ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 787
แรงกดดันในมิติชั้นห้านั้นแรงกว่าในมิติชั้นสี่ 10 เท่า ซูผิงรู้สึกราวกับว่าเขาถูกฝังหยั่งรากอยู่ในดินและแทบจะขยับไม่ได้!
อย่างไรก็ตามเสียงพึมพำจากต่างโลก—ซึ่งมีพลังที่ไม่รู้จัก—ได้หายไป ทำให้ซูผิงรู้สึกสบายใจขึ้น
นอกจากนั้นซูผิงตรวจพบว่ามีความผันผวนเชิงมิติรุนแรงแทรกซึมอยู่ในมิติ กฎเชิงมิติดูเหมือนจะปรากฏอยู่ทั่วร่างกายของเขา ความรู้สึกนี้ค่อนข้างแรง
มิติ…
ซูผิงเห็นแจ้ง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเขาอยู่ตรงธรณีประตูของกฎแห่งมิติ
ดูเหมือนว่าอสูรร้ายขนาดมหึมาจะตระหนักว่ามดตัวนี้ไม่สนใจมัน มันจึงโกรธ เช่นนั้น มันจึงเลือกใช้ใบมัดแหลมที่ฟันใส่ซูผิงเหมือนดาบ
ใบมีดพุ่งใส่เขาอย่างรวดเร็วราวกับแสง
มันอันตรายอย่างมาก ซูผิงคิดที่จะต่อต้านและกำลังจะลงมือ แต่แล้วเขาก็หมดสติไปอีกครั้ง ถูกฆ่าตาย
คืนชีพ!
ซูผิงเลือกที่จะคืนชีพในที่ที่เขาตาย
เห็นได้ชัดว่าอสูรร้ายหรี่ตาเมื่อเห็นว่าซูผิงยืนอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง ไม่มีการพูดสิ่งที่อยู่ในใจ แต่มันปล่อยใบมีดมิติอีกครั้ง
ซูผิงเตรียมพร้อมในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงต่อยออกไปอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้ใช้ดาบของเขา ซึ่งเป็นสมบัติของระดับดวงดาวที่สามารถใช้ในการต่อสู้กับระดับดวงดาวมันอาจจะถูกอสูรร้ายตัวนั้นทำลายในชั่วพริบตา
รัศมีหมัดของเขา—ซึ่งมีพลังของกฎสามข้อ—ถูกตัดขาดออกจากกันเหมือนขนมปัง และซูผิงก็เช่นกัน
ซูผิงครุ่นคิดชั่วครู่ในมิติแห่งความตาย ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะไม่ฝืน
เขาจะต้องเสียพลังงานไปกับการคืนชีพหากอสูรร้ายนั้นก็ไม่ยอมและดื้อเหมือนกันกับตัวเขาเอง
เป็นไปไม่ได้ที่ซูผิงจะเรียนรู้อะไรจากอสูรร้ายนั่น ช่องว่างระหว่างพวกเขานั้นกว้างใหญ่เกินไป
ซูผิงรอสามสิบวินาทีก่อนที่จะฟื้นคืนชีพ
จากนั้นเขาก็เห็นหางมหึมาขนาดเท่าเรือบรรทุกเครื่องบินบินออกมาต่อหน้าต่อตาเขา
อสูรร้ายหันกลับไป มุ่งหน้าไปที่อื่น
ซูผิงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าอสูรร้ายจะไม่อยากรู้อยากเห็นเหมือนมนุษย์ เขาถูกมองว่าเป็นเพียงแมลงที่สามารถฆ่าได้ง่ายๆ
ถ้ามันไม่สามารถฆ่าเขาได้ในครั้งนี้ มันก็สามารถฆ่าเขาได้อีกหลายครั้ง
มนุษย์อาจจะหยุดคิดว่าเหตุใดการทดลองครั้งแรกจึงล้มเหลว แต่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ มักไม่อยากรู้อยากเห็น
ฉันคาดไม่ถึงว่าสิ่งมีชีวิตที่น่าสยดสยองเช่นนี้จะอาศัยอยู่ที่นี่ ถ้าผู้คนบุกเข้ามาในมิติชั้นห้าและเห็นสิ่งนี้ พวกเขาอาจจะต้องการฆ่าตัวตาย ซูผิงกล่าวกับตัวเอง
ซูผิงได้ยินเสียงพึมพำจากระยะไกลอีกครั้ง เมื่ออสูรร้ายบินหนีไปและหายตัวไป พวกมันค่อนข้างต่ำและคลุมเครือ แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้ระคายหู
ซูผิงพยายามควบคุมมันและความปรารถนาที่จะทำลายล้างก็เพิ่มขึ้น เขาจดจ่อกับมิติชั้นห้ารอบตัวเขา รัศมีมิตินั้นหนาแน่นมากจนเขารู้สึกราวกับว่าเขาสามารถสัมผัสกฎแห่งมิติได้ตลอดเวลา!
หวืด!
ทันใดนั้นสติของซูผิงก็หายไป
คืนชีพ!
ซูผิงตกตะลึง แต่ก็ยังเลือกที่จะคืนชีพ.ไอลีนโนเวล.
เขายังคงยืนอยู่ในที่ที่เขาอยู่ แต่ไม่มีอะไรรอบตัวเขา เขาไม่รู้ว่าเขาถูกฆ่าได้ยังไง
ดูเหมือนว่ามีใครบางคนเพิ่งผ่านไปและฆ่าเขาโดยบังเอิญ…
ไม่น่าแปลกใจที่แม้แต่เจ้าดวงดาวจะคิดให้รอบคอบก่อนที่จะเข้ามาในสถานที่นี้
ซูผิงเพ่งความสนใจของเขาอย่างรวดเร็วและชุบชีวิตทั้งโครงกระดูกน้อยกับมังกรเพลิงนรก เขาขอให้พวกมันปกป้องเขาพร้อมกับอสูรตัวอื่น ๆ ของเขา
เขาสงบนิ่งและรับรู้กฎแห่งมิติรอบตัวเขา
โฮ่งง!
ข้างหลังซูผิง สุนัขมังกรดำเห่ามังกรเพลิงนรกด้วยดวงตาแดงก่ำ จากนั้นมันก็ปลดปล่อยทักษะที่ก้าวร้าวในตอนหลัง
ดวงตาของมังกรเพลิงนรกก็แดงก่ำเช่นกัน มันโกรธจัดจากการโจมตีของสุนัขมังกรดำ ดังนั้นมันจึงต่อสู้กลับ
โครงกระดูกน้อยยืนอยู่ข้างซูผิง แสงสีแดงแวบเข้ามาในเบ้าตาของมัน มันหันกลับไปมองซูผิงที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ ก่อนที่มันจะดึงดาบกระดูกออกมา
หลังจากนั้นมันก็เข้ามาใกล้ซูผิงและยืนพิงเขาเหมือนผู้พิทักษ์
นอกจากสุนัขมังกรดำและมังกรเพลิงนรกแล้ว อสูรอื่นๆ ทั้งหมดก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ทีละตัว ในไม่ช้าพวกมันก็เริ่มต่อสู้กันเอง และอสูรบางตัวก็ตาย
สุนัขมังกรดำและมังกรเพลิงนรกต่อสู้กันอย่างจริงจังเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกมันต่อสู้อย่างเต็มกำลัง และไม่มีฝ่ายใดเป็นฝ่ายชนะ
ซูผิงได้รับผลกระทบจากการต่อสู้เช่นกัน จากนั้นเขาก็ตื่นและเห็นสถานการณ์ เขาตระหนักได้ทันทีว่าพวกมันได้รับอิทธิพลจากเสียงกระซิบของเหล่าทวยเทพ
ซูผิงทำอะไรไม่ได้ เขาทำได้แค่พิจารณาว่าเป็นการฝึกของพวกมันเท่านั้น
”ฮะ?”
ทันใดนั้น ซูผิงเห็นวัตถุลอยมาจากมิติมืดอันไกลโพ้น มันเคลื่อนไหวช้าๆ ราวกับกำลังลอยอยู่ในแม่น้ำ
เมื่อมันใกล้เข้ามา ในที่สุดซูผิงก็รู้ว่ามันคือครึ่งตัว!
มันเป็นครึ่งบนของร่างกายที่หัวถูกทุบ มันสวมเกราะสีเงิน แต่มือที่หงายเปิดอยู่นั้นมีสีน้ำตาลและมีรอยย่นเหมือนซากศพแห้ง
มีคนเสียชีวิตในมิติชั้นห้าและร่างกายก็ถูกสงวนไว้
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ เขาปลดปล่อยพลังดวงดาวและดึงศพบางส่วนเข้ามาใกล้ เขารู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายนั้นหนักและเปล่งกลิ่นอายคุ้นเคยออกมา
เขาเคยตรวจพบพลังงานที่คล้ายคลึงกันจากเหล่าเทพหลักในหลุมศพกึ่งเทพ พวกเขาเป็นลูกน้องของโจแอนนาที่คอยคุ้มกันเขาอยู่หลายครั้ง
เขาเป็นเจ้าดวงดาวหรือปล่า? ร่างนี้คงลอยอยู่ที่นี่มานานแล้ว ซูผิงรู้สึกประหลาดใจกับการค้นพบนี้ เขาเคยต่อสู้กับเจ้าดวงดาวมาก่อน แต่เขาเกือบถูกฆ่าตายในทันทีทุกครั้ง เขาไม่เคยรู้ว่าเจ้าดวงดาวแข็งแกร่งแค่ไหน จนกระทั่งเขาเห็นซากที่ไม่สมบูรณ์นี่
เขาถูกฆ่าตายที่นี่ ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถูกฆ่ายังไง.Aileen-novel.
อย่างไรก็ตามร่างของเจ้าดวงดาวถูกเก็บไว้ที่นี่ แม้ว่าเขาจะตายไปแล้วก็ตาม!
ถึงแม้ว่ามันจะไม่คงอยู่ตลอดไป แต่เวลาที่มันทนอยู่ได้บ่งบอกว่าร่างกายแข็งแกร่งแค่ไหน!
เกราะนี้ไม่เลวเลย มันขาดและค่ายกลพลังงานที่จารึกไว้ได้รับความเสียหายไปบ้าง แต่ฉันคิดว่ามันสามารถกอบกู้ได้ ซูผิงแตะเกราะเงินบนศพแห้ง และดึงมันออกมา
เขาถอดเกราะสีเงินและเก็บไว้ในพื้นที่ของระบบ
ซูผิงตรวจสอบศพต่อ
เหล่าทวยเทพในหลุมศพกึ่งเทพจะไม่มีวันยอมปล่อยให้เขาศึกษาร่างกายของพวกเขาด้วยการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน มันเป็นโอกาสที่หายาก
จากนั้นซูผิงก็กระจายพลังดวงดาวและเจาะลึกเข้าไปในซากศพแห้งกรัง เขาค้นพบด้วยความประหลาดใจว่ายังมีพลังดวงดาวที่อุดมสมบูรณ์อยู่ในเซลล์ของศพ
พลังนี่ดูเหมือนจะถูกขังอยู่ในห้องขัง!
มันคือพลังดวงดาวซึ่งทำให้ร่างกายแข็งแกร่งและไม่บุบสลาย
นอกจากพลังดวงดาวแล้ว ซูผิงยังตรวจจับกระแสพลังเทพและสง่างามราวกับท้องฟ้า เขารู้สึกไม่มีนัยสำคัญไปเลยเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน
นี่เป็นพลังแห่งศรัทธาที่โจแอนนากล่าวถึงหรือเปล่า?
ดวงตาของซูผิงเป็นประกาย ไม่ช้าเขาก็พบว่าพลังแห่งศรัทธาในศพยังคงถูกสะสมอยู่
ซูผิงยื่นมือไปที่โครงกระดูกน้อยและขอดาบกระดูกของมัน
ดาบกระดูกนั้นแข็งกว่าดาบของเขา มันถูกสร้างขึ้นจากงาของสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ที่เป็นอมตะ
ซูผิงพยายามใช้ดาบกระดูกเฉือนเปิดหน้าอกของศพ
เมื่ออกถูกผ่าออก พลังแห่งศรัทธาที่อยู่ภายในก็เริ่มสลายไปราวกับอากาศของบอลลูนที่แตกออก
ซูผิงไม่เห็นว่ามันกำลังมา เขาปลดปล่อยพลังดวงดาวอย่างรวดเร็วเพื่อล็อคสภาพแวดล้อมและดูดซับพลัง
อย่างไรก็ตามพลังแห่งศรัทธาละเลยการปิดกั้นของเขาและยังคงรั่วไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง มันไร้ประโยชน์เหมือนกับการดึงน้ำด้วยใยแมงมุม
แสงหายไปในพริบตา ซูผิงสามารถดูดซับพลังดวงดาวได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำได้เพียงรักษาพลังแห่งศรัทธาด้วยการตรึงมันไว้บนดาบกระดูกของเขา
เขาพบว่าร่างกายของเขาไม่สามารถดูดซับพลังซึ่งเขาไม่สามารถยับยั้งได้ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยหลุมเมื่อพิจารณาถึงขอบเขตของพลังแห่งศรัทธา
มีเพียงดาบกระดูกของโครงกระดูกน้อยเท่านั้นที่สามารถกักและดูดซับพลังได้
ร่างกายที่แห้งก็เหี่ยวแห้งไปในไม่ช้าหลังจากสูญเสียพลังแห่งศรัทธา พลังดวงดาวในเซลล์ของมันกำลังไหลออกมา
ซูผิงจะไม่พลาดขุมพลังดวงดาว เขาเพียงแค่ล้อมรอบมันด้วยพลังดวงดาวของเขา โดยไม่ปล่อยให้มันรั่วไหลออกไป
ปริมาณพลังดวงดาวในเซลล์ของร่างกายที่แห้งนั้นมหาศาลและควบแน่น ปราศจากสิ่งเจือปน มันบริสุทธิ์และเบากว่าพลังดวงดาวในร่างกายของซูผิงซึ่งผ่านการลงทัณฑ์สวรรค์มาแล้วหลายร้อยครั้ง นอกจากนี้ยังมีรัศมีพิเศษ
ร่างกายของซูผิงดูดซับพลัง
พลังดวงดาวในร่างกายของเขาถึงขีดจำกัดในไม่ช้า ดูเหมือนพร้อมที่จะทำลายคอขวดได้ทุกเมื่อ
พลังดวงดาวในศพนี่เกือบเท่ากับในแหล่งกักเก็บพลังดวงดาวนับพันปีที่ซูผิงดูดซับไว้ก่อนหน้านี้!
ซูผิงประหลาดใจกับปริมาณ
เจ้าดวงดาวทุกคนมีอย่างนี้หรือเปล่า? ปริมาณพลังดวงดาวที่เหลืออยู่ในร่างกายของเขานั้นมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ!
อย่างไรก็ตามเสียงพึมพำจากต่างโลก—ซึ่งมีพลังที่ไม่รู้จัก—ได้หายไป ทำให้ซูผิงรู้สึกสบายใจขึ้น
นอกจากนั้นซูผิงตรวจพบว่ามีความผันผวนเชิงมิติรุนแรงแทรกซึมอยู่ในมิติ กฎเชิงมิติดูเหมือนจะปรากฏอยู่ทั่วร่างกายของเขา ความรู้สึกนี้ค่อนข้างแรง
มิติ…
ซูผิงเห็นแจ้ง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเขาอยู่ตรงธรณีประตูของกฎแห่งมิติ
ดูเหมือนว่าอสูรร้ายขนาดมหึมาจะตระหนักว่ามดตัวนี้ไม่สนใจมัน มันจึงโกรธ เช่นนั้น มันจึงเลือกใช้ใบมัดแหลมที่ฟันใส่ซูผิงเหมือนดาบ
ใบมีดพุ่งใส่เขาอย่างรวดเร็วราวกับแสง
มันอันตรายอย่างมาก ซูผิงคิดที่จะต่อต้านและกำลังจะลงมือ แต่แล้วเขาก็หมดสติไปอีกครั้ง ถูกฆ่าตาย
คืนชีพ!
ซูผิงเลือกที่จะคืนชีพในที่ที่เขาตาย
เห็นได้ชัดว่าอสูรร้ายหรี่ตาเมื่อเห็นว่าซูผิงยืนอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง ไม่มีการพูดสิ่งที่อยู่ในใจ แต่มันปล่อยใบมีดมิติอีกครั้ง
ซูผิงเตรียมพร้อมในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงต่อยออกไปอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้ใช้ดาบของเขา ซึ่งเป็นสมบัติของระดับดวงดาวที่สามารถใช้ในการต่อสู้กับระดับดวงดาวมันอาจจะถูกอสูรร้ายตัวนั้นทำลายในชั่วพริบตา
รัศมีหมัดของเขา—ซึ่งมีพลังของกฎสามข้อ—ถูกตัดขาดออกจากกันเหมือนขนมปัง และซูผิงก็เช่นกัน
ซูผิงครุ่นคิดชั่วครู่ในมิติแห่งความตาย ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะไม่ฝืน
เขาจะต้องเสียพลังงานไปกับการคืนชีพหากอสูรร้ายนั้นก็ไม่ยอมและดื้อเหมือนกันกับตัวเขาเอง
เป็นไปไม่ได้ที่ซูผิงจะเรียนรู้อะไรจากอสูรร้ายนั่น ช่องว่างระหว่างพวกเขานั้นกว้างใหญ่เกินไป
ซูผิงรอสามสิบวินาทีก่อนที่จะฟื้นคืนชีพ
จากนั้นเขาก็เห็นหางมหึมาขนาดเท่าเรือบรรทุกเครื่องบินบินออกมาต่อหน้าต่อตาเขา
อสูรร้ายหันกลับไป มุ่งหน้าไปที่อื่น
ซูผิงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าอสูรร้ายจะไม่อยากรู้อยากเห็นเหมือนมนุษย์ เขาถูกมองว่าเป็นเพียงแมลงที่สามารถฆ่าได้ง่ายๆ
ถ้ามันไม่สามารถฆ่าเขาได้ในครั้งนี้ มันก็สามารถฆ่าเขาได้อีกหลายครั้ง
มนุษย์อาจจะหยุดคิดว่าเหตุใดการทดลองครั้งแรกจึงล้มเหลว แต่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ มักไม่อยากรู้อยากเห็น
ฉันคาดไม่ถึงว่าสิ่งมีชีวิตที่น่าสยดสยองเช่นนี้จะอาศัยอยู่ที่นี่ ถ้าผู้คนบุกเข้ามาในมิติชั้นห้าและเห็นสิ่งนี้ พวกเขาอาจจะต้องการฆ่าตัวตาย ซูผิงกล่าวกับตัวเอง
ซูผิงได้ยินเสียงพึมพำจากระยะไกลอีกครั้ง เมื่ออสูรร้ายบินหนีไปและหายตัวไป พวกมันค่อนข้างต่ำและคลุมเครือ แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้ระคายหู
ซูผิงพยายามควบคุมมันและความปรารถนาที่จะทำลายล้างก็เพิ่มขึ้น เขาจดจ่อกับมิติชั้นห้ารอบตัวเขา รัศมีมิตินั้นหนาแน่นมากจนเขารู้สึกราวกับว่าเขาสามารถสัมผัสกฎแห่งมิติได้ตลอดเวลา!
หวืด!
ทันใดนั้นสติของซูผิงก็หายไป
คืนชีพ!
ซูผิงตกตะลึง แต่ก็ยังเลือกที่จะคืนชีพ.ไอลีนโนเวล.
เขายังคงยืนอยู่ในที่ที่เขาอยู่ แต่ไม่มีอะไรรอบตัวเขา เขาไม่รู้ว่าเขาถูกฆ่าได้ยังไง
ดูเหมือนว่ามีใครบางคนเพิ่งผ่านไปและฆ่าเขาโดยบังเอิญ…
ไม่น่าแปลกใจที่แม้แต่เจ้าดวงดาวจะคิดให้รอบคอบก่อนที่จะเข้ามาในสถานที่นี้
ซูผิงเพ่งความสนใจของเขาอย่างรวดเร็วและชุบชีวิตทั้งโครงกระดูกน้อยกับมังกรเพลิงนรก เขาขอให้พวกมันปกป้องเขาพร้อมกับอสูรตัวอื่น ๆ ของเขา
เขาสงบนิ่งและรับรู้กฎแห่งมิติรอบตัวเขา
โฮ่งง!
ข้างหลังซูผิง สุนัขมังกรดำเห่ามังกรเพลิงนรกด้วยดวงตาแดงก่ำ จากนั้นมันก็ปลดปล่อยทักษะที่ก้าวร้าวในตอนหลัง
ดวงตาของมังกรเพลิงนรกก็แดงก่ำเช่นกัน มันโกรธจัดจากการโจมตีของสุนัขมังกรดำ ดังนั้นมันจึงต่อสู้กลับ
โครงกระดูกน้อยยืนอยู่ข้างซูผิง แสงสีแดงแวบเข้ามาในเบ้าตาของมัน มันหันกลับไปมองซูผิงที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ ก่อนที่มันจะดึงดาบกระดูกออกมา
หลังจากนั้นมันก็เข้ามาใกล้ซูผิงและยืนพิงเขาเหมือนผู้พิทักษ์
นอกจากสุนัขมังกรดำและมังกรเพลิงนรกแล้ว อสูรอื่นๆ ทั้งหมดก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ทีละตัว ในไม่ช้าพวกมันก็เริ่มต่อสู้กันเอง และอสูรบางตัวก็ตาย
สุนัขมังกรดำและมังกรเพลิงนรกต่อสู้กันอย่างจริงจังเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกมันต่อสู้อย่างเต็มกำลัง และไม่มีฝ่ายใดเป็นฝ่ายชนะ
ซูผิงได้รับผลกระทบจากการต่อสู้เช่นกัน จากนั้นเขาก็ตื่นและเห็นสถานการณ์ เขาตระหนักได้ทันทีว่าพวกมันได้รับอิทธิพลจากเสียงกระซิบของเหล่าทวยเทพ
ซูผิงทำอะไรไม่ได้ เขาทำได้แค่พิจารณาว่าเป็นการฝึกของพวกมันเท่านั้น
”ฮะ?”
ทันใดนั้น ซูผิงเห็นวัตถุลอยมาจากมิติมืดอันไกลโพ้น มันเคลื่อนไหวช้าๆ ราวกับกำลังลอยอยู่ในแม่น้ำ
เมื่อมันใกล้เข้ามา ในที่สุดซูผิงก็รู้ว่ามันคือครึ่งตัว!
มันเป็นครึ่งบนของร่างกายที่หัวถูกทุบ มันสวมเกราะสีเงิน แต่มือที่หงายเปิดอยู่นั้นมีสีน้ำตาลและมีรอยย่นเหมือนซากศพแห้ง
มีคนเสียชีวิตในมิติชั้นห้าและร่างกายก็ถูกสงวนไว้
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ เขาปลดปล่อยพลังดวงดาวและดึงศพบางส่วนเข้ามาใกล้ เขารู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายนั้นหนักและเปล่งกลิ่นอายคุ้นเคยออกมา
เขาเคยตรวจพบพลังงานที่คล้ายคลึงกันจากเหล่าเทพหลักในหลุมศพกึ่งเทพ พวกเขาเป็นลูกน้องของโจแอนนาที่คอยคุ้มกันเขาอยู่หลายครั้ง
เขาเป็นเจ้าดวงดาวหรือปล่า? ร่างนี้คงลอยอยู่ที่นี่มานานแล้ว ซูผิงรู้สึกประหลาดใจกับการค้นพบนี้ เขาเคยต่อสู้กับเจ้าดวงดาวมาก่อน แต่เขาเกือบถูกฆ่าตายในทันทีทุกครั้ง เขาไม่เคยรู้ว่าเจ้าดวงดาวแข็งแกร่งแค่ไหน จนกระทั่งเขาเห็นซากที่ไม่สมบูรณ์นี่
เขาถูกฆ่าตายที่นี่ ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถูกฆ่ายังไง.Aileen-novel.
อย่างไรก็ตามร่างของเจ้าดวงดาวถูกเก็บไว้ที่นี่ แม้ว่าเขาจะตายไปแล้วก็ตาม!
ถึงแม้ว่ามันจะไม่คงอยู่ตลอดไป แต่เวลาที่มันทนอยู่ได้บ่งบอกว่าร่างกายแข็งแกร่งแค่ไหน!
เกราะนี้ไม่เลวเลย มันขาดและค่ายกลพลังงานที่จารึกไว้ได้รับความเสียหายไปบ้าง แต่ฉันคิดว่ามันสามารถกอบกู้ได้ ซูผิงแตะเกราะเงินบนศพแห้ง และดึงมันออกมา
เขาถอดเกราะสีเงินและเก็บไว้ในพื้นที่ของระบบ
ซูผิงตรวจสอบศพต่อ
เหล่าทวยเทพในหลุมศพกึ่งเทพจะไม่มีวันยอมปล่อยให้เขาศึกษาร่างกายของพวกเขาด้วยการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน มันเป็นโอกาสที่หายาก
จากนั้นซูผิงก็กระจายพลังดวงดาวและเจาะลึกเข้าไปในซากศพแห้งกรัง เขาค้นพบด้วยความประหลาดใจว่ายังมีพลังดวงดาวที่อุดมสมบูรณ์อยู่ในเซลล์ของศพ
พลังนี่ดูเหมือนจะถูกขังอยู่ในห้องขัง!
มันคือพลังดวงดาวซึ่งทำให้ร่างกายแข็งแกร่งและไม่บุบสลาย
นอกจากพลังดวงดาวแล้ว ซูผิงยังตรวจจับกระแสพลังเทพและสง่างามราวกับท้องฟ้า เขารู้สึกไม่มีนัยสำคัญไปเลยเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน
นี่เป็นพลังแห่งศรัทธาที่โจแอนนากล่าวถึงหรือเปล่า?
ดวงตาของซูผิงเป็นประกาย ไม่ช้าเขาก็พบว่าพลังแห่งศรัทธาในศพยังคงถูกสะสมอยู่
ซูผิงยื่นมือไปที่โครงกระดูกน้อยและขอดาบกระดูกของมัน
ดาบกระดูกนั้นแข็งกว่าดาบของเขา มันถูกสร้างขึ้นจากงาของสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ที่เป็นอมตะ
ซูผิงพยายามใช้ดาบกระดูกเฉือนเปิดหน้าอกของศพ
เมื่ออกถูกผ่าออก พลังแห่งศรัทธาที่อยู่ภายในก็เริ่มสลายไปราวกับอากาศของบอลลูนที่แตกออก
ซูผิงไม่เห็นว่ามันกำลังมา เขาปลดปล่อยพลังดวงดาวอย่างรวดเร็วเพื่อล็อคสภาพแวดล้อมและดูดซับพลัง
อย่างไรก็ตามพลังแห่งศรัทธาละเลยการปิดกั้นของเขาและยังคงรั่วไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง มันไร้ประโยชน์เหมือนกับการดึงน้ำด้วยใยแมงมุม
แสงหายไปในพริบตา ซูผิงสามารถดูดซับพลังดวงดาวได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำได้เพียงรักษาพลังแห่งศรัทธาด้วยการตรึงมันไว้บนดาบกระดูกของเขา
เขาพบว่าร่างกายของเขาไม่สามารถดูดซับพลังซึ่งเขาไม่สามารถยับยั้งได้ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยหลุมเมื่อพิจารณาถึงขอบเขตของพลังแห่งศรัทธา
มีเพียงดาบกระดูกของโครงกระดูกน้อยเท่านั้นที่สามารถกักและดูดซับพลังได้
ร่างกายที่แห้งก็เหี่ยวแห้งไปในไม่ช้าหลังจากสูญเสียพลังแห่งศรัทธา พลังดวงดาวในเซลล์ของมันกำลังไหลออกมา
ซูผิงจะไม่พลาดขุมพลังดวงดาว เขาเพียงแค่ล้อมรอบมันด้วยพลังดวงดาวของเขา โดยไม่ปล่อยให้มันรั่วไหลออกไป
ปริมาณพลังดวงดาวในเซลล์ของร่างกายที่แห้งนั้นมหาศาลและควบแน่น ปราศจากสิ่งเจือปน มันบริสุทธิ์และเบากว่าพลังดวงดาวในร่างกายของซูผิงซึ่งผ่านการลงทัณฑ์สวรรค์มาแล้วหลายร้อยครั้ง นอกจากนี้ยังมีรัศมีพิเศษ
ร่างกายของซูผิงดูดซับพลัง
พลังดวงดาวในร่างกายของเขาถึงขีดจำกัดในไม่ช้า ดูเหมือนพร้อมที่จะทำลายคอขวดได้ทุกเมื่อ
พลังดวงดาวในศพนี่เกือบเท่ากับในแหล่งกักเก็บพลังดวงดาวนับพันปีที่ซูผิงดูดซับไว้ก่อนหน้านี้!
ซูผิงประหลาดใจกับปริมาณ
เจ้าดวงดาวทุกคนมีอย่างนี้หรือเปล่า? ปริมาณพลังดวงดาวที่เหลืออยู่ในร่างกายของเขานั้นมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว