ตอนที่ 13 แผนหลอกบิดาของฟางผิง
ฟางผิงพูดด้วยใบหน้าจริงจัง สองสามีภรรยาไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้ว
เมื่อเชื่อในคำพูดลูกชาย ทั้งสองนั้นเผยความยินดีออกมาก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยหม่นหมอง ถึงกระทั่งละอายใจอยู่บ้าง
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเชื่อคำพูดของฟางผิง ลูกชายนั้นมีพรสวรรค์จริงๆ
แต่ตอนนี้ กลับถูกพวกเขาถ่วงรั้ง
เมื่อลองคิดว่าหากลูกชายของตนเกิดในชาติตระกูลที่ดี…
ทั้งสองคนต่างก็ไม่กล้าคิดต่อไป บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความชื่นมื่น ลึกลงไปในแววตากลับปิดบังความโศกเศร้าไม่มิด
—
เมื่อมื้ออาหารผ่านพ้นไป หลี่อวี้อิงก็เก็บถ้วยชามเข้าไปในห้องครัว โดยมีฟางหมิงหรงเดินตามเข้าไป
ฟางหยวนลูบพุง อารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย หลายวันมานี้ คล้ายว่าฟางผิงจะไม่ค่อยแย่งเธอกินข้าว ทุกวันจึงกินอย่างเต็มอิ่ม
แต่ฟางผิงไม่แย่งเธอกิน เด็กสาวก็เสียใจอยู่บ้าง มักรู้สึกว่าอาหารอร่อยไม่เหมือนเมื่อก่อน
เมื่อพ่อแม่ออกไปแล้ว ฟางหยวนจึงเอ่ยถึงประเด็นเมื่อครู่อย่างกระตือรือร้น “ฟางผิง นายจะสอบเข้าสายวรยุทธ์ได้จริงๆ ใช่ไหม?”
“แน่นอน!”
“แต่ทำไมฉันรู้สึกว่านายกำลังโม้ล่ะ?”
“ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ต้องมีความเชื่อใจกันหน่อยเถอะ?”
ฟางหยวนฝืนผงกศีรษะ นับว่าไว้หน้าให้พี่ชายสักครั้ง ก่อนจะเอนศีรษะเข้าไปใกล้ “แล้วถ้านายสอบไม่ได้ นายจะไม่หยิกแก้มฉันอีกแล้วจริงๆ ใช่ไหม?”
ฟางผิงใบหน้าดำคล้ำ หันมาถลึงตาใส่เธอ “เธอโง่หรือเปล่า? รอพี่ชายเธอสอบสายวรยุทธ์ กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้ว จะมีอะไรที่ทำไม่ได้อีก? ถึงเวลานั้น ฉันจะพาเธอไปกินเคเอฟซี ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ พาไปดูหนัง ถือโอกาสจัดการพวกเด็กที่ตั้งฉายาให้เธออีก เธอว่าเทียบกับโดนหยิกแก้มแล้ว อะไรดีกว่ากัน?”
ชั่วพริบตานั้นเด็กสาวก็ตกสู่ความขัดแย้งในใจ!
ฟางผิงพูดมีเหตุผล!
ฟางผิงไม่คิดเสียเวลาสนใจเธออีก หยัดกายเดินไปหลังบ้าน
ฟางหยวนเห็นเขาทำลับๆ ล่อ ก็อดเอ่ยไม่ได้ “นายจะทำอะไร?”
“พ่อแม่คงกำลังคุยกันว่าควรจะใช้เงินซื้อของบำรุงให้ฉันเท่าไร ฉันจะไปแอบฟัง”
ฟางผิงไม่ได้โง่ พ่อแม่เข้าไปในครัวด้วยกัน ยามนี้คุยอะไร เขานั้นพอจะเดาได้
แต่เรื่องนี้ไม่อาจฟังพ่อแม่ได้ หากพ่อแม่ยอมลงทุนจริงๆ
แอบซื้อของบำรุงอะไรมาให้เขา อย่างเช่นยาบำรุงเลือดและปราณที่แพงที่สุด ฟางผิงก็คงจะขุ่นเคืองอย่างยิ่ง
และความเป็นไปได้มีมากเหลือเกิน!
ทั้งหากจะซื้อ ก็ทำได้เพียงแอบซื้อ ซื้อเสร็จแล้วค่อยบอกเขา ถึงเวลานั้นเขาเสียใจก็คงไม่ทันแล้ว
แทนที่จะปล่อยให้เป็นอย่างนั้น ยังไม่สู้หาวิธีหลอกพ่อกับแม่ก่อน
ยามนี้ ฟางผิงก็ต้องการเงินอย่างเร่งด่วนเช่นกัน เขายังคิดไม่ออกว่าจะหาเงินก้อนหนึ่งอย่างไร แม้ว่าจะคิดออก ในมือก็ต้องมีเงินทุนสักหน่อย
การหลอกพ่อแม่ในยามนี้ ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหนักใจขนาดนั้น
สอบเข้าสายวรยุทธ์แล้ว อะไรก็ตามกลับมาได้ทั้งนั้น
แม้ว่าจะสอบไม่ได้ ฟางผิงก็ไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นคนไร้ความสามารถอยู่ดี
—
ห้องครัวหลังบ้าน
เหตุการณ์นั้นไม่ต่างจากที่ฟางผิงคาดไว้มาก
ฟางหมิงหรงจุดบุหรี่ ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยเบาๆ ว่า “ในบ้านยังมีเงินเก็บอีกเท่าไร?”
“ประมาณห้าหมื่นกว่า หลายปีมานี้ผิงผิงและหยวนหยวนใช้เงินไปไม่น้อย…”
“พรุ่งนี้เลิกงานแล้วไปกดออกมาเถอะ ผิงผิงจะถูกพวกเราถ่วงไว้ไม่ได้ ต้องโทษฉันด้วย เมื่อก่อนลูกของหัวหน้าเคยไปตรวจมาเหมือนกัน ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้ฉุกคิดให้ดี ไม่อย่างนั้น…เฮ้อ!”
ฟางหมิงหรงถอนหายใจ หากครั้งนี้ฟางผิงไม่ได้เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอเขาด้วยตัวเอง เขาก็คงไม่วางแผนให้ลูกชายสอบวรยุทธ์
ใครจะรู้ว่าลูกชายมีพรสวรรค์จริงๆ ยามนี้ ฟางหมิงหรงรู้สึกเสียใจเหลือเกิน
ตอนนี้เกาเข่าใกล้เข้ามาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะทันหรือเปล่า
ฟางหมิงหรงถอนหายใจ ก่อนเอ่ยว่า “ฉันเคยได้ยินหัวหน้าแผนกในโรงงานพูดว่า ตอนที่ลูกชายสอบเกาเข่าก็ซื้อของบำรุงที่ประสิทธิภาพดีๆ ไม่น้อย สองเดือนที่เหลือ พวกเราก็ซื้อของดีๆ บำรุงผิงผิงสักหน่อยเถอะ ฉันจะไปถามดูว่า มียาบำรุงอะไรที่ช่วยได้บ้าง เงินไม่พอก็ไปยืมมาก่อน รอผิงผิงสอบเสร็จแล้ว ก็เตรียมตัวให้หยวนหยวนสักหน่อย หากถูกพวกเราสองคนถ่วงไว้ คงเท่ากับว่าพวกเราทำลายเด็กทั้งสองไปชั่วชีวิต!”
หลี่อวี้อิงนั้นไร้คำจะเอ่ย นิ่งไปสักพักก่อนจะกล่าวเสียงเบา “ได้ พรุ่งนี้เลิกงานแล้วฉันจะไปถอนเงิน”
“…”
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน ฟางผิงก็ฟังมาพอสมควรแล้ว จึงเดินเข้าไปในห้องครัว
เมื่อเห็นลูกชายเข้ามา สองสามีภรรยาก็เงียบลงทันที ไม่พูดเรื่องนี้อีก
ฟางผิงแสร้งไม่รู้เรื่องนี้ เอ่ยด้วยสีหน้าลำบากใจ “พ่อครับ แม่ครับ ผมมีเรื่องจะพูดด้วย”
ฟางหมิงหรงดับบุหรี่ เอ่ยว่า “พูดมาเถอะ”
“คือว่า วันนี้ผมไปตรวจค่าปราณที่บ้านเพื่อนมา เพื่อนคนนั้นของผม เป็นนักเรียนที่สอบได้คะแนนดีที่สุดของห้อง ปีนี้ก็มีหวังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยวรยุทธ์ เขาบอกว่า สถานการณ์ของผมตอนนี้ยังมีโอกาสสอบติด แต่ต้องเตรียมตัวให้มากหน่อย”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน