ตอนที่ 189 หาเงินตลอดเวลา (1)
เพราะเรื่องการประลองของหนานเจียง ทำให้สิ้นเปลืองเวลาหลายวัน
เดิมทีทุกคนยังคิดจะรับภารกิจที่หนานเจียงอีกสักหน่อย แต่เห็นว่าจะสิ้นเดือนแล้ว
รวมทั้งพวกเขาได้รับผลประโยชน์จากหนานเจียงและมหาวิทยาลัยมาบางส่วน จึงตัดสินใจล่วงหน้ากลับมหาวิทยาลัย
แม้ฟางผิงจะอยากรับภารกิจต่อ แต่ผ่านมาเกือบสิ้นเดือน ทุกคนต่างอ่อนเพลียอยู่บ้าง
คนอื่นๆ ล้วนอยากจะผ่อนคลายสักหน่อย ฟางผิงจึงทำได้เพียงเห็นด้วย
ดีที่เดือนนี้ฟางผิงได้รับอะไรกลับมาไม่น้อยเหมือนกัน
ทรัพย์สิน : 12,200,000
ปราณ : 500 แคล (522 แคล)
จิตใจ : 420 เฮิรตซ์ (442 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 126 ชิ้น (90%) , 80 ชิ้น (30%)
เทียบกับตอนที่เพิ่งเข้าสู่ขั้นสองสูงสุด ปราณของฟางผิงนั้นเพิ่มขึ้นมาอีกเจ็ดแคล ค่าจิตใจก็พัฒนาขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
ค่าทรัพย์สินทะลวงสิบล้านอีกครั้ง
เงินสดในมือ รวมกับที่เหลือก่อนหน้านี้หกล้าน เป็นยี่สิบล้านพอดี
เทียบกับก่อนออกเดินทางที่ค่าทรัพย์สินต่ำกว่าหนึ่งล้าน เงินสดอีกหกล้าน กระเป๋าของฟางผิงจึงตุงขึ้นมาอีกครั้ง
นอกจากการเปลี่ยนแปลงด้านตัวเลขพวกนี้ ฟางผิงยังมีความก้าวหน้าอย่างอื่นอีกเล็กน้อย
อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้ไร้คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน ทั้งรู้ว่าความสามารถของเขายังไม่เพียงพอ จำเป็นต้องไปเพิ่มพูน
รวมถึงฝึกฝนเคล็ดวิชาต่อสู้และพัฒนาไหวพริบของการต่อสู้
การต่อสู้ไม่ได้อาศัยแค่เรื่องปราณแข็งแกร่งหรืออ่อนแอเพียงอย่างเดียว
—
วันที่ 25 มีนาคม
คนอื่นๆ ตามไป๋รั่วซีกลับมหาวิทยาลัย
ฟางผิงต้องกลับบ้านจึงไม่ได้ไปกับทุกคน
ร้านอาหารท้องถิ่นแห่งหนึ่งนอกมหาวิทยาลัยหนานเจียง
พวกอู๋จื้อหาวทำตัวราวกับสายลับ ย่องเข้าไปในห้องอาหารส่วนตัวอย่างระมัดระวัง
เข้าไปในห้องส่วนตัวแล้ว พวกเขาก็รีบปิดประตู อู๋จื้อหาวถอนหายใจว่า “ค่อยยังชั่ว ไม่มีใครสนใจ”
ฟางผิงเอ่ยอย่างหมดเรี่ยวแรง “ต้องถึงขนาดนี้เลยหรือไง?”
“เหลวไหล!”
อู๋จื้อหาวทำหน้าจนใจ เอ่ยราวกับจะร้องไห้ “ตอนนี้นายเป็นศัตรูของคนทั้งมหาวิทยาลัยหนานเจียง! โดยเฉพาะเรื่องที่นายทำรุ่นพี่หลานไฉ่เย่โมโหแทบกระอักเลือด คนหนานเจียงแทบจะตามมาคิดบัญชีนายแล้ว…”
ฟางผิงแค่นเสียงขึ้นจมูก เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “พูดตามตรง ในมหาวิทยาลัยหนานเจียงนอกจากพี่หวังแล้ว คนอื่นๆ แม้จะเป็นนักศึกษาขั้นสามพวกนั้น ก็มีแค่ไม่กี่คนที่เป็นคู่ต่อสู้ของฉัน”
“นายไม่กลัว แต่พวกเรากลัว!”
อู๋จื้อหาวยิ้มเฝื่อนๆ
ฟางผิงเข้าใจได้เหมือนกัน เหมือนตอนแรกที่เขาอยู่เซี่ยงไฮ้ เพราะเรื่องพี่หวังจึงเคยถูกคนใช้เป็นเป้าหมายมาก่อน
คนอ่อนแอพาลโกรธไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผล
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุดที่ขึ้นเวทีก่อนหน้านี้ ปกติคงไม่ถึงกับสนใจเรื่องพวกนี้
แต่พวกขั้นหนึ่งหรือคนธรรมดาอาจพาลโกรธพวกเขาได้
เพราะตอนนี้สถานการณ์ของมหาวิทยาลัยหนานเจียงไม่ดีเอามากๆ!
หวังจินหยางกลับมาจากจวนผู้ว่า ก็ไปหาอธิการบดีของมหาวิทยาลัยหนานเจียงต่อ ได้รับความเห็นชอบจากสองปรมาจารย์ จะปฏิรูปมหาวิทยาลัยขั้นเด็ดขาดอย่างเป็นทางการ
ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าผู้ฝึกยุทธ์ต้องใช้แต้มแลกเปลี่ยนยาบำรุงเพิ่มขึ้นห้าเปอร์เซ็นต์ ได้ถูกบังคับใช้แล้ว
นอกจากนี้นักศึกษาปีสามปีสี่บางส่วนที่ยังไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ หวังจินหยางได้ประกาศเป็นครั้งสุดท้าย!
สิ้นสุดเทอมนี้ ยังไม่สามารถกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ เทอมหน้าก็ไม่จำเป็นต้องมามหาวิทยาลัยอีกแล้ว
ทางหนานเจียงนั้นยังมีนักศึกษาปีสามปีสี่ที่ยังไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์กว่าห้าสิบหกสิบคน
คนพวกนี้เผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่จะถูกไล่ออก
ทั้งก่อนจบเทอมนักศึกษาปีหนึ่งและปีสองที่ยังไม่สามารถทะลวงขั้นหนึ่งได้ จะถูกไล่ออกเช่นกัน
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งขั้นสองขั้นสามทั้งหมดของมหาวิทยาลัย ช่วงนี้ยังมีการประเมินอีกอย่างเพิ่มขึ้นมา!
การประเมินภารกิจที่สำเร็จ!
ทุกเทอมจะมีการสรุปคะแนนภารกิจหนึ่งครั้ง หากไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ เทอมต่อไปอัตราแลกเปลี่ยนยาบำรุงจะยึดตามราคาตลาด มหาวิทยาลัยจะไม่ให้ส่วนลดสิทธิพิเศษอะไรอีกแล้ว!
การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างทำให้นักศึกษาหนานเจียงคับแค้นใจ และทั้งหมดนี้เกิดจากการพ่ายแพ้ของหนานเจียงก่อนหน้านี้
ตอนนี้มีนักศึกษาหนานเจียงจำนวนมากโกรธแค้นพวกฟางผิง
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถย้อนมองตัวเองได้ บางคนไม่อาจโทษที่ตัวเองอ่อนแอเกินไป ทั้งไม่อาจคิดว่าการที่ตัวเองไม่ทำภารกิจเป็นเรื่องที่ผิด
กลับคิดว่าหากไม่ใช่เพราะพวกฟางผิงชนะ คงไม่อาจเกิดสถานการณ์อย่างตอนนี้ได้
เวลานี้พวกอู๋จื้อหาวยังไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ หากถูกเปิดโปงว่าสนิทกับฟางผิง คงจะถูกเหมารวมไปด้วย


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน