ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 989

มันเป็นดาวตกจากนอกโลกหรือเปล่า?
  ซูผิงจ้องไปที่แผ่นจารึกสีดำ ยิ่งเขาจ้องนานเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสังเกตเห็นแสงที่บิดเบี้ยวอยู่ตรงหน้าเขามากขึ้น ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้ผุดขึ้นในหัวใจของเขา แผ่นจารึกดูเหมือนจะลุกเป็นไฟ ราวกับเปล่งแสงประหลาดออกมาจากเปลวไฟ
  นี่เป็นวิธีการสร้างเปลวไฟหรอ?
  ซูผิงจ้องไปที่เปลวไฟที่ปกคลุมแผ่นจารึกสีดำ และรู้สึกทึ่งมาก
  ต่อหน้าต่อตาเขา เปลวไฟเกิดขึ้นจากโครงสร้างที่อ่อนแอและเรียบง่ายที่สุด พวกมันเปลี่ยนจากตอนแรกที่เป็นระเบียบกลายเป็นโกลาหล แล้วความโกลาหลก็กลับไปเป็นระเบียบ
  วิถีแห่งไฟ…
  ซูผิงเชี่ยวชาญวิถีแห่งไฟอยู่แล้ว ดังนั้นวิถีที่เขารู้จักดีที่สุดจึงปรากฏขึ้นและนำเขาสู่ขั้นใหม่
  …
  ในขณะที่ซูผิงทุ่มเทให้กับการแยกแยะความจริงจากแผ่นจารึกสีดำ
  —ในสำนักสวรรค์ยุทธ์
  ทั้งโจแอนนาและถังยู่หรานได้จัดการงานเอกสารของพวกเธอแล้ว อ้างสิทธิ์ในตราศิษย์และเลือกที่พักของพวกเธอ พวกเธอเลือกภูเขาเดียวกันซึ่งอยู่ร่วมกับเทพสามองค์
  ไม่นานหลังจากนั้น ที่ปรึกษาคนหนึ่งก็มาที่นั่นและสอนกฎและวิธีการบ่มเพาะสำหรับเทพนักรบให้พวกเธอ โจแอนนารู้สึกทึ่งกับเคล็ดขยายโลก เนื่องจากเธอไม่เคยคิดถึงวิธีการบ่มเพาะเช่นนี้มาก่อน โลกใบเล็กสามารถเพิ่มจำนวนได้ด้วยหรอ?
  โจแอนนาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เทพสวรรค์และเทพนักรบทุกคนมีขีดจำกัด แล้วอะไรคือข้อจำกัดของเทพผู้ปกครอง?”   เธอกำลังถามคำถามนี้เพื่อช่วยตัวตนเดิมของเธอ ซึ่งดูเหมือนจะใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว แต่เธอก็ยังไม่พบโอกาสที่จะก้าวขึ้นสู่ระดับเทพสูงสุด นั่นคือเหตุผลที่เธอกลับใสเกิดใหม่ เพื่อค้นหาโอกาสที่จะก้าวหน้า!
  “เทพผู้ปกครอง?”
  ที่ปรึกษาของพวกเธอคือเทพสาว เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่โจแอนนาพูด เธอส่ายหัวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย“นั่นเป็นคำโบราณ ระดับนั้นไม่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้ ในสมัยโบราณ เทพผู้ปกครองใหญ่รองจากเทพสูงสุดเท่านั้น ข้าเป็นเพียงเทพหลักเท่านั้น ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถตอบคำถามของเจ้าได้”
  โจแอนนาไม่น่าถามคำถามนี้ เธอฉลาดพอที่จะเรียนรู้จากการสนทนาของคนอื่นว่าเทพหลักนั้นแข็งแกร่งพอ ๆ กับเทพผู้ปกครองที่เธอรู้จักจากหลุมศพกึ่งเทพ และเทพสูงสุดที่เธอรู้เป็นเพียงเทพผู้ปกครองในแดนเทพอาเคี่ยน
  ไม่น่าแปลกใจที่เทพสูงสุดทั้งสี่ล้มเหลวในการส่งเรากลับมาที่แดนเทพอาเคี่ยน พวกเขาจะสามารถทำได้ถ้าพวกเขาเป็นเทพสูงสุดจริงๆ โจแอนนาคิด
  โจแอนนาเปลี่ยนคำถามของเธอ “แล้วขอบเขตของเทพหลักล่ะ?”
  ที่ปรึกษาสังเกตเห็นว่าโจแอนนาคือผู้กลับชาติมาเกิด และรู้ว่าเธอกำลังถามแทนตัวตนเดิมของเธอ เธอยิ้มและพูดว่า “ข้ายินดีที่จะตอบคำถามของเจ้าถ้าเจ้ามาที่สถาบันนี้ด้วยตนเอง มันก็ยุติธรรมดีไม่ใช่หรอ?”
  โจแอนนาลังเล ตัวตนดั้งเดิมของเธอแทบจะไม่สามารถออกจากหลุมศพกึ่งเทพได้ ไม่ต้องพูดถึงการมาที่สถาบันวิถีสวรรค์
  คนอื่นๆ มองโจแอนนาหลังจากได้ยินคำตอบของที่ปรึกษา เธอทิ้งความประทับใจไว้กับพวกเขาตั้งแต่เธอผ่านการทดสอบด้วยคะแนนเต็ม พวกเขาไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้กลับชาติมาเกิด
  “ขอทราบได้ไหมว่ามีวิธีใดบ้างที่ข้าจะได้พบกับเทพโบราณของสถาบันของเรา” โจแอนนาถามอีกครั้งหลังจากเงียบไปนาน
  คำพูดของเธอดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมากอีกครั้ง แม้แต่ถังยู่หรานก็ยังแปลกใจกับเรื่องนี้ แต่แล้วเธอก็เข้าใจจุดประสงค์ของโจแอนนา
  “เจ้าต้องการพบเทพโบราณหรอ?”
  ที่ปรึกษาก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอมองไปที่โจแอนนา พูดไม่ออก ดึงสติและกล่าวว่า “เทพโบราณมีเกียรติเกินกว่าจะเข้าพบได้ ไม่ใช่แค่เจ้ากับข้า แม้แต่อาจารย์ของเราก็ยังแทบจะไม่สามารถพบพวกเขาได้ ศิษย์ใหม่ทุกคนอยากเป็นศิษย์ของพวกเขา แต่พวกเขาไม่เคยรับศิษย์ง่ายๆ ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ในอันดับโกลาหล เจ้าก็ยังแทบจะไม่มีโอกาสได้เจอพวกเขา!”
  เธอตอบด้วยน้ำเสียงไม่น่าฟัง เพราะเธอคิดว่าโจแอนนามีความมั่นใจมากเกินไป
  คำขอดังกล่าวดูเหมือนเป็นการหว่านแหถาม เพราะเธอคิดว่าเธอสามารถพบกับเทพโบราณได้เพราะตัวตนดั้งเดิมของเธอคือเทพหลัก
  “ข้าไม่ได้พยายามที่จะเป็นศิษย์ของพวกเขา ข้ามีเรื่องจะขอร้อง” โจแอนนากล่าว เธอรู้ว่าที่ปรึกษาเข้าใจเธอผิด แต่ก็เธอก็ไม่ได้ต้องการอธิบาย
  “ขอร้องเรื่องอะไร?” ที่ปรึกษาขมวดคิ้ว
  ”เรื่องนั้น…”
  โจแอนนามองไปรอบๆ เธอไม่คิดว่าคนเหล่านี้จะเข้าใจเธอ ท้ายที่สุดผู้คนที่เธอพบก่อนหน้านี้ได้ลืมความรุ่งโรจน์ของสถาบันวิถีสวรรค์ในอดีตไปหมดแล้ว ใครจะรู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในแดนเทพอาเคี่ยนตั้งแต่นั้นมา
  เพราะไหลด้วยความเร็วต่างกันในโลกที่ต่างกัน
  “มันเป็นเรื่องของความอยู่รอด” โจแอนนาพูดหลังจากคิดอยู่นานว่าจะเลือกใช้คำไหนดี “ชิ้นส่วนจากอาณาจักรแห่งเทพถูกแยกออกด้วยเหตุผลบางประการ ยังมีเทพอีกมากที่อาศัยอยู่บนชิ้นส่วนนั้น ข้าหวังว่าจะได้นำพวกเขากลับมา”
  ที่ปรึกษาตกตะลึงชั่วครู่ ไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องเช่นนี้ เธอเหลือบมองโจแอนนาและพูดอย่างครุ่นคิด“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ การต่อสู้ที่ชายแดนบางครั้งอาจรุนแรงเกินไป และชิ้นส่วนของอาณาจักรอาจแตกออก แต่ชิ้นส่วนที่ลอยได้นั้นไม่ใหญ่เกินไป อาจารย์ของเราสามารถค้นหาชิ้นส่วนที่หายไปนอกอาณาจักรได้อย่างง่ายดาย”
  เธอมองไปที่โจแอนนาและเสริมว่า “ข้าจะพาเจ้าไปหาอาจารย์ของเรา เจ้าสามารถบอกรายละเอียดกับเขาได้”
  โจแอนนาโล่งใจและรีบขอบคุณเธอ ถึงจะมีความเข้าใจผิดกันก่อนหน้านี้ แต่ที่ปรึกษาของพวกเธอไม่ใช่คนเลว จากนั้น ที่ปรึกษาของพวกเธอก็พูดให้กำลังใจให้ศิษย์คนอื่นๆ ก่อนที่เธอจะพาโจแอนนาไป
  พวกเธอมาถึงวังและยืนอยู่ข้างบันได คำนับอาจารย์ด้วยความเคารพและพูดว่า“สวัสดีค่ะอาจารย์”
  “เจ้าเองหรอ เล่อเยว่เกิดอะไรขึ้น?” อาจารย์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและดูมีอายุ
  “ท่านอาจารย์ ศิษย์ใหม่กำลังประสบปัญหาและต้องการขอความช่วยเหลือ” ที่ปรึกษากล่าวด้วยความเคารพ จากนั้นเธอก็พูดถึงโจแอนนา
  ถึงโจแอนนารีบแสดงความเคารพอย่างรวดเร็ว มือที่นิ่งของเธอไม่ว่าจะต่อสู้ในยามใด กำลังสั่นในตอนนี้ เธอกล่าวว่า “เป็นเกียรติที่ได้พบค่ะ ท่านผู้อาวุโส มีบางอย่างที่ข้าสงสัยว่าท่านจะช่วยข้าได้ไหม บ้านเกิดของข้าถูกแยกออกจากดินแดนนี้และได้ล่องลอยไปในมิติที่ไม่รู้จักเนื่องจากการต่อสู้เมื่อนานมาแล้ว ข้าหวังว่าท่านจะนำทวีปนั้นกลับคืนสู่อาณาจักรแห่งเทพ เพื่อนร่วมดาวของข้าทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะได้กลับบ้าน…”
  เธอรู้สึกตื่นเต้นเมื่อพูดคำว่า “กลับบ้าน”
  วังเงียบไปครึ่งนาที จากนั้นชายชราก็พูดอย่างสับสนว่า “เจ้าหนู เจ้าเป็นผู้กลับชาติมาเกิด ในสถานการณ์ปกติ มีเพียงเทพหลักที่ติดคอขวดเท่านั้นถึงจะเลือกเกิดใหม่ ตัวตนดั้งเดิมของเจ้าคือเทพหลักใช่ไหม? นานที่เจ้ากำลังพูดถึงคือนานแค่ไหน? เท่าที่ข้าจำได้ การต่อสู้เกิดขึ้นเสมอในอาณาจักรแห่งเทพ แต่ไม่ใช่ในระดับที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งทวีปหรอกนะ?”
  โจแอนนาตกใจมาก ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้ เธอกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ผู้อาวุโส ศิษย์และอาจารย์ของสถาบันวิถีสวรรค์ได้ต่อสู้กับสวรรค์อย่างสิ้นหวัง อาณาจักรแห่งเทพทั้งหมดมีส่วนร่วมในสงคราม ทวีปที่ข้าอาศัยอยู่เป็นเพียงทวีปที่ได้รับผลกระทบ ทวีปอื่น ๆ ก็แตกออกจากกัน…”
  ”รอเดี๋ยว”
  ชายชราในวังหยุดเธอและถามด้วยความสงสัย “เจ้าบอกว่าสถาบันวิถีสวรรค์ต่อสู้กับสวรรค์ร่วมกับศิษย์ของเราทั้งหมดอย่างงั้นหรอ?”   ”ใช่ค่ะ!”
  โจแอนนาตกตะลึง
  ที่ปรึกษาของเธอก็ประหลาดใจเช่นกัน
  หลังจากเงียบไปนาน ชายชราในวังก็พูดว่า “ข้าทำแบบนั้นไม่ได้ เจ้าหนูออกไปได้แล้ว”
  โจแอนนาตกตะลึง เธอรู้สึกว่าเลือดของเธอเย็นลง เธออดไม่ได้ที่จะถามว่า “ผู้อาวุโส โปรดช่วยข้าด้วย! ถ้าท่านทำไม่ได้ แล้วเทพโบราณล่ะ?”
  “ไร้สาระ!”
  ชายชราดุเธอจากในวัง “เจ้าต้องไม่พูดถึงเทพโบราณง่ายๆ อย่างที่ข้าพูดไป สิ่งที่เจ้าขอจากข้านั้นเป็นไปไม่ได้ กลับไปซะ คราวหน้าอย่าเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังอีกเลย ถ้าเจ้ามาที่สถาบันนี้เพราะเรื่องนั้น ข้าแนะนำให้เจ้าออกไปซะตั้งแต่เดี๋ยวนี้”
  โจแอนนาค่อนข้างสับสน เธอรู้สึกว่าใครก็ตามที่อยู่ภายในวังได้เปลี่ยนท่าทีของเขาอย่างมาก ราวกับคนละคน..

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว