ต้องขอบคุณการปิดกั้นของโลกใบเล็ก ผู้สังเกตการณ์ภายนอกจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ทุกคนสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของการปะทะกัน!
เป็นการยากที่จะจินตนาการว่าการต่อสู้นี้อยู่ในขอบเขตของระดับดวงดาว ผลที่ตามมาของมันสามารถทะลุผ่านความว่างเปล่าได้ โชคดีที่มันเกิดขึ้นในโลกใบเล็กของเจ้าดวงดาว ไม่อย่างนั้นมันจะทำลายทุกอย่างที่อยู่รอบๆ
”จำกัด!”
ชายหนุ่มชุดม่วงรีบลงมือและควบแน่นอากาศ จากนั้นโซ่ที่กระจายตัวก็เสถียร และรวบรวมอีกครั้งในมือของเขา
สีหน้าของชายหนุ่มชุดม่วงเปลี่ยนไปกะทันหันเมื่อรวบโซ่ได้
โซ่เส้นหนึ่งสูญเสียแสงและพลังแห่งกฎไป มีรอยตัดลึกจนโซ่เกือบขาด!
มันเป็นสมบัติลับระดับดวงดาวสูงสุด กฎแห่งการฉีกซึ่งผูกติดอยู่กับโซ่นั้นสามารถเจาะอะไรก็ได้ พวกมันยังได้รับการเสริมโดยพลังเทพของเขาเอง พวกมันจะเสียหายร้ายแรงขนาดนี้นี้ได้ยังไง?
อาวุธของฝ่ายตรงข้ามจะถูกทำลายทุกครั้งที่ปะทะกับโซ่ของเขา!
เขาถือดาบอะไรอยู่?
ชายหนุ่มชุดม่วงเงยหน้าขึ้นและมองดาบที่ดูธรรมดาในมือของซูผิง ดาบมีขนาดเล็กและไม่มีด้ามจับ เขาจ้องไปที่มันอย่างเคร่งขรึม
“ดูเหมือนว่าแกจะยังไม่เอาจริง”
ชายหนุ่มชุดม่วงหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาพบว่าเขาไม่สามารถมองเห็นระดับที่แท้จริงของซูผิงได้ ยังคงเป็นสภาวะว่างเปล่า
ในขณะที่ต่อสู้ในการต่อสู้ที่ดุเดือด ชายคนนี้ยังคงสามารถปกปิดระดับของเขาด้วยเทคนิคปกปิด ซึ่งหมายความว่าเขายังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของเขา
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คู่ต่อสู้ของเขาไม่ได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการต่อสู้กับเขา!
เขาสูดหายใจลึก อสูรสามตัวปรากฏขึ้นข้างหลังเขา พวกมันทั้งหมดอยู่ระดับดวงดาวขั้นต้น สองตัวเป็นมังกร และอีกตัวเป็นอสูรปีศาจ
อสูรทั้งสามได้รับการฝึกฝนหลายครั้ง พวกมันมีความสามารถสูงและสามารถต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่เกินระดับของพวกมันได้ เหมือนกันกับชายหนุ่มชุดม่วง!
“แกบังคับให้ฉันเอาจริงเอง แม้ว่าแกจะอยู่ในระดับดวงดาว แกก็ควรภูมิใจในตัวเอง!” ชายหนุ่มชุดม่วงกล่าว
เขากำลังยกย่องซูผิง แต่ก็ยังดูหยิ่งผยอง
เขาดูถูกระดับดวงดาวทั้งที่เขาอยู่แค่สภาวะชะตากรรมเท่านั้น
ความเย่อหยิ่งของเขาทำให้ผู้บ่มเพาะระดับดวงดาวนอกโลกใบเล็กไม่สบายใจอย่างยิ่ง
ชายหนุ่มชุดม่วงไม่ได้เรียกอสูรของเขาออกมาตอนที่เขาโจมตีพวกเขา!
เขาอวดดีทั้งที่อยู่แค่สภาวะชะตากรรม แต่เขาก็มีความสามารถในการทำเช่นนั้นได้จริงๆ!
ซูผิงนิ่งเงียบขณะจ้องมองเขา เขาเพียงแค่ยกมือขึ้นและรวบรวมรัศมีดาบที่เจิดจ้าและแผดเผายิ่งกว่าเดิม
กระแสน้ำวนในร่างของเขาพลุ่งพล่านอีกครั้งหลังจากหยุดนิ่งไปชั่วคราว ปลดปล่อยพลังดวงดาวนับพันล้านดวง
บูม!
แม่น้ำพลังดวงดาวพุ่งเข้ามาในร่างของเขา และพลังเทพก็แผ่ออกมาอีกครั้ง
“เสริมแกร่ง!”
“ทำลาย!”
“อสูรปีศาจ!”
ชายหนุ่มชุดม่วงเตรียมตัวรับการโจมตีของซูผิง เขาเรียกอสูรสามตัวมาไม่ใช่ให้พวกมันต่อสู้เพื่อเขา แต่เพื่อให้ร่วมต่อสู้กับเขา
ยิ่งนักรบอสูรมีระดับสูงเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น บางคนอาจน่ากลัวกว่าอสูรด้วยซ้ำ!
ทันใดนั้นรัศมีการเสริมพลังก็ปรากฏบนมังกรเกล็ดเขียวและเสริมแกร่งให้กับชายหนุ่มชุดม่วง ซึ่งแข็งแกร่งเพิ่มเป็นสองเท่า พลังดวงดาวของเขาเพิ่มขึ้นราวกับฟองสบู่
ในระหว่างนี้มังกรแดงอีกตัวใช้ทักษะที่ทำให้ซูผิงอ่อนแอลง
อสูรปีศาจส่งเสียงร้องและโจมตีแบบแปลกๆ ซึ่งจะเจาะเข้าไปในหัวของซูผิงและทำลายวิญญาณของเขา!
“สุนัขมังกรดำ!” ซูผิงคำราม
สุนัขมังกรดำที่อยู่ข้างหลังซูผิงกระโดดออกมา ปล่อยเสียงคำรามที่น่าเกรงขามที่สุดซึ่งทำให้ทั้งโลกตกตะลึง!
เสียงคำรามดังกึกก้องเกินกว่าที่อสูรระดับดวงดาวจะคำรามได้ ก่อนหน้านี้สุนัขมังกรดำไม่สามารถเลียนแบบเสียงคำรามของสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้มันทำได้แล้วเนื่องจากระดับของมันเพิ่มขึ้น
ทักษะเสริมแกร่งและทักษะชำระล้างเริ่มขึ้นหลังจากที่เสียงคำรามของมังกรกระจายออกไป และกฎลดพลังที่มังกรแดงใช้ก็ถูกขวางกั้น
กฎของแข็งที่สุนัขมังกรดำเข้าใจตั้งขึ้นตรงหน้าซูผิงเป็นเกราะป้องกันพลังงาน ร่วมกับกฎอื่นๆ
ในขณะเดียวกันก็เสริมพลังให้ซูผิง ทักษะเสริมแกร่งเหล่านี้ผลาญพลังมาก ขณะที่รัศมีของซูผิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สุนัขมังกรดำก็สูญเสียพลังดวงดาวไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
การแข่งขันที่ไร้เสียงเริ่มต้นขึ้น สุนัขมังกรดำกำลังต่อต้านมังกรระดับดวงดาวสองตัวเพียงลำพัง
สุนัขมังกรดำดูเหมือนจะเหนือกว่า มันปราบปรามอสูรทั้งสองได้!
ในสายตาของคนดู อสูรของซูผิงต้องเป็นอสูรระดับดวงดาวขั้นสูงสุด ดังนั้นจึงไม่มีอะไรผิดปกติ ในขณะที่ชายหนุ่มชุดม่วงนั้นแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะศัตรูที่สูงกว่าระดับของเขาได้ แต่อสูรของเขาเป็นจุดอ่อนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้!
ระดับดวงดาวขั้นต้นจะไม่มีวันเปรียบเทียบกับระดับดวงดาวขั้นสูงสุดได้!
เว้นแต่เขาจะฝึกอสูรของเขาและทำให้พวกมันมีความสามารถเท่าตัวเขาเอง แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง?
นั่นคือเหตุผลที่ชายหนุ่มชุดม่วงต่อสู้ด้วยตัวเองโดยไม่เรียกอสูรของเขาออกมา เขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้แม้ว่าเขาจะเรียกมา!
ในขณะที่สุนัขมังกรดำต่อต้านมังกรตัวอื่น การโจมตีของอสูรปีศาจได้เจาะการป้องกันและโจมตีจิตใจของซูผิง มันเหมือนกับการโจมตีจากอีกมิติหนึ่ง ซึ่งดึงสติของซูผิงเข้าสู่โลกมืดที่ปีศาจกรีดร้องและลากเขาเข้าไปในขุมนรก!
“พวกอสูรเดรัจฉาน ไสหัวไป!” วิญญาณของซูผิงเปล่งเสียงคำรามอย่างดูถูกเหยียดหยาม
สนามพลังปรากฏขึ้นลึกลงไปในจิตวิญญาณของเขา!.ไอรีนโนเวล.
กลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตอันเดธโบราณที่ยิ่งใหญ่ในสนามพลังขับไล่ความมืดออกไป
มันช่างวิเศษ!
ราวกับมดที่แหงนหน้ามองยักษ์ที่สูงเสียดฟ้า!
อสูรปีศาจที่อยู่ถัดจากชายหนุ่มชุดม่วงกรีดร้องและตัวสั่น เลือดดำไหลออกมาจากดวงตาทั้งแปดของมันพร้อมกัน มันเป็นการหดตัวของทักษะ
อันที่จริงซูผิงไม่ได้ทำการโจมตีใดๆ อสูรถูกข่มขู่จากฉากในสนามพลัง
สนามพลังทำได้เพียงบันทึกสิ่งที่เห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้น ซึ่งหมายความว่ามนุษย์นี่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมาก่อน!
เมื่ออสูรปีศาจกรีดร้อง มันจ้องไปที่ซูผิงด้วยความกลัวด้วยดวงตาที่ยังคงมีเลือดไหล ราวกับว่าเขาเป็นความสยดสยองที่ไม่ควรมีอยู่ในโลกของพวกมัน
ชายหนุ่มชุดม่วงที่กำลังจะถูกโจมตี รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับอารมณ์ของอสูรของเขา อสูรปีศาจของเขาโหดร้ายและดุร้ายเสมอ จู่ๆมันจะกลัวได้ยังไง?
อย่างไรก็ตาม ซูผิงกำลังจะโจมตี และเขาต้องเตรียมตัวโต้ตอบ ไม่มีเวลาให้เขาคิด
“วิชาดาบ—ขุมนรกสี่มิติ!”
โจมตีอีกครั้ง ราวกับว่าภัยพิบัติครั้งก่อนไม่ได้เกิดขึ้น เขาโจมตีต่อไปและปล่อยพลังดาวอย่างไม่หยุดยั้ง!
พลังของกฎปรากฏ คราวนี้ไม่ได้มีกฎแค่สี่ข้อ แต่มีแปดข้อ!
เขาสามารถใช้กฎของโครงกระดูกน้อยได้เมื่อผสานรวมเข้ากับมัน เขายืมกฎเหล่านั้นและรวมเข้ากับกฎของเขาเอง ดังนั้น เขามีกฎแปดข้อ!
เนื่องจากกฎซ้อนทับกัน จึงไม่ยากสำหรับซูผิงที่จะรวมมันเข้าด้วยกัน
“โซ่ฟันนภา!”
เมื่อเห็นว่าซูผิงมีพลังเพิ่มขึ้นทุกนาที ชายหนุ่มชุดม่วงจึงรู้ว่าสิ่งที่เขาเดานั้นถูกต้อง ชายคนนี้ยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของเขา เขาคำรามด้วยความโกรธ และโจมตี
คราวนี้โซ่ของเขาเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริง โซ่เส้นเล็กๆหายไป กลายเป็นโซ่หนาเส้นเดียว
เขาจับโซ่ราวกับจับดาบ ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงมั นเล็งไปบนท้องฟ้า
ปลายโซ่มีกฎสองข้อที่ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า!
บูม!!
เกิดการระเบิดอีกครั้ง และโลกใบเล็กก็สั่นสะเทือน มีรอยแตกมากขึ้นบนดินแดนที่แตกเป็นเสี่ยง
อากาศร้อนจัด เต็มไปด้วยธาตุต่างๆ กฎที่ไม่เป็นระเบียบสาดกระเด็นไปทุกที่ ด้วยความประหลาดใจของทุกคน โซ่ถูกเหวี่ยงกลับไป และรังสีดาบก็ฟันชายหนุ่มชุดม่วงอีกครั้ง
ชายหนุ่มชถดม่วงคำรามและทำลายรังสด้วยการตบเพียงครั้งเดียว
รังสีดาบเป็นเพียงเปลือกเปล่าที่แตกได้ง่าย แต่ก็ยังทำให้ทุกคนตกใจ
”ไปลงนรกซะ!!!”
ชายหนุ่มชุดม่วงโกรธจัด เขาลงมืออีกครั้งหลังจากทำลายคลื่นดาบ เขาใช้กายาและรักษาบาดแผลของเขา ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าใส่ซูผิงด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว
นั่นเป็นข้อได้เปรียบของกายที่ทรงอำนาจ ซึ่งสามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่งของคนๆ หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเดินไปหาซูผิง ซูผิงก็ยืนอยู่กลางอากาศด้วยดวงตาเย็นชา ราวกับจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ อากาศสีดำลอยออกมาจากร่างกายของเขา ทำให้เขาอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ขณะที่อยู่ในอากาศนั้น แม้แต่ข้อจำกัดของโลกใบเล็กก็ดูเหมือนจะคลายและปั่นป่วน!
“มังกรเพลิงน้อย ผสานกับฉัน!” ซูผิงกระซิบ
ขณะที่อยู่ในร่างของเขา พลังของมังกรเกล็ดขาวถูกกด และเขาก็อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว แต่มังกรเพลิงนรก—ซึ่งรอมาเป็นเวลานาน—กลายเป็นกระแสพลังและหลอมรวมเข้ากับร่างของซูผิง
ไม่นาน กลิ่นอายของซูผิงกลับไม่ลดลง มันเพิ่มขึ้นด้วยความเร็วที่สูงกว่าเดิม!
ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ!
พลังที่อสูรสามารถนำมาสู่นักรบอสูรนั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของอสูร!
“วิชาดาบ: ขุมนรกสี่มิติ!”
ซูผิงเปิดใช้งานกายาของเขา ไม่ใช่แค่กายเทพผู้วิเศษเท่านั้น แต่ยังใช้งานกายแสงอาทิตย์ ซึ่งเปล่งประกายเจิดจ้าอีกด้วย ข้อดีของกายแสงอาทิตย์คือไม่มีอุปสรรคต่อพลังเทพหรือพลังปีศาจ พวกมันสามารถไหลเวียนได้อย่างง่ายดาย!
สรุปแล้ว กฎสิบสองข้อปรากฏบนดาบกระดูกของซูผิง!
ซูผิงได้กฎสี่ข้อจากโครงกระดูกน้อยและมังกรเพลิงนรก
เขายืมกฎจากมังกรเพลิงนรกมารวมกัน ซึ่งจะทำให้พลังของเทคนิคเพิ่มขึ้นสามเท่า!
ชายหนุ่มชุดม่วงตกใจกับรัศมีที่พุ่งสูงขึ้นของซูผิง สงสัยว่าชายผู้นี้มีกายาประเภทใด ที่ฟื้นฟูพลังได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
ซูผิงยังคงเก็บแรงไว้อยู่อีกหรอ?
ในขณะนั้นเอง เขาสังเกตเห็นว่าซูผิงยังอยู่แค่สภาวะว่างเปล่า!
คนๆนี้…
ชายหนุ่มชุดม่วงกำลังเดือดไปด้วยความโกรธ เขากัดฟัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอับอาย
แม้ว่าชายคนนั้นจะเป็นยอดฝีมือระดับดวงดาว แต่เขาก็ยังรู้สึกอายเมื่อแพ้!
“แกสมควรตาย!”
เขากัดฟันและหยิบกระจกออกมา
กรอบกระจกเป็นสีขาวดำ มันมีพลังกฎแปลก ๆ ที่สามารถทำให้สภาพแวดล้อมสั่นสะเทือนได้เล็กน้อย
”นั่นอะไร?”
“นั่น—คือสมบัติลับของเจ้าดวงดาวหรอ?”
”มันเป็นไปได้ยังไงกัน? นักรบสภาวะชะตากรรมไม่สามารถถือสมบัติของเจ้าดวงดาวได้ ไม่ต้องพูดถึงการใช้มัน!”
นอกโลกใบเล็ก… เจ้าดวงดาวทั้งหมดมองกระจกด้วยความตกใจและสงสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว