ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 800

ซูผิงก้มมองชายหนุ่มและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันกล้าพูด แล้วจะทำไม?”
  ชายหนุ่มชุดขาวตัวสั่นด้วยความโกรธ เขาสัมผัสได้ถึงการดูถูกจากซูผิง เขาไม่เคยถูกดูถูกขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่เป็นนักเรียนของสถาบันมีอาหลัก
  แม้แต่ผู้ชายที่หยิ่งผยองที่สุดก็ยังเคารพในตัวตนของเขาทุกครั้งที่เจอกัน
  นี่เป็นครั้งแรกที่ชื่อของสถาบันเขาไม่มีผล
  “ถ้าอย่างนั้น แกต้องขอโทษและชดใช้!” ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเฉยเมย “แต่แกไม่ใช่ยอดฝีมือระดับดวงดาว แกไม่เพียงแต่ฆ่านักเรียนของฉัน แกยังดูถูกอีกด้วย ดังนั้นแกต้องตาย เพื่อนและครอบครัวของแกจะตายไปพร้อมกับแกเพราะสิ่งที่แกพูด ต่อให้นักรบระดับดวงดาวที่อยู่เบื้องหลังแกต้องการจะเข้ามาช่วย แต่แกก็ยังต้องชดใช้อยู่ดี!”
  “ระดับดวงดาวที่อยู่เบื้องหลังฉัน?”
  ซูผิงหัวเราะและมองย้อนกลับไป “แอนนา มีคนขอให้เธอชดใช้”
  “อย่างนั้นหรอ?” เธอพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ จากนั้นหญิงสาวสวยผมยาวสีบลอนด์ก็เดินมาที่ประตู แสงแดดบนถนนทั้งสายดูเหมือนจะถูกเธอบดบังในทันใด
  เธอมีความงามที่ทำให้ทุกคนต้องหลงใหล
  ชายหนุ่มชุดขาวหรี่ตาลง สิ่งที่เขาเห็นคือผู้หญิงผมบลอนด์
  ลูกค้าที่ยืนต่อแถวก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน บรรดาผู้ที่เคยเห็นโจแอนนาก่อนหน้านี้สามารถรักษาความเยือกเย็นของตนไว้ได้ แต่คนที่ไม่เคยเห็นทำไม่ได้
  ”ฮะ?”
  ชายวัยกลางคนอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ตรวจพบอากาศพิเศษและศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากผู้หญิงคนนี้อย่างรวดเร็ว นั่นคือ… พลังเทพ!
  มีพลังเทพในตัวผู้หญิงคนนี้?
  ชายวัยกลางคนค่อนข้างตกใจ พลังเทพเป็นพลังงานชนิดหนึ่งที่หายากมากในจักรวาล พบได้เฉพาะในอาณาจักรลับหรือหลุมดำเท่านั้น
  แม้ว่าคุณจะเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันมีอาหลัก คุณจะต้องมีความดีความชอบมากมายเพื่อแลกกับพลังเทพ!
  แม้แต่นักเรียนชั้นยอดก็ยังได้รับมาไม่มากนัก ในทางกลับกันหญิงสาวคนนี้กลับเปี่ยมไปด้วยพลังเทพ
  “ใครถามหาฉัน” โจแอนนาเหลือบมองคนนอกร้านอย่างสง่างามและเฉยเมย
  ชายวัยกลางคนได้สติและวางท่าทีเคร่งขรึม แม้ว่าเขาจะสัมผัสได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่นักรบระดับดวงดาว แต่เธออ้างว่าเธอเป็นและลูกค้าที่อยู่ที่นี่ต่างกระซิบกระซาบกัน ดังนั้นเธอจึงต้องเป็นระดับดวงดาวแน่
  อย่างไรก็ตามเธอปลอมตัวมาอย่างดีจนเขาไม่สามารถวัดระดับที่แท้จริงของเธอได้ น่าทึ่งมาก
  นอกจากนี้ยังมีพลังเทพหนาแน่น… เธอต้องมาจากภูมิหลังที่ทรงพลังมาก!
  เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดอย่างใจเย็น “คุณผู้หญิง คุณชื่ออะไร? ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวคนไหนที่อยู่เบื้องหลังคุณ”
  “แกไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้ชื่อของฉัน” โจแอนนาพูดอย่างเฉยเมย “ตะกละตะกลามอยากกได้พลังเทพที่เจือปน แกมันก็เป็นแค่มนุษย์สกปรก!”
  ใบหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาขุ่นเคืองกับคำพูดดังกล่าว แต่สิ่งที่โจแอนนาพูดต่อไปทำให้เขาประหลาดใจ เธอสามารถตรวจจับพลังเทพในร่างกายของฉันได้หรอ?
  เจือปน? พลังเทพของฉันมีคุณภาพสูงสุด!
  “เธอรู้ผลที่ตามมาของการท้าทายสถาบันมีอาหลักหรือเปล่า? ฉันไม่คิดว่าเธอเต็มใจที่จะทำให้เรื่องมันวุ่นวายและใครก็ตามที่อยู่เบื้อหลังเธอต้องมาช่วย”
  ชายวัยกลางคนกล่าวเสริม “ประธานสถาบันของฉันเป็นยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว ศิษย์เก่าชั้นนำของเราบางคนก็เป็นนักรบสภาวะเทพดวงดาวด้วย เธอได้พิจารณาผลที่ตามมาแล้วจริงๆ หรือยัง??”
  ทุกคนในแถวเงียบขรึมกับสิ่งที่เขาพูด ตื่นจากภวังค์ที่เกิดจากใบหน้าแสนเย้ายวนของโจแอนนา พวกเขาร่วมกันกลั้นหายใจ
  สภาวะเทพดวงดาว….Aileen-novel.
  นั่นมันช่างห่างไกลเหลือเกิน
  เมื่อใดก็ตามที่พวกเขากระทืบ สหพันธ์ทั้งหมดจะต้องเผชิญกับแผ่นดินไหว!
  ซูผิงหัวเราะและพูดว่า “แกคิดว่าสถาบันมีอาหลักสามารถผยองได้เพียงเพราะประธานของแกอยู่ในสภาวะเทพดวงดาวอย่างงั้นหรอ? ฉันท้าทายแก? ขอโทษนะ ฉันไม่ได้สนใจ แกจะคิดยังไงก็ช่าง แต่ในทางกลับกันแกคิดว่าแกมีคุณสมบัติที่จะมาพูดในนามของสถาบันมีอาหลักไหม?”
  คำตอบนี้ทำให้ชายวัยกลางคนหยุดชะงัก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
  อันที่จริงเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นตัวแทนของสถาบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซูผิงและภูมิหลังของหญิงสาวไม่ชัดเจน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขามีพลังมหาศาลอยู่เบื้องหลัง
  แม้ว่าขุมกำลังดังกล่าวจะไม่มีนักรบสภาวะเทพดวงดาว แต่ก็ย่อมมีเจ้าดวงดาว
  เจ้าดวงดาว… ก็น่ากลัวมากพอแล้ว!
  แม้ว่าสถาบันมีอาหลักจะทรงพลัง แต่ก็มีนักเรียนจำนวนมาก พวกเขาต้องการหลีกเลี่ยงการสร้างศัตรูไปทั่ว
  ท้ายที่สุด แม้นักเรียนชั้นนำบางคนมีศักยภาพที่จะเป็นเจ้าดวงดาว นั่นเป็นเพียง “ศักยภาพ” จำนวนของพวกเขามีไม่มากนัก
  ไม่ใช่แค่เจ้าดวงดาวแม้แต่นักรบระดับดวงดาวยังน่าเคารพมากกว่านักเรียนทั่วไป
  เฉพาะนักเรียนที่โดดเด่นที่สุดเท่านั้นถึงสามารถไประดับดวงดาวและพวกเขาอาจตายในกระบวนการนั้น พวกเขามีความสำคัญน้อยกว่าผู้ที่ไปถึงระดับดวงดาวแล้วจริงๆ
  “ฉันไม่สามารถเป็นตัวแทนของสถาบันได้ แต่แกฆ่านักเรียนของสถาบันฉันและตามกฎแกต้องชดใช้ด้วยชีวิต!” ชายวัยกลางคนกล่าวขณะที่มองโจแอนนา “มีวิธีชดเชยอยู่ถ้าเธอต้องการช่วยชีวิตเขา”
  ซูผิงยิ้มและกล่าวว่า “ค่าชดเชย? อันที่จริงแกต่างหากที่ควรชดเชยฉัน นักเรียนของแกพยายามจะขโมยอสูรของฉัน นั่นเป็นการไม่ไว้หน้ากัน ฉันผ่อนปรนพอแล้วที่ฉันแค่ฆ่าเธอ แต่เนื่องจากแกมาอยู่ที่นี่แล้ว ขอโทษแทนเธอซะ แล้วฉันจะยกโทษให้สถาบันห่วยแตกของแก”
  ชายหนุ่มชุดขาวตกตะลึง “เสียสติไปแล้วหรอ? แกต้องการให้เราขอโทษ? บ้าอะไร? แกเป็นแค่นักรบของสภาวะสมุทรไม่ใช่ระดับดวงดาว!”
  “แล้วถ้าฉันเป็นนักรบระดับดวงดาวล่ะ” ซูผิงยิ้ม
  เนื่องจากทุกคนคิดว่าเขาอยู่ในระดับนั้น เขาก็เลยปล่อยตามเลย
  “แกอยู่ระดับดวงดาวหรอ?” ชายหนุ่มชุดขาวตกตะลึง
  สถานะนั้นไม่สามารถสุ่มได้
  เขาคงจะทำให้ยอดฝีมือระดับดวงดาวไม่พอใจ ถ้าเขาแกล้งทำเป็น!
  มันจะเหมือนคนโกงที่แอบอ้างเป็นปรมาจารย์ ปรมาจารย์คนอื่นๆ จะไม่โกรธเคืองได้อย่างไร?
  “แน่นอน เจ้าของร้านเป็นยอดฝีมือระดับดวงดาวไม่ใช่หรอ?”
  “พวกเขาไม่รู้ว่าเจ้าของร้านอยู่ในระดับดวงดาว?”
  “เท่าที่ฉันได้ยินมา นักเรียนจากสถาบันนั้นต่างหากที่พยายามจะปล้นอสูรของเจ้าของร้าน ทำอะไรโง่ๆ”
  ”จริง แม้จะเป็นนักเรียนจากสถาบันอันทรงเกียรติก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ไปทำให้คนระดับดวงดาวโกรธได้ยังไง?”
  ลูกค้าในแถวกระซิบกันเสียงเบา
  ชายหนุ่มชุดขาวตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงกระซิบของพวกเขา
  ใบหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปอีกครั้ง พวกเขาคิดว่าหญิงผมบลอนด์เป็นยอดฝีมือระดับดวงดาวเพียงคนเดียว แต่เป็นไปได้ด้วยหรอที่ชายหนุ่มคนนี้ก็อยู่ที่ระดับดวงดาวด้วย?
  ถ้าเป็นเช่นนั้น มันก็ไม่สมเหตุสมผลที่นักเรียนพวกเขาจะไปปล้นอสูรของเขา!
  หากช่องว่างระหว่างสองฝ่ายกว้างเกินไป ก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล
  อย่างไรก็ตามหากพวกเขาอยู่ในระดับที่คล้ายคลึงกัน พวกเขาจะต้องหาเหตุผลออกมาให้ได้!
  มันเป็นกฎของโลก
  ชายวัยกลางคนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ถ้าแกเป็นนักรบดวงดาว นักเรียนของเราก็ไม่ควรทำให้แกขุ่นเคือง งั้นก็ช่างมัน แต่ถ้าแกไม่ใช่แกน่าจะรู้ผลที่ตามมาของการแสร้งทำเป็นนักรบระดับดวงดาวดีใช่ไหม?”
  “‘ช่างมัน?’ อย่างที่ฉันพูด แกต้องขอโทษฉัน ลองคิดดูสิว่าแกสามารถมาตะโกนใส่ฉันแล้วหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างงั้นรหอ?” ซูผิงกล่าวพลางหรี่ตาลง
  ชายวัยกลางคนเปลี่ยนท่าทางและพ่นลมหายใจ “เลิกไร้สาระได้แล้ว! มาดูกันว่าแกเก่งแค่ไหน!”
  ทันใดนั้นเขาก็ต่อยหมัด มิติปริแตกออก ปลดปล่อยพลังแห่งกฎออกมา
  ซูผิงรู้สึกถึงกระแสพลังที่แข็งแกร่ง เขาไม่รู้ว่ามันคือกฎอะไร แต่เขายื่นมือออกไปและชี้นิ้ว
  กฎแห่งมิติ!
  พลังแห่งกฎฟาดฟันกันอย่างรวดเร็วราวกับใบมีดที่แหลมคม
  พลังงานชนกันภายในมิติที่มองไม่เห็น ทำให้เกิดการระเบิดที่ทำให้หูหนวก แรงระเบิดนั้นแรงมากจนคนทั้งถนนเซ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว