ตอนที่ 120 การแข่งขันแลกเปลี่ยนทั่วประเทศ (1)
ฟางผิงไม่ได้รั้งตัวคุยกับฟู่ชางติ่งอยู่นาน สักพักจึงออกมาจากห้องหมายเลขสิบห้า
ปรากฏว่าเพิ่งออกมา ก็เจอกับพวกผู้หญิงตรงทางเดิน
ฟางผิงไม่คุ้นชินอยู่บ้างที่หอพักมีผู้หญิงอยู่ด้วย
ดีที่ทุกคนต่างอยู่ห้องละหนึ่งคน พวกห้องน้ำมีอยู่ภายในห้อง ไม่งั้นออกจากประตูคงจะลำบากใจอยู่ไม่น้อย
แต่เมื่อเป็นแบบนี้ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้จึงมีประสบการณ์น้อยลงเช่นกัน
ไม่มีเพื่อนร่วมห้อง ไม่มีภาพชายหนุ่มสวมกางเกงใน หรือเปลือยร่างท่อนบนวิ่งในหอพัก
ผู้หญิงในหอพักโซนหนึ่งมีไม่เยอะ ชั้นสองยิ่งน้อยไปอีก พวกผู้หญิงที่เดินมาฟางผิงคุ้นหน้าเหมือนกัน
จ้าวเสวี่ยเหมย หยางเสี่ยวม่าน เฉินอวิ๋นซี
สามคนนี้เป็นผู้หญิงสามคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่เด็กใหม่ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
เห็นฟางผิง จ้าวเสวี่ยเหมยทักทายด้วยรอยยิ้มทันที หยางเสี่ยวม่านทำท่าไม่สนใจ เฉินอวิ๋นซีกลับหลีกทางให้ฟางผิงอย่างระมัดระวัง
เห็นใบหน้าหวาดกลัวของเธอ เห็นได้ชัดว่าคงรู้เรื่องของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ก่อนหน้านี้แล้ว
ฟางผิงพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร เดินตรงดิ่งเข้าไปในห้องตัวเอง
เขาเพิ่งจะเข้าห้อง ทางเดินก็มีคนเพิ่มขึ้นมาอีกคน จ้าวเหล่ยชำเลืองมองแผ่นหลังของฟางผิง
เขาขมวดคิ้วว่า “ฟางผิงหยิ่งจริงๆ เห็นผู้หญิงถือกระเป๋ามา กลับไม่คิดจะช่วยถือสักหน่อย”
พวกผู้หญิงเพิ่งจะกลับมาจากบ้านเหมือนกัน ในมือยังถือกระเป๋าเดินทางและสัมภาระ
ขณะที่จ้าวเหล่ยพูด ยังเป็นฝ่ายเดินเข้ามารับกระเป๋าจากเฉินอวิ๋นซีและหยางเสี่ยวม่าน เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ครั้งหน้ามีเรื่องอะไร บอกฉันได้”
ก่อนจะเอ่ยกับหยางเสี่ยวม่านว่า “พวกเรามีอาจารย์คนเดียวกันอย่าทำตัวห่างเหินเกินไปเลย”
หยางเสี่ยวม่านเบะปากไม่พูดอะไร จ้าวเสวี่ยเหมยกลับเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่เห็นช่วยฉันถือบ้างล่ะ?”
จ้าวเหล่ยทำหน้าเจื่อนอยู่บ้าง ขำแห้งว่า “เต็มแล้ว…”
เขาถือกระเป๋ามือละหนึ่งใบ มือทั้งสองข้างจึงเต็มแล้ว ไม่อาจรับกระเป๋ามาได้อีก
ระหว่างที่พูด ยังไม่ลืมย้ำว่า “ฟางผิงและเธอมีอาจารย์คนเดียวกัน เจ้าหมอนี่ไม่มีน้ำใจเลยจริงๆ”
ในหมู่คนพวกนี้ อาจารย์ของเขาและหยางเสี่ยวเหมยคือถังเฟิง อาจารย์ของจ้าวเสวี่ยเหมยและฟางผิงคือหลู่เฟิ่งโหรว ส่วนเฉินอวิ๋นซีคือไป๋รั่วซี
จ้าวเสวี่ยเหมยกลอกตา ไม่สนใจเขาอีก
ทุกคนต่างเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ต่อให้กระเป๋าหนักยังไงคงไม่เหนือบ่ากว่าแรงหรอก
จ้าวเสวี่ยเหมยชินแล้วเหมือนกัน ออกไปข้างนอกกับพวกหยางเสี่ยวม่านทีไร พวกผู้ชายมักจะเอาใจหยางเสี่ยวม่านและเฉินอวิ๋นซีอยู่แล้ว เธอเป็นได้แค่ตัวประกอบเท่านั้น
แต่เรื่องที่จ้าวเหลายเอ่ยถึงฟางผิงนั้น จ้าวเสวี่ยเหมยรู้ว่าเขาไม่ค่อยถูกชะตาฟางผิง เรื่องหลักมาจากเหตุที่ถูกฟางผิงต่อยตอนจะแบ่งสาขา
ตอนนี้จ้าวเหล่ยพูดแดกดัน เป็นเพราะมีความมั่นใจ ก่อนวันหยุดเขาหลอมกระดูกแล้วสี่สิบชิ้น ตอนนี้ผ่านไปไม่กี่วัน น่าจะหลอมได้สี่สิบเอ็ดชิ้นแล้ว
เทียบกับฟางผิงที่ตั้งแต่เปิดเทอมก็เก็บตัวอยู่ตลอด จ้าวเหล่ยจึงไม่พอใจอยู่ตลอดที่ถูกอีกฝ่ายแย่งฉายา ‘ดาวเด่นหน้าใหม่’ ไป
แม้ช่วงหลังฟางผิงจะไม่เป็นที่สะดุดตา จ้าวเหล่ยโดดเด่นขึ้นมา แต่ยังคงไม่มีใครเรียกเขาว่า ‘ดาวเด่นหน้าใหม่’
ยังไงก็เป็นวัยรุ่นอายุสิบแปดสิบเก้าปี ต่อให้เฉลียวฉลาดแค่ไหน ถูกคนอื่นกดหัว จ้าวเหล่ยจึงยังคงไม่พอใจ ท่าทีที่แสดงออกมาค่อนข้างชัดเจนเช่นกัน
เธออยากจะเอาเรื่องก่อนหน้านี้ของฟางผิงโจมตีเขาสักหน่อย แต่คิดดูแล้ว จ้าวเสวี่ยเหมยยังคงไม่พูดอะไร
เธอไม่พูด หยางเสี่ยวม่านกลับเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จ้าวเหล่ย ได้ยินเรื่องคลาสฝึกพิเศษหรือยัง?”
“ได้ยินมาแล้ว”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน