เรามาไกลขนาดนี้เพื่อขอโทษแก?
แกเมาหรือเปล่า?
ทั้งสามคนถึงกับพูดไม่ออก พวกเขารู้สึกว่าซูผิงหยิ่งและไร้มารยาทเกินไป
เขาไม่เคารพตระกูลไรอันเลย
”เกิดอะไรขึ้น?”
”พวกเขากำลังพูดอะไรกัน?”
ลูกค้าบนท้องถนนไม่ได้ยินเสียงพวกเขา เนื่องจากการป้องกันและม่านพลังมิติพิเศษที่คนแปลกหน้าคนหนึ่งในระดับดวงดาวใช้ ทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขากับร้านของซูผิงไกลขึ้น
พวกเขามองเห็นว่ามีการสนทนากันแต่ไม่ได้ยิน
ถึงกระนั้นทุกคนก็ตั้งใจจะฟัง
“แกมันอวดดีเกินไป!”
ชายหนุ่มผมแดงเริ่มเย็นชา เขากล่าวว่า “แกฆ่าเจ้าชายหกของตระกูลไรอัน บุคคลที่มีศักยภาพไร้ขอบเขตในฐานะเมล็ดพันธุ์ของตระกูล แต่แกกลับต้องการให้เราขอโทษแก แทนที่จะขอโทษเราเนี่ยนะ?”
“นี่พวกแกถือว่าขยะนั่นเป็นเมล็ดพันธุ์? แกควรขอบคุณฉันที่กำจัดแกะดำของตระกูลออกไป” ซูผิงกล่าวอย่างเฉยชา
“แกล้ำเส้นเกินไปแล้ว!” สีหน้าของชายชราชุดขาวก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
แรนดัลที่ตายไปแล้วยังเป็นเด็ก แต่โอนีลก็ชื่นชมเขามาก ซูผิงเพิ่งเรียกเขาว่าแกะดำ
ต่อให้เขาจะเป็นแกะดำของไรอัน ก็ไม่สมควรมีบุคคลนอกมาฆ่าเขา!
”ล้ำเส้น?” ซูผิงหรี่ตาและพูดอย่างเย็นชาว่า “เขาขโมยอสูรของฉันเพียงแค่เพราะเขาชอบมันเหรอ?พูดกับฉันด้วยหมัดดีกว่าอย่าใช้ปากเลย ถ้าความยุติธรรมไม่ได้มีความหมายอะไรกับแก!”
“ใครหนุนหลังแก?” ชายหนุ่มผมแดงถามอย่างเคร่งขรึม
เขาคงจะโจมตีไปแล้วถ้าเขารู้ถึงภูมิหลังของซูผิงได้
ตระกูลไรอันชอบทำมากกว่าพูด
อย่างไรก็ตามการโจมตีทั้งหมดของพวกเขาถูกป้องกันหมด
การป้องกันของร้านค้านี่ไม่ธรรมดา และเทคนิคการปลอมตัวของซูผิงที่ปกปิดฐานบ่มเพาะแท้จริงของเขาก็ยังน่ากลัวมาก นั่นคือเหตุผลที่ชายหนุ่มยังคงกลัวเกินกว่าจะโจมตีด้วยกำลังเต็มที่
“ฮิฮิ แกกลัวภูมิหลังของฉันเหรอ?” ซูผิงเยาะเย้ยและกล่าวว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ขอโทษฉันและออกไปจากที่นี่ซะ แกกำลังส่งผลกระทบต่อธุรกิจของฉัน!”
ธุรกิจของแก?
ทั้งสามคนโกรธเคืองกับความเย่อหยิ่งของผู้ชายคนนี้
ทำไมเขาถึงหยาบคายกับคนระดับเรา? เขาเป็นคนใหญ่คนโตจริงๆหรอ?
แกอยู่ที่ระดับดวงดาวขั้นสูงสุดอย่างงั้นหรอ? หรือว่าเจ้าดวงดาว?
พวกเขาจะเต็มใจถอนตัวถ้าเขาเป็นเจ้าดวงดาว!
คนแปลกหน้าทั้งสามคนไม่เชื่อว่าซูผิงมีพลังของนักรบระดับเจ้าดวงดาว
ท้ายที่สุดแล้วคนเช่นนี้ถือว่ามีคุณสมบัติที่จะเป็นเจ้าแห่งดาวเคราะห์ระดับ 1!
พวกเขามีความสำคัญมากจนสามารถมีรายได้ทุกวันโดยไม่ต้องทำอะไรเลย!
คนแบบนั้นมีเงินไร้สิ้นสุด เพียงพอที่จะเลี้ยงดูตระกูลใหญ่โตและเลี้ยงดูผู้คนนับหมื่นด้วยทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์!
พวกเขาจะไม่ต้องมาตั้งร้านอยู่แบบนี้!
“เจ้าของร้าน เรามาที่นี่ด้วยความเคารพเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาร่วมกับนาย จำเป็นต้องหยาบคายแบบนี้ด้วยหรือไง?” ชายหนุ่มผมแดงกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน
เขายังคงกลัวการป้องกันของร้านค้าอยู่
เมื่อได้ยิน ซูผิงก็เลิกคิ้วและพูดว่า “มาอย่างเคารพ? ร้านของฉันแยกตัวจากถนนแล้ว แสดงว่าแกต้องโจมตีร้านของฉัน แต่ในที่สุดมันก็ต่อต้านแก แกโจมตีร้านฉันโดยไม่ได้คุยกับฉันก่อน นั่นคือความเคารพหรอ?”
ชายหนุ่มผมแดงถึงกับพูดไม่ออก
พวกเขาวางแผนที่จะบังคับให้ซูผิงออกมาจากร้านโดยการโจมตี
พวกเขาแค่ไม่คิดมาก่อนว่าร้านจะแข็งเหมือนกระดองเต่า
ซูผิงซึ่งอยู่ในร้านตะกี้ดูเหมือนจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังโจมตี
“จะคุยทำไม? เราสามต่อหนึ่ง คิดว่าเรากลัวแกเหรอ?” หญิงผมดำพ่นลมหายใจ เธอพร้อมที่จะจู่โจม ความเยือกเย็นปกคลุมทั่วใบหน้าของเธอ
ชายชราชุดขาวก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “มาดูกันว่าหมัดของแกจะแข็งแกร่งแค่ไหน!”
“หนักพอที่จะทำให้กะโหลกของแกแตกได้!” ซูผิงตอบอย่างเฉยเมย
หวืด!
รัศมีสีดำพุ่งเข้ามาใกล้ในขณะที่หญิงผมดำทำการเคลื่อนไหว เธอตวัดคลื่นกระบี่ดำใส่คอของซูผิงผ่านช่องว่างที่ฉีกขาด
คลื่นกระบี่สลายหายไปเมื่อเข้าสู่ระยะปลอดภัยของร้าน
ซูผิงรู้ว่าระบบได้ลงมือแล้ว การแจ้งเตือนได้ผุดขึ้นมาในหัวของเขา “นายต้องการลงโทษผู้บุกรุกหรือไม่?”
“ฉันจะจัดการเอง!” ซูผิงตอบในหัวของเขา
เขาตั้งใจที่จะค้นหาอยู่แล้วว่าเขาสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือระดับดวงดาวสามคนของสหพันธ์พร้อมกันได้หรือไม่!
เขาสามารถทำเช่นนั้นได้ในหลุมศพกึ่งเทพโดยไม่ต้องคืนชีพ
เขาอยู่ที่ประตูร้าน หากศัตรูแข็งแกร่งเกินไป เขาสามารถหนีเข้ามาในร้านเขาได้เสมอ นี่จะเป็นการออกกำลังกายที่ดีสำหรับเขา
”ทำลาย!”
ซูผิงชี้นิ้วของเขา สายฟ้าระเบิดออกจากปลายนิ้ว และคลื่นสีเทาก็เข้ามาพัวพัน รังสีดาบพุ่งออกไปพร้อมกับกฎบูมและกฏทำลายล้างในทันที
มิติหลักถูกฉีกออกจากกัน และมิติชั้นสองก็บิดเบี้ยว จากนั้นกระบี่ดำก็ถูกทำลาย พลังของกฎได้ถูกทำลายลง
“สองกฏ…” ชายหนุ่มผมแดงหรี่ตาลงและรู้สึกประหลาดใจกับสถานการณ์ภายในมิติชั้นสอง แต่ในไม่ช้าเขาก็เยาะเย้ยและพูดว่า “แค่งั้น ๆแหละ รับนี่ไป!”
ทันใดนั้นเขาก็ต่อยหมัด รัศมีหมัดแผดเผาออกมาเหมือนดวงอาทิตย์ที่ส่องแสง
ดวงอาทิตย์ลอยสูงขึ้นและส่องสว่างท้องฟ้าเหนือเมืองวอฟเฟ็ต รังสีส่องประกายระยิบระยับจนแม้แต่แสงนีออนบนถนนก็ยังถูกบดบัง
แรงกดดันของดวงอาทิตย์นั้นรุนแรงมากจนฉีกมิติออกจากกัน มิติชั้นสองถึงกับบิดเบี้ยวและสั่นสะเทือน
เปลวไฟสีทองยังคงโหมกระหน่ำในมิติชั้นสอง แม้แต่มิติชั้นสองก็ไม่เสถียรและเริ่มมีรอยร้าว
ชายชราชุดขาวและหญิงผมดำก็ก้าวเข้าไปในมิติชั้นสองเช่นกัน
ซูผิงเลิกคิ้วขึ้น เขาไม่ได้อยู่ในร้านของเขาอีกต่อไป เขาเองก็ได้หายเข้าไปในมิติชั้นสอง
”เกิดอะไรขึ้น?”
“พวกเขาไปที่มิติชั้นสองหรอ?”..ไอรีนโนเวล
“ไปดูที่มิติชั้นสองกันเถอะ เขาจะต่อสู้กับยอดฝีมือระดับดวงดาวสามคนนั่นนะหรอ? มันเป็นไปได้ยังไง? เขาเป็นเจ้าของร้านใช่ไหม?”
“เจ้าของเป็นนักรบระดับดวงดาวด้วยงั้นหรอ? โอ้พระเจ้า. ทำไมยอดฝีมือระดับดวงดาวถึงมาทำธุรกิจที่นี่”
ทุกคนบนท้องถนนต่างตกตะลึง มิติหลักได้รับการฟื้นฟูแล้ว และดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาเห็นแล้วว่ายอดฝีมือระดับดวงดาวน่ากลัวแค่ไหนและซูผิงเข้าไปในมิติชั้นสองยังไง
ลูกค้าสภาวะว่างเปล่าบางคนใช้ประโยชน์จากความลึกลับของมิติและเข้าสู่มิติชั้นสอง
ผู้ที่มีฐานบ่มเพาะของสภาวะชะตากรรมก็ไม่ลังเลเช่นกัน พวกเขาฉีกมิติออกจากกันและเข้าสู่มิติชั้นสอง
“ขอดูหน่อยเถอะ” คลีโอค่อนข้างตกใจขณะที่เธออยู่รวมในฝูงชน เธอไม่คาดคิดว่าซูผิงจะกล้าพอยอมรับการต่อสู้ระหว่างเขากับยอดฝีมือระดับดวงดาวสามคนในคราวเดียว
เขาโกหกหรือเขาเป็นยอดฝีมือของระดับดวงดาวจริงๆ?
โดยไม่ลังเล เธอลากลิลลี่ฉีกมิติไปในมิติชั้นสองอย่างรวดเร็ว เธอเป็นอัจฉริยะสภาวะว่างเปล่าของตระกูลไรอันและเธอคุ้นเคยกับมิติมากกว่าเพื่อนของเธอมาก
มีอาซึ่งอยู่ข้างหลังก็ตกตะลึงเมื่อเห็นซูผิงหายตัวไปในมิติชั้นสอง เธอเปิดช่องว่างมิติโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เธอเป็นเพียงนักรบสภาวะสมุทร แต่เธอก็สามารถฉีกผ่านไปมิติชั้นสองได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเธอเข้าใจการหายตัวแล้ว เช่นเดียวกับความลึกลับของมิติที่ปกติแล้วมีแต่คนที่อยู่ในสภาวะว่างเปล่าหรือเหนือกว่าเท่านั้นถึงเข้าใจ
นั่นคือพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของนักเรียนจากสถาบันราชวงศ์อามิลล์!
มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขาที่จะเข้าใจความรู้เกินระดับ อัจฉริยะในหมู่พวกเขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่อยู่เหนือระดับของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย!
ในขณะเดียวกัน
ซูผิงได้เข้าไปในมิติที่สองแต่ก็พบว่าพลังของกฏที่ชายหนุ่มผมแดงได้ปลดปล่อยนั้นได้ฉีกมิติชั้นสอง ขณะที่มิติชั้นสามซึ่งมืดกว่าและหายใจลำบากกว่าเองก็พังลง เศษมิติที่ปลิ่วว่อนขยายใหญ่ขึ้นเมื่อพวกมันเข้าใกล้ซูผิง
ซูผิงมองอย่างเย็นชา เพียงปล่อยให้ร่างกายของเขาถูกมิติชั้นสามกลืนกิน
มันเป็นมิติที่แม้แต่ยอดฝีมือระดับดวงดาวก็ต้องเหยียบอย่างระมัดระวัง
กฎแห่งมิติและความว่างเปล่าอันตรายอย่างมาก พวกมันสามารถทำให้เกิดการโจมตีทางกฎอย่างแท้จริง!
ว่ากันว่าสิ่งมีชีวิตมิติที่แปลกประหลาดบางชนิดได้อาศัยที่นั่น พวกมันเป็นเหมือนปีศาจมากกว่าสิ่งมีชีวิต
ดังนั้นแม้แต่ยอดฝีมือระดับดวงดาวก็ไม่สามารถเข้าไปในมิติชั้นสามได้อย่างง่ายดาย
ซวบ!
ซูผิงรู้สึกเหมือนถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งทันทีที่เขามาถึงมิติชั้นสาม มิติชั้นสามนั้นหนาวมากจนเกือบจะเหมือนขั้วโลกเหนือ กระแสลมแรงพัดเข้ามา พลังของมิติสามารถฉีกอสูรสภาวะว่างเปล่าธรรมดาให้เป็นชิ้นๆได้!
อย่างไรก็ตามซูผิงแข็งแกร่งพอ ๆ กับมังกรสภาวะชะตากรรมเพราะมีกายแสงอาทิตย์ขั้นสอง คลื่นพลังของพวกมันไม่ได้ทำให้เกิดอะไรนอกจากรอยตื้น ๆ บนผิวหนังของเขา ซึ่งหายเป็นปกติอย่างรวดเร็วหลังจากปรากฏขึ้นมา
ลูกบอลไฟอันวาววับพุ่งเข้ามาหาเขาในขณะนั้น
ลูกไฟกำลังลุกไหม้และโหมกระหน่ำเหมือนของเหลวสีทอง ซูผิงตรวจพบกลิ่นอายของกฎออกมาจากมัน มันเป็นหนึ่งในกฎแห่งไฟ
เขาไม่รู้ว่ากฎคืออะไร แต่เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาและพลังงานในนั้นถูกเผาเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็วเมื่อความร้อนจากไฟมาถึง เขากำลังอ่อนแออย่างต่อเนื่อง
พลังของกฎนั้นดูเหมือนจะสามารถเผาผลาญทุกสิ่งได้
“เทพสายฟ้า!” ซูผิงลงมือทันทีและต่อยหมัดออกไป
เขาปลดปล่อยหมัดขับไล่วิญญาณที่มีกฎแห่งเทพสายฟ้า รวมพลังของหมัดขับไล่วิญญาณด้วย ในไม่ช้ามันก็ขยับเข้าไปใกล้และชนกับลูกบอลไฟในชั่วพริบตา
ปัง!!
แม้ว่าจะไม่มีคลื่นเสียงกระจายออกไป แต่ทุกคนก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นโดยไม่รู้ตัว ในเวลาต่อมาของเหลวสีทองได้กระเซ็นออกมาและส่องสว่างในที่มืด คลื่นหมัดของซูผิงกลืนนิ้วมือไปหลายนิ้วและดูน่าหวั่นเกรงอย่างมาก
“พลังกฏสามประเภท?”
ชายหนุ่มผมแดงและคู่หูของเขาตกตะลึงหลังจากสัมผัสได้ถึงกฎที่แตกต่างจากกฎสองข้อแรกอย่างสิ้นเชิง
ใครก็ตามที่เข้าใจกฎสามข้อจะมีพลังใกล้เคียงกับระดับดวงดาวขั้นกลาง!
แถมซูผิงยังไม่ได้รวมร่างกับอสูรของเขา ถ้าเขาบวกกับพลังของกฎที่อสูรของเขาเชี่ยวชาญ เขาจะสามารถปลดปล่อยพลังต่อสู้ของระดับดวงดาวขั้นกลางได้อย่างแน่นอน!
“โจมตีเต็มกำลัง!”
ชายหนุ่มผมแดงหน้าดำเมื่อเขาเห็นว่าการโจมตีของเขาเป็นโมฆะ
กฎของซูผิงมีพลังมากกว่ากฎที่เขาภาคภูมิใจมาตลอด ซึ่งทำให้เขารู้สึกโกรธและตกใจ
กฎการเผาไหม้ของเขาเป็นหนึ่งในกฎชั้นสูงในประเภทไฟ มันใกล้เคียงกับไฟแท้จริง!
กฎบางข้อมีพลังมากกว่ากฎอื่น
กฎที่ใกล้เคียงกับกฎแท้จริงจะทรงพลังที่สุด
การปะทะกันของพวกเขาแสดงให้เห็นว่ากฎที่ซูผิงใช้นั้นใกล้เคียงกับกฎสายฟ้าแท้จริง!
ถ้าเขาฝึกฝนและคุ้นเคยกับกฎมากหว่านี้ เขาจะพัฒนาขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่นักรบระดับดวงดาวอย่างแน่นอน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว