ตอนที่ 175 คนปกครองใช้แรงสมอง (1)
โซนหอพักบุคลากร
บ้านพักหมายเลขแปด
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ใหญ่อยู่บ้างจริงๆ วันนี้ฟางผิงวิ่งกลับไปกลับมา แทบจะสิ้นเปลืองเวลาไปกับการเดินทางทั้งหมด
เคาะประตูแล้ว ไม่นานหลู่เฟิ่งโหลวก็หาวออกมาเปิดประตู
อันที่จริงฟางผิงสงสัยอยู่บ้าง ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางพวกนี้ ทุกคนทำท่าราวกับไม่ได้นอน นี่คืองานยุ่งจริงๆ หรือว่าว่างเกินไป?
หลู่เฟิ่งโหรวเห็นฟางผิงจึงเอ่ยหยอกว่า “กลับมาซะเร็ว ทำไมไม่อยู่กับครอบครัวนานๆ หน่อย?”
“รีบกลับมาฝึกวิชา อาจารย์จะได้ไม่อายคน!”
“ฮ่าๆ!”
หลู่เฟิ่งโหรวไม่เชื่อคำพูดสวยหรูของเขาหรอก ขยับมือเล็กน้อย ก่อนแก้วชาบนโต๊ะจะมาอยู่ในมือ ดื่มชาแล้วค่อยเอ่ยว่า “มีอะไรว่ามา”
สายตาของฟางผิงกลับอยู่ที่ชาในมือของเธอ อดเอ่ยไม่ได้ “อาจารย์ ดึงของจากอากาศ?”
“เป็นการใช้พลังจิตอย่างหนึ่ง อย่าคิดเกินตัว ยังห่างไกลจากเธอมาก”
หลู่เฟิ่งโหรวไม่คิดจะอธิบายเยอะ ดื่มชาอีกคำ ก่อนจะเอ่ยว่า “พูดมาเถอะ สงสัยเรื่องฝึกวิชา? หรือว่ามีเรื่องอื่น? ทะลวงขั้นสองแล้ว ตอนนี้ต้องยึดการหลอมกระดูกเป็นหลัก หรือคิดจะฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้อะไรอีก?”
“ไม่ใช่ๆ…”
ฟางผิงส่ายหัว ในใจกลับกำลังนึกถึงฉากที่หลู่เฟิ่งโหรวดึงแก้วชามาอยู่ในมือ
“อาจารย์ หรือพวกปรมาจารย์จะเหมือนในนวนิยาย เดินเหินบนกระบี่ได้?”
“เดินเหินบนกระบี่?”
หลู่เฟิ่งโหรวยิ้มอย่างดูแคลน “เธอคิดมากไปแล้ว แต่เดินเหินบนกระบี่ยังคงทำได้ แต่ไม่นานนัก เหมือนจวงกงสภาวะว่างเปล่าของเธอไง เธอสามารถเดินบนอากาศได้ แต่เดินได้กี่ก้าวกัน? การใช้พลังจิตของพวกปรมาจารย์ หลักๆ ยังอยู่ที่เรื่องพลังกาย พลังจิตใจและเคล็ดวิชาต่อสู้ รวมทั้งเข้าใจเรื่องการควบคุมของร่างกาย…”
“แบบนี้เองเหรอครับ?”
ฟางผิงพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะอดถามไม่ได้ “อาจารย์ คุณใกล้จะเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์แล้วใช่ไหมครับ?”
หากหลู่เฟิ่งโหรวกลายเป็นปรมาจารย์ ฟางผิงคงรวยเละแล้ว
แม้อาจารย์จะไม่ใช่พ่อแม่ของนักศึกษา แต่มีอาจารย์อยู่ขั้นปรมาจารย์ ผลประโยชน์ก็จะเพิ่มมากขึ้นตาม
อย่างน้อยก่อนที่คุณจะเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์ อาจารย์แทบจะสามารถชี้แนะคลายข้อสงสัยให้คุณได้โดยตรง
ทั้งกลายเป็นปรมาจารย์ ก็เพียงพอให้ฟางผิงกินอยู่อย่างสุขสบายได้แล้ว
“ยังเร็วไป!”
หลู่เฟิ่งโหรวปฏิเสธเรื่องนี้ ส่ายหัวว่า “ปรมาจารย์ง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน! ตอนนี้ฉันศึกษาค้นคว้าเรื่องพลังจิตแค่เบื้องต้นเท่านั้น คิดจะเป็นปรมาจารย์ อย่างน้อยใช้เวลาสามถึงห้าปี ทั้งต้องดูที่โอกาสด้วย”
ระหว่างที่พูด หลู่เฟิ่งโหรวก็เปลี่ยนประเด็น “ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว เธอกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง ควรจะสะสมคะแนนไว้เยอะหน่อย ทะลวงขั้นสาม ลำบากยิ่งกว่าตอนทะลวงขั้นสอง โดยเฉพาะช่วงที่อยู่ขั้นสองสูงสุด หลอมกระดูกแขนและขาแล้ว เวลานี้ขั้นสามจะหลอมกระดูกแกนกลาง ทำยังไงให้กระดูกแขนขาและแกนกลางเชื่อมหากลายเป็นระบบเดียวกัน ภายในนี้มีสิ่งที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย ไม่มีคะแนน ทำได้แค่พึ่งตัวเองเท่านั้น ถ้ามีคะแนน มหาวิทยาลัยจะช่วยเหลือได้บ้าง…”
“คะแนน…”
ฟางผิงจนใจอยู่บ้าง คะแนนของฉันไม่เหลือแล้ว นี่หมายความว่าฉันยังต้องรับภารกิจสินะ
“ใช่สิ ตกลงเธอมีเรื่องอะไรกันแน่ มีธุระก็รีบพูดมา ฉันยังต้องไปนอนต่อ”
ฟางผิงพูดไม่ออก คุณเหนื่อยขนาดนั้นเลยรึไง กลางวันแสกๆ ยังจะนอนอีก
ไม่ชักช้าอีก ฟางผิงเอ่ยปากว่า “คืออย่างนี้ครับอาจารย์ ผมอยากทำแพลตฟอร์มออนไลน์ให้พวกนักศึกษาใช้ แต่มหาวิทยาลัยกังวลว่าความสามารถผมจะไม่พอ รับผิดชอบไม่ไหว ดังนั้นต้องการให้อาจารย์ช่วยเป็นหลักประกัน…”
“ให้อาจารย์เป็นหลักประกัน?”
หลู่เฟิ่งโหรวขมวดคิ้ว “แพลตฟอร์มออนไลน์อะไร จำต้องเป็นให้อาจารย์ออกหน้าเป็นหลักประกัน?”
ฟางผิงเล่าให้ฟังคร่าวๆ
หลู่เฟิ่งโหรวไม่ได้เอ่ยขัดอะไร รอจนเขาพูดจบ จู่ๆ ก็เอ่ยว่า “เธอทำเพื่อค่าวิ่งเต้นเล็กน้อยนี่จริงๆ?”
“อาจารย์ ผมจนนี่นา ไม่มีทางเลือก…”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน