“นี่คือยาสร้างรากฐานที่ช่วยเสริมสร้างสะพาน!”
“นี่คือยาที่สามารถเพิ่มพลังความเข้าใจ!”
ฟองที่อยู่ด้านหลังหญิงสาวแตกออกทีละเม็ด และเม็ดยาชั้นยอดทั้งหมดก็พุ่งออกมา พวกมันได้รับการขัดเกลาจากผู้ใต้บังคับบัญชาของราชาไวไลท์และทุกเม็ดมีคุณภาพดีที่สุดในระดับของพวกมัน
”ยอดเยี่ยม!”
ขณะที่ยืนอยู่กลางไอน้ำ ซูผิงรู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง แต่เขารู้สึกว่าเขายังรับต่อได้
กระแสน้ำวนภายในร่างกายของเขาเริ่มควบแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนดาวเคราะห์
พลังดวงดาวในตัวเริ่มเพิ่มช้าลง เปลี่ยนจากก๊าซเป็นของเหลว
ซูผิงเปิดจุกขวด จากนั้นก็เคี้ยวและกลืนยาที่บรรจุอยู่ข้างใน
บูม!
พลังดวงดาวจำนวนมากไหลเข้าแขนขาของเขา ซูผิงรู้สึกว่าเขาสามารถไปถึงสภาวะชะตากรรมด้วยพลังดวงดาวในตัว!
เขาสัมผัสได้ถึงคอขวด และสามารถทำลายมันได้ทุกเมื่อ!
อย่างไรก็ตามเขาเลือกที่จะไม่กระโดดข้ามและทะลุทะลวง เขาบีบอัดพลังดาวทั้งหมดของเขาให้เป็นของเหลวภายในเซลล์แทน ยาสร้างรากฐานยังช่วยรวมสะพานที่ซูผิงสร้างขึ้นเพิ่มเติม ซูผิงรู้สึกว่าสะพานกำลังสูงขึ้นเมื่อกลืนยาเข้าไปมากขึ้น ในไม่ช้ามันก็จะกลายเป็นภูเขา!
คอขวดอยู่ที่ด้านบน ตอนนี้สะพานสามารถกระแทกและทำลายมันได้!
ซูผิงหลับตาลงควบคุมสะพานด้วยความพยายามอย่างเต็มที่และบีบอัดเพิ่ม
จิตใจของซูผิงเริ่มฉับไวและได้รับการกระตุ้นจากยาที่เพิ่มพลังแห่งความเข้าใจ ทำให้เขาสามารถจับภาพรายละเอียดปลีกย่อยได้มากมาย เขามีความรู้สึกแปลก ๆ ขณะบีบอัดสะพาน
ในไม่ช้าความรู้สึกแปลก ๆ ก็แข็งแกร่งขึ้น จนกระทั่งเขารู้แจ้ง
เขาได้บรรลุกฎใหม่: ผสานในธาตุน้ำ!
ทุกอย่างสามารถหลอมรวมได้!
ซูผิงยังคงหลอมรวมพลังของเม็ดยาด้วยกฎใหม่นั้น ทำให้สะพานแข็งแกร่งขึ้นและทำลายไม่ได้!
“ยังไม่ถึงขีดจำกัดอีกเหรอ?”
หญิงสาวประหลาดใจเมื่อพิจารณาถึงจำนวนเม็ดยาที่ซูผิงกินเข้าไป แม้แต่หมูก็ควรจะก้าวหน้าหลังจากกินไปขนาดนี้
เธอสามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่าซูผิงยังคงอยู่ในสภาวะว่างเปล่า แต่เขาได้ปลดปล่อยพลังดวงดาวจำนวนมหาศาลออกมา … เธอรู้สึกว่าคนที่อยู่ในอาณาจักรที่สูงกว่าเขาอาจถูกทำร้ายโดยการสัมผัสอย่างอ่อนโยนจากเขา!
เขามีพลังของเทพชั้นสูงที่เชี่ยวชาญกฎแล้ว เขาแข็งแกร่งกว่าเทพระดับสูงส่วนใหญ่!
ร่างกายของเขาสามารถเก็บพลังงานไว้ได้มากขนาดนี้ได้ยังไง? มันน่ากลัวมาก!
แม้ว่าเธอจะอยู่ในระดับที่สูง แต่เธอก็ประหลาดใจกับความประหลาดของซูผิง เธอไม่เคยเห็นอะไรที่น่ากลัวเท่าเขามาก่อน เขาอาจจะเอาชนะอัจฉริยะในรายนามเทพได้
จากนั้นเธอก็คิดถึงเรื่องราวหลายสิ่งหลายอย่างในสมัยก่อน
เธอยังคงเป็นเม็ดยาที่อยู่เคียงข้างราชาเทพไวไลท์ในตอนนั้น เธอเดินทางไปทั่วโลกกับเขา พบกับอัจฉริยะรุ่นเยาว์นับไม่ถ้วน และสำรวจสถานที่อันตรายมากมาย
บูซ!
ร่างกายของซูผิงส่งเสียงอีกครั้ง พลังดวงดาวที่เป็นของเหลวภายในเซลล์ของเขาถูกบีบอัดจนถึงขีดสุดและกลายเป็นของแข็งที่เหมือนเส้นใย คล้ายกับหมอกแต่จับต้องได้ ผนังเซลล์มีพลังดวงดาวที่เป็นเส้นใยมากขึ้นเรื่อยๆ จนพื้นที่ภายในนั้นเล็กลงเรื่อยๆ
ซูผิงกลืนยาต่อไป ซึ่งกลายเป็นพลังงานแผดเผา จากนั้นเปลี่ยนเป็นพลังดวงดาวอันงดงามที่เติมเต็มเซลล์ของเขา
พลังดวงดาวที่มีเส้นใยถูกสะสมและเซลล์ของเขาก็เติมจนเต็ม!
เซลล์ของเขากลายเป็นเหมือนทรงกลมที่บรรจุพลังดวงดาว!
นี่คือ… สภาวะกายดวงดาวที่แท้จริง!
ทันใดนั้นซูผิงก็นั่งสมาธิ
เขาสามารถสัมผัสได้ถึงอวัยวะและเซลล์ทั้งหมดในร่างกายของเขาอย่างชัดเจน เขาสามารถควบคุมแต่ละเซลล์ให้แยกกันได้!
นั่นเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและยากที่จะเชื่อ เพราะคนธรรมดาแทบจะไม่สามารถควบคุมหูให้ขยับได้ ผู้บ่มเพาะสามารถควบคุมร่างกายได้ดีกว่า แต่ดีที่สุดคือการขยับกระดูก
อย่างไรก็ตามซูผิงสามารถควบคุมทุกเซลล์ของเขาได้ ซึ่งหมายความว่าร่างกายของเขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ถ้าเขาต้องการ!
เขาสามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบใด ๆ ในโลกได้ตลอดเวลาที่เขาต้องการ
ความสามารถในการแปลงร่างนี้เป็นรูปแบบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!
การไม่มีรูปร่างที่แน่นอนหมายความว่าเขาอาจน่ากลัวในการต่อสู้ระยะประชิด เป็นไปไม่ได้ที่ศัตรูของเขาจะจินตนาการว่าเขาจะโจมตียังไง
สภาวะกายดวงดาวเป็นระดับที่สามของแผนภูมิดวงดาวโกลาหล
เหนือกว่าสภาวะกายดวงดาวคือสภาวะภาพร่างดวงดาว!
ซูผิงเดิมคิดว่าเขาจะไม่บรรลุสภาวะกายดวงดาวจนกว่าเขาจะก้าวเข้าสู่ระดับดวงดาวหรือกลายเป็นเจ้าดวงดาว พลังต่อสู้ของแต่ละระดับได้รับการอธิบายตอนเขาเรียนรู้แผนภูมิดวงดาวโกลาหล
ตามปกติแล้ว มีเพียงนักรบระดับดวงดาวเท่านั้นที่สามารถสะสมพลังดวงดาวได้เพียงพอที่จะไปถึงสภาวะกายดวงดาว
และของขวัญจากที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ทำให้ซูผิงทำสิ่งนี้สำเร็จในขณะที่ยังอยู่ในสภาวะว่างเปล่า
เซลล์ทั้งหมดในร่างกายของเขากลายเป็นดวงดาวที่มีพลังดวงดาวอย่างแท้จริง!
อย่างไรก็ตามเขาแทบจะไม่มีทางได้เข้าสู่สภาวะกายดวงดาวถ้าเขาต้องการที่จะก้าวหน้าต่อไป เขาจะต้องควบคุมแต่ละเซลล์และสร้างการไหลเวียนภายในภายในเซลล์แต่ละเซลล์
เพื่อเข้าถึงสภาวะภาพร่างดวงดาว เขาจะต้องวาดแผนที่ดาวโบราณด้วยพลังวิญญาณ
เช่นเดียวกับม่านพลัง แผนที่ดาวจะช่วยให้เขาปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าเหลือเชื่อ!
ร่างกายของฉัน… ดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้น… ซูผิงตรวจสอบตัวเองอย่างละเอียดแล้วรู้สึกว่าร่างกายของเขาได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงจริงๆ
ถ้าเขาต่อสู้กับชายหนุ่มชุดม่วงอีกครั้ง เขาจะเอาชนะได้ด้วยหมัดเดียว!
ความแข็งแกร่งของซูผิงเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่าในช่วงเวลาสั้นๆ มันเป็นการก้าวกระโดดในเชิงคุณภาพ!
ฟิวส์!
ซูผิงไม่หยุด เขาคว้าโอกาสในการซึมซับและฝึกฝนต่อไป
เขาหลอมรวมกฎต่างๆ เช่น เฉือนและเทพสายฟ้าเข้ากับสะพานและรวมมันเข้าด้วยกัน
มีการหลอมรวมกฎเข้ากับสะพานมากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันสร้างพลังอันยิ่งใหญ่ที่ล้อมรอบสะพานเหมือนผู้พิทักษ์
ซูผิงยิ่งน่ากลัว
เขายังทนได้!
หญิงสาวประหลาดใจและเคร่งขรึม แม้ว่าเธอจะได้พบกับผู้คนมามากมาย แต่ซูผิงก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้!
เขาสามารถนับได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่น่าอัศจรรย์ไม่ว่าจะในยุคไหน!
ครึ่งชั่วโมงต่อมา—
ซูผิงค่อยๆหยุด
สะพานในร่างของเขาถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ ไม่สามารถบีบอัดเพิ่มเติมได้ แม้แต่กับกฎการหลอมรวม เขาจะไปถึงสภาวะชะตากรรมถ้าเขายังไม่หยุด
ซูผิงเลือกที่จะรอจนกว่าเขาจะซึมซับผลของกฎบนต้นไม้ของผู้นำสาว เพื่อที่เขาจะได้มีการสะสมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหลังจากที่เขาทำลายคอขวดด้วยกฎ!
“ส่วนที่เหลือพวกแกจัดการได้เลย”
ซูผิงโยนยาศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ไปที่โครงกระดูกน้อยและสุนัขมังกรดำ เขายังเรียกอสรพิษม่วง มังกรเกล็ดขาว และเผ่าแมลงที่เขาไม่ค่อยได้เรียกออกมา
”ฮะ?”
หญิงสาวค่อนข้างตกตะลึงเมื่อเห็นเผ่าแมลง“สิ่งมีชีวิตขุมนรก? เจ้าเป็นทาสของสิ่งมีชีวิตขุมนรก?”
“สิ่งมีชีวิตขุมนรก?”
ซูผิงเลิกคิ้วขึ้นและมองไปที่เผ่าแมลงซึ่งตอนนี้อ้วนมาก เขาจับมันได้ในหลุมศพกึ่งเทพ มันเป็นมนุษย์ต่างดาวที่บุกรุกหลุมศพกึ่งเทพ.Aileen-novel.
เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะจำมันได้เช่นกัน พูดได้เลยว่าสิ่งมีชีวิตนี่จะต้องมีประวัติอันยาวนาน
“มันเป็นสิ่งมีชีวิตจากหลุมสวรรค์ ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีมัน…” หญิงสาวพูดอย่างเคร่งขรึม “มีหลุมสวรรค์อีกแห่งปรากฏขึ้นหรือไม่? สิ่งมีชีวิตขุมนรกมาที่นี่อีกแล้วเหรอ?”
ซูผิงตะลึงงันและถามว่า “มันเป็นสิ่งมีชีวิตจากหลุมสวรรค์หรือ? ดังนั้นราชาไวไลท์ได้อุดหลุมสวรรค์เพราะเขาต้องการหยุดเรื่องนี้หรอ?
หญิงสาวส่ายหัว “มันเป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในหลุมสวรรค์ แต่มันมีลักษณะแปลก ๆ ที่สามารถกินอะไรก็ได้ แม้แต่เทพก็ยังกลัวพวกมัน อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวนี้เล็กเกินกว่าจะเป็นภัยคุกคาม”
“มันยังเป็นสีฟ้าครามและยังไม่พัฒนา… พูดถึงเรื่องนี้ ฉันให้อะไรแกตั้งหลายอย่าง ทำไมถึงยังไม่พัฒนาอีก?” ซูผิงมองไปที่เผ่าแมลงราวกับว่ามันเป็นเด็กที่น่าผิดหวัง
เผ่าแมลง: “?”
มันมองซูผิงด้วยความหงุดหงิดและโบกกรงเล็บของมันอย่างไร้เดียงสา
“ช่างไร้ประโยชน์” ซูผิงกลอกตา
มันแช่ในบ่อน้ำพุของโจแอนนาเป็นเวลานาน แต่วิวัฒนาการช้ามาก เขาสงสัยว่าเหตุใดจึงถูกมองว่ามันเป็นภัยในหลุมศพกึ่งเทพ
แกกำลังลดความอันตรายของแมลงชนิดต่างๆ!
หญิงสาวมองไปที่ซูผิงแต่นิ่งเงียบ เธอรู้สึกว่าทายาทของราชาเทพคนนี้มีความลับมากมาย
อย่างไรก็ตามเธอเต็มใจที่จะให้ยาเขา เพราะมันมีระดับต่ำและในไม่ช้าก็จะหมดอายุอยู่ดี
ซูผิงจะไม่สามารถย่อยยาที่เทพทองคำสามารถกินได้ และเขาก็จะตายในกระบวนการนั้น
ยาต่างๆ ถูกป้อนให้กับโครงกระดูกน้อย มังกรเพลิงนรกและอสูรอื่นๆ พวกมันฟินกันมาก
“ในทางเทคนิคแล้ว เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะคุณคือยาที่บรรพบุรุษของผมสร้างขึ้น ผมควรเรียกคุณว่าอะไรดี?” ในที่สุดซูผิงก็มีเวลาถามชื่อหญิงสาว
หญิงสาวพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เรียกข้าว่าท่านหญิงเขียวก็แล้วกัน”
“คุณมีแผนอะไรไหมท่านหญิงเขียว? จะมีผู้บุกรุกเข้ามาทางนี้มากขึ้น ในตอนนี้ที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกเปิดเผยแล้ว เทพเจ้าทองคำทั้งสามจะมาถึงในไม่ช้า มาหาสมบัติของบรรพบุรุษของผม” ซูผิงกล่าวอย่างกังวล “ไม่เป็นไรถ้าพวกเขาต้องการเพียงโบราณวัตถุ แต่ผมเกรงว่าด้วยความโลภของพวกเขา พวกเขาจะทำลายร่างกายของบรรพบุรุษของผม”
ท่านหญิงเขียวเลิกคิ้วและพูดหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง “ข้าอยู่ที่นี่มานานเกินไป ข้าเหนื่อยมากในการต่อสู้ครั้งนั้น ข้าไม่สามารถต่อสู้กับสามเทพทองคำ…”
ซูผิงรู้สึกเสียใจหลังจากได้ยินคำตอบของเธอ
เขาได้วางแผนที่จะหลอกล่อหญิงสาวให้ต่อสู้เพื่อมรดกของราชาเทพแทนเขา
ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวสามคนคงจะไม่พอใจอย่างแน่นอน… แต่ใครจะปฏิเสธมรดกของยอดฝีมือสภาวะเทพอมตะได้?
ไม่เพียงแค่มรดกของยอดฝีมือสภาวะเทพอมตะเท่านั้น แม้แต่มรดกเหรียญดวงดาวหลายพันล้านเหรียญก็เพียงพอที่จะทำลายความเป็นพี่น้องได้ อารมณ์เป็นสิ่งที่เปราะบางที่สุดในโลก
แต่อารมณ์ก็เป็นสิ่งที่ทำลายได้ยากที่สุดเช่นกัน
“อย่างไรก็ตามแม้ว่าข้าจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะจัดการกับพวกเขา แต่ก็มีคนอยู่สองคนที่สามารถทำได้ เราจะทิ้งยาที่เหลือก่อน ไปพบพวกเขากันเถอะ” ท่านหญิงเขียวกล่าว
ดวงตาของซูผิงเป็นประกาย “มีผู้อาวุโสคนอื่นๆ อยู่ในที่พำนักศักดิ์สิทธิ์นี้อีกหรอ?”
“ประมาณนั้น” ท่านหญิงเขียวไม่ได้อธิบาย
ซูผิงไม่ได้ถามเพิ่มเติม เขาเพียงแค่ให้อสูรของเขาหยุดดูดซับยาแล้วรวมเข้ากับมังกรเพลิงนรกและโครงกระดูกน้อย เพื่อคงสถานะที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา
หลังจากนั้นเขาก็เก็บอสรพิษม่วงและเผ่าแมลงไว้ในพื้นที่สัญญา
”ไปกันเถอะ.”
ท่านหญิงเขียวโบกมือ และยาทั้งหมดก็หายไป
จากนั้นเธอก็ปล่อยพลังปกคลุมซูผิง ซูผิงพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า มีวิหารลอยน้ำอยู่ข้างหน้าเขา
บูม!!
เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่หน้าวัง
ผู้คนนับสิบกำลังต่อสู้กันนอกวิหารลอยน้ำ
สามคนเป็นกึ่งอสูรที่ปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา พวกเขาทั้งหมดมาพร้อมกับอสูรขนาดมหึมา
ซูผิงสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่าอสูรร้ายตัวหนึ่งคือผู้อาวุโสมังกรที่ปรากฏตัวภายนอกที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่มันจะถูกเปิดออก
คนสามคนที่น่าสะพนึงกลัวเป็นยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวที่เข้ามาในที่พำนักศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย!
เงาทั้งแปดกำลังต่อสู้กับพวกเขา เงาเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาระหว่างการต่อสู้ เปลี่ยนเป็นหอกยาวและเปลี่ยนเป็นคมดาบ
“เป็นไปได้ยังไง…?”
การแสดงออกของท่านหญิงเขียวเปลี่ยนไป จากนั้นเธอก็พาซูผิงไปต่อ
“พวกมันทั้งหมดมีอสูรขี่และอสูรต่อสู้ระดับเทพทองคำ…” ใบหน้าของเธอดูน่ากลัว
ซูผิงตกตะลึงชั่วครู่ เขาตระหนักในทันทีว่าเธอไม่คุ้นเคยกับระบบอสูร และคิดว่าจะมีเทพทองคำเพียงสามองค์เท่านั้น
ตามความเป็นจริงยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวทั้งสามคนและอสูรของพวกเขาจะนับเป็นเทพทองคำจำนวน 12 องค์!
แม้ว่าอสูรเหล่านั้นจะไม่ได้อยู่ในสถานะสภาวะเทพดวงดาวทั้งหมด แต่พวกมันก็ยังน่าสะพรึงกลัว
“คู่ต่อสู้ของพวกเขาคือ…”
“พวกมันคือสิ่งประดิษฐ์ชั้นยอดที่ราชาเทพได้รวบรวมเอาไว้!”
“…”
ซูผิงสูญเสียคำพูดโดยไม่คาดคิดว่าผู้ช่วยของท่านหญิงเขียวจะเป็นสิ่งประดิษฐ์
สิ่งประดิษฐ์เหล่านั้นฉลาดและสามารถต่อสู้ได้ในขณะที่อยู่ในร่างมนุษย์ พวกมันอาจมีพลังต่อสู้ของสภาวะเทพดวงดาวเนื่องจากพวกมันยังไม่แพ้
“น่าเสียดาย สิ่งประดิษฐ์ของราชาเทพได้รับความเสียหาย ไม่เช่นนั้นพวกมันคงถูกจัดการไปแล้ว!” ท่านหญิงเขียวดูเหมือนโกรธ
ซูผิงจึงตระหนักว่าการแข่งขันชิงมรดกกับยอดฝีมือเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น
เขาแอบถอนหายใจ แต่ก็ไม่ได้ผิดหวังมากนัก แม้ว่าจะมีความเสียใจอยู่บ้าง แต่เขาก็ปล้นของดีมาได้เพียงพอแล้วระหว่างการเดินทาง
ซูผิงหันกลับมาและพูดท่านกระแสจิตว่า “ท่านหญิงเขียว ในเมื่อเรื่องมันเป็นเช่นนี้ ทำไมเราไม่ไปจากที่นี่กันละ”
ถ้าเขาสามารถพาหญิงสาวออกไปด้วยได้ ซูผิงรู้สึกว่าเธอจะดีพอๆ กับมรดกที่เหลืออยู่ ท้ายที่สุดเธอเป็นเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเพิ่มโอกาสในการเป็นราชาได้!
ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวอาจไม่ทราบว่ามีเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ที่น่าเหลือเชื่ออยู่ในสถานที่แห่งนี้ พวกเขาต้องตรงไปที่คลังสมบัติเพื่อค้นหามรดก
หากมีสภาวะเทพดวงดาวเพียงคนเดียวที่เดินทางมา เขาอาจจะสำรวจทุกวิหารอย่างละเอียด แต่ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวทั้งสามต่างก็คอยสอดส่องซึ่งกันและกัน ไม่มีใครอยากพลาดสมบัติล้ำค่าที่สุดไปหรอก!
เป็นผลให้พวกเขาพลาดเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่นี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว