก็ตามไม่มีเวลาให้คิด มันเริ่มต่อสู้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง
มังกรน้อยนั้นดุร้ายยิ่งขึ้นในการต่อสู้รอบต่อไป และก้าวหน้าเร็วขึ้น!
มังกรอัสนีบาตสวรรค์ตัวอื่นตกตะลึงกับประสิทธิภาพของมัน พวกมันไม่ได้คิดว่าลูกผสมที่ต่ำต้อยกว่าจะโหดร้ายได้ขนาดนี้!
มันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตระดับเก้า แต่มันก็มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะต้านทานอสูรสภาวะว่างเปล่าได้กว่าครึ่งนาที!
แทบไม่น่าเชื่อ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว