ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 761

“ที่นี่แหละ!”
  “สวัสดี คุณเป็นพนักงานหรือเปล่า? หือ… คุณคือเจ้าของร้านหรอ?”
  “มังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ A สิบตัวขายที่ร้านของคุณจริงหรอ? ทำไมพวกมันถึงถูกขายแทนที่จะประมูลละคะ?”
  “เจ้าของร้าน ช่วยมองกล้องนี้หน่อยค่ะ ด้วยความเคารพ เราขอทราบได้ไหมว่าตระกูลไหนกันที่สนับสนุนคุณ?”
  “เจ้าของร้าน ทำไมคุณถึงขายมังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ A จำนวนมากในคราวเดียว? คุณไม่ได้โฆษณาล่วงหน้าด้วย คุณไม่สูญเสียครั้งใหญ่เหรอ?”
  ”เจ้าของร้าน…”
  ซูผิงเพิ่งเสร็จสิ้นข้อตกลงกับคลีโอ เขาก็ถูกรายล้อมไปด้วยนักข่าว
  เกิดอะไรขึ้น?
  ซูผิงงุนงง
  เขาไม่คาดคิดว่าการขายอสูรขั้นกลางสิบตัวจะดึงดูดความสนใจได้มากขนาดนี้ มันจะไม่เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
  ไม่ใช่เพราะคนในท้องถิ่นของดาวเคราะห์สีน้ำเงินเก่งกว่า แต่อุปกรณ์ทดสอบที่มีอยู่นั้นไม่ก้าวหน้าเท่ากับอุปกรณ์ในสหพันธ์ บรรดาผู้ที่ซื้อหรือฝึกอสูรในร้านของซูผิงรู้ว่าอสูรนั้นแข็งแกร่งมาก แต่พวกเขาไม่รู้ว่าอสูรนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน ซึ่งไม่ได้ทำให้มันกระจายข่าวเร็วแบบนี้
  ท้ายที่สุดคำอธิบายเช่น “ดีมาก” หรือ “แข็งแกร่งมาก” ค่อนข้างเป็นอะไรที่ต้องจินตนาการอีกที ในขณะที่ไหวพริบระดับ A มีจุดหมายและรวมเป็นหนึ่งเดียวในสหพันธ์ มันพิเศษมากสำหรับคนในท้องถิ่นของรีอา
  “เจ้าของร้าน ร้านค้าของคุณขายอสูรระดับ A จำนวนมาก เป็นเพราะมีผู้ฝึกสอนสี่ดาวคอยสนับสนุนร้านคุณอยู่ใช่หรือเปล่า?”
  “เจ้าของร้าน เราไม่เคยได้ยินชื่อร้านของคุณมาก่อน มันเป็นสาขาของเครือใหญ่จากดาวดวงอื่นที่ตั้งใจจะแข่งขันกับบริษัทท้องถิ่นของรีอาใช่หรือไม่?”
  หลังจากได้ยินคำถามที่หลากหลายของนักข่าว ซูผิงต้องยกมือขึ้นเพื่อแทรก “เงียบ”
  เขาพูดเบา ๆ แต่น้ำเสียงของเขาดูน่ากลัวและดูเป็นการออกคำสั่ง
  นักข่าวที่ส่งเสียงดังพาเงียบกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาหวาดกลัวโดยธรรมชาติ ราวกับว่าสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่ากำลังดูถูกพวกเขา
  “มีผู้ฝึกสอนอยู่ในร้านนี้จริงๆ ส่วนการแข่งขัน ร้านนี้ทำธุรกิจของตัวเองเท่านั้น ไม่สนใจที่จะแข่งกับใคร”
  ซูผิงกล่าวอย่างใจเย็นว่า “ร้านนี้จะขายและฝึกอสูรระดับ A เพิ่มอีกในอนาคต มาที่นี่หากคุณสนใจและจะยินดีมากหากลูกค้าที่ซื้อหรือรับบริการไปกลับมารายงานผล”
  ซูผิงพูดจบและมองนักข่าว “เชิญออกไปได้แล้ว วันนี้ร้านปิดแล้ว”
  มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ถ้าเขาไม่ใช้ประโยชน์จากนักข่าวเพื่อโปรโมตร้านของเขา
  สำหรับไหวพริบระดับ A… เขาแค่พูดในลักษณะที่คนอื่นสามารถเข้าใจได้
  เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้ฝึกสอนไม่มากก็น้อย เขาสามารถฝึกอสูรระดับ A ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดได้
  เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนั้น ซูผิงก็ไล่นักข่าวออกจากร้าน
  “เจ้าของร้าน ขอถามอะไรอีกสักหน่อย!”
  “เจ้าของร้าน นี่มันเพิ่งจะเที่ยงเอง คุณจะปิดร้านแล้วหรอ?”
  “บ่ายโมงจะเปิดร้านไหม? เจ้าของร้าน คุณเปิดทำการกี่โมง?”
  “เจ้าของร้าน จะมีอสูรระดับ A มาอีกตามที่คุณพูดจริงไหม? จริงหรอเปล่า? ช่วยแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้เราทราบได้ไหม?”
  นักข่าว—ที่ยังไม่ถึงสภาวะสมุทร—ถูกซูผิงผลักออกจากร้านด้วยพลังดวงดาว
  “เร็วๆ นี้จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมให้ ส่วนเวลาทำการก็เช้า บางทีก็บ่าย ขึ้นอยู่กับว่าว่างเมื่อไหร่”
  ซูผิงตอบคำถามบางข้อในขณะที่ผลักนักข่าวไปที่ประตู จากนั้นเขาก็โบกมือก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในร้าน
  นักข่าวถูกทิ้งให้ตะลึงอยู่นอกร้าน
  เวลาทำการเป็นแบบสุ่มเนี่ยนะ?
  นี่มันร้านอะไรกันแน่เนี่ย?
  …
  ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ซื้อมังกรตัวแรกยืนอยู่ข้างนอก เขามีใบหน้าเศร้าเมื่อนักข่าวรวมตัวกันหน้าร้านของซูผิง
  เขาแอบอยู่ในใกล้ๆเพราะเขาต้องการรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
  เหตุการณ์น่าตกใจที่เกิดขึ้นในภายหลังทำให้เขาตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
  อสูรทั้งหมดเป็นระดับ A!
  มังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ A สิบตัวที่ปรากฏตัวพร้อมกันเป็นเรื่องที่น่าหวาดหวั่นอย่างมาก
  เขาจำได้ว่าเขามีโอกาสซื้อพวกมันทั้งหมดได้ แต่เขาวิ่งหนีไปเพราะเขากลัวว่าซูผิงจะขออสูรของเขาคืน ถ้าเขาไม่หนี เขาอาจจะซื้ออสูรทั้งหมดได้!
  ชายหนุ่มรู้สึกอยากอาเจียนเป็นเลือดเมื่อนึกถึงเรื่องนี้
  สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยคือ เนื่องจากทางร้านได้ขายมังกรระดับ A จำนวนมากในคราวเดียว แสดงว่าร้านอาจไม่สนใจจะเอามังกรที่เขาซื้อมาคืน
  ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสไปที่ร้านของซูผิงในภายหลัง
  …
  ”จริงหรือเปล่า?”
  “บัดซบ ใครจะมาที่ร้านของเราในอนาคต”
  “ร้านนั้นอยู่มาหลายปีแล้ว ทำไมฉันจำอะไรเกี่ยวกับร้านนนั่นไม่ได้เลย ไม่เคยเป็นที่นิยม จู่ๆมันดังขึ้นมาได้ยังไง?”
  ร้านขายอสูรชื่อดวงดาวไร้ผู้คนโดยสิ้นเชิง ยกเว้นพนักงานสองสามคนและผู้จัดการร้าน
  ผู้จัดการซึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่หัวล้านบางส่วนดูสีหน้าแย่มาก
  มังกรอัสนีบาตสวรรค์สิบตัวที่ร้านของซูผิงเมื่อวันก่อนทำให้คนทั้งถนนตกใจ พวกเขารู้สึกกดดันมากเพราะเป็นร้านขายอสูรอีกร้านหนึ่งบนถนน ดังนั้นพวกเขาจึงรายงานเรื่องนี้ไปยังสำนักงานใหญ่ซึ่งก็ส่งมังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ B+มาให้พวกเขาในชั่วข้ามคืน
  เขาตั้งใจที่จะดึงดูดลูกค้าทั้งหมดที่ได้รับข่าวเกี่ยวกับมังกรสิบตัวจากร้านอื่น สิ่งนี้อาจทำให้พวกเขาได้รับผลกำไรมหาศาล!
  แต่เขาไม่คิดเลยว่ามังกรทั้งหมดจากร้านนั้นจะเป็นอสูรระดับ A!
  เขาเหมือนถูกบดขยี้แล้วถูกับพื้น!
  ผู้จัดการรู้สึกอยากฆ่าตัวตายในตอนนั้น ไม่ใช่แค่ร้านของเขา ร้านขายอสูรอื่นๆ ในวอฟเฟ็ตถูกบดบังและธุรกิจของพวกเขาต่างก็ได้รับผลกระทบ
  เห็นได้ชัดว่าร้านของเขาได้รับผลกระทบสูงสุด เพราะอยู่บนถนนสายเดียวกัน มันเกือบจะเป็นการโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์!
  ผู้จัดการไม่สามารถปล่อยไปได้
  “บัดซบ! เราต้องทำอะไรสักอย่าง เราจะรอความตายอย่างเดียวไม่ได้!
  ”เร็วเข้า! ดึงดูดลูกค้าบนท้องถนนให้ได้! มัวมาทำอะไรตรงนี้?
  “ติดต่อสำนักงานใหญ่และรายงานกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ อ้างว่าร้านนั่นขายและฝึกอสูรที่มีข้อบกพร่อง ไป!”
  เขาจะตกงานถ้ารายได้ลดลง
  แม้ว่าเขาจะถูกย้ายไปร้านอื่น ตำแหน่งของเขาก็คงไม่สูงเท่า
  พนักงานทุกคนตกใจกับความโกรธของผู้จัดการจึงรีบไปทำงาน
  ในไม่ช้าพนักงานของร้านขายอสูรชื่อดวงดาวก็เร่ขายและดึงดูดลูกค้าบนถนนอีกครั้ง
  แม้ว่ามังกรอัสนีบาตสวรรค์ B+จะไม่น่าดึงดูดเหมือนเมื่อก่อน แต่ลูกค้าบางคนก็ยังสนใจมัน
  แม้ว่าพวกเขาจะเสียใจที่ไม่ได้อสูรระดับ A แต่พวกเขาก็ยังมีความสุขที่ได้ซื้ออสูรที่มีระดับต่ำกว่าเล็กน้อย
  ลูกค้าบางคนเข้าร้านมาไม่นานหลังจากนั้น
  ส่วนใหญ่ไปที่ร้านของซูผิงมา
  จากนั้นพวกเขาก็โห่ร้องเมื่อได้ยินว่ามังกร B+ มีราคาห้าร้อยล้าน
  มังกรระดับ A ในอีกร้านหนึ่งขายอยู่เพียงสี่ร้อยล้านเท่านั้น แม้แต่สภาวะชะตากรรมก็ยังไม่ถึงพันล้าน!
  หือ… มังกรถูกขายห้าร้อยล้านที่นี่เหรอ? มันบ้าเกินไป!
  ผู้จัดการรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิดเมื่อได้ยินเสียงโห่และคำบ่น
  นี่เป็นแค่ราคาตลาด!
  ที่จริงมันต่ำกว่าราคาปกติหลายร้อยล้านด้วยซ้ำ!
  เขาอาจจะต้องลาออกและกลับบ้านถ้าเขาขายอสูรนี่ในราคาสี่ร้อยล้าน
  เขาคิดว่าร้านบ้านั่นตั้งราคาต่ำเกินไปอย่างแน่นอน!
  เขาพยายามทำธุรกิจ เขาไม่รู้ว่าร้านนั่นกำลังวางแผนอะไรอยู่!
  การขายอสูรระดับ A สิบตัวในราคาที่ต่ำขนาดนั้นแทบเหมือนกับการทำการกุศลครั้งใหญ่!
  แม้ว่ามันจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคน มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะปล่อยให้เงินหลายแสนล้านหายวับไปกับตา!
  ผู้จัดการทำได้แค่น้ำตาตกในเมื่อเขานึกถึงคู่แข่งที่บ้าคลั่งของเขา แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องพยายามพูดอย่างมีเหตุผลกับลูกค้า แต่ทุกคนก็ยังเยาะเย้ยและหัวเราะเยาะเขา
  …
  “เจ้าของร้าน ผมมารับอสูรของผม มันเสร็จหรือยัง?” เสียงคมชัดดังขึ้น จากนั้นฟีลัสก็เดินเข้ามาในร้านของซูผิง
  เขาแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นนักข่าวและผู้คนที่เดินผ่านไปมาพูดถึงมังกรระดับ A มันเป็นเรื่องจริงหรอ?
  ”เสร็จแล้ว”
  ซูผิงกำลังทำความสะอาดร้าน เขากำลังจะปิดและเริ่มการฝึกซ้อม
  เมื่อเห็นชายหนุ่มมาถึง เขาก็พูดว่า “จระเข้เขียวของคุณได้รับการฝึกฝนแล้ว”
  ”จริงหรอ?”ฟีลัสค่อนข้างสงสัย เป็นไปได้หรอที่จะฝึกอสูรในหนึ่งวัน?
  ซูผิงขอให้โจแอนนาพาอสูรของเขาออกมา
  “ประตูนั้นจะพาคุณไปที่ห้องทดสอบ คุณสามารถทดลองอสูรที่นั่นได้ อย่าลังเลที่จะใช้ทักษะใดๆ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสียหาย กำแพงเสริมความแข็งแกร่งอย่างดี” ซูผิงกล่าว
  ฟีลัสมองโจแอนนาด้วยท่าทางเคร่งขรึมมากกว่าเดิม จากนั้นเธอก็ขมวดคิ้ว ทำให้เขารู้ว่าการจ้องเธอเป็นเรื่องหยาบคาย
  เขาละสายตาและเห็นดวงตาคู่หนึ่งที่เฉียบคมและโหดร้ายซึ่งแสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
  ไม่ได้เจอกันนาน แต่เจ้าของกลับไม่ตรวจดูมันก่อน จระเข้เขียวอกหักอย่างสุดซึ้ง
  ”ฮะ?”
  ฟีลัสสังเกตเห็นทันทีว่าจระเข้เขียวดูแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก กลิ่นอายที่ปล่อยออกมานั้นลึกซึ้งกว่าเดิม แม้ว่ามันจะเข้ามาใกล้เขาแล้ว แต่ดูเหมือนการแอบย่อง พร้อมที่จะอาละวาดได้ทุกเมื่อ
  ดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้น ฟีลัสคิด
  โจแอนนาหันหลังกลับและจากไป
  ฟีลัสรู้สึกโล่งใจและมองลงไปที่จระเข้เขียว เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดกับซูผิงว่า “เจ้าของร้าน ผมต้องการทดสอบ”
  ”ด้วยความยินดี”
  …
  สิบนาทีต่อมา ฟีเลียสกลับมาที่โถงต้อนรับ
  ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
  เขาไม่เห็นซูผิงระหว่างทางออกมา เขามองไปรอบๆ แต่กลับพบว่าเขาไม่รู้สึกถึงสิ่งใดที่อยู่หลังกำแพงและทำได้เพียงยอมแพ้
  จากนั้นเขาก็จำได้ว่ามีร้านประเมินอสูรอยู่ใกล้ ๆ ดังนั้นเขาจึงรีบไปที่นั่น เขาพบผู้คนมากมายที่รวมตัวกันอยู่หน้าร้าน
  “ไหวพริบระดับ A?”
  “มังกรอัสนีบาตสวรรค์?”
  ฟีลัสเลิกคิ้วขณะที่เขาเข้าใกล้สถานที่นั้น ฟังหัวข้อที่กำลังพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อนจากคนเหล่านั้น
  สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจหลังจากฟังอยู่ครู่หนึ่ง
  ฟีลัสหยุดคนที่เดินผ่านไปมาคนหนึ่งและถามว่า “คุณแน่ใจหรอว่ามันถูกขายที่ร้านตรงนั้น?” เขาชี้นิ้วไปที่ร้านของซูผิง
  ”แน่นอน! ร้านขายอสูรพิกซี่กลายเป็นที่นิยมในวันนี้! คุณเชื่อไหมว่าพวกเขาขายมังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ A สิบตัวติดต่อกัน?”
  “ใช่แล้ว ฉันยังรู้สึกเหมือนฝันอยู่เลย”
  “มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมไม่คิดว่าร้านประเมินนี้เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนนะ ฮ่าฮ่า”
  ทุกคนพูดคุยและหัวเราะ เห็นได้ชัดว่าสนใจเรื่องนี้
  ฟีลัสค่อนข้างตกตะลึง
  ร้านค้าของซูผิงขายมังกรอัสนีบาตสวรรค์ 10 ตัวที่มีไหวพริบระดับ A เมื่อเช้านี้หรอ?
  โอ้พระเจ้า ฉันพลาดอะไรไป
  จู่ๆ ฟีลัสก็นึกถึงจระเข้เขียวของเขา เป็นไปได้ไหมว่ามีผู้ฝึกสอนอยู่ในร้านของซูผิงจริงๆ
  หัวใจของเขาเต้นแรง เขารีบเร่งฝ่าฝูงชนและจ่ายเงินค่าประเมิน
  ไม่กี่นาทีต่อมา
  ว้าว!
  เสียงอุทานออกมาจากร้านประเมินอีกครั้ง ทุกคนที่ยังอยู่ก็มองเสาด้วยความตกใจ
  การอ่านค่าพุ่งขึ้นสู่พื้นที่สีม่วงอีกครั้ง!
  เป็นไปได้ไหมที่ตรวจพบอสูรอีกตัวที่มีไหวพริบระดับ A?
  “บ้าจริง วันนี้มันวันอะไร?”
  “มังกรอัสนีบาตสวรรค์อีกตัวหนึ่ง? ร้านค้าได้รับมาเพียงสิบตัวไม่ใช่หรือ ตัวนี้มาจากคลังเก่าเหรอ?”
  “ใครคือผู้โชคดีที่ซื้อมาได้?”
  เสียงอุทานทุกชนิดพุ่งออกมาจากฝูงชน
  ในไม่ช้า การอ่านในพื้นที่สีม่วงก็ค่อย ๆ เสถียร
  หลายนาทีต่อมา การจัดอันดับก็ปรากฏบนเสา:
  ระดับ A!
  ใต้การจัดอันดับเป็นภาพของจระเข้เขียว
  ผู้ชมช็อกอีกครั้ง คาดไม่ถึงจะได้เห็นอสูรระดับ A อีกจริงๆ!
  อย่างไรก็ตามคราวนี้มันไม่ใช่มังกรอัสนีบาตสวรรค์ แต่เป็นจระเข้สีเขียว
  ฟีลัสตกตะลึงขณะมองผลลัพธ์ รู้สึกเหมือนกับว่าหัวของเขาว่างเปล่า
  ชายหนุ่มไม่ชยับหัวได้….ไอรีนโนเวล
  ไหวพริบระดับ A?
  มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
  มีอะไรผิดปกติกับอุปกรณ์หรือเปล่า?
  จระเข้เขียวของเขามีเพียงแค่ B ก่อนหน้านี้ แต่แล้วมันก็กลายเป็น A!
  นี่เป็นการพัฒนาอย่างมาก!
  ฟีลัสรู้สึกมึนงงเล็กน้อย เขาไปทำการประเมินบางส่วนเพื่อค้นหาไหวพริบในปัจจุบันของจระเข้เขียวและเพื่อดูว่าความแข็งแกร่งของอสูรที่แสดงในห้องทดสอบจะสะท้อนให้เห็นในผลลัพธ์หรือไม่
  ยาพิเศษบางชนิดสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับอสูรได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่พวกมันอาจก่อให้เกิดผลที่เลวร้ายได้!
  ยาดังกล่าวสามารถตรวจพบได้ในการประเมิน วิธีการฝึกที่อันตรายและมีข้อบกพร่องซึ่งอาจทำให้คะแนนลดลง แม้ว่าจระเข้เขียวจะแข็งแกร่งกว่าตัวอื่นถึงสิบเท่า ไหวพริบของมันก็จะต่ำลงหากมันเสพยาอะไรเข้าไป!
  ข้อสรุปที่ครอบคลุมขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ดึงมาจากหลาย ๆ ด้าน
  ระดับ A หมายความว่าอสูรของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างแท้จริง โดยไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ซ่อนเร้น!
  มันแข็งแกร่งขึ้นจริง ๆ ต้องขอบคุณการฝึก!
  ฟีลัสตกใจเกินกว่าจะพูดออกมา เขาจ่ายเงินเพียงร้อยล้านเพื่อเลื่อนขั้นอสูรของเขาเป็นระดับ A ไม่น่าเชื่อ!
  “อีกตัวหนึ่ง โชคดีที่นี่ไม่ใช่มังกรอัสนีบาตสวรรค์”
  ในอีกมุมหนึ่งของร้าน คลีโอและลูกพี่ลูกน้องของเธอลิลลี่ต่างก็ประหลาดใจกับอันดับบนเสา
  เสาดูเหมือนจะทำงานผิดปกติ เนื่องจากมีแต่ระดับ A ที่แสดงให้เห็นในวันนี้
  อสูรตัวนี้ไม่ได้มาจากร้านค้านั่นหรอกใช่ไหม คลีโอคิด เธอถามหาประวัติของลูกค้าทันทีแล้วทักทายเขา
  ”สวัสดีค่ะ”
  ฟีลัสยังคงตกตะลึงเมื่อคลีโอเข้าหาเขา เธอประหลาดใจและสับสนเล็กน้อยเมื่อเห็นรูปลักษณ์ การแต่งกาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตราสัญลักษณ์ที่ปลายแขนเสื้อของเขา  ”ฮะ? คุณเป็นใคร?”
  “ฉันเป็นผู้จัดการของร้านนี้” คลีโอตอบอย่างเป็นกันเอง “คุณต้องมาจากตระกูลโมเรโน อสูรนี้เป็นของคุณหรือเปล่า? คุณสนใจที่จะขายมันหรือไม่? ฉันสามารถซื้อมันได้มากกว่าราคาตลาด นี่คือนามบัตรของฉัน”
  เธอยื่นบัตรสีม่วงและทองให้เขา
  บัตรเพียงอย่างเดียวมีมูลค่าหลายหมื่นเหรียญดาว
  รูม่านตาของฟีลัสหดเกร็งทันทีที่เขาเห็นบัตรใบนั้น เนื่องจากมีแต่สมาชิกในตระกูลไรอันเท่านั้นที่ใช้
  “สวัสดี ผมชื่อฟีลัส” เขารับบัตรและพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างหวาดกลัว
  ตระกูลไรอันเป็นเทพเจ้าของรีอา กองกำลังอื่นๆ ทั้งหมดต้องก้มหน้าต่อหน้าตระกูลนี้
  “ว่ายังไงคะ? คุณวางแผนที่จะขายมันไหม?” คลีโอถามอย่างตรงไปตรงมา
  ฟีลัสลังเลและพูดว่า “ผมขอโทษ แต่ผมกับเจ้าเด็กน้อยนี่อยู่ด้วยกันมานานและเราผูกพันกันมาก”
  คลีโอรู้ทันทีว่าคำตอบคือไม่ ความผูกพันลึกซึ้งเป็นเพียงข้ออ้าง จิตใจที่เฉียบแหลมของเธอยังสามารถบอกได้ว่าเขาวางแผนที่จะเข้าร่วมในการแข่งขันอสูรที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อนำความหวังมาสู่ตระกูลโมเรโนที่กำลังตกต่ำ
  “อย่าลังเลที่จะติดต่อหาฉัน หากคุณตัดสินใจที่จะขายมัน” คลีโอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
  ฟีลัสพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
  …
  ในที่สุดฟีลัสก็โล่งอกหลังจากเดินออกมาจากร้านประเมิน การเผชิญหน้ากับใครบางคนจากตระกูลไรอันนั้นเครียดเกินไป ตระกูลของเขาอาจได้รับผลกระทบหากเขาทำเธอโกรธ
  ฉันต้องไปหาเจ้าของร้านซูเดี๋ยวนี้เลย ถ้าเขาฝึกอสูรของฉันทุกวัน พวกมันทั้งหมดจะไม่มีไหวพริบระดับ A หรอกหรอ? ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันสามารถชนะการแข่งขันอสูรได้อย่างง่ายดาย…
  ฟีลัสรู้สึกตื่นเต้นและรีบกลับไปที่ร้านของซูผิง
  ”เจ้าของร้าน”
  ฟีลัสเห็นซูผิงขณะที่เขาเข้าไปในโถงต้อนรับ เขารีบเรียกเขาว่า “เจ้าของร้าน ผมไม่เห็นคุณ ผมเลยออกไปเดินเล่นข้างนอก ผมอยากให้คุณฝึกอสูรของผมเพิ่ม นี่พวกมัน…”
  เขาไม่ได้บอกว่าเขาไปที่ร้านประเมินเพราะกลัวว่าซูผิงจะโกรธเพราะความสามารถของเขาถูกตรวจสอบ
  แน่นอนว่าเขาสงสัยในความสามารถของซูผิงก่อนหน้านี้
  ”อ้อ” ซูผิงไม่แปลกใจที่เห็นฟีลัส เขาพูดว่า “คุณมาสาย ที่ว่างอสูรในร้านนี้เต็มแล้ว มาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ถ้าคุณต้องการให้อสูรของคุณได้รับการฝึกฝน”
  ”อะไรนะ?”
  ฟีลัสตกตะลึงกับคำตอบ เขาถามด้วยดวงตาเบิกกว้าง “เต็มแล้วเหรอ?”
  ”ใช่ ไม่มีที่เหลือแล้ว” ซูผิงกล่าวอย่างไม่เป็นทางการ
  ฟีลัสตกตะลึง เขาจะไม่ยอมรับมันอย่างแน่นอน
  เขาตอบอย่างรวดเร็วว่า “เจ้าของร้าน ผมสามารถจ่ายเงินเพิ่มได้ สองร้อยล้าน ไม่สิ หนึ่งพันล้านสำหรับอสูรแต่ละตัว?”
  ซูผิงเลิกคิ้วขึ้นและมองเขา ตระหนักว่าผู้ชายคนนี้ได้ไปตรวจอสูรของเขาแล้ว เขาพูดอย่างโกรธเคือง “นี่ไม่เกี่ยวกับเงิน นอกจากนี้คุณคิดว่าคุณสามารถจ้างผมโดยจ่ายเงินแค่พันล้านได้หรือยังไง?”
  ฟีลัสถึงกับพูดไม่ออก แต่เขารู้ว่าซูผิงพูดถูก
  การพัฒนาจระเข้สีเขียว B ให้อยู่ในระดับ A เป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้ฝึกสอนสี่ดาวก็ไม่สามารถทำได้ อาจเป็นผลงานของปรมาจารย์ก็ได้
  “เจ้าของร้าน ผมรู้ว่านี่ไม่เกี่ยวกับเงิน คุณช่วยผมหน่อยนี้ได้ไหม?”
  ฟีลัสใช้แนวทางที่แตกต่างออกไปในทันที และพยายามเรียกร้องความเห็นใจจากซูผิง “ผมกำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันอสูร หากคุณฝึกอสูรของผม ผมจะสร้างความแตกต่างให้ตัวเองในการแข่งขัน ผมจะบอกทุกคนว่าอสูรของผมได้รับการฝึกฝนในร้านของคุณในระหว่างพิธีมอบรางวัล มันจะเป็นโฆษณาที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ”
  “มันเป็นการแข่งขันของคุณ ทำไมผมต้องสนใจ?” ซูผิงตะคอก “คนอื่นก็โฆษณาให้ผมได้”
  ฟีลัสเริ่มรู้สึกกังวลหลังจากถูกซูผิงปฏิเสธ เขาอดไม่ได้ที่จะเสริมว่า “เจ้าของร้าน ผมขอร้องคุณ ผมต้องจะทำยังไงคุณถึงจะฝึกอสูรให้ผม”
  เขาไม่สามารถพลาดได้อีกต่อไป ถ้าเขารู้ว่าผลจะเป็นแบบนี้ เขาจะทิ้งอสูรหลักไว้ฝึกแทนจระเข้เขียวที่เขาไม่ได้ตั้งใจใช้
  “ไม่จำเป็นต้องขอร้องผม มันไร้ประโยชน์” ซูผิงพูดอย่างเฉยเมย “ถ้าคุณต้องการฝึกอสูรของคุณ พรุ่งนี้ก็แค่มาเร็ว”
  ฟีลัสตะลึงงันถามด้วยความดีใจ “จริงหรอ? คุณยินดีที่จะฝึกอสูรของผมตราบใดที่ผมมารอต่อแถว?
  “ตราบใดที่คุณจ่ายเงิน ทำไมผมจะไม่ทำล่ะ”
  “ใช่ แน่นอน ผมจะจ่ายให้คุณอย่างแน่นอน อันที่จริงผมสามารถให้เงินคุณล่วงหน้าได้ในตอนนี้…”
  “นั่นไม่จำเป็น ร้านนี้ไม่รับเงินล่วงหน้า เงินทั้งหมดจะต้องชำระ ณ ตอนนั้น ไม่มีการจอง ไม่มีการแซงคิว!” ซูผิงกล่าวอย่างเย็นชา
  ฟีลัสค่อนข้างสับสน
  ซูผิงไม่สนใจเขาและจากไป
  อีกคนหนึ่งเข้ามาในร้านในเวลา และเห็นซูผิงเดินกลับไป เธอพูดด้วยดวงตาเป็นประกายว่า“เจ้าของร้านซู”
  ซูผิงหันหลังกลับ เพียงพบว่าเธอคือมีอา
  “กลับมาแล้วหรอ?”
  ”ค่ะ”
  มีอาพูดด้วยรอยยิ้ม “มีคนบอกฉันว่าคุณขายมังกรอัสนีบาตสวรรค์ระดับ A สิบตัว จริงหรอ?”
  ซูผิงพยักหน้า “ใช่.”
  ลูกตาของฟีลัสหดเล็กเมื่อซูผิงยอมรับด้วยตัวเอง เขาเสียใจกับการตัดสินใจเมื่อวันก่อนมากยิ่งกว่าเดิม
  “เจ้าของร้านซู คุณขายให้ฉันสักตัวได้ไหม?”
  เมื่อซูผิงยอมรับ ดวงตาของมีอาก็เปล่งประกายยิ่งขึ้นไปอีก เธอกล่าวว่า “เพียงแค่บอกราคามา ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหาเงินมามอบให้คุณ”
  “คุณจับไม่ได้เลยหรอ?” ซูผิงถามกลับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว