ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 770

เรามาไกลขนาดนี้เพื่อขอโทษแก?
  แกเมาหรือเปล่า?
  ทั้งสามคนถึงกับพูดไม่ออก พวกเขารู้สึกว่าซูผิงหยิ่งและไร้มารยาทเกินไป
  เขาไม่เคารพตระกูลไรอันเลย
  ”เกิดอะไรขึ้น?”
  ”พวกเขากำลังพูดอะไรกัน?”
  ลูกค้าบนท้องถนนไม่ได้ยินเสียงพวกเขา เนื่องจากการป้องกันและม่านพลังมิติพิเศษที่คนแปลกหน้าคนหนึ่งในระดับดวงดาวใช้ ทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขากับร้านของซูผิงไกลขึ้น
  พวกเขามองเห็นว่ามีการสนทนากันแต่ไม่ได้ยิน
  ถึงกระนั้นทุกคนก็ตั้งใจจะฟัง
  “แกมันอวดดีเกินไป!”
  ชายหนุ่มผมแดงเริ่มเย็นชา เขากล่าวว่า “แกฆ่าเจ้าชายหกของตระกูลไรอัน บุคคลที่มีศักยภาพไร้ขอบเขตในฐานะเมล็ดพันธุ์ของตระกูล แต่แกกลับต้องการให้เราขอโทษแก แทนที่จะขอโทษเราเนี่ยนะ?”
  “นี่พวกแกถือว่าขยะนั่นเป็นเมล็ดพันธุ์? แกควรขอบคุณฉันที่กำจัดแกะดำของตระกูลออกไป” ซูผิงกล่าวอย่างเฉยชา
  “แกล้ำเส้นเกินไปแล้ว!” สีหน้าของชายชราชุดขาวก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
  แรนดัลที่ตายไปแล้วยังเป็นเด็ก แต่โอนีลก็ชื่นชมเขามาก ซูผิงเพิ่งเรียกเขาว่าแกะดำ
  ต่อให้เขาจะเป็นแกะดำของไรอัน ก็ไม่สมควรมีบุคคลนอกมาฆ่าเขา!
  ”ล้ำเส้น?” ซูผิงหรี่ตาและพูดอย่างเย็นชาว่า “เขาขโมยอสูรของฉันเพียงแค่เพราะเขาชอบมันเหรอ?พูดกับฉันด้วยหมัดดีกว่าอย่าใช้ปากเลย ถ้าความยุติธรรมไม่ได้มีความหมายอะไรกับแก!”
  “ใครหนุนหลังแก?” ชายหนุ่มผมแดงถามอย่างเคร่งขรึม
  เขาคงจะโจมตีไปแล้วถ้าเขารู้ถึงภูมิหลังของซูผิงได้
  ตระกูลไรอันชอบทำมากกว่าพูด
  อย่างไรก็ตามการโจมตีทั้งหมดของพวกเขาถูกป้องกันหมด
  การป้องกันของร้านค้านี่ไม่ธรรมดา และเทคนิคการปลอมตัวของซูผิงที่ปกปิดฐานบ่มเพาะแท้จริงของเขาก็ยังน่ากลัวมาก นั่นคือเหตุผลที่ชายหนุ่มยังคงกลัวเกินกว่าจะโจมตีด้วยกำลังเต็มที่
  “ฮิฮิ แกกลัวภูมิหลังของฉันเหรอ?” ซูผิงเยาะเย้ยและกล่าวว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ขอโทษฉันและออกไปจากที่นี่ซะ แกกำลังส่งผลกระทบต่อธุรกิจของฉัน!”
  ธุรกิจของแก?
  ทั้งสามคนโกรธเคืองกับความเย่อหยิ่งของผู้ชายคนนี้
  ทำไมเขาถึงหยาบคายกับคนระดับเรา? เขาเป็นคนใหญ่คนโตจริงๆหรอ?
  แกอยู่ที่ระดับดวงดาวขั้นสูงสุดอย่างงั้นหรอ? หรือว่าเจ้าดวงดาว?
  พวกเขาจะเต็มใจถอนตัวถ้าเขาเป็นเจ้าดวงดาว!
  คนแปลกหน้าทั้งสามคนไม่เชื่อว่าซูผิงมีพลังของนักรบระดับเจ้าดวงดาว
  ท้ายที่สุดแล้วคนเช่นนี้ถือว่ามีคุณสมบัติที่จะเป็นเจ้าแห่งดาวเคราะห์ระดับ 1!
  พวกเขามีความสำคัญมากจนสามารถมีรายได้ทุกวันโดยไม่ต้องทำอะไรเลย!
  คนแบบนั้นมีเงินไร้สิ้นสุด เพียงพอที่จะเลี้ยงดูตระกูลใหญ่โตและเลี้ยงดูผู้คนนับหมื่นด้วยทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์!
  พวกเขาจะไม่ต้องมาตั้งร้านอยู่แบบนี้!
  “เจ้าของร้าน เรามาที่นี่ด้วยความเคารพเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาร่วมกับนาย จำเป็นต้องหยาบคายแบบนี้ด้วยหรือไง?” ชายหนุ่มผมแดงกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน
  เขายังคงกลัวการป้องกันของร้านค้าอยู่
  เมื่อได้ยิน ซูผิงก็เลิกคิ้วและพูดว่า “มาอย่างเคารพ? ร้านของฉันแยกตัวจากถนนแล้ว แสดงว่าแกต้องโจมตีร้านของฉัน แต่ในที่สุดมันก็ต่อต้านแก แกโจมตีร้านฉันโดยไม่ได้คุยกับฉันก่อน นั่นคือความเคารพหรอ?”
  ชายหนุ่มผมแดงถึงกับพูดไม่ออก
  พวกเขาวางแผนที่จะบังคับให้ซูผิงออกมาจากร้านโดยการโจมตี
  พวกเขาแค่ไม่คิดมาก่อนว่าร้านจะแข็งเหมือนกระดองเต่า
  ซูผิงซึ่งอยู่ในร้านตะกี้ดูเหมือนจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังโจมตี
  “จะคุยทำไม? เราสามต่อหนึ่ง คิดว่าเรากลัวแกเหรอ?” หญิงผมดำพ่นลมหายใจ เธอพร้อมที่จะจู่โจม ความเยือกเย็นปกคลุมทั่วใบหน้าของเธอ
  ชายชราชุดขาวก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “มาดูกันว่าหมัดของแกจะแข็งแกร่งแค่ไหน!”
  “หนักพอที่จะทำให้กะโหลกของแกแตกได้!” ซูผิงตอบอย่างเฉยเมย
  หวืด!
  รัศมีสีดำพุ่งเข้ามาใกล้ในขณะที่หญิงผมดำทำการเคลื่อนไหว เธอตวัดคลื่นกระบี่ดำใส่คอของซูผิงผ่านช่องว่างที่ฉีกขาด
  คลื่นกระบี่สลายหายไปเมื่อเข้าสู่ระยะปลอดภัยของร้าน
  ซูผิงรู้ว่าระบบได้ลงมือแล้ว การแจ้งเตือนได้ผุดขึ้นมาในหัวของเขา “นายต้องการลงโทษผู้บุกรุกหรือไม่?”
  “ฉันจะจัดการเอง!” ซูผิงตอบในหัวของเขา
  เขาตั้งใจที่จะค้นหาอยู่แล้วว่าเขาสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือระดับดวงดาวสามคนของสหพันธ์พร้อมกันได้หรือไม่!
  เขาสามารถทำเช่นนั้นได้ในหลุมศพกึ่งเทพโดยไม่ต้องคืนชีพ
  เขาอยู่ที่ประตูร้าน หากศัตรูแข็งแกร่งเกินไป เขาสามารถหนีเข้ามาในร้านเขาได้เสมอ นี่จะเป็นการออกกำลังกายที่ดีสำหรับเขา
  ”ทำลาย!”
  ซูผิงชี้นิ้วของเขา สายฟ้าระเบิดออกจากปลายนิ้ว และคลื่นสีเทาก็เข้ามาพัวพัน รังสีดาบพุ่งออกไปพร้อมกับกฎบูมและกฏทำลายล้างในทันที
  มิติหลักถูกฉีกออกจากกัน และมิติชั้นสองก็บิดเบี้ยว จากนั้นกระบี่ดำก็ถูกทำลาย พลังของกฎได้ถูกทำลายลง
  “สองกฏ…” ชายหนุ่มผมแดงหรี่ตาลงและรู้สึกประหลาดใจกับสถานการณ์ภายในมิติชั้นสอง แต่ในไม่ช้าเขาก็เยาะเย้ยและพูดว่า “แค่งั้น ๆแหละ รับนี่ไป!”
  ทันใดนั้นเขาก็ต่อยหมัด รัศมีหมัดแผดเผาออกมาเหมือนดวงอาทิตย์ที่ส่องแสง
  ดวงอาทิตย์ลอยสูงขึ้นและส่องสว่างท้องฟ้าเหนือเมืองวอฟเฟ็ต รังสีส่องประกายระยิบระยับจนแม้แต่แสงนีออนบนถนนก็ยังถูกบดบัง
  แรงกดดันของดวงอาทิตย์นั้นรุนแรงมากจนฉีกมิติออกจากกัน มิติชั้นสองถึงกับบิดเบี้ยวและสั่นสะเทือน
  เปลวไฟสีทองยังคงโหมกระหน่ำในมิติชั้นสอง แม้แต่มิติชั้นสองก็ไม่เสถียรและเริ่มมีรอยร้าว
  ชายชราชุดขาวและหญิงผมดำก็ก้าวเข้าไปในมิติชั้นสองเช่นกัน
  ซูผิงเลิกคิ้วขึ้น เขาไม่ได้อยู่ในร้านของเขาอีกต่อไป เขาเองก็ได้หายเข้าไปในมิติชั้นสอง
  ”เกิดอะไรขึ้น?”
  “พวกเขาไปที่มิติชั้นสองหรอ?”..ไอรีนโนเวล
  “ไปดูที่มิติชั้นสองกันเถอะ เขาจะต่อสู้กับยอดฝีมือระดับดวงดาวสามคนนั่นนะหรอ? มันเป็นไปได้ยังไง? เขาเป็นเจ้าของร้านใช่ไหม?”
  “เจ้าของเป็นนักรบระดับดวงดาวด้วยงั้นหรอ? โอ้พระเจ้า. ทำไมยอดฝีมือระดับดวงดาวถึงมาทำธุรกิจที่นี่”
  ทุกคนบนท้องถนนต่างตกตะลึง มิติหลักได้รับการฟื้นฟูแล้ว และดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาเห็นแล้วว่ายอดฝีมือระดับดวงดาวน่ากลัวแค่ไหนและซูผิงเข้าไปในมิติชั้นสองยังไง
  ลูกค้าสภาวะว่างเปล่าบางคนใช้ประโยชน์จากความลึกลับของมิติและเข้าสู่มิติชั้นสอง
  ผู้ที่มีฐานบ่มเพาะของสภาวะชะตากรรมก็ไม่ลังเลเช่นกัน พวกเขาฉีกมิติออกจากกันและเข้าสู่มิติชั้นสอง
  “ขอดูหน่อยเถอะ” คลีโอค่อนข้างตกใจขณะที่เธออยู่รวมในฝูงชน เธอไม่คาดคิดว่าซูผิงจะกล้าพอยอมรับการต่อสู้ระหว่างเขากับยอดฝีมือระดับดวงดาวสามคนในคราวเดียว
  เขาโกหกหรือเขาเป็นยอดฝีมือของระดับดวงดาวจริงๆ?
  โดยไม่ลังเล เธอลากลิลลี่ฉีกมิติไปในมิติชั้นสองอย่างรวดเร็ว เธอเป็นอัจฉริยะสภาวะว่างเปล่าของตระกูลไรอันและเธอคุ้นเคยกับมิติมากกว่าเพื่อนของเธอมาก
  มีอาซึ่งอยู่ข้างหลังก็ตกตะลึงเมื่อเห็นซูผิงหายตัวไปในมิติชั้นสอง เธอเปิดช่องว่างมิติโดยไม่พูดอะไรสักคำ
  เธอเป็นเพียงนักรบสภาวะสมุทร แต่เธอก็สามารถฉีกผ่านไปมิติชั้นสองได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเธอเข้าใจการหายตัวแล้ว เช่นเดียวกับความลึกลับของมิติที่ปกติแล้วมีแต่คนที่อยู่ในสภาวะว่างเปล่าหรือเหนือกว่าเท่านั้นถึงเข้าใจ
  นั่นคือพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของนักเรียนจากสถาบันราชวงศ์อามิลล์!
  มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขาที่จะเข้าใจความรู้เกินระดับ อัจฉริยะในหมู่พวกเขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่อยู่เหนือระดับของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย!
  ในขณะเดียวกัน
  ซูผิงได้เข้าไปในมิติที่สองแต่ก็พบว่าพลังของกฏที่ชายหนุ่มผมแดงได้ปลดปล่อยนั้นได้ฉีกมิติชั้นสอง ขณะที่มิติชั้นสามซึ่งมืดกว่าและหายใจลำบากกว่าเองก็พังลง เศษมิติที่ปลิ่วว่อนขยายใหญ่ขึ้นเมื่อพวกมันเข้าใกล้ซูผิง
  ซูผิงมองอย่างเย็นชา เพียงปล่อยให้ร่างกายของเขาถูกมิติชั้นสามกลืนกิน
  มันเป็นมิติที่แม้แต่ยอดฝีมือระดับดวงดาวก็ต้องเหยียบอย่างระมัดระวัง
  กฎแห่งมิติและความว่างเปล่าอันตรายอย่างมาก พวกมันสามารถทำให้เกิดการโจมตีทางกฎอย่างแท้จริง!
  ว่ากันว่าสิ่งมีชีวิตมิติที่แปลกประหลาดบางชนิดได้อาศัยที่นั่น พวกมันเป็นเหมือนปีศาจมากกว่าสิ่งมีชีวิต
  ดังนั้นแม้แต่ยอดฝีมือระดับดวงดาวก็ไม่สามารถเข้าไปในมิติชั้นสามได้อย่างง่ายดาย
  ซวบ!
  ซูผิงรู้สึกเหมือนถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งทันทีที่เขามาถึงมิติชั้นสาม มิติชั้นสามนั้นหนาวมากจนเกือบจะเหมือนขั้วโลกเหนือ กระแสลมแรงพัดเข้ามา พลังของมิติสามารถฉีกอสูรสภาวะว่างเปล่าธรรมดาให้เป็นชิ้นๆได้!
  อย่างไรก็ตามซูผิงแข็งแกร่งพอ ๆ กับมังกรสภาวะชะตากรรมเพราะมีกายแสงอาทิตย์ขั้นสอง คลื่นพลังของพวกมันไม่ได้ทำให้เกิดอะไรนอกจากรอยตื้น ๆ บนผิวหนังของเขา ซึ่งหายเป็นปกติอย่างรวดเร็วหลังจากปรากฏขึ้นมา
  ลูกบอลไฟอันวาววับพุ่งเข้ามาหาเขาในขณะนั้น
  ลูกไฟกำลังลุกไหม้และโหมกระหน่ำเหมือนของเหลวสีทอง ซูผิงตรวจพบกลิ่นอายของกฎออกมาจากมัน มันเป็นหนึ่งในกฎแห่งไฟ
  เขาไม่รู้ว่ากฎคืออะไร แต่เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาและพลังงานในนั้นถูกเผาเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็วเมื่อความร้อนจากไฟมาถึง เขากำลังอ่อนแออย่างต่อเนื่อง
  พลังของกฎนั้นดูเหมือนจะสามารถเผาผลาญทุกสิ่งได้
  “เทพสายฟ้า!” ซูผิงลงมือทันทีและต่อยหมัดออกไป
  เขาปลดปล่อยหมัดขับไล่วิญญาณที่มีกฎแห่งเทพสายฟ้า รวมพลังของหมัดขับไล่วิญญาณด้วย ในไม่ช้ามันก็ขยับเข้าไปใกล้และชนกับลูกบอลไฟในชั่วพริบตา
  ปัง!!
  แม้ว่าจะไม่มีคลื่นเสียงกระจายออกไป แต่ทุกคนก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นโดยไม่รู้ตัว ในเวลาต่อมาของเหลวสีทองได้กระเซ็นออกมาและส่องสว่างในที่มืด คลื่นหมัดของซูผิงกลืนนิ้วมือไปหลายนิ้วและดูน่าหวั่นเกรงอย่างมาก
  “พลังกฏสามประเภท?”
  ชายหนุ่มผมแดงและคู่หูของเขาตกตะลึงหลังจากสัมผัสได้ถึงกฎที่แตกต่างจากกฎสองข้อแรกอย่างสิ้นเชิง
  ใครก็ตามที่เข้าใจกฎสามข้อจะมีพลังใกล้เคียงกับระดับดวงดาวขั้นกลาง!
  แถมซูผิงยังไม่ได้รวมร่างกับอสูรของเขา ถ้าเขาบวกกับพลังของกฎที่อสูรของเขาเชี่ยวชาญ เขาจะสามารถปลดปล่อยพลังต่อสู้ของระดับดวงดาวขั้นกลางได้อย่างแน่นอน!
  “โจมตีเต็มกำลัง!”
  ชายหนุ่มผมแดงหน้าดำเมื่อเขาเห็นว่าการโจมตีของเขาเป็นโมฆะ
  กฎของซูผิงมีพลังมากกว่ากฎที่เขาภาคภูมิใจมาตลอด ซึ่งทำให้เขารู้สึกโกรธและตกใจ
  กฎการเผาไหม้ของเขาเป็นหนึ่งในกฎชั้นสูงในประเภทไฟ มันใกล้เคียงกับไฟแท้จริง!
  กฎบางข้อมีพลังมากกว่ากฎอื่น
  กฎที่ใกล้เคียงกับกฎแท้จริงจะทรงพลังที่สุด
  การปะทะกันของพวกเขาแสดงให้เห็นว่ากฎที่ซูผิงใช้นั้นใกล้เคียงกับกฎสายฟ้าแท้จริง!
  ถ้าเขาฝึกฝนและคุ้นเคยกับกฎมากหว่านี้ เขาจะพัฒนาขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่นักรบระดับดวงดาวอย่างแน่นอน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว