ตอนที่ 130 ระบบอัปเกรด (2)
“อุ๊บ!”
จ้าวเสวี่ยเหมยที่อยู่ล่างเวทีเกือบจะหัวเราะออกมา เอ่ยด้วยใบหน้าไร้คำพูด “ราชาดาบ?”
หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยด้วยรอยยิ้มเรียบนิ่ง “รู้จักเล่นลูกไม้ซะด้วย ราชาดาบไม่ใช้ดาบยังจะเรียกว่าราชาดาบได้ยังไง? แต่มีประโยชน์อยู่เหมือนกัน บางคนไม่ค่อยมีสมอง อาจจะเชื่อฉายานี้จริงๆ ก็ได้”
“ไม่หรอกมั้งคะ?”
“เป็นอย่างนั้นแน่ ดังนั้นคราวหลังถ้าเจอศัตรู อย่าเอาแต่คิดพะวงฉายาของเขา หลัวอี้ชวนชำนาญวิชาหอก ไม่ได้แปลว่าเขาใช้อาวุธอย่างอื่นไม่เป็น ราชสีห์ถังเก่งกาจวิชาหมัดเท้า ไม่ได้หมายความว่าด้อยเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์เหมือนกัน แค่เชี่ยวชาญด้านนั้นเป็นพิเศษเท่านั้น หากคิดจริงๆ ว่าหลัวอี้ชวนไร้หอกแล้ว เธอจะสามารถฆ่าแกงเขายังไงก็ได้ แบบนั้นจะตายโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ เรียนรู้จุดนี้ไว้ แม้หมอนี่จะรักตัวกลัวตาย แต่ไม่ได้ขาดมันสมอง ถึงตอนที่ต้องสู้สุดชีวิตจริงๆ ก็ไม่มีคำว่าลังเล เขาสามารถเอาเปรียบคนอื่นได้ แต่ใครเอาเปรียบเขา นั่นหมายความว่าต้องการเอาชีวิตเขา!”
จ้าวเสวี่ยเหมยคล้ายจะคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้า
—
บนเวที
ฟางผิงยิ้มอย่างไร้เดียงสาว่า “คุณลุง ผมเพิ่งขึ้นเวทีครั้งแรก พวกเรามาแลกเปลี่ยนความรู้กันเถอะ อีกเดี๋ยวถ้าผมแพ้ ผมจะตะโกนยอมแพ้ คุณลุงเมตตาผมด้วยละกัน”
ชายหน้าดำวัยกลางคนขมวดคิ้วว่า “ไว้ดูสถานการณ์ก่อนเถอะ”
“คุณลุง เป็นการต่อสู้ตามธรรมเนียมเท่านั้น ผมคิดว่า…”
“เริ่มได้!”
เขาพูดไม่ทันจบ ผู้ตัดสินก็ตะโกนเสียงดัง ไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดจาไร้สาระ
ฟางผิงถึงจะบ่นอุบอิบ แต่พอคำว่า ‘เริ่มได้’ ดังขึ้น เขาพลันกระโดดเตะชายหน้าดำไปทันที
ครั้งนี้ไม่ใช่หยุดแค่ลูกเตะเดียว ฟางผิงยังหมุนตัวเตะสลับซ้ายขวาไม่หยุด!
เฮยเมี่ยนยกมือต้านไว้ ร่างยังคงถูกเตะจนถอยหลังอย่างไม่ลดละ
“แม่เจ้า โต้กลับแล้ว!”
คนที่อยู่ด้านล่างตะโกนเสียงดัง ไม่มีใครคาดถึงว่า เปิดฉากมาเฮยเมี่ยนก็ตกอยู่สภาพตั้งรับ ถูกเด็กคนนั้นเตะจนล่าถอยไป
คนหนึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลาย อีกคนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนกลาง
ทั้งสองคนความสามารถห่างชั้น คนส่วนมากคิดว่าเฮยเมี่ยนขึ้นเวทีมาคงจะอัดเจ้าเด็กฉายา ‘ราชาดาบ’ จนต้องคุกเข่าร้องขอชีวิต!
แต่ความเป็นจริงกลับไม่ได้เหมือนอย่างที่ทุกคนคาดเดา
ฟางผิงเตะอีกฝ่ายติดต่อกันสิบกว่าครั้ง ตอนที่ร่างกายแตะพื้น ฟางผิงยังบุกต่ออย่างไม่ลดละ
ปากตะโกนว่า ‘ดูขา’ ทว่ากลับกำหมัดขึ้นมา จู่โจมที่หัวของอีกฝ่ายโดยพลัน!
เฮยเมี่ยนหอบหายใจ รีบยกมือกำบัง
ฟางผิงชกหมัดเข้าไปจนอีกฝ่ายถอยหลังไปสองก้าว ประชิดเข้าไปใกล้ ก่อนจะยกขาเตะอีกครั้ง!
“พลั่กๆๆ” เสียงกระทบกันดังขึ้นติดต่อกัน
ขณะที่เฮยเมี่ยนกำลังปัดป้อง ทั้งครุ่นคิดวิธีจะโต้กลับ จู่ๆ ฟางผิงก็ไม่ใช้เพียงขาเดียวเตะอีก
วาดขาขวาตรงดิ่ง ระเบิดพลังที่ปลายเท้ากลางอากาศ เตะเข้าไปที่ไหล่ของเฮยเมี่ยน
“กร๊อบ!”
ไหล่ของเฮยเมี่ยนยุบลงไปทันที เฮยเหมี่ยนหน้าเปลี่ยนสีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะกัดฟันว่า “ฉันยอมแพ้!”
“ขอบคุณที่ถอยให้ครับ!”
ฟางผิงรีบชักขากลับ ถอยหลังไปหลายก้าว หัวเราะว่า “คุณลุง ขอบคุณที่ยอมถอยให้ครับ”
“เหอะ!”
ชายกลางคนแค่นเสียงเบาๆ ก่อนจะกุมไหล่เดินลงจากเวที
เขานึกไม่ถึงว่า อีกฝ่ายที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนกลาง ขึ้นเวทีมาจะเปิดฉากโจมตีทันที
ทั้งคาดไม่ถึงว่า ฟางผิงจะเตะจนไหล่เขาได้รับบาดเจ็บเร็วขนาดนี้ เขาหลอมกระดูกช่วงบนแล้ว กระดูกไม่ได้ถูกทำลายง่ายๆ ขนาดนั้น
อีกฝ่ายสามารถทำลายกระดูกเขาได้ หมายความว่าปราณไม่ได้อ่อนด้อยกว่าเขา ถึงกระทั่งหากระเบิดปราณออกมา อาจจะแข็งแกร่งกว่าเขาอีก
ไม่งั้นคงไม่ทะลวงการป้องกันของเขาเข้ามาง่ายๆ หรอก
ทั้งยังเด็กขนาดนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้แล้วว่าคงเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ฮึดสู้จนถึงสุดท้ายอาจมีโอกาสแพ้สูงอยู่ดี
ไม่ใช่การต่อสู้ชี้เป็นชี้ตายด้วย ประมือกันต่อ รังแต่จะทำให้ค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้น
—
ล่างเวทีมีคนจำนวนไม่น้อยแหกปากตะโกนด่า
หลู่เฟิ่งโหรวขมวดคิ้วว่า “ไร้ประโยชน์”
ฝีมือของฟางผิงแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายไม่น้อย ไม่ว่าจะเคล็ดวิชาต่อสู้ จวงกงหรือปราณ มีเพียงอย่างเดียวที่สู้อีกฝ่ายไม่ได้ นั่นก็คือระดับการหลอมกระดูก
ถูกฟางผิงชิงลงมือก่อน อีกฝ่ายจึงไม่ทันหาโอกาสโต้กลับ
ทั้งสองคนประมือไม่ถึงหนึ่งนาที ฟางผิงกลับชนะซะแล้ว
การต่อสู้แบบนี้ ไม่ได้เป็นประโยชน์กับฟางผิงเท่าไหร่
“น่าเสียดายที่เจ้าเด็กนี่กลัวตาย ไม่งั้นคงจะให้ลองต่อสู้ชี้เป็นชี้ตายสักหน่อย แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้รีบ ยังไม่ถึงขั้นหนึ่งตอนปลาย ต้องให้ความสำคัญกับการหลอมกระดูกเป็นหลัก”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน