“ชิ***ย!”
ซูผิงเปลี่ยนสีหน้า กลายเป็นมืดมนและก้าวร้าว
เขาตั้งใจที่จะซ่อนทักษะขั้นสูงสุดของเขาไว้จนกว่าจะถึงรอบชิงชนะเลิศ เขาไม่อยากจะใช้มันเร็วแบบนี้
บูม!
ซูผิงปลดปล่อยพลังดวงดาวในร่างกายของเขา ใต้ปากยักษ์ กระแสพลังที่น่าสะพรึงเริ่มแผ่กระจายออกไปในทันทีเหมือนการระเบิดของดวงอาทิตย์
ในระยะไกล ทั้งซูจินเอ๋อและชายหนุ่มที่มีเฟืองสีทองในดวงตาต่างตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน พวกเขาหันกลับมามองขณะวิ่งเพื่อเอาชีวิตรอด โดยคิดว่าอสูรร้ายระดับลอร์ดตัวที่สามปรากฏตัวขึ้น!
อย่างไรก็ตามดวงตาของพวกเขาเกือบจะถลนขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเป็นซูผิงที่อยู่ใจกลางของพลังงานที่ระเบิดออกมา
มาจากเขาหรอ?
ไม่ เดี๋ยวนะ เขายังคงอยู่ในสภาวะชะตากรรม
แต่พลังขนาดนี้ช่างน่ากลัว!
ทั้งสองตัวสั่นเมื่อคิดถึงเรื่องไร้สาระต่างๆ พวกเขาสงสัยว่าซูผิงอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขาจริงหรือเปล่า
ปัง! ปัง! ปัง!
พลังดวงดาวในเซลล์ของซูผิงแผ่ออกไป ภาพร่างดวงดาวกระจายอย่างรวดเร็ว ก่อตัวเป็นเหล็กรูปสามเหลี่ยมโดยให้หน้าอกเป็นศูนย์กลาง อำนวยความสะดวกในการส่งพลังและเพิ่มพลังทำลายล้าง
”ทำลาย!!”
ซูผิงโบกมือ กล้ามเนื้อของเขาปูดโปนขณะที่เขาตัวใหญ่ขึ้น สูงเกือบสิบเมตร กระดูกที่ปกคลุมร่างกายของเขาขยายตามทำให้เขากลายเป็นยักษ์ที่น่ากลัว
พลังงานที่รุนแรงถูกปลดปล่อยออกมาจากแขนของเขา เกือบจะฉีกความว่างเปล่าออกจากกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ซูผิงพยายามอย่างเต็มที่ที่สุดหลังจากที่กายแสงอาทิตย์ของเขาพัฒนามาเป็นขั้นสาม!
แสงระยิบระยับพร่างพรายออกมาในขณะที่เขาปล่อยหมัดขับไล่วิญญาณ รัศมีอันเจิดจรัสถูกผลักไปที่ความว่างเปล่าและมุ่งตรงเข้าไปในปากยักษ์
และแสงสว่างก็สาดส่องลงไปในปากไร้ก้นบึ้ง ราวกับแสงแรกที่บังเกิดในความมืด จากนั้นมันก็ใหญ่ขึ้นและสว่างขึ้น
โฮก!!
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของฉลามดังลั่น และฉลามดำก็ดิ้นไปมาอย่างบ้าคลั่ง มันดิ้นไปมา ตีหางครอบคลุมพื้นที่กว่าร้อยตารางเมตร
ซูผิงตั้งใจจะฆ่ามันอยู่แล้ว ไม่ว่าในกรณีใด เขาได้เปิดเผยความแข็งแกร่งของเขาไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะทำงานให้สำเร็จ
ฮึ่ม!
กฎนับร้อยถูกรวบรวมอยู่ในความว่างเปล่า กลายเป็นดาบแวววาวที่ตกลงมาในมือของเขา ปลดปล่อยกลิ่นอายแข่งแกร่งที่แข็งแกร่ง
เปลวไฟลุกลามจากจุดที่ซูผิงถือดาบ มันคือเพลิงอีกาทองคำ
สังหาร!
รัศมีดาบถูกรวบรวมตามคำสั่งของซูผิง ดาบแห่งความว่างเปล่าที่เขาเพิ่งสร้างได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในวิถีดาบศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้เขายังได้สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ เมื่อความเข้าใจในกฎของเขาลึกซึ้งขึ้น
นี่เป็นกระบวนท่าที่สองจากวิถีดาบศักดิ์สิทธิ์ ดาบสวรรค์ลงทัณฑ์!
บูม!!
สายฟ้านับล้านกระจายอยู่ในความว่างเปล่า พวกมันเป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดจากกฎที่แท้จริง ส่วนใหญ่เป็นความเข้าใจของซูผิงเกี่ยวกับสวรรค์ลงทัณฑ์!
คลื่นดาบนับพันพุ่งออกมาราวกับสายฟ้า เขย่าความว่างเปล่าและปกคลุมหางฉลามดำขนาดใหญ่
เกิดการระเบิดขึ้นเมื่อรัศมีของดาบเคลื่อนที่และรวบรวมพลัง
ความว่างเปล่าสั่นสะเทือนหลังจากเสียงกรีดร้อง และซูผิงก็ถูกผลักถอยหลังจากแรงระเบิด ผมของเขาปลิวไสว
ไกลออกไป ซูจินเอ๋อและชายหนุ่มที่มีเฟืองสีทองในดวงตาหยุดวิ่ง และหันกลับไปมองด้วยความตกใจ
พลังงานจำนวนมหาศาลและวิชาดาบอันทรงพลังนั่น… มาจากนักรบสภาวะชะตากรรม!
ผู้ชายคนนั้น…
ซูจินเอ๋อตื่นจากอาการมึนงง เธอมองไปยังด้านหลังของซูผิง สัมผัสได้ถึงความเก่งกาจที่ไม่มีใครเทียบได้ในจักรวาล
โฮก!
เสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อฉลามดำเดือดดาลมากขึ้น มันพุ่งออกมาจากแรงระเบิดและปากประหลาดปรากฏขึ้นบนครีบแหลมคมของมัน และกลืนกินแรงระเบิด
จากนั้นมันก็เลื้อยและพุ่งไปที่หลังของซูผิง สายฟ้าสีดำถูกสร้างขึ้นจากครีบของมัน และทำให้ความว่างเปล่าสว่างไสว
ดวงตาของซูผิงเต็มไปด้วยความก้าวร้าว พลังจากภาพร่างดวงดาวบนหน้าอกและแขนของเขาไหลไปที่ฝ่ามือและสร้างรูปสามเหลี่ยมด้วยนิ้วและดาบ เขายกดาบขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้พลังงานภายในร่างกายของเขาถูกรวบรวมไว้บนดาบราวกับน้ำเดือด ซึ่งรวมกฎทั้งหมดเข้าด้วยกัน
“วิถีแห่งแสง!”
ซูผิงฟันดาบอีกครั้ง มันคือกระบวนท่าที่สามของวิถีดาบศักดิ์สิทธิ์
รัศมีดาบทำลายทุกอย่างราวกับระเบิดแสง มันคือดาบแห่งการทำลายล้างบริสุทธิ์!
รัศมีดาบนั้นงดงามเมื่อดาบยกขึ้น จากนั้นก็มีขนาดเล็กลงและไม่มีนัยสำคัญหลังจากที่มันระเบิดออกจากดาบ และบินเข้าไปในปากของฉลามดำ
ฉลามดำพุ่งออกไป ตั้งใจจะหนีจากความน่ากลัว
อย่างไรก็ตามแสงระยิบระยับพุ่งออกมาจากหัวของมันในเวลาต่อมา และจากนั้นก็แตกออก รังสีพุ่งออกมาจากคางและแก้มของมัน จนหัวยักษ์ของมันระเบิดออกเป็นเศษเนื้อและเลือด
ซูผิงสูดหายใจเข้าลึกและสะบัดดาบของเขาอีกครั้ง ปลดปล่อยสวรรค์ลงทัณฑ์ที่ฉีกฉลามดำออกจากกันและสับอวัยวะภายในของมัน
ฉลามดำหยุดร้องเมื่อผลของสวรรค์ลงทัณฑ์จางลง ร่างใหญ่ของมันค่อยลอยช้าๆ ล่องลอยไปราวกับวาฬ
ร่างกายที่เหมือนเหล็กของมันไม่เหลือชิ้นดี กระดูกสันหลังและกระดูกส่วนที่เหลือโผล่ออกมา
“มันตายแล้วเหรอ?”
ห่างออกไปไม่ไกล ทั้งซูจินเอ๋อและชายหนุ่มที่มีเฟืองสีทองในดวงตาต่างตกตะลึง
ซูผิงฆ่าฉลามดำระดับลอร์ด?
เขาฆ่ามันง่าย ๆ ด้วยตัวเองอย่างนั้นหรอ?
มันไม่อาจควบคุมพลังแห่งศรัทธา แต่อสูรร้ายนั้นแข็งแกร่งเทียบเท่าเจ้าดวงดาวไม่ว่าในกรณีใด!
ทั้งคู่ต่างตกตะลึงเมื่อมองชายสูงสิบเมตรและเต็มไปด้วยกระดูก เขาเป็นเหมือนเทพแห่งสงคราม!
ปิ้ว!
ซูผิงหายใจแรง เขาสำรวจสภาพแวดล้อมอย่างรวดเร็วหลังจากที่ฉลามดำถูกฆ่า ไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่น ดังนั้นเขาจึงปิดรูขุมขนและทำให้เซลล์ของเขาเสถียร ร่างกายของเขากลับสู่ขนาดเดิม เขารู้สึกเหนื่อย
เขาเกือบจะทุ่มสุดตัวแล้วในการต่อสู้ครั้งนี้
กายแสงอาทิตย์ขั้นสามเพิ่มพลังงานภายในร่างกายของฉันและทำให้ฉันมีพลังมากขึ้น ซูผิงคิด
เขาหยุดสำรวจตัวเองและมองไปที่ฉลามดำที่ลอยอยู่ เขารีบวิ่งไปหามันและตัดหัวใจมาเก็บมันไว้
ภารกิจล่าอสูรของเขาสำเร็จแล้ว
ที่เขาต้องทำตอนนี้คือรอจนกว่าจะสิ้นสุดการทดสอบ
หวืด! หวืด!
ตอนนั้นเองที่ซูจินเอ๋อและชายหนุ่มที่มีเฟืองสีทองในดวงตารีบวิ่งกลับมาสมทบกับเขา
ทั้งคู่รู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นซูผิงเก็บหัวใจของฉลามดำ รู้ว่าซูผิงเสร็จสิ้นภารกิจและมีคุณสมบัติผ่านเข้ารอบต่อไปแล้ว คงจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเขาที่จะลืมการต่อสู้อันแสนสั้นแต่ยิ่งใหญ่ก่อนหน้านี้
แม้ว่าเขาจะอยู่แค่สภาวะชะตากรรม แต่เขาก็ฆ่าฉลามดำระดับลอร์ดด้วยการโจมตีเพียงไม่กี่ครั้ง นี่คือความแข็งแกร่งที่ซ่อนเร้นของซูผิง!
เขาเป็นสัตว์ประหลาดของจริง! ศักยภาพของสภาวะเทพดวงดาว? เขาจะกลายเป็นลอร์ดสวรรค์ในอนาคตอย่างแน่นอน! ชายหนุ่มที่มีเฟืองสีทองในดวงตาคิด
ซูจินเอ๋อก็ประหลาดใจเช่นกัน และค่อนข้างละอายใจ จากการกลับชาติมาเกิด เธอได้รับคำแนะนำจากตัวตนเดิมของเธอ แต่เธอไม่สามารถเทียบอะไรกับเขาได้ เธออายเกินกว่าจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอในตอนนี้
ตัวตนดั้งเดิมของเธอก็มีความสามารถมากเช่นกัน เนื่องจากมันเคยขึ้นสู่สภาวะเทพดวงดาว ”นายสบายดีไหม?”
เมื่อเห็นว่าซูผิงหายใจแรง ซูจินเอ๋อจึงตระหนักว่าเขาอาจใช้เทคนิคต้องห้ามซึ่งจะมีผลอย่างอื่นตามมา
น่าเสียดายที่เธอไม่มีเทคนิคแบบนั้น เธอมีทักษะที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเธอได้ แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าของซูผิง
ฉลามดำแข็งแกร่งกว่าพวกเขาสิบเท่า!
”ฉันสบายดี” ซูผิงสูดหายใจเข้าลึก รู้สึกโชคดีที่เขาไม่เห็นอะไรเลยในช่วงแรกของการต่อสู้ ความว้าวุ่นใจใด ๆ อาจทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าเขาจะสามารถอยู่รอดได้ด้วยความช่วยเหลือจากโครงกระดูกน้อยก็ตาม
ในทางกลับกัน ชายหนุ่มที่มีเฟืองสีทองในดวงตามองไปยังร่างของลมม่วง “อีกตัวอยู่ตรงนั้น”
คอของอสูรร้ายถูกกัด แต่หัวใจของมันยังคงไม่บุบสลาย มันเป็นการผ่านเข้ารอบฟรี เขาไม่ได้ทำอะไร ท้ายที่สุดแล้วหัวใจนั่นเป็นของซูผิงเพราะเขาฆ่าฉลามดำ
”ส่งมาให้ฉัน บอกฉันว่านายต้องการอะไรเป็นการแลกเปลี่ยน ฉันน่าจะให้สิ่งที่นายต้องการได้” ซูจินเอ๋อกล่าวทันที จ้องไปที่ซูผิงและกัดปากตัวเอง
ซูผิงชำเลืองมองทั้งคู่ ไม่สนใจที่จะพูดเรื่องที่พวกเขาวิ่งหนีอย่างเร็วกอนหน้านี้
มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึง มันคงจะทำให้พวกเขาเถียงกันว่าพวกเขาก็ไม่คิดว่าเขาจะช้าขนาดนั้น
นอกจากนี้เมื่อออกล่า พวกเขาต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น เขาแค่ต้องตำหนิตัวเองที่ช้า
“พี่ซู ฉันด้วย อาจารย์ของฉันเป็นเจ้าแห่งกาแล็คซี่ฮารุส เขามีเพื่อนสภาวะเทพดวงดาวมากมายและมีเหมืองผลึกต้นไม้โลหิตจำนวนมากในกาแล็คซีของเรา ฉันยังรู้จักอาณาจักรลับระดับ A สามแห่ง อาจารย์ของฉันสามารถให้พวกมันได้ถ้านายต้องการ!” ชายหนุ่มกล่าว เขาจะไม่มีโอกาสแข่งขันถ้าเขาไม่เสนอเงื่อนไข
ซูผิงเหลือบมองพวกเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาบินไปถึงลมม่วงและตัดหัวใจออกมา
หลังจากนั้นเขากลับมาและพูดว่า “ที่นี่ไม่ปลอดภัย กลับกันก่อนเถอะ”
ทั้งสองมองหน้ากันและเห็นความเป็นปรปักษ์สะท้อนอยู่ในดวงตาของแต่ละคน พวกเขาทำได้เพียงยอมรับข้อตกลงเท่านั้น
จากนั้นทั้งสามก็เดินทางกลับ
พวกเขาไม่หลงทางเพราะมีแผนที่ ไม่นานพวกเขาก็กลับถึงเกาะ
แรงกดดันของความว่างเปล่าหายไปเมื่อเข้าไปข้างใน ใต้เกราะป้องกันของฐาน เสียงกระซิบและภาพที่วูบวาบก็หายไปเช่นกัน ซูผิงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ไอรีนโนเวล
“ยังเหลือเวลาอยู่ ฉันเหนื่อยจากการต่อสู้ ดังนั้นฉันขอพักผ่อนก่อน” ซูผิงมุ่งหน้าไปยังที่พักของเขาและกล่าวเสริมว่า “ฉันหวังว่าพวกนายจะเก็บสิ่งที่เห็นเป็นความลับ อย่างน้อยก็จนกว่าจะสิ้นสุดการแข่งขัน”
ชายหนุ่มที่มีเฟืองสีทองในดวงตากล่าวทันทีว่า “แน่นอน ไม่ต้องห่วงพี่ซู แค่มาหาฉันถ้านายได้ยินข่าวลือ ใช่แล้ว ฉันมี ผลไม้ฟ้าดวงดาว และ แกนผลึกโลหิตที่สามารถฟื้นฟูพลังดวงดาวและรักษาบาดแผลส่วนใหญ่ได้ พวกมันยังสามารถเร่งพัฒนาสุขภาพของนายได้”
เขาโชว์ออกมาจำนวนมากขณะที่พูด มีผลไม้ฟ้าดวงดาวที่สามารถฟื้นฟูพลังดวงดาวได้ประมาณสิบผล
แก่นผลึกโลหิตก็มีระดับสูงสุดเช่นกัน มีพลังมากพอที่จะฆ่าคนธรรมดาได้ อย่างไรก็ตามผู้บ่มเพาะสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับพวกเขาได้ ในกรณีที่สูญเสียแขนขา ผู้บ่มเพาะสามารถแช่ผลึกนี้ในน้ำหนึ่งชั่วโมงแล้วดื่ม แขนขาจะค่อยๆกลับคืนมา มันเป็นลักษณะพิเศษที่เย้ายวนใจของกาแล็กซี่ฮารุส
ช่างประจบประแจงอะไรแบบนี้!
ซูจินเอ๋อรู้สึกขุ่นเคืองเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังชวนเชิญซูผิงอย่างไร เธอไม่เก่งในการประจบผู้อื่น ครั้งสุดท้ายที่เธอทำอย่างนั้นก็ผ่านมาหลายปีแล้ว
“ฉันก็มีของดีๆ เหมือนกัน”
แม้ว่าเธอจะเรียนรู้ได้ช้า แต่สุดท้ายเธอก็หยิบสมบัติมากมายออกมาเช่นกัน
พวกมันมีประสิทธิภาพเท่ากับที่ชายหนุ่มเสนอ
ซูผิงรู้สึกขบขันกับโชว์ตลกของพวกเขา เขารับสิ่งของของพวกเขามาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นการไม่สุภาพที่จะปฏิเสธความจริงใจของพวกนาย ส่วนเรื่องหัวใจของลมม่วง… มีบางสิ่งที่ฉันต้องการ”
เขาโบกมือและแสดงวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับกายแสงอาทิตย์ขั้นสี่
เขาได้ขอให้ฮวนเลี่ยเซิ่นค้นหาพวกมันแต่ฮวนเลี่ยเซิ่นล้มเหลวในการรวบรวมทั้งหมด เขาสามารถขอส่วนที่เหลือจากอาจารย์ของเขาได้ถ้าทั้งสองคนสามารถเสนอบางอย่างได้
เทพอมตะน่าจะมีสมบัติเพียงพอที่จะครอบคลุมส่วนที่เหลือ
“วัตถุดิบเหล่านี้…”
พวกเขามึนงงอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วทั้งคู่ก็จดวัตถุดิบนั้นไว้ ซูจินเอ๋อพูดอย่างครุ่นคิด “บางอย่างอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้ว”
“เธอรู้จักพวกมันหรอ?” ดวงตาของซูผิงเป็นประกาย
ซูจินเอ๋อพยักหน้าโดยไม่ได้อธิบายอะไร ตัวตนดั้งเดิมของเธอเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งของนี้เมื่อหลายปีก่อน
ชายหนุ่มที่มีเฟืองสีทองในดวงตาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับวัตถุดิบเหล่านี้ เขารู้สึกว่าถูกคุกคามหลังจากได้ยินสิ่งที่ซูจินเอ๋อพูด ดังนั้นเขาจึงเสริมอย่างรวดเร็วว่า “ฉันจะถามอาจารย์ของฉันว่าเขามีอะไรบ้าง”
“ดีมาก” ซูผิงพูดด้วยรอยยิ้ม
ซูผิงนำของที่พวกเขาให้ออกมาและเริ่มบ่มเพาะหลังจากที่ทั้งคู่จากไป
ผลไม้ฟ้าดวงดาวสามารถฟื้นฟูพลังดวงดาวได้ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับผลไม้ดวงดาวที่ซูผิงกินไปก่อนหน้านี้
พลังดวงดาวของเขายังไม่เต็มหลังจากกลืนผลไม้เหล่านั้นไปสามผลแล้ว
เขานึกถึงโลกใบเล็กๆ ที่สร้างขึ้นได้แค่ครึ่งเดียว ดังนั้นเขาจึงกินผลไม้ที่เหลือและบ่มเพาะต่อไป
เขาต้องยอมรับว่าอัจฉริยะเหล่านี้ร่ำรวย สมบัติทั้งหมดที่พวกเขาเสนอนั้นประเมินค่าไม่ได้ในตลาด
ซูผิงใช้แกนผลึกโลหิตบางส่วนในขณะที่ควบแน่นโลกใบเล็ก ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นพวกมันจึงแค่เสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเขาเท่านั้น
ซูผิงรู้สึกว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นมากหลังจากใช้ของเหล่านี้ เขาไม่เคยกินของแบบนี้มาก่อน และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงแสดงประสิทธิภาพเต็มที่ ชายหนุ่มที่มีเฟืองสีทองในดวงตาอาจกินผลไม้เหล่านี้ไปเป็นจำนวนมากเพื่อเสริมกำลังตัวเอง
ก่อนหน้านี้ร่างกายของฉันอยู่ในระดับเดียวกับนักรบระดับดวงดาว ตอนนี้มันใกล้ถึงขีดจำกัดของระดับนี้แล้ว เจ้าดวงดาวทั่วไปไม่สามารถทำร้ายฉันได้ เว้นแต่พวกเขาจะใช้พลังแห่งศรัทธา ซูผิงครุ่นคิด..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว