ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 890

คลื่นหมัดแผดเผามาจากฟากฟ้า!
  เปลวไฟสีน้ำเงินเหมือนอุกกาบาต เผาทุกสิ่งที่ขวางหน้าและฉีกมิติลึกที่เปิดกว้างทิ้งร่องรอยสีดำไว้ข้างหลัง พลังกระจายที่ขอบของรัศมีหมัดเปิดมิติชั้นห้าแล้ว!
  “วิชาหมัดนั่นน่ากลัวอะไรขนาดนี้!”
  ”เหลือเชื่อ! ฉันรู้สึกเหมือนตาฉันกำลังจะไหม้”
  “ทวีปนั้นจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
  บางคนถึงกับวิตกเมื่อคิดว่าภูมิภาคอันกว้างใหญ่อาจไม่สามารถทนต่อหมัดนั้นได้
  หมัดนั้นน่ากลัวเกินไป มันให้ความรู้สึกเหมือนกับหมัดที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ของเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่จะทำลายท้องฟ้า!
  ”คุณซู!”
  “ท่านลอร์ด!”   “เขาไม่อาจต้านทานได้ มันจบแล้ว…”
  บนดาวเคราะห์สีน้ำเงินมีเสียงอุทานทั่วทุกที่ ผู้คนนับไม่ถ้วนหน้าซีด ชาวโลกทุกคนในเมืองฐานลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ
  พวกเขารู้ว่าซูผิงมีพลังวิเศษ แต่หมัดที่เขาเผชิญอยู่นั้นน่ากลัวมากจนดูเหมือนว่ามันกำลังจะกวาดล้างทุกชีวิตในโลก
  พวกเขาไม่รู้ว่าสภาวะเทพดวงดาวจะดำเนินการอะไรหรือไม่ ถ้าไม่ ซูผิงก็จะตายในการแข่งขันนี้ เหมือนกับราชินีแห่งท้องทะเล!
  ซูผิงเป็นกระดูกสันหลังของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน เมื่อเขาจากไปแล้ว ดาวเคราะห์ดวงนี้อาจลอยไปได้ทุกเมื่อ เหมือนเรือลำเล็กที่แล่นฝ่าพายุ!
  ”พี่!”
  บนยอดเขา—ซูหลิงเยวี่ยสูญเสียความเยือกเย็นและใบหน้าของเธอก็ซีด แม้แต่เธอก็สามารถบอกได้ว่าหมัดนั้นน่ากลัวแค่ไหน แม้ว่าเธอจะดูมันจากบนหน้าจอเท่านั้น แต่เธอก็รู้สึกเหมือนร่างกายของเธอถูกไฟไหม้ ไม่ยากเลยที่จะอนุมานว่าหมัดนั้นมีวิถีที่สมบูรณ์อยู่แล้ว!
  …
  คลื่นหมัดนั่นอยู่ตกลงมาจากท้องฟ้าและดันอากาศทั้งหมดออกไป ช่องว่างที่มองไม่เห็นแตกเป็นชั้นๆ
  ซูผิงเงยหัวขึ้น กฎที่กระจายออกไปในสายลมที่แผดเผาก็เพียงพอที่จะฆ่าใครบางคนในสภาวะชะตากรรมได้มากกว่าพันครั้ง
  สิ่งที่เขาเห็นคือหมัดขนาดมหึมาที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนดูเหมือนท้องฟ้าจะถล่มลงมา!
  น่ากลัวมาก!
  รูขุมขนของซูผิงเปิดออกทั้งหมด เขาไม่เคยอยู่ในวิกฤตเช่นนี้มาก่อน แต่เขาไม่ได้ตื่นตระหนก เขากลับรู้สึกว่าเลือดกำลังเดือด
  “ขอยืมดาบกระดูกของนายหน่อย” ซูผิงพูดเบา ๆ
  ดาบกระดูกแหลมยื่นออกมาจากมือของโครงกระดูกทันที
  ซูผิงยืนอยู่บนที่สูง จ้องมองขึ้นไปด้วยดวงตาที่เจิดจ้าราวกับกำลังเจาะทะลุท้องฟ้า!
  ”ทำลาย…
  ”เดี๋ยวนี้!!!”
  ซูผิงก้าวออกไป เซลล์หลายพันล้านเซลล์ในร่างกายของเขาสั่นสะเทือนขณะที่พวกมันปล่อยพลังที่น่าตกใจ ซึ่งรุนแรงมากจนดูเหมือนว่าสามารถทำลายดาวเคราะห์ได้
  อากาศสั่นสะเทือนเมื่อซูผิงเคลื่อนไหว และมิติชั้นห้าก็ถูกเปิดออก ขณะที่เขายืนอยู่กลางช่องว่างที่แตกร้าว ซูผิงแหงนมองหมัดเทพฟีนิกส์ที่ใกล้เข้ามา ราวกับว่าเขาเป็นเทพที่กำลังจะถูกทำลาย
  แต่ซูผิงกลับโจมตีกลับ พลังแห่งกฎพุ่งออกมาจากแขนของเขา และถูกรวบรวมไว้บนดาบกระดูก
  ดาบกระดูกนั้นแข็งแกร่งมากจนสามารถทนต่อแรงกดดันของกฎทั้งหมดได้ ในชั่วพริบตา แปดสิบ เก้าสิบ ร้อย… และมันก็ดำเนินต่อไป จนกระทั่งถึงกฎข้อที่ 110 ดาบกระดูกสั่น และราชาโครงกระดูกผู้ยิ่งใหญ่ก็ปรากฏขึ้นข้างหลังของซูผิง
  ราชาโครงกระดูกยกดาบกระดูกยักษ์ขึ้น เลียนแบบการเคลื่อนไหวของซูผิงและฟันดาบพร้อมกัน!
  ปัง!!!
  ทั่วทั้งทวีปสั่นสะเทือน!
  พลังอันน่าสะพรึงกลัวถูกพัดออกไป อากาศลดฮวบ และเงาของมิติชั้นหกก็เริ่มปรากฏขึ้น เสียงกระซิบที่คลุมเครือดูเหมือนจะกระจายออกไป แต่จู่ๆ พวกมันก็หายไป ราวกับถูกตัดขาดจากบางสิ่ง
  เปลวไฟสีน้ำเงินที่ลุกโชนพุ่งออกมาราวกับผีเสื้อกางปีก คลื่นดาบที่ควบแน่นอย่างล้ำลึกได้ตัดคลื่นหมัดไร้เทียมทานที่อยู่ตรงกลางออก!
  เปลวไฟถูกแบ่งออก และซูผิงก้าวไปข้างหน้าด้วยแสงสีทองส่องออกมาจากดวงตาของเขา เกราะของเขาแตกและร่างกายส่วนบนของเขาถูกเปิดเผย เผยให้เห็นร่างกายกำยำ
  “เป็นไปไม่ได้!”
  ข้างบน—ซูจินเอ๋อหรี่ตาลงอย่างไม่เชื่อ เธอไม่คาดคิดว่าซูผิงจะสามารถทนต่อการโจมตีซึ่งมีพลังสูงสุดที่เธอสามารถปลดปล่อยได้โดยไม่ต้องใช้ไพ่ตายของเธอ!
  ซูผิงกำลังเข้าใกล้เปลวไฟ เพราะพวกมันไปไม่ถึงเขา และไม่สามารถทำร้ายเขาได้ ดาบที่ปกคลุมร่างกายของเขาได้ปล่อยพลังแห่งความมืดออกมาเพื่อชดเชยและกลืนกินพลังงานที่อยู่ใกล้เคียง เขาโผล่ออกมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ!
  “สองคนนั่นเป็นสัตว์ประหลาดแบบไหน!”
  ”ให้ตาย!”
  นอกสนามรบ—จักรพรรดิมังกร, โอเอซิส เกรย์ และคนอื่นๆ ตกใจกับการโจมตีนั้น พวกเขาต่างหวาดกลัวจากใจจริง!   พลังที่ทั้งสองปลดปล่อยออกมานั้นไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับของพวกเขาเลย พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าพวกเขาเป็นนักรบสภาวะชะตากรรมจริงหรือเปล่า
  พวกเขาทั้งหมดคิดว่าพวกเขามาถึงขอบเขตของสภาวะชะตากรรมแล้ว แต่กลับเป็นว่าพวกเขายังห่างไกลจากมัน ตัดสินจากความสามารถของสองคนนั้น!
  หลิงหู่เจี้ยนและฮายาลิมก็ตกใจเช่นกัน พวกเขารู้ว่าผู้เข้าแข่งขันสองคนนั้นแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะแข็งแกร่งขนาดนั้น โดยเฉพาะซูจินเอ๋อ—ผู้ไม่เคยทิ้งความประทับใจอันยิ่งใหญ่อะไรไว้—แต่กลับปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ไม่มีใครต้านทานได้!
  พวกเขาคงจะเป็นเหมือนเค้กชิ้นหนึ่งสำหรับเธอ!
  หลังจากที่พวกเขาคิดว่าซูผิงจะแพ้อย่างแน่นอน แต่หลับยิ่งไม่น่าเชื่อมากกว่าเดิม ไม่เพียงแต่เขาเข้าใจกฎร้อยข้อเท่านั้น เขายังรวมกฎเหล่านั้นเข้าด้วยกันอีกด้วย ซึ่งจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับกฎ การควบคุมที่แม่นยำ และพลังดวงดาวจำนวนมหาศาลเป็นเชื้อเพลิง
  ทว่าซูผิงได้ครอบคลุมปัจจัยเหล่านั้นทั้งหมดแล้ว!
  สัตว์ประหลาดสองตัวนั่นโคตรจะน่ากลัว!
  ทั้งคู่รู้สึกโชคดีที่อยู่นอกสนามรบ และได้รับการคุ้มครองจากม่านพลัง มิฉะนั้นพวกเขาอาจถูกฆ่าโดยไม่ได้ตั้งใจ!
  ”ฉันยอมแพ้!”
  ในสนามรบ—ซูจินเอ๋อกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อเห็นซูผิงเคลื่อนไหวในมิติชั้นห้า
  ซูผิงช้าลงและหยุดรอเมื่อได้ยินเช่นนั้น
  เขาจะไม่หยุดถ้าเขาอยู่ในป่า เพราะเขาไม่รู้ว่ามันเป็นอุบายหรือเปล่า แต่พวกเขากำลังอยู่ในการแข่งขัน และเธอไม่สามารถกลับคำพูดของเธอได้
  “มีสภาวะเทพอมตะสนับสนุนนายหรือเปล่า?” ซูจินเอ๋อพูดขึ้นทันที เธอมองไปที่ซูผิงอย่างสงสัย เธอไม่คิดว่าจะมีเด็กคนไหนที่สูสีกับเธอ เว้นแต่พวกเขาจะมีสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับเธอ แต่ซูผิงดูไม่เหมือนจะเป็นหนึ่งในนั้น
  ไม่มีสภาวะเทพดวงดาวคนไหนที่เธอรู้จักเหมือนซูผิง เธอเดาได้เพียงว่ามีสภาวะเทพดวงดาวเป็นอาจารย์หรือเป็นคนในตระกูลของซูผิง นั่นเป็นคำอธิบายเดียวสำหรับสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวอย่างเขา!
  ”เธอคิดว่าไงล่ะ?”
  ตอนนี้เขาชนะแล้ว ซูผิงละทิ้งเจตนาฆ่าของเขาและนำดาบกระดูกส่งคืนให้โครงกระดูกน้อย และซ่อนรัศมีของเขา
  เขาใช้พลังของภาพร่างดวงดาวระหว่างการระเบิด ซึ่งทำให้เขาได้รับความเสียหายอย่างไม่ควร เจตนาฆ่าที่ล้นเหลือและพลังดวงดาวก็ถูกดึงกลับเช่นกันหลังจากที่เขาซ่อนรัศมีของเขา เขาไม่ได้ดูพิเศษอีกต่อไป
  ”จริงหรอ?”   คำตอบของซูผิงทำให้เธอขมวดคิ้ว
  ถ้าซูผิงโกหกสภาวะเทพอมตะจะไม่รู้สึกขุ่นเคืองและฆ่าเขาหรอ?
  ซูผิงไม่รู้ว่าซูจินเอ๋อคิดอะไรอยู่ในใจ เขาไม่ได้แก้ตัว เพราะส่วนหนึ่งเขาต้องการแกล้งจริงๆ แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่าความเสี่ยงที่จะถูกสภาวะเทพอมตะโจมตีจะทำให้เขาตาย
  ท้ายที่สุดแม้ว่าสภาวะเทพอมตะจะแข็งแกร่งในสายตาของเขา แต่พวกเขาก็จะไม่ทำตัวโหดร้าย ฆ่าทุกคนที่พูดถึง เขาเคยเห็นสิ่งที่น่ากลัวกว่าพวกเขามาแล้ว อย่าง ผู้อาวุโสอีกาทองคำ
  ไม่ต้องพูดถึงบรรพบุรุษอีกาทองคำซึ่งน่ากลัวกว่าเทพอมตะอย่างแน่นอน
  “ฉันไม่คิดว่าจะเจอคนแบบนาย ดี ฉันไม่ต้องการแหล่งมิติเวลา สำหรับฉันการเป็นเจ้าดวงดาวนั้นง่ายเหมือนการดื่มน้ำ ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ”
  ซูจินเอ๋อถอนหายใจด้วยความเสียใจ มันน่าผิดหวังที่ไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้หลังจากใช้ท่าไม้ตาย
  “…”
  ซูผิงไม่รู้จะพูดอะไร เธอจะหยุดเย่อหยิ่งหลังจากแพ้ม่ได้หรอ? ‘ง่ายเหมือนดื่มน้ำ’? มันจะราบรื่นราวกับผายลมสำหรับฉัน!
  โดยไม่พูดอะไร ซูผิงยกเลิกการหสานและส่งทั้งโครงกระดูกน้อยและมังกรเพลิงนรกกลับไปที่พื้นที่สัญญา เขาใช้พละกำลังของเขาเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นในการต่อสู้ครั้งก่อนและคลังอาวุธเกือบทั้งหมดของเขา ยกเว้นร่างอีกาทองคำและร่างเทพผู้วิเศษที่เขาปลุกขึ้นมาตอนไปที่โลกอีกาทองคำ
  โครงกระดูกน้อยและมังกรเพลิงนรกหมดแรงทั้งคู่ พวกมันซุบซิบกับซูผิงก่อนจะจากไป
  … ไอรีนโนเวล
  “พวกเขามีศักยภาพของสภาวะเทพดวงดาว!”   “เด็กสองคนนั้น…”
  ในวิหารเหนือทวีป ไฮถัวกับคนอื่นยังรู้สึกทึ่ง การต่อสู้เกินกว่าความคาดหมาย แชมป์ของกาแล็กซี่พวกเขาแค่เทียบได้กับหลิงหู่เจี้ยนในปีแรก หรืออาจแข็งแกร่งกว่า แต่ทว่า เด็กสองคนเหล่านั้นกลับฆ่าผู้สืบทอดของเทพแห่งดาบได้ทันที
  ยังมีช่องว่างให้พัฒนา
  “แค่ประกาศซะ ฉันจะต้องได้ตัวเด็กสาวคนนั้น”หญิงสาวจากวังฟีนิกส์ดำพูด
  ดวงตาของคนอื่นเป็นประกาย โหยวหยิงหัวเราะและพูด”บังเอิญจริง ฉันชอบศิษย์ผู้หญิงเหมือนกัน”
  ฮวนเลี่ยเซินยิ้มและพูด”บังเอิญจริง ๆ ฉันก็ด้วย”
  นักสู้เฒ่าหัวเราะ”ฉันด้วย’
  หญิงสาวจากวังฟีนิกส์ดำกลายเป็นโกรธและพูด”หยุดเล่นลิ้นกันได้แล้ว!งั้นก็เอาเธอไปเลย ฉันจะเอาตัวชายหนุ่มคนนั้นไปแทน!”   “อืม สงสัยจะบังเอิญอีก ฉันเองก็ขาดศิษย์ชาย”โหยวหยิงยิ้ม
  ฮวนเลี่ยเซินหัวเราะ”ถูกต้อง หนุ่มหล่อมักเป็นหัวข้อให้พูดคุย”
  นักสู้เฒ่าแค่นเสียง”วิชาหมัดในภูเขาหมัดสวรรค์เป็นที่รู้ดีถึงความดุร้ายและความเหมาะสมแก่ผู้ชาย”
  “นาย..”
  หญิงสาวจากวังฟีนิกส์กัดฟัน คนเหล่านี้ไม่เต็มใจมอบเด็กคนไหนให้เธอเลย
  ไฮถัวไม่สนใจการโต้เถียงนี้ เขาพูดด้วยสีหน้าแปลกๆ”ไม่ว่าพวกเขาจะเลือกใคร ฉันหวังว่าพวกนายจะไม่โกรธ ทั้งคู่คืออัจฉริยะที่โตในซิลวี่ และก็จะสร้างคุณภาพให้กาแล็กซี่เราในอนาคต นอกจากนี้ ชายแดนของจักรวาลยังอยู่ในช่วงสงคราม และก็ขาดคนมีพรสวรรค์”
  คนอื่นเลิกคิ้วแต่เงียบ พวกเขารู้ว่าไฮถัวกังวลว่าพวกเขาจะทำอะไรร้ายแรงถ้าไม่ได้ตัวศิษย์
  พวกเขาจะไม่ทำงั้น เพราะระหว่างพวกเขาไม่ได้มีความขุ่นเคืองอะไรฝังลึก
  “เอาล่ะ ฉันจะไปมอบรางวัล”ไฮถัวยิ้มและไป
  …
  ตอนนี้ ด้านนอกสนามรบ
  เจ้าดวงดาวประกาศว่าซูผิงเป็นผู้ชนะหลังเห็นว่าซูจินเอ๋อยอมรับความพ่ายแพ้ และทั้งคู่ก็หยุดสู้กัน
  พายุแห่งความร้อนที่ร้อนระอุราวกับผิวดวงอาทิตย์พัดกระจายออกทันทีที่สนามพลังรอบสนามรบถูกถอนออก หลินหู่เจี้ยน จักรพรรดิมังกรและคนอื่นรีบคลุมตัวเองด้วยพลังดวงดาว ทั้งหมดตกใจ
  พวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงความน่ากลัวที่แท้จริงของการต่อสู้จนกระทั่งตอนนี้ เนื่องจากสนามพลังทำงานได้ดี ผลพวงนั้นร้อนพอ มันไม่ยากจะจินตนาการว่าการโจมตีก่อนหน้ารุนแรงแค่ไหน
  ซูจินเอ๋อกับซูผิงกลับมาแล้ว คนอื่นรู้สึกประหม่า ทั้งสองคือผู้แข็งแกร่งสุด
  น่าเสียดาย ซูจินเอ๋อแพ้ แต่หมัดของเธอก็ทำให้เธอเป็นอันดับสอง ไม่มีใครกล้าไปท้าทายเธออีก!
  เหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีผู้แข่งขันคนไหนปรารถนาความตาย!
  พวกเขาติดร้อยอันดับแล้ว มีสิทธิ์สู้ในนามกาแล็กซี่พวกเขา ทำไมถึงต้องเสี่ยง?
  นี่คือพลังของชายที่ปีนร้อยชั้นของอนุสรณ์ทุกสาย..หลิงหู่เจี้ยนกับศิษย์คนอื่นของห้าสถาบันทั้งตกใจและตกตะลึง เขาแข็.แกร่งกว่าพวกเขา แข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะสภาวะชะตากรรมทั่วไปมาก
  พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเราเป็นอัจฉริยะจริงเหรอ?
  พวกเขาแค่ปานกลางเมื่อเทียบกับพวกเขา!   ซูจินเอ๋อหันกลับมาและมองซูผิงด้วยแสงแปลกๆในตา เธอถามผ่านกระแสจิต”เห้ ฉากในสนามพลังนายเป็นจริงเหรอ?นายเห็นมันที่ไหน?”
  ฉากทั้งหมดในสนามพลังต้องเป็นของจริงจึงจะสร้างได้ นั่นเป็นความรู้ทั่วไป แต่ทว่า เธอยังรู้สึกว่าต้องถาม สิ่งที่เธอเห็นนั้นน่ากลัวมาก
  “ชื่อของฉันไม่ใช่’เห้’”ซูผิงตอบ
  ทำไมฉันต้องตอบคำถามเธอ?
  ซูจินเอ๋อพูดอย่างโกรธๆ”นายไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย ไม่ต้องบอกถ้าไม่อยากบอก!”
  ซูผิงกลอกตาโดยไม่พูดอะไร เธอมาหาสุภาพบุรุษอะไรที่นี่?
  ซูผิงรู้สึกขี้เกียจเกินกว่าจะตอบ เขารอรางวัลอย่างอดทน
  หลังผ่านไปไม่กี่วินาที ซูจินเอ๋อก็อดถามอีกไม่ได้”ก็ได้ ซูผิง คุณซู นายเห็นฉากนั้นมาจากไหน?มีสถานที่เช่นนั้นในจักรวาลเราด้วยเหรอ?ฉันไม่คิดว่าฉันเคยได้ยินมาก่อน”
  “..”ซูผิงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เธอยังถามอีก?มันเห็นได้ชัดว่าฉันไม่อยากบอกเธอ
  “ในสถานที่ที่ไกลมาก เธออยากรู้จริงเหรอ?ฉันสามารถพาเธอไปได้ถ้ามีโอกาส”ซูผิงพูดอย่างผ่อนคลาย
  เธอคืออัจฉริยะชั้นนำ ซูผิงไม่อยากสร้างศัตรูโดยไม่มีเหตุผล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว