ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 834

ทวีปสายฟ้าคำราม—
  บนภูเขาขนาดมหึมาที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าอสนีบาต
  มังกรอสนีบาตจำนวนมากรวมตัวกัน บางตัวบินอยู่เหนือภูเขา และบางตัวก็บินขึ้นไปบนยอดเขา
  มีทะเลสาบลึกอยู่ที่ยอดเขา ครึ่งหนึ่งของทะเลสาบเต็มไปด้วยเลือด
  มังกรตัวหนึ่งหมอบอยู่หน้าทะเลสาบขนาดมหึมา ร่างกายของมันถูกมัดด้วยโซ่และตะปูสีดำแหลมคม ทำให้มันขยับไม่ได้!
  ถัดจากมังกรอสนีบาตที่แข็งแกร่งเป็นงูตัวยาวสีขาว เกล็ดสีขาวของมันเปื้อนเลือดและถูกตรึงไว้กับพื้นด้วย
  เสียงที่น่ากลัว เย็นชา และไร้ความปรานีดังออกมาจากราชามังกร
  “แกเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อย แต่ยังมายั่วยวนเราและพยายามจะมีลูก มีโทษถึงตาย!”
  ”ฆ่าพวกมัน!”
  ”ฆ่าพวกมัน!”
  ”ฆ่าพวกมัน!”
  มังกรทั้งหมดคำราม เสียงคำรามของพวกมันก้องไปทั่วภูเขา
  บนพื้นดินงูเกล็ดขาวนอนซุบลงด้วยความเศร้าโศกในดวงตาของมัน
  ทันใดนั้นมังกรที่ถูกตรึงก็เบิกตากว้าง!
  “โฮกกก!!”
  มันปล่อยเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งและน่าเกรงขาม มังกรตัวอื่นๆ ทั้งหมดถูกข่ม!
  “แกต้องฆ่าฉันก่อนถ้าจะฆ่าเธอ!” มังกรที่ถูกล่ามโซ่กล่าวด้วยดวงตาแดงก่ำ มันเงื้อมมือ โซ่บนตัวมันรัดแน่นและกดเกล็ดของมัน เลือดพุ่งกระจาย
  มันเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบ ๆ ด้วยความภาคภูมิใจและหยิ่งทนง
  บนพื้นดิน งูตัวสั่นและมองดูมังกรที่ถูกล่าม น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของมัน มันสะอื้นไห้และพูดว่า “ไม่ ไม่ต้องห่วงฉัน นายคือเจ้าชาย พวกเขาจะไม่ทำอะไรนาย ถึงฉันตายก็ไม่เป็นอะไร หากมีชีวิตหลังความตายจริง ฉันจะได้เกิดใหม่เป็นมังกร เพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน…”
  “เธอไม่จำเป็นต้องเกิดใหม่เป็นมังกร ตอนนี้เธอเหมาะกับฉันมากที่สุด!” มังกรตัวใหญ่ก้มศีรษะลงและมองลงมาอย่างอ่อนโยน
  งูขาวร้องไห้น้ำตานองหน้า
  ทันใดนั้นเสียงคำรามทำลายล้างก็ปะทุขึ้น และแรงกดดันอันน่าสยดสยองก็ปกคลุม
  ”หุบปาก!”
  มังกรทั้งหมดก้มหัวลงและมองไปทางเสียงนั่นด้วยความกลัว
  มันคือหัวหน้าเผ่าของพวกมัน!
  “ไอ้ลูกเลว! แกแต่งงานกับหนอนน่ารังเกียจและให้กำเนิดลูกครึ่งประหลาด เมื่อไหร่แกจะมีสมองซักที?” หัวหน้าเผ่าตะโกนอย่างโกรธจัด
  “เธอไม่ใช่หนอน เธอเป็นคู่ชีวิตของผม!” มังกรเงยหน้าขึ้นและมองไปที่สิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่า ซึ่งจริงๆ แล้วใหญ่กว่าตัวมันเองมาก
  นั่นคือราชาของพวกมัน ผู้ที่ไม่เคยมีใครกล้าท้าทาย จนถึงวันนั้น มันมองพ่อด้วยความโกรธและความมุ่งมั่น!
  ”หุบปาก!” หัวหน้าเผ่าคำรามอีกครั้ง พบว่าไม่สามารถทนได้อีกต่อไป มันพูดกับมังกรเฒ่าที่อยู่ใกล้ๆ ว่า “ฆ่าพวกมันและปล่อยให้พวกมันตายในทะเลสาปแปลงมังกร มันจะเป็นความเมตตาครั้งสุดท้ายที่เรามีให้พวกมัน!”
  “ตามประสงค์ของท่านหัวหน้า” มังกรเฒ่ารับคำสั่งตามหน้าที่
  ทันใดนั้นเองก็มีเสียงอุทานดังขึ้น
  ท้องฟ้าเบื้องบนกลายเป็นความมืดและดวงจันทร์ก็ปรากฏขึ้น
  ดาวฤกษ์ก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงในเวลาเดียวกัน และดาวเคราะห์ข้างเคียงที่มีวงแหวนเฉพาะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง มันไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป
  ”ฮะ?”
  หัวหน้าเผ่าตกตะลึงเมื่อเห็นเช่นนั้น มันเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ “ทำไมดาวเคราะห์ถึงเคลื่อนที่? มันเป็นไปได้ยังไง? โอนีลไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างแน่นอน เขาเจอกับศัตรูที่น่าเกรงขามหรอ?”
  ในเวลานี้มังกรที่อยู่ใกล้เคียงก็อุทานออกมาด้วยความตกใจกับฉากที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
  ผู้อาวุโสอดไม่ได้ที่จะถาม “ผู้นำเผ่า นี่มันอะไรกัน?”
  มันเป็นภาพลวงตาหรอ? โอนีลทำอะไรอยู่? เขารู้เรื่องปฏิบัติการหลบหนีของเราหรอ? หัวหน้าเผ่าก็สงสัยเช่นกัน
  บนพื้น—มังกรอสนีบาตที่ถูกล่ามไว้ไม่ได้มองปรากฏการณ์ประหลาด มันเพียงก้มหัวลงและพยายามขยับเข้าไปใกล้งูเกล็ดขาวให้มาที่สุดทั้งๆ ที่เลือดยังคงไหลอยู่ พวกมันมองหน้ากันอย่างเสน่หา
  เมื่อตั้งใจแน่วแน่ที่จะตาย พวกมันจึงอยากจะนึกถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่สมกันมา
  “ดวงดาวกำลังเคลื่อนที่!”
  “ไม่ ฉันคิดว่าดาวของเรากำลังเคลื่อนไหว!”
  ”เกิดอะไรขึ้น?”
  มังกรทั้งหมดแหงนหน้ามองท้องฟ้า ฟุ้งซ่านกับปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดาจนลืมเรื่องการประหารชีวิตไปโดยสิ้นเชิง
  …
  ตระกูลไลเยฟาซึ่งปกครองระบบดาวเคราะห์ก็ตกใจเช่นกันเมื่อรีอาออกจากเซรุปรัน
  พวกเขาเฝ้าติดตามดาวเคราะห์ทุกดวงในอาณาเขตของตน พวกเขาสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็วว่ารีอากำลังลอยออกไป
  ”เกิดอะไรขึ้น?”
  “รีอากำลังเคลื่อนที่เหรอ?”
  “มันถูกดึงออกมาจากวงแหวนแรงโน้มถ่วงหรือเปล่า? แรงโน้มถ่วงของดาวมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
  “ฉันไม่คิดอย่างนั้น จากการอ่านค่าอุปกรณ์เฝ้าระวังทำงานปกติ ดูเหมือนว่ามีพลังภายนอกบางอย่างกำลังผลักดาวดวงนี้ออกไป!”
  ”แปลก ตรวจพบว่าคลื่นบนดาวเคราะห์ดวงนี้อยู่ในระยะเขียวขณะหลุดจากระบบสุริยะ พวกมันมีค่าเท่ากับคลื่นสึนามิระดับเก้าเท่านั้นเอง!”
  ”มันเป็นไปไม่ได้ มันกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจนน่าจะทำให้เกิดสึนามิระดับ 20 ทั่วโลกถ้าพิจารณาจากพลังงาน!”
  ในเวลาเดียวกัน คำร้องขอความช่วยเหลือของรีอาก็ถูกส่งมา
  ในไม่ช้ารายงานข่าวกรองของพวกเขาและคำร้องขอความช่วยเหลือของรีอาก็ถูกส่งไปยังผู้นำของตระกูลไลเยฟา
  “รีอากำลังลอยออกจากวงโคจรเหรอ?”
  ”แปลก แต่ไม่ต้องตื่นตระหนก ผมจะไปดูที่นั่น”
  ผู้นำของตระกูลไลเยฟารีบออกตรวจสอบทันที Aileen-novel
  ในฐานะเจ้าดวงดาวเขามียานอวกาศพิเศษของตัวเอง เขานำมันออกมาจากที่เก็บและขึ้นไปบนฟ้าในพริบตา จากนั้นยานอวกาศก็กลายเป็นวังวนที่อยู่ตรงหน้าราวกับลูกศรแหลมคม
  หวืด!
  ยานอวกาศหายไป มันอยู่ห่างออกไปแปดปีแสงเมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง
  …
  ในไม่ช้ายานอวกาศก็มาถึงรีอา ขณะที่อยู่ในยานอวกาศ เจ้าดวงดาวก็เห็นว่ารีอากำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าในความว่างเปล่าราวกับอุกกาบาตที่กำลังลุกไหม้!
  ”ฮะ?”
  ลอร์ดตกใจกับสิ่งที่เห็น ดาวเคราะห์ดวงนี้ดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยพลังลึกลับและลึกซึ้ง… นั่นคือพลังของสภาวะเทพดวงดาวหรอ?
  รีอาถูกย้ายโดยยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวหรอ?
  ทำไมยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวถึงขโมยดาวเคราะห์อย่างรีอา?
  มันไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่เศรษฐกิจดีที่สุด พวกเขาพบเป้าหมายแบบสุ่มหรือเปล่า? “แปลก ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวไม่เคยติดต่อฉันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นเพราะกลัวว่าจะละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางหรอ?”
  ลอร์ดไลเยฟาขมวดคิ้ว สงสัยว่าควรจะทำยังไง
  เขาไม่สามารถประมาทได้เมื่อต้องรับมือกับยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว
  “ท่าน เราควรสกัดรีอาหรือไม่?” หญิงสาวเซ็กซี่คนหนึ่งที่สวมชุดเครื่องแบบอวกาศกล่าว
  เธอยิ้มด้วยท่าทางร่าเริง แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นหุ่นยนต์ ผิวของเธอทำจากซิลิโคนเจลซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนผิวมนุษย์
  ”ไม่ เราจะตามไป” ลอร์ดไลเยฟาพูดพลางขมวดคิ้ว
  มันดีกว่าที่จะรอจนกว่าสิ่งต่าง ๆ จะชัดเจน
  …
  รีอา ภายในร้านในในเมืองวอฟเฟ็ต
  ซูผิงขอให้ถังยู่หรานส่งลูกค้าออกไปและปิดร้าน
  แม้ว่าลูกค้าบางคนจะสังเกตเห็นท่านหญิงเขียวที่เปล่งประกาย แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ และไม่เคยเชื่อมโยงผู้ผลักดาวดวงนี้กับหญิงสาวสวยคนนี้เลย ท้ายที่สุดทุกอย่างก็ไม่น่าเชื่อเกินไป คนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเชื่อได้ว่าดาวเคราะห์ของพวกเขากำลังเคลื่อนที่ พวกเขาคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติในอวกาศ
  ”เร็วมาก!”
  “ผู้อาวุโส คุณจะทนได้นานแค่ไหน”
  ซูผิงยังคงตกใจเมื่อเขาดูแผนที่บนตราผู้ปกครอง ดาวเคราะห์กำลังเคลื่อนที่เร็วเท่ากับยานอวกาศ
  “อีกนานไหม?”
  ท่านหญิงเขียวหันกลับมามองเขา “ล้อเล่นหรอ? เจ้าคิดว่านี่เป็นงานที่ไม่เหนื่อยหรือยังไง?”
  “…”
  เอ่อ ยกโทษให้ฉันด้วย
  “ดาวเคราะห์จะกระโดดในอวกาศ มันอาจจะตกหลุม” ท่านหญิงเขียวกล่าว
  จากนั้นแสงสีมรกตภายนอกร่างกายของเธอก็สว่างไสวมากขึ้นกว่าเดิม หลังจาก ” ตุม ” ซูผิงรู้สึกถึงแผ่นดินไหวและได้ยินเสียงอุทาน
  “ท้องฟ้าหายไปแล้ว!”
  “ดาวทั้งหมดหายไป เกิดอะไรขึ้น?”
  ทุกคนตกใจกันมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับดาวดสงนี้
  ซูผิงออกมาจากร้านและแหงนมอง ท่านหญิงเขียวได้แทรกดาวทั้งดวงเข้าไปในมิติที่ลึกกว่า!
  มิติที่ลึกกว่านั้นอันตรายมากจนมีเพียงผู้ที่อยู่ในระดับดวงดาวเท่านั้นที่สามารถเดินทางในมิติชั้นสองได้
  อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงความมืดสนิทแล้ว ซูผิงรู้สึกว่าน่าจะเป็นมิติชั้นสามหรือมิติชั้นสี่มากกว่า
  ยิ่งมิติลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งสามารถเดินทางได้เร็วเท่านั้น ทันใดนั้นซูผิงก็ได้ยินเสียงกระซิบที่คลุมเครือซึ่งหายไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามขนของเขาลุกแล้ว
  นี่เป็นเสียงกระซิบของสิ่งมีชีวิตโบราณมิติชั้นห้าหรือเปล่า?
  ขณะที่ซูผิงรู้สึกชาด้วยความตกใจ ดวงดาวก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง และแสงสว่างจางๆก็อยู่ไกลออกไป สามารถมองเห็นดาวที่เปล่งประกายได้ในระยะไกล พวกเขากระโดดเข้าสู่ระบบสุริยะ
  ในไม่ช้าฉากเหล่านี้ก็หายไปเมื่อดาวเคราะห์กระโดดอีกครั้ง
  ซูผิงกลับไปที่ร้านของเขาและมองท่านหญิงเขียว เพียงเพื่อจะพบว่าเธอเคร่งขรึมกว่าเมื่อก่อน ดูเหมือนว่าการผลักดาวเคราะห์ในมิติที่ลึกกว่านั้นเป็นงานที่ยากสำหรับยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว
  ซูผิงมองลงไปที่แผนที่และประหลาดใจ
  การกระโดดครั้งก่อนครอบคลุมหนึ่งในห้าของระยะทาง!
  พวกเขาข้ามระบบสุริยะอย่างน้อยเจ็ดระบบและอยู่ห่างออกมาหลายแสนปีแสง!
  “ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน…”
  ซูผิงมองไปที่จุดประกายบนแผนที่ ซึ่งเป็นที่ที่ดาวเคราะห์บ้านเกิดของเขาตั้งอยู่ พ่อ แม่ น้องสาว รอฉันก่อน ฉันกำลังไป!
  ซูผิงเริ่มเตรียมตัว เขาเรียกมังกรเพลิงนรก โครงกระดูกน้อยและอสูรอื่น ๆ และเช็กให้แน่ใจว่าพวกมันอยู่ในสถานะที่ดีที่สุด
  ในไม่ช้าการกระโดดครั้งที่สองก็จบลง
  ระยะทางสั้นลงอย่างเห็นได้ชัดอีกครั้ง
  เวลาผ่านไป
  ทุกคนในรีอายังคงตกใจ
  …
  ในเวลาเดียวกัน บนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
  นับตั้งแต่ถ้ำลึกถูกเปิดออก มวลดินของดาวเคราะห์ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อก่อนมาก กระบวนการก่อสร้างใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
  เมืองฐานที่ถูกทำลายส่วนใหญ่ได้รับการแก้ไขแล้วเป็นส่วนใหญ่
  ในทะเลลึกที่อยู่ติดกับเขตอนุทวีป—ใครๆ ก็เห็นต้นไม้สูงตั้งตระหง่าน ครึ่งล่างของต้นไม้จมอยู่ใต้ทะเลที่ไหลเชี่ยว และส่วนที่ลอยอยู่เหนือก็ทะลุผ่านเมฆไปแล้ว ดูเหมือนทอดยาวออกไปในชั้นบรรยากาศ
  มงกุฎของต้นไม้ถูกล้อมรอบด้วยเมฆ ใบไม้สีเขียวของมันสะท้อนแสงอาทิตย์ แสดงถึงธรรมชาติที่ไม่ธรรมดา
  นั่นคือต้นไม้ลึกลับที่โผล่ขึ้นมาบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินเมื่อสองสามวันก่อน
  ต้นไม้ใหญ่มากจนถูกค้นพบได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีทางที่จะซ่อนมันได้!
  ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเชื่อมต่อกับสหพันธ์แล้วในขณะนี้ นักเดินทางหลายคนมาที่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักในชื่อ ต้นกำเนิดของชีวิตเพื่อดูว่าดาวเคราะห์โบราณนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร
  ด้วยการปรากฏตัวของนักเดินทางต่างดาวเหล่านั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บความลับของต้นไม้ไว้ มีนักผจญภัยมากมายมารวมตัวกันที่ต้นไม้
  ขณะนี้—มีหลายคนรุมมองต้นไม้อยู่
  “มีสนามพลังลึกลับอยู่ใต้มงกุฎของต้นไม้ ฉันไม่สามารถเข้าใกล้มันได้!”
  “ไม่ว่าจะกฎใดของฉันก็ไม่สามารถทำลายมันได้ ต้นไม้ต้นนี้ลึกลับมาก ฉันคิดว่ามันจะต้องมีผลที่น่าเหลือเชื่อ!”
  “นี่อาจจะเป็นต้นไม้เจ้าดวงดาวก็ได้!”
  “ตระกูลบาโลยามาที่นี่ก่อน ต้นไม้จึงเป็นของเรา ทุกคนเห็นด้วยไหม?”
  “ทุเรศ! ใครเห็นก็ต้องแบ่งกันสิ ตระกูลบาโลยาไม่มีสิทธิที่จะผูกขาดมัน!”
  ทุกคนมองหน้ากันอย่างเย็นชา มองคนอื่นเป็นคู่แข่งกัน
  ไกลออกไป มีคนหลายคนลอยอยู่เหนือทะเลและมองขึ้นไปบนต้นไม้นั้น เช่นเดียวกับชาวต่างดาวที่อยู่ข้างบนนั้น
  “ต้นไม้โบราณขนาดใหญ่นั้นโตเร็วเกินไป จะต้องเป็นสมบัติล้ำค่า นี่เราจะแจกให้คนต่างดาวจริง ๆ เหรอ?”
  “เรามีทางเลือกอะไร? ลอร์ดของเราไม่อยู่ที่นี่ ผู้อาวุโสเนี่ยได้รับบาดเจ็บและยังคงพักฟื้นอยู่ นักรบทั้งหมดที่อยู่ในระดับดวงดาวเช่นเดียวกับผู้อาวุโสเนี่ยไม่สามารถรักษาต้นไม้ไว้ได้ แม้ว่าเราจะต้องการก็ตาม”
  “ให้ตายเถอะ ต้นไม้เติบโตบนดาวของเรา ทำไมเราต้องให้คนอื่น? เราไม่มีสิทธิมีส่วนร่วมด้วยซ้ำ!”
  ชายสองสามคนที่รับผิดชอบในการเฝ้าติดตามผู้บุกรุกรวมตัวกันที่นั่น ทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึมและโมโห

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว