ตอนที่ 174 ช่องทางธุรกิจของผู้ฝึกยุทธ์ (2)
หลังจากกำชับหลี่เฉิงเจ๋ออยู่ยกใหญ่ทั้งวานหลี่เฉิงเจ๋อช่วยซื้อรถให้เขาแล้ว ฟางผิงก็จากไปอย่างปวดหัวอยู่บ้าง
แต่ความใฝ่ฝันเรื่องตัวแทนนายหน้านั้น…ไม่สิ ความฝันเรื่องช่องทางการค้าของผู้ฝึกยุทธ์ที่ใหญ่ที่สุดต่างหาก ฟางผิงยังคงจริงจังอย่างมาก
ก่อนหน้านี้เขาเคยมีความคิดแบบนี้มาครั้งหนึ่ง
แต่เวลานั้นเขายังเป็นเพียงคนธรรมดา ทำได้แค่คิดแล้วทิ้งไปเท่านั้น
ตอนนี้เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองแล้ว ไม่นานก็อาจทะลวงขั้นสาม แม้ว่าฝีมือจะยังอ่อนไปบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ้นหวังเสียทีเดียว
—
กลับมามหาวิทยาลัย ฟางผิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเข้าไปที่ฝ่ายบริการอีกครั้ง
เพราะยังไม่ได้เปิดเทอม ทางฝ่ายบริการจึงไม่ได้ยุ่งมาก
ตาเฒ่าหลี่ยังคงนั่งสัปหงก เห็นฟางผิงมาอีกครั้ง อดเอ่ยออกไปไม่ได้ “ไอ้หนู ทำไมมาอีกแล้ว?”
“อาจารย์หลี่ ดูพูดเข้าสิ ผมแค่อยากมาคุยเล่นกับคุณเท่านั้น”
“ฮ่าๆ…ไม่มีธุระก็อย่าโผล่หน้ามาที่นี่บ่อยนัก!”
ฟางผิงชินแล้ว ย้ายตัวเองไปนั่งข้างเคาน์เตอร์อย่างไม่สนใจอะไร ก่อนจะถามว่า “อาจารย์หลี่ ฝ่ายบริการของมหาลัยพวกเราคงจะยุ่งมากสินะครับ?”
“ก็พอสมควร”
“ยอดฝีมืออย่างคุณถูกส่งมาเป็นพนักงานขาย ไม่เหมาะสมอยู่บ้าง อีกอย่างนอกจากคุณ ผมเห็นว่ายังมีผู้ฝึกยุทธ์หลายคนทำงานอยู่ที่นี่ ทั้งยังต้องสลับเปลี่ยนกะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางและระดับสูงไม่น้อย คุณว่านี่มันไม่ได้สิ้นเปลืองหรอกเหรอ?” ฟางผิงทำท่าทีราวกับเป็นเดือดเป็นร้อนแทน เพราะจุดแลกเปลี่ยนมีแต่ผู้ฝึกยุทธ์ คนธรรมดาอาจจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้เสมอไป ทั้งนักศึกษาบางคนยังเอาแต่ถาม ไม่แลกเปลี่ยนคะแนนสักที เป็นเรื่องที่เสียเวลาจริงๆ
ตาเฒ่าหลี่ชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรออกมา
ที่นี่มีการสำรองทรัพยากรของมหาวิทยาลัยไว้ส่วนหนึ่ง หากไม่มีผู้ฝึกยุทธ์นั่งรักษาการณ์ ถูกคนปล้นไปจะทำยังไง?
แม้ว่าจะมีแต่นักศึกษามหาวิทยาลัย ไม่มีใครใจกล้าดีเดือดขนาดนั้น แต่ต่อให้ไม่กล้ายังไง ก็ไม่อาจเปิดช่องว่างกระตุ้นให้พวกเขาทำแบบนี้ได้
หากถูกคนนอกเข้ามาขโมย นั่นจะยิ่งขายหน้าเข้าไปใหญ่
“อาจารย์ ผมเห็นฝ่ายภารกิจชั้นสามจัดการได้ดีทีเดียว เริ่มใช้อินเทอร์เน็ตในการรับภารกิจแล้ว ทางมหาวิทยาลัยเคยคิดเรื่องสร้างแพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ตเพื่อแลกเปลี่ยนยาบำรุงและอาวุธหรือเปล่าครับ? แบบนี้จะสามารถประหยัดกำลังคนและทรัพยากรได้ไม่ใช่น้อยๆ…”
“หืม? แพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ต…”
“ครับ ตอนนี้คนทั่วไปใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการซื้อของ สะดวกสบายและฉับไว หรือผู้ฝึกยุทธ์อย่างพวกเราจะตามไม่ทันเรื่องพวกนี้?”
ตาเฒ่าหลี่ขมวดคิ้วว่า “นี่ไม่เหมือนกัน มูลค่าสิ่งของของพวกเราสูงเกินไป…”
“ความจริงแทบไม่ต่างกัน ผู้ฝึกยุทธ์ก็เป็นคนเหมือนกัน ใครต่างอยากจะทำงานอย่างง่ายๆ และสะดวกสบายอยู่แล้ว รุ่นพี่ของพวกเราบางส่วนวิ่งวุ่นอยู่ข้างนอกเช่นกัน อยากจะแลกเปลี่ยนยาบำรุง ยังต้องเทียวกลับมาทีหนึ่ง ยุ่งยากเกินไป อาจารย์ ผมทำธุรกิจนิดหน่อยเหมือนกัน เป็นธุรกิจที่วิ่งเต้นงานให้คนอื่นพอดี คุณคิดว่า ถ้าผมสร้างแพลตฟอร์มฟรีๆ ให้มหาวิทยาลัย ช่วยแก้ไขปัญหามหาวิทยาลัยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย มหาวิทยาลัยจะสนับสนุนหรือเปล่า?”
“หืม?”
แววตาของตาเฒ่าหลี่วูบไหวเล็กน้อย จ้องฟางผิงอยู่พักใหญ่ จู่ๆ ก็เผยรอยยิ้ม “ไอ้หนู เธอไม่ใช่คนประเภทที่ลำบากแทนคนอื่นฟรีๆ สักหน่อย สร้างแพลตฟอร์มให้มหาวิทยาลัย เป็นธุระวิ่งเต้นให้ฟรี…คำพูดนี้ได้ฟังก็ทะแม่งๆ แล้ว ฉันว่าเธอน่าจะคิดวางแผนกับมหาวิทยาลัย ถือโอกาสหาเงินก้อนใหญ่เป็นค่าวิ่งเต้นมากกว่า?”
“อาจารย์ ผมกล้าขนาดนั้นที่ไหนกันล่ะครับ? ปรมาจารย์ของมหาวิทยาลัยพวกเรามีตั้งหลายคน เว้นเสียแต่ว่าผมจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเท่านั้น ผมจริงจังนะครับ ผมจะสร้างแพลตฟอร์มให้มหาวิทยาลัยฟรี ทั้งจะไม่ทำให้พวกอาจารย์สิ้นเปลืองเวลา ต่อจากนี้หากไม่มีความจำเป็น นักศึกษาจะไม่มาที่ฝ่ายบริการอีกแล้ว สามารถแลกเปลี่ยนสินค้าที่ตัวเองต้องการบนแพลตฟอร์มได้โดยตรงเลย ส่วนผมพอได้รับรายการแล้ว จะมารับทรัพยากรที่มหาวิทยาลัย ช่วยจัดส่งถือมือทุกคนเอง แน่นอนว่าเริ่มแรกสถานที่ห่างไกลบางส่วน ผมคงไม่มีความสามารถไปส่งถึงได้ แต่นี่เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า มหาวิทยาลัยไม่จำเป็นต้องเสียเงิน ทั้งไม่ต้องเปลืองกำลังคน ผมจะจัดการเองทุกอย่าง!”
“แน่นอนว่าผมต้องเก็บเงินค่าวิ่งเต้นเล็กน้อยจากนักศึกษาพวกนั้นอยู่แล้ว ไม่กี่ร้อยคงไม่เกินกว่าเหตุหรอกนะครับ? นอกจากจะลดความยุ่งยากให้พวกอาจารย์แล้ว ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้พวกนักศึกษา ผมว่าทุกคนคงไม่แยแสเงินเล็กน้อยนี้อยู่แล้ว อาจารย์ ฐานะทางบ้านของผมธรรมดา ทำได้แค่พึ่งตัวเองใช้ความคิดพวกนี้ในการหาเงินเท่านั้น…อีกอย่าง ผมรับผิดชอบค่าชดเชยให้ด้วย หากทางผมทำของสูญหาย ผมจะรับผิดชอบชดใช้ตามราคาเดิม เป็นแบบนี้แล้ว มหาวิทยาลัยและนักศึกษาคงไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงอะไรแล้ว…”
อีคอมเมิร์ซเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน อันที่จริงผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเก่าพวกนี้ ไม่ค่อยเข้าใจลู่ทางด้านนี้สักเท่าไหร่ด้วย
พอได้ยินฟางผิงพูดแบบนี้ ตาเฒ่าหลี่ครุ่นคิดแล้ว เหมือนจะมีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษจริงๆ
นอกจากจะลดพลังในการทำงานของพวกเขา ยังจะประหยัดทรัพยากรคน ทั้งลดความยุ่งยากของพวกนักศึกษา…
แต่เจ้าเด็กนี้จะวิ่งเต้นให้เพื่อเงินเล็กน้อยแค่นี้จริงๆ น่ะเหรอ?
ฟางผิงรับปากว่าจะรับผิดชอบค่าเสียหาย แบบนี้แล้ว แม้ฟางผิงจะมีความสามารถไม่พอ ทำของสูญหาย ทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ต้องสนใจ
ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนตาเฒ่าหลี่จะปวดหัวอยู่บ้าง ถามว่า “เธอชดใช้ไหวเหรอไง? อย่าลืมว่านักศึกษามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่อยู่แค่ใกล้ๆ นี้ วิ่งเต้นแถวมหาวิทยาลัยยังพอว่า แต่ถ้าเป็นข้างนอก หากถูกคนรู้เข้าว่าพวกเธอขนส่งยาบำรุงและอาวุธ ต้องมีคนคิดไม่ดีอย่างแน่นอน”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน