ไหวพริบของอสูรสามารถวัดได้ด้วยเสาทดสอบ หลังจากการทดสอบหลายครั้ง ทุกคนยืนยันว่าบันไดเป็นการตัดสินไหวพริบจริงๆ!
ยิ่งมีไหวพริบมากเท่าใด บททดสอบสวรรค์ก็จะยิ่งน้อยลงและอ่อนแอลงเท่านั้น หากพวกมันไม่มีไหวพริบ พวกมันจะโดนโจมตีทันทีที่พวกมันก้าวขึ้นบันได!
“แม้แต่เทพในยุคดึกดำบรรพ์ก็ยังถือว่าอยู่ในโลกในยุคปัจจุบัน”
“นั่นเป็นความจริง!”
“ฉันคิดว่าฉันถูกบันไดนั่นดูหมิ่น”
“มั่นใจกว่านี้ แล้วอย่าพูด ‘ฉันคิดว่า’!”
“ถ้าอย่างงั้น… พวกเขามีความสามารถสูงสุดหรอ? อันที่จริงพวกเขาทั้งหมดได้กลายเป็นเจ้าดวงดาวก่อนอายุพันปี แต่ตอนนี้พวกเขาเท่าเทียมกับเราแล้ว มีความสามารถจริงๆ!”
”จริงด้วย โดยเฉพาะเธอที่อายุแค่ 89 ปี… จิ๊ จิ๊แม้แต่หลานของหลานสาวของฉันก็ยังแก่กว่าเธอ”
แม้ว่าจะมีการค้นพบเหตุผลของการเลือกปฏิบัติของสายฟ้า แต่ก็ไม่มีใครรู้สึกพอใจกับมัน
—-
คนที่ไม่มีพรสวรรค์ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมด้วยหรอ?
ทำไมไม่เอาความแข็งแกร่งเป็นบรรทัดฐาน เพื่อที่ผู้อ่อนแอจะได้ถูกกำจัด? พวกเขาจะได้มีโอกาสต่อสู้!
บางคนไม่พอใจ แต่พวกเขาไม่สามารถพูดอะไรได้ ท้ายที่สุดมันเป็นความจริงที่ว่าพวกเขาไม่มีพรสวรรค์!
“บัดซบ ฉันรู้เหตุผลแล้ว แต่ฉันจะผ่านตรงนี้ไปได้ยังไง? ไม่มีเวลาให้ฉันพัฒนาไหวพริบสักหน่อย!”
“นี่เป็นทางเดียวเท่านั้นเหรอ? ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวทั้งสามเข้าไปได้ยังไง? เราอาจใช้ทางลัดได้ถ้าเรารู้วิธีที่พวกเขาใช้”
“อย่าแม้แต่จะคิด วิธีการของพวกเขาอยู่เหนือจินตนาการของเรา พวกเขาสามารถเจาะเข้าไปในมิติลึกเพื่อเข้าไปได้ เราไม่สามารถเข้าไปในมิติที่พวกเขาเข้าไปได้”
“ตอนนี้เราจะทำยังไงดี?”
ทุกคนต่างมองหน้ากันงงๆ
ในขณะนี้ มีเสียงหนึ่งดังมาจากหนึ่งในสมาชิกพันธมิตร “ไหวพริบเป็นปัจจัยในการตัดสิน?”
สองเจ้าดวงดาวมองหน้ากัน จากนั้น ชายหนุ่มชุดม่วง—ซึ่งเคยบดขยี้คู่ต่อสู้ระดับดวงดาวมาก่อน—เดินออกจากโลกเล็กของพวกเขา
เขาหงุดหงิดตั้งแต่พ่ายแพ้ซูผิง ทำให้สูญเสียต้นไม้แห่งกฎ เขาเสียใจมาก
อย่างไรก็ตามปัจจุบันเขารู้สึกว่าเขามีโอกาสอีกครั้ง
ไหวพริบเป็นสิ่งสำคัญ?
เขาชื่นชมคนเพียงไม่กี่คนในด้านนี้ ยกเว้นแชมป์ของการแข่งขันสุดยอดอัจฉริยะระดับจักรวาล และยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวที่มีชื่อเสียง
สภาวะเทพดวงดาวบางคนเกิดมาเป็นอัจฉริยะด้วยกายชั้นสูง พวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็วและเอาชนะคู่ต่อสู้ทุกคนจนกลายเป็นตำนาน
เขาชื่นชมคนเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึงในสายตาของเขา!
”คุณซิง คุณจะไปที่นั่นหรอ?”
หนึ่งในเจ้าดวงดาวค่อนข้างแปลกใจที่เห็นเขา
เจ้าดวงดาวอีกคนรีบขัดเขา “คุณซิงบทสอสอบบนบันไดไม่ควรถูกมองข้าม คุณแข็งแกร่งก็จริง แต่นี่มีความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น!”
“ฉันจะลอง ถ้ามีอะไรผิดพลาด ก็ไปรับฉันด้วย” ชายหนุ่มชุดม่วงกล่าว
เขาไม่มั่นใจในความสามารถของเขาไปมั่ว ท้ายที่สุดที่พำนักศักดิ์สิทธิ์โบราณมีสิ่งแปลกประหลาดมากมาย ตัวอย่างเช่นร่างในความว่างเปล่านั้นแปลกประหลาดและชั่วร้ายมาก
เจ้าดวงดาวทั้งสองมองหน้ากัน พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับข้อตกลง
เจ้าดวงดาวที่เหลือยังสังเกตเห็นชายหนุ่มชุดม่วง เขาอยู่ในสภาวะชะตากรรมเท่านั้น แต่ไม่มีใครกล้าดูถูกเขา
พวกเขากำลังปฏิบัติต่อนักรบสภาวะชะตากรรมด้วยความสุภาพสูงสุด หากเขาเป็นคนอื่น พวกเขาจะรู้สึกภูมิใจกับสิ่งนี้ไปตลอดชีวิต
“เด็กคนนี้อาจจะสามารถบรรลุอะไรบางอย่างได้?”
“ถ้าไหวพริบเป็นเพียงเกณฑ์เดียว บางทีเขาอาจจะขึ้นไปถึงสี่สิบขั้น หรือมากกว่านั้นก็ได้”
”จริงด้วย เขาเก่งกว่าเราด้วยซ้ำ ฉันแน่ใจว่ามียอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวอยู่ข้างหลังเขา!”
”แน่นอน ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถทำอะไรได้สำเร็จ ถ้าไม่มีมีทรัพยากรมากพอ คุณยังอดตายได้หากไม่มีอาหาร แม้ว่าคุณจะมีร่างกายชั้นสูงก็ตาม!”
คนอื่นๆ มองไปที่ชายหนุ่มชุดม่วงด้วยความสงสัย สงสัยว่าเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน
ผู้นำสาวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ในขณะนั้นเองนายน้อยก็มาถึงหน้าบันได ทันใดนั้นเขาหันกลับมามองที่ผู้นำสาว จากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังโลกใบเล็กที่ลอยอยู่รอบตัวเธอ ให้ชัดกว่านั้น เขามองไปที่ซูผิงต่างหาก
”ฮึ!”
ชายหนุ่มหัวเราะเยาะ ตัดสินใจไม่พูดอะไร เขาวางเท้าบนบันไดขั้นแรก
ซูผิงเลิกคิ้วขึ้น ทำไมต้องยิ้มให้ฉันก่อนขึ้นบันได?เป็นบ้าหรอ?
ซูผิงกำลังสังเกต มันดีกว่าที่จะปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นเป็นหนูทดลอง เขาอยากรู้ว่าสายฟ้าที่เขาจะเรียกมานั้นอยู่ในสภาวะเจ้าดวงดาวหรือสภาวะชะตากรรม
ถ้าสายฟ้าบนบันไดขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางทีเขาอาจจะลองดูด้วย
ท้ายที่สุดข้อกำหนดดังกล่าวรุนแรงเกินไปสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ก็เป็นโอกาสสำหรับคนอื่นๆ เช่นกัน!
โอกาสที่ไม่ควรพลาด!
ชายหนุ่มชุดม่วงก้าวขึ้นบันไดไปแล้ว
ขั้นแรก!
ทุกคนหรี่ตาลง
อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นบนบันได ไม่มีสายฟ้าฟาดลงแม้แต่ครั้งเดียว
เจ้าดวงดาวสองคน—ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของชายหนุ่มชุดม่วง—รู้สึกโล่งใจนิดหน่อย แต่พวกเขาก็ยังสังเกตอย่างกังวลใจ
นายน้อยของพวกเขาเลิกคิ้วและเดินต่อไป
เขาไม่ได้พบกับสายฟ้าในขั้นที่สองหรือขั้นที่สาม
เดินหน้าต่อไป ไม่มีสายฟ้าฟาดที่ขั้นที่เจ็ด แปด… และขั้นที่ 25!
การเดินทางที่ราบรื่นเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
แม้แต่อัจฉริยะอย่างผู้นำพันธมิตรดวงดาวก็เจอกับสายฟ้าครั้งแรกในขั้นที่ 23!
”ฮึ!”
ผู้นำสาวโกรธมากเมื่อเห็นเช่นนั้น
เมื่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง รองก็รีบปลอบเธอ “ไม่ต้องโมโหหรอก คุณหนู คุณมีความสามารถเหมือนเขาตอนคุณอยู่สภาวะชะตากรรม ไหวพริบจะถูกทดสอบตามระดับของคุณ เขาอาจจะไม่มีความสามารถเท่าคุณถ้าเขากลายเป็นเจ้าดวงดาว”
”ฮึ!” ผู้นำสาวพ่นลมหายใจ แต่สุดท้ายก็มีสีหน้าดีขึ้น
ในตอนนั้นเองที่สายฟ้าลูกแรกผ่าลงมาเหนือชายหนุ่มชุดม่วง
สายฟ้าผ่าเหนือบันได ไม่มีเมฆ ราวกับว่ามันกำลังก่อตัวขึ้นในความว่างเปล่า มันกระทบเขาทันทีที่มันปรากฏขึ้น
ชายหนุ่มเห็นมันกำลังมา เขาเลิกคิ้วและต่อยหมัด ทำให้สายฟ้าแตก—ซึ่งมีพลังน้อยกว่าสายฟ้าแรกที่เจ้าดวงดาวได้รับมาก
“ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของสายฟ้าจะขึ้นอยู่กับการบ่มเพาะ”
มีคนอุทานด้วยความตกใจและอิจฉา “โอ้พระเจ้า หากเป็นอย่างนี้ เขาจะเดินไปได้จนสุดบันได ใช่ไหม?”
หากมรดกของที่พำนักศักดิ์สิทธิ์อยู่อีกด้านหนึ่ง… ผู้ชายคนนั้นจะได้ทั้งหมดไป!
เจ้าดวงดาวคนอื่นๆ ก็กังวลเช่นกัน พวกเขารู้สึกว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรม พวกเขาจะเปรียบเทียบกับคนที่มีพรรสวรรค์มากกว่าพวกเขาได้อย่างไร และคนๆนั้นกำลังจะมีสมบัติมากกว่าที่พวกเขามี?
บนบันได-
ในที่สุด ชายหนุ่มชุดม่วงก็ผ่อนคลายหลังจากทนสายฟ้าครั้งแรกได้ เขายิ้มอย่างตื่นเต้น
อย่างที่คาดไว้ บันไดถูกสร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
ไหวพริบเป็นแค่เกณฑ์เดียวหรอ?
ท่านเทพ ผมรักคุณ!
ชายหนุ่มชุดม่วงรีบก้าวไปข้างหน้า
สายฟ้าฟาดลงมาอย่างต่อเนื่อง และชายหนุ่มชุดม่วงก็บดขยี้พวกมันอย่างง่ายดาย พวกมันไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนสายฟ้าของระดับดวงดาว จนกระทั่งหลังจากขั้นที่ 35
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับชายหนุ่มชุดม่วงเลย
ด้วยความสามารถในการฆ่าคนในระดับดวงดาวทั้งที่อยู่ในสภาวะชะตากรรม นี่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา
เขาวิ่งไปข้างหน้าและก้าวข้ามสี่สิบขั้นในไม่ช้า ทำลายสถิติในปัจจุบัน
จากนั้นเขาก็พุ่งไปข้างหน้าอีกครั้งและไปถึงขั้นที่ 50!
เขาขึ้นไปไกลกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว!.Aileen-novel.
ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเขาทำให้เจ้าดวงดาวกลั้นหายใจอย่างกังวล
พวกเขายิ่งไม่สบายใจเมื่อเห็นว่าคนอื่นกำลังจะได้รับสมบัติ!
บูม!
โซ่ปรากฏอยู่ในมือของชายหนุ่มชุดม่วง และทำลายสายฟ้าที่มีกฎอันทรงพลัง จากนั้นเขาก็เดินหน้าต่อไป
เขาเริ่มรับการโจมตีด้วยสายฟ้าที่รุนแรงมากขึ้น
หลังจากพักเหนื่อย—และกินผลศักดิ์สิทธิ์เสร็จ—เขาก็ฟื้นคืนพลัง
ไม่นานนัก ชายหนุ่มชุดม่วงก็มาถึงขั้นที่ 60 สายฟ้าฟาดมีพลังมากจนเขาต้องผสานเข้ากับอสูร
จากนั้นเขาก็ไปถึงขั้นที่ 70 และสายฟ้าก็มีพลังมากพอที่จะคุกคามผู้ที่อยู่ระดับดวงดาวขั้นสูงสุด
เขาเปิดใช้รูนสีทองเพื่อป้องกันสายฟ้าที่เข้ามาโดยไม่พูดอะไร จากนั้นเขาก็ไปต่อ
เมื่อชายหนุ่มชุดม่วงยังคงขึ้นไปต่อ ทันใดนั้นซูผิงก็ปรากฏตัวขึ้นที่บันไดขั้นแรก
หลังจากที่เห็นว่าชายหนุ่มชุดม่วงไปสูงขึ้นเรื่อยๆ ซูผิงก็มั่นใจว่าเขาจะผ่านการทดสอบได้เช่นกัน!
เขาคุยกับผู้นำสาวและขอให้เธอปล่อยเขาจากโลกใบเล็กของเธอ
ผู้นำสาวได้เห็นความสามารถที่ไม่ธรรมดาของซูผิงแล้ว ซูผิงปราบปรามชายหนุ่มชุดม่วงด้วยการบ่มเพาะระดับดวงดาว เขาเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอนดูจากวิธีการและพลังของเขา
ด้วยความสามารถของเขา เขาอาจจะสามารถไปถึงปลายบันไดได้!
ผู้นำสาวโบกมือและให้กำลังใจ “สู้ต่อไป! เอาชนะเขาให้ได้เพื่อฉัน!”
ในที่สุดคนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นว่าซูผิงอยู่บนบันไดเช่นกัน ทุกคนตกใจ
ซูผิงก้าวไปข้างหน้าโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
หวืด!
ราวกับสายลม เขาก้าวข้ามไปเกือบสามสิบขั้นอย่างรวดเร็ว!
ข้างหลังเขา ดวงตาของเจ้าดวงดาวเกือบจะถลนออกมาแล้ว
มันเกือบจะเหมือนกับว่าเขากำลังวิ่งเล่น เกิดอะไรขึ้นกับสายฟ้า? มันหลับแล้วเหรอ?
หวืด!
ซูผิงรีบไปข้างหน้าและปีนขึ้นถึงขั้นที่ 40 ในไม่ช้า
ยังไม่มีการโจมตีจากสายฟ้า!
บางคนถึงกับสงสัยว่าซูผิงเดินเร็วเกินไปจนไม่มีปฏิกิริยาจากสายฟ้า…
แต่นั่นไม่มีทางเป็นได้ บททดสอบสวรรค์จะเป็นอย่างงั้นได้ยังไง?
บนบันได—ซูผิงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและมั่นใจ เขาค่อนข้างแปลกใจเพราะเขายังไม่โดนสายฟ้าเลย ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถมากกว่าที่เขาคิด
โชคไม่ดีที่ระบบให้คะแนนได้เฉพาะอสูร ไม่เช่นนั้นเขาจะรู้ว่าเขามีความสามารถแค่ไหน
ถ้าจะตัดสินไหวพริบของเขา เขาต้องเปรียบเทียบตัวเองกับมนุษย์คนอื่นๆ
น่าเสียดายที่เขาประเมินตัวเองไม่ได้
ในชั่วพริบตา ซูผิงก็มาถึงกลางบันไดแล้ว!
เมื่อถึงเวลานั้น ชายหนุ่มชุดม่วงก็ไปถึงขั้นที่ 80 แล้ว เขาได้ยินเสียงอุทานข้างหลัง และหันไปมอง ทันทีที่เขาเห็นซูผิง
เขารู้สึกเซ็งเล็กน้อยที่เห็นซูผิงอยู่ที่นั่น แต่ก็ไม่ได้ตกใจมาก ท้ายที่สุด ชายคนนี้แสดงความแข็งแกร่งมากพอในการต่อสู้ครั้งก่อน
เมื่อพิจารณาถึงไหวพริบของชายคนนั้นแล้ว เขาอาจจะสามารถไปถึงขั้นที่เจ็ดสิบได้ด้วยซ้ำ
”ฮึ!”
ชายหนุ่มชุดม่วงพ่นลมหายใจและต้านทานสายฟ้าฟาดด้วยรูนสีทอง ซึ่งจะช่วยเขาประหยัดเวลา
เมื่อนายน้อยตัดสินใจเร่งความเร็ว ซูผิงเลิกคิ้วและพุ่งตัวไปข้างหน้าทันที
หกสิบ เจ็ดสิบ แปดสิบ!
ในชั่วพริบตา ซูผิงก็ตามชายหนุ่มชุดม่วงทัน!
เจ้าดวงดาวที่รออยู่ด้านล่างต่างตกตะลึง ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้ และขากรรไกรของพวกเขาเกือบจะกระแทกพื้น
บททดสอบสวรรค์มีปัญหาหรือเปล่า? ซูผิงไม่ได้กระตุ้นพวกมันเลยจนถึงขั้นที่แปดสิบ?
ไม่มีการโจมตีด้วยสายฟ้าแม้แต่ครั้งเดียว?
หวืด!
ชายหนุ่มชุดม่วงรู้สึกถึงลมและเห็นซูผิงแซงหน้าเขาได้อย่างง่ายดาย ใบหน้าแน่วแน่ของเขาสูญเสียความเยือกเย็นไปในทันที
“เร็วกว่านี้!” ซูผิงหันกลับไปมองและหัวเราะ
จากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปถึงขั้นที่ 90
ที่พำนักศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงหน้าเขา ซูผิงคิดถึงสัมบัติ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียเวลา ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ไปถึงขั้นที่ร้อย
เมื่อเขาก้าวขึ้นไปบนขั้นที่ 100 สายฟ้าก็ถูกรวมเข้าด้วยกันในความว่างเปล่า แต่ต่อมาก็กระจายกันไป หลังจากที่มันก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
นั่นเป็นเพราะซูผิงกระโดดออกจากขั้นสุดท้าย
“!”
ชายหนุ่มชุดม่วงซึ่งอยู่บนขั้นที่ 85 ตกตะลึง
สายฟ้ายังคงฟาดใส่เขา และมีรูนสีทองหลายอันมาขวางไว้
สายฟ้าที่กระจายออกไปทำให้หน้าของเขาสว่างวาบ แต่หัวใจของเขาเย็นชากว่าที่เคย
เขาเดินมาก่อนเป็นเวลานาน แต่ถึงกระนั้น ซูผิงก็ยังแซงหน้าเขาได้ง่ายขนาดนั้น?
ไอ้บัดซบนั่นอยู่แค่ระดับดวงดาว แกไม่สามารถแม้แต่จะจัดการกับเจ้าดวงดาวสองสามคนได้ ทำไมแกถึงเก่งกว่าฉัน ทำไม?
ชายหนุ่มชุดม่วงสูญเสียความสงบไป
เขารู้สึกว่าเขาจะสามารถต่อสู้กับเจ้าดวงดาวได้เมื่อเขาไปถึงระดับดวงดาวแม้ว่าเขาจะไม่สามารถชนะได้ เขาก็จะไม่มีทางแพ้ง่ายๆ เช่นกัน
ซูผิงชายผู้ซ่อนตัวอยู่ในโลกใบเล็กของเจ้าดวงดาวมีไหวพริบมากกว่าเขางั้นหรอ?
เจ้าดวงดาวก้าวเท้าด้วยความสงสัย” บททดสอบสวรรค์สูญเสียประสิทธิภาพหรือเปล่า?
แต่แล้วสายฟ้าก็ฟาดลงมา เขาบดขยี้มันแล้วถอยกลับโดยไม่พูดอะไร
บททดสอบสวรรค์ไม่ได้สูญเสียประสิทธิภาพ มันแปลกมาก ซูผิงมีสมบัติล้ำค่าที่สามารถป้องกันสายฟ้าได้หรอ? พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสมบัติแบบนั้นมาก่อน!
เขาเก่งเกินไปหรือเปล่า? เขาพบกับการรวมตัวของสายฟ้าเมื่อถึงขึ้นสุดท้ายแต่แล้วมันก็การกระจายตัวออกไป เป็นผลให้ไม่มีใครเห็นว่าสายฟ้าฟาดมีพลังเพียงใด
“ถ้ามันไม่นับอะไรนอกจากไหวพริบของเขา… การต่อสู้เมื่อสักครู่เขาต้องซ่อนความแข็งแกร่งของเขาไว้อย่างแน่นอน!”
“จริงหรอ? พูดง่ายๆ ก็คือ เขาสามารถเอาชนะเด็กคนนั้นได้ง่ายๆ แต่เลือกที่จะเล่นด้วยอย่างงั้นหรอ?”
“ฉันไม่รู้ว่าการเดินไปจนสุดบันไดหมายความว่ายังไง แต่เขาควรจะสามารถท้าทายคู่ต่อสู้ที่อยู่เหนือระดับของเขาได้! เขาต้องแข็งแกร่งพอ ๆ กับเรา!”
“ให้ตายสิ เขาเป็นคนโหดเหี้ยมที่ชอบแกล้งทำตัวอ่อนแอ!” เจ้าดวงดาวมองหน้ากันด้วยความงงงวย
ชายคนนั้นอยู่แค่ระดับดวงดาว แต่แข็งแกร่งเท่ากับเจ้าดวงดาว?
ถ้าบันไดไม่ได้บอกถึงพรสวรรค์ของเขา คงไม่มีใครคิดได้ว่าเขายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการต่อสู้ครั้งก่อน!
“ผู้ชายคนนั้น…”
ผู้นำสาวเองก็ตกตะลึงเช่นกัน
แม้ว่าเธอจะค่อนข้างจะภูมิใจ แต่เธอก็รู้ว่าเธอไม่สามารถก้าวข้ามบันไดโบราณได้ง่ายดายเหมือนที่ซูผิงทำ ไหวพริบของชายผู้นี้เกินไปมาก
”จริงหรอเนี่ย? น้องทำลายสวรรค์ไม่ได้ทำให้เกิดสายฟ้าเลยหรอ?”
“เขาเรียกมันออกมา แต่เขาก้าวออกไปก่อนที่มันจะเป็นรูปเป็นร่าง”
“น้องทำลายสวรรค์ไม่น่าเชื่อเลย ไม่น่าแปลกใจที่เขาเลือกชื่อนี้ เขาคือผู้ทำลายสวรรค์อย่างแท้จริง!”
“จิ๊ จิ๊.. ผู้นำของเราน่าจะเป็นคนเดียวที่มีความสามารถมากกว่าผู้ทำลายสวรรค์ เขายอดเยี่ยมมาก!”
สมาชิกทั้งหมดของพันธมิตรดวงดาวกระซิบด้วยความตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว