ซูผิงส่ายหัวเล็กน้อยและมุ่งความสนใจไปที่การบ่มเพาะ
เขาใช้พลังอย่างเต็มที่ในระหว่างการปีนภูเขาวิถีสวรรค์จนวินาทีสุดท้ายและทำลายการโจมตีมากมาย เขาเอาเศษกฎที่อยู่ในร่างกายออกมา
เศษที่ปลดปล่อยออกมาทำให้จิตใจของซูผิงว่างเปล่า สัมผัสของเขาแผ่ออกไปราวกับใยแมงมุมเมื่อเชื่อมต่อกับจักรวาล
ความลึกลับ วิวัฒนาการของธรรมชาติ และกฎของจักรวาลนั้นแวบวาบอย่าวรวดเร็วราวกับหมอกและน้ำ
ซูผิงทุ่มเทให้กับการทำความเข้าใจ
สายฟ้าและไฟลุกโชนรอบตัวเขา นอกจากนี้ยังมีหลุมดำ มิติบิดเบี้ยว และลมแรง!
กฎปรากฏรอบ ๆ ซูผิง ชัดเจนขึ้นเมื่อเขาทำความเข้าใจ
“ไฟ…ไร้ที่ติ!”
“มิติ… ชำนาญ!”
ซูผิงหลับตาลง ไฟอีกาทองคำปรากฏขึ้นบนหลังของเขา และความคิดพิเศษของมันทำให้เขาเข้าใจเปลวไฟอย่างลึกซึ้ง ความเข้าใจของเขาไร้ที่ติแล้ว!
เขาได้รวมกฎที่ร้อนแรงไว้มากมาย เช่น การเผาไหม้ ความร้อน การทำลายล้าง การกัดเซาะ และอื่นๆ
เขาได้รับและเข้าใจแก่นแท้ของกฎแห่งไฟจากกฎต่างๆ มากมาย
ทั้งหมดลงมาสู่การทำลาย เขารับรู้หลังจากได้รับการกระตุ้นจากกฎสายฟ้า เขาสามารถได้รับการกระตุ้นจากการอนุมานจากกฎต่างๆ
แน่นอนว่าจะต้องถึงทางตันหากผู้บ่มเพาะไม่ฉลาดพอและบ่มเพาะกฎหลายข้อ เวลาของพวกเขาจะสูญเปล่าขณะที่พวกเขาพยายามเข้าใจทีละข้อ
ซูผิงเริ่มทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎสายฟ้าหลังจากปรับปรุงกฎแห่งไฟจนสมบูรณ์แล้ว
ก่อนหน้านี้เขาเคยรับผลแห่งกฎและได้รับมาร้อยข้อ แต่เพียงผิวเผินเท่านั้น ความสำเร็จดังกล่าวเปรียบได้กับระดับดวงดาวขั้นต้น คราวนี้เศษกฎทำให้เขาสามารถผลักดันกฎร้อยข้อไปจนถึงขั้นสูงได้!
กฎแห่งเปลวไฟได้รับการขัดเกลาด้วยร่างอีกาทองคำ หากซูผิงต้องการ เขาสามารถก้าวไปสู่เจ้าดวงดาว และกลายเป็นผู้ครอบครองได้
กฎร้อยข้อที่ฉันรู้จักไม่ใช่การโจมตีที่ดีที่สุดของฉัน ฉันสามารถต่อสู้กับอัจฉริยะหลายคนได้เพราะพลังดวงดาวมากมายจากแผนภูมิดวงดาวโกลาหล ฉันมีพลังดวงดาวมากกว่าคนอื่นร้อยเท่า!
พวกเขาทุกคนล้วนเป็นอัจฉริยะ และมีพลังดวงดาวมากกว่านักรบสภาวะชะตากรรมทั่วไป และได้รับการชำระล้างด้วยเทคนิคพิเศษ ถ้าเปรียบเทียบกับนักรบสภาวะชะตากรรมโดยทั่วไป ฉันว่าฉันมีพลังดาวมากกว่าพวกเขาหมื่นเท่า!
พลังดวงดาวภายในร่างกายของซูผิงได้รับการชำระให้บริสุทธิ์โดยการลงทัณฑ์ของสวรรค์หลายร้อยครั้ง แผนภูมิดวงดาวโกลาหลยังอนุญาตให้เขากักเก็บพลังดวงดาวไว้ภายใน ทำให้เขามีความสามารถในการจัดเก็บพลังงานที่น่าสะพรึงกลัว เขาสามารถใช้เทคนิคขั้นสูงสุดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะทำให้ผู้บ่มเพาะสภาวะชะตากรรมหมดแรง
พลังดวงดาวและเทคนิคลับของฉันคือเหตุผลที่แท้จริงว่าที่ทำให้ฉันเอาชนะอัจฉริยะคนอื่นๆ ได้ กฎร้อยข้ออนุญาตให้ฉันโต้ตอบการโจมตีของพวกเขา เพื่อที่ฉันจะได้ครอบงำพวกเขาด้วยพลังดวงดาวและเทคนิคลับ!
ตอนนี้ฉันสามารถเอาชนะพวกเขาทั้งหมดด้วยกฎได้แล้ว เพราะฉันเข้าใจมันลึกซึ้งยิ่งขึ้น!
ซูผิงรู้สึกตื่นเต้นขณะที่เขาย่อยเศษกฎเหล่านี้ต่อไป
เมื่อเขาฝึกเสร็จแล้ว เขารู้สึกว่าเขาสามารถปราบปรามอัจฉริยะที่มีศักยภาพของสภาวะเทพดวงดาวได้ด้วยมือเดียว!
…
ขณะที่ซูผิงบ่มเพาะ—โลกภายนอกกำลังวุ่นวาย
ยานบรรทุกยานอวกาศจำนวนมหาศาลที่ถูกส่งมาจากกาแล็กซีต่างๆ รวมตัวกันอยู่ในอวกาศ นอกสภาเทพอมตะ ตัวแทนสื่อจากดาวเคราะห์ต่างๆยังไม่ชัดเจนว่ามากันครบหรือยัง
เมื่อการแข่งขันในเขตดาวทองคำและบนภูเขาวิถีสวรรค์สิ้นสุดลง ผลที่ได้ก็กระจายไปทั่วกาแลคซี่ทั้งหมดในเขตดาวทองคำอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดกาแล็กซีบ้านเกิดของคู่แข่งก็ให้ความสนใจกับอันดับของพวกเขาเป็นอย่างมาก
”ใช่ๆ ใช่แล้ว”
ไคโรรายงานเรื่องนี้ต่อท่านลอร์ดไฮถัวทางโทรศัพท์
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ในสำนักงานของเขา บนดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดของซิลวี่—ไฮถัวรู้สึกว่าตัวเองหูฝาด
”ที่หนึ่ง?”
“นายแน่ใจหรือว่าเขาชนะที่หนึ่งในเขตดาวทองคำ ไม่ใช่แค่กาแล็กซี่ของเรา?”
”ใช่ ที่หนึ่งของเขตดาวทองคำ ผลลัพธ์จะได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการในไม่ช้า”ไคโรกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาก็ค่อนข้างตื่นเต้นเช่นกัน
ซิลวี่ไม่เคยเป็นอันดับหนึ่งในเขตดาวทองคำมาก่อน
เมื่อพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมา คงจะเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจมากแล้วหากใครก็ตามที่ติดหนึ่งในสิบ
ไฮถัวตกตะลึงในไม่กี่วินาที เขารู้ว่าไคโรจะไม่โกหกเขา เขาเป็นยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว เขาสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อความได้
แสดงว่าเป็นเรื่องจริง
เด็กนั่นคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันเขตดาวทองคำ!
ชนะรอบเขตดวงดาว!
มีเพียงสิบสองเขตดวงดาวในทั่วทั้งสหพันธ์ เนื่องจากซูผิงอยู่ในอันดับแรก ไม่ได้หมายความว่าเขามีโอกาสขึ้นสู่สิบอันดับแรกของรอบชิงชนะเลิศหรอก?
หากเป็นเช่นนั้น ซูผิงจะไปถึงสภาวะเทพดวงดาวด้วยความช่วยเหลือจากอาณาจักรลับทะเลเทพ เมื่อเขาทะลวงผ่านเข้าไปได้ เขาจะกลายเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงในสภาวะเทพดวงดาวทั่วทั้งจักรวาล!
ผู้บ่มเพาะสภาวะเทพดวงดาวก็แตกต่างกันเช่นกัน
ไฮถัวเองก็เป็นยอดฝีมือระดับสภาวะเทพดวงดาวที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง
ยอดฝีมือแบบนั้นจะไร้เทียมทานอย่างแน่นอน เว้นแต่ยอดฝีมือสภาวะเทพอมตะจะลงมือด้วยตัวเอง!
ซูผิงอาจกลายเป็นหนึ่งในนั้นเมื่อเขาไปถึงสภาวะเทพดวงดาว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า…”
ไฮถัวหัวเราะอย่างตื่นเต้นและกล่าวว่า “เมื่อใดก็ตามที่มีโอกาส บอกให้เขามาที่บ้านของฉันหลังการแข่งขัน ฉันมีอะไรจะให้เขา ไม่สิ ฉันจะมอบให้เขาด้วยตนเองหลังการแข่งขัน ฮ่า ฮ่า!”
”ได้สิ”
ไคโรพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
…
ยานรบจำนวนมากจอดเทียบท่าที่ขอบในของสภาเทพอมตะ—สื่อของกาแล็กซี่ต่าง ๆ รวมตัวกันเพื่อชมการแข่งขัน
ในขณะนั้น—ในยานรบ
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์และคนอื่นๆ อยู่บนยาน พวกเขาตกตะลึงกับผลการแข่งขัน และร่างจำแลงของลอร์ดสูงสุดที่ปรากฏในตอนท้าย พวกเขาอยู่ไกลมาก แต่ได้ดูการแข่งขันผ่านอุปกรณ์พิเศษ
พวกเขายังได้เห็นวิธีที่ลอร์ดสูงสุดรับซูผิงเป็นศิษย์ ไอรีนโนเวล
“นะ น้องทำลายสวรรค์กลายเป็นศิษย์ของลอร์ดสูงสุด?” ชายหนุ่มตกใจจนพูดติดอ่าง
คนอื่นๆ ต่างตกตะลึงพอๆ กัน ยากจะเชื่อ
ไม่ต้องพูดถึงเทพอมตะ แม้แต่เจ้าดวงดาวเป็นยอดฝีมือในสายตาของพวกเขา และผู้ที่อยู่ในสภาวะเทพดวงดาวก็เป็นคนใหญ่คนโตที่พวกเขาไม่ค่อยได้พบเห็นตลอดทั้งชีวิตของพวกเขา
ส่วนสภาวะเทพอมตะนั้น… พวกเขาคือตำนานที่แท้จริงของจักรวาล!
มีเพียงไม่กี่คนในทั่วทั้งจักรวาล ทั้งจักรวาลจะสั่นสะเทือนเมื่อพวกเขากระทืบเท้า!
ซูผิงจะโด่งดังในหมู่สภาวะเทพดวงดาวเพียงแค่เป็นศิษย์ของลอร์ดสูงสุด!
นอกจากนี้แม้แต่สภาวะเทพดวงดาวปกติก็ยังต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ
ท้ายที่สุดเส้นทางของซูผิงสู่สภาวะเทพดวงดาวจะราบรื่นมากเมื่อเขามีอาจารย์เป็นยอดฝีมือสภาวะเทพอมตะ เขาจะแข็งแกร่งกว่าสภาวะเทพดวงดาวปกติมาก ดังนั้นไม่มีใครสามารถมองว่าเขาเป็นผู้เยาว์ธรรมดาทั่วไปได้
”โอ้พระเจ้า เขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เขาจะทะยานในจักรวาล!”
แม้แต่ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ก็ยังงงๆ เธอตั้งความหวังกับซูผิงไว้สูง ถึงกระนั้นมันก็เกินความคาดหมายของเธอที่ซูผิงจะมาได้ไกลขนาดนี้ เขาน่ากลัวจริงๆ!
“ช่างเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งจริงๆ” รองผู้นำก็ดูเคร่งขรึมเช่นกัน
…
เวลาดำเนินไป
สองวันผ่านไปในพริบตา
ซูผิงทุ่มเทให้กับการทำความเข้าใจกฎ เขาได้รับความเข้าใจในกฎอย่างลึกซึ้ง เขาต้องการเข้าใจพวกมันทั้งหมดอย่างไร้ที่ติ แต่เขารู้ว่ามันยากมาก
ฉันจะขอให้อาจารย์ของฉันอนุญาตให้ฉันเข้าไปในภูเขาวิถีสวรรค์หลังการแข่งขัน การทำความเข้าใจของข้าจะเร็วขึ้นที่นั่น ซูผิงคิด
เขาตื่นจากการครุ่นคิด จากนั้นเห็นศิษย์พี่โหยวหลงก้าวออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้
“สวัสดีครับ ศิษย์พี่” ซูผิงกล่าวทักทายอย่างสุภาพ
โหยวหลงหัวเราะและกล่าวว่า “ศิษย์น้อง ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก เป็นยังไงบ้าง? ฉันมาที่นี่เพื่อพานายและน้องดิแอซไปยังอาณาจักรลับทะเลเทพ ถึงเวลาไปแล้ว”
”ครับ” ซูผิงพยักหน้า
โหยวหลงเหลือบมองเขาและอุทานออกมาเบา ๆ ว่า “นายดูแข็งแกร่งกว่าเดิม นายก้าวหน้ากว่าวันก่อนหรือเปล่า?”
“นิดหน่อยมั้งครับ” ซูผิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
โหยวหลงตั้งข้อสังเกตด้วยความรู้สึกหลากหลาย “ช่างเป็นอัจฉริยะจริงๆ ดีที่อาจารย์ไม่พบนายเร็วกว่านี้ เขาคงจะไม่สนใจฉันถ้าเขาได้พบนายก่อน”
ซูผิงกล่าวอย่างรวดเร็ว “ศิษย์พี่ก็พูดเกินไป”
โหยวหลงโบกมือและพูดว่า “ไปกันเถอะ”
ซูผิงรู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาหวิว ในเวลาต่อมาพวกเขาก็หายตัวไปเคลื่อนย้ายไปที่ภูเขาอีกแห่งที่ดิแอซนั่งบ่มเพาะอยู่
“ศิษย์น้อง” โหยวหลงเรียกเขา
ดิแอซลืมตาและเห็นซูผิงและโหยวหลง เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและแสดงความเคารพต่อโหยวหลง“ดีใจที่ได้พบคุณศิษย์พี่ ถึงเวลาแล้วเหรอครับ?”
”ใช่แล้ว”
โหยวหลงยิ้มและจ้องมองเขา เขาพบว่าดิแอซแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน แต่การพัฒนาของเขาไม่เท่าซูผิง
ยังมีช่องว่างระหว่างพวกเขา ศิษย์น้องซูเป็นคนมีความสามารถเหนือกว่าร่างเทพกลับชาติมาเกิดอย่างแท้จริง! โหยวหลงคิดและสรุป
เขายิ้มและพูดว่า “ไปกันเถอะ!”
…
ครู่ต่อมา ซูผิง โหยวหลง และดิแอซก็มาถึงพื้นที่ยกสูง
มันเป็นระเบียงของผู้สังเกตการณ์
ที่ระเบียง—เหล่าสภาวะเทพดวงดาวจำนวนมากนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ดูแปลกตา
พวกเขามาพร้อมกับคนใช้ที่มีระดับการบ่มเพาะอ่อนแอกว่า บางคนเป็นนักรบระดับดวงดาว ในขณะที่บางคนอยู่ในสภาวะชะตากรรมดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นศิษย์ที่ถูกพามาเรียนที่นี่
ทุกคนจ้องไปที่ซูผิงเมื่อพวกเขามาถึง จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่ดิแอซ
ในตอนแรก ดิแอซดึงดูดความสนใจของทุกคนด้วยร่างเทพกลับชาติมาเกิดของเขา แต่ในเวลาต่อมาซูผิงก็โผล่ออกมาและแซงหน้าเขา ทำให้ซูผิงมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปอีก
เขาใช้เทคนิคพิเศษอะไรถึงแซงหน้าร่างเทพกลับชาติมาเกิด?
หวืด!
ชายคนหนึ่งรีบบินมา เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไคโร เขามองซูผิงด้วยความยินดี เขาได้ละทิ้งความเคร่งขรึมก่อนหน้านี้ทั้งหมดของเขาไป “เธอเป็นยังไงบ้าง? พักผ่อนสบายดีไหม? นี่คือยาวิญญาณดวงดาวสามเม็ด รับไป ท่านไฮถัวจะเตรียมงานเลี้ยงฉลองให้เธอหลังจบการแข่งขัน”
จากนั้นเขาก็ส่งยาเม็ดที่อยู่ในกล่องให้ซูผิง
ซูผิงประหลาดใจเพราะไคโรไม่เคยเป็นมิตรขนาดนี้มาก่อน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ายอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวจะไม่ประจบสอพลออัจฉริยะอย่างเขา
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ต่างๆ ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป
ซูผิงครุ่นคิดสักครู่แล้วเลือกเก็บยาไว้ ค่อยไปตรวจสอบทีหลัง
“คุณเป็นคนพาศิษย์น้องซูมาใช่หรือเปล่า?”โหยวหลงถามไคโรด้วยรอยยิ้ม
ไคโรป้องมืออย่างรวดเร็วและพูดว่า “คุณต้องเป็นลอร์ดสวรรค์โหยว ผมชื่อไคโรนายพลจากซิลวี่ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยที่ไม่ได้ทักทายคุณก่อน”
”ไม่เป็นไร ซิลวี่ควรได้รับรางวัลสำหรับการดูแลอัศจรรย์อย่างเขาศิษย์น้องของฉัน บอกไฮถัวว่าฉันจะไปดื่มกับเขาในภายหลัง” โหยวหลงพูดและหัวเราะ
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากไคโรดูตัวเล็เหมือนมดเมื่ออยู่ต่อหน้าศิษย์พี่โหยวหลง
อย่างไรก็ตามดิแอซรู้สึกตกใจ
ลอร์ดสวรรค์?
เขารู้ว่ามีเพียงสภาวะเทพดวงดาวที่มีชื่อเสียงมากเท่านั้นที่จะถูกเรียกกันว่า “ลอร์ดสวรรค์”
ศิษย์พี่ที่ยิ้มแย้มเสมอของเขาเป็นลอร์ดสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัว? เป็นเพราะคำสอนของอาจารย์หรือเปล่า?
ดวงตาของเขาเป็นประกาย เขายิ่งตื่นเต้นและมีความหวังมากขึ้นไปอีก
ไคโรรีบบอกโหยวหลงอย่างรวดเร็วว่าเขาจะส่งข้อความหาไฮถั
ทุกคนมองไปที่ไคโรด้วยสายตาอิจฉา จากนั้นพวกเขามองไปที่ซูผิงและดิแอซด้วยความเสียใจ
“จริงด้วย มีคนมาพบเธอก่อนหน้านี้บอกว่าเป็นเพื่อนของเธอ เธอขอให้ฉันมอบของบางอย่างให้เธอ” ชิโรกล่าวอย่างรวดเร็ว
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ “เพื่อน?”
”ใช่ เธอชื่อซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์”ไคโรกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็หยิบกล่องบรรจุออกมา
ดวงตาของซูผิงเป็นประกาย เขาขอให้ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ค้นหาวัตถุดิบเหล่านี้เพื่อที่เขาจะได้พัฒนากายแสงอาทิตย์ของเขา เธอหามันเจอหมดแล้วหรอ?
ซูผิงระงับความต้องการที่จะตรวจสอบวัตถุดิบเหล่านี้เอาไว้ ซูผิงวางพวกมันไว้ในพื้นที่เก็บของของระบบ และวางแผนที่จะตรวจสอบพวกมันเมื่อมีเวลา
“ฝากขอบคุณเพื่อนผมด้วย” ซูผิงกล่าว
ไคโรยิ้มและพูดว่า “ได้ เดี๋ยวฉันบอกให้”
เมื่อพวกเขาคุยกันจบ โหยวหลงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อพวกนายมากันครบแล้ว เตรียมตัวออกเดินทางกันเถอะ อาจารย์ของเราขอให้ฉันพาพวกนายไปยังอาณาจักรลับทะเลเทพ เขากำลังรอนายอยู่ที่นั่น ถ้าคนอื่นสนใจก็มาดูด้วยได้ แล้วพบกันใหม่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว