ตอนที่ 191 ความสามารถของขั้นสาม (1)
วันที่ 27 มีนาคม
เขตทางใต้ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ตึกหมายเลขสาม
นี่นับเป็นครั้งแรกที่ฟางผิงมาเหยียบตึกหมายเลขสาม
ที่นี่มีห้องฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ ห้องแหล่งพลังงาน สระปราณ ห้องแรงโน้มถ่วง…
เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการฝึกวิชา
ประเด็นอยู่ที่ต้องใช้คะแนน ทั้งก่อนหน้านี้การฝึกวิชาของฟางผิงก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาโดยตลอด เขาจึงไม่เคยคิดเข้ามาที่นี่
ปรากฏว่าเพิ่งจะก้าวเข้าไปในโถงใหญ่ ฟางผิงกลับสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เรียกว่าการต้อนรับอย่างอบอุ่นทันที!
เสียงฟิ้วดังขึ้น ก่อนกระบี่ยาวจะพุ่งเข้ามาหาฟางผิง
ฟางผิงตกใจยกใหญ่ รีบถอยหลบทันที
ตอนนี้กลางโถงใหญ่มีคนอยู่ไม่น้อย ไม่เงียบเป็นเป่าสากเหมือนที่ฟางผิงคิดไว้
ยังไม่ทันได้คิดว่า ใครกำลัง ‘ต้อนรับ’ ตัวเองอยู่ ฟางผิงกลับได้ยินเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมาก่อน
“เข้ามาสิ! วันนี้ฉันคนเดียวจะสู้สิบคน!”
“ถ้าไม่ยอมก็เข้ามาพร้อมกัน!”
“เป็นแค่พวกอ่อนแอกลุ่มหนึ่ง ยังกล้ามาเถียงฉันข้างๆคูๆ รนหาที่ตาย!”
“ปัง!”
“…”
สิ้งเสียงนั้นฟางผิงก็รีบถอยหลบอีกครั้ง เมื่อกี้ส่งกระบี่เข้ามา ตอนนี้เป็นคนแทนแล้ว
เงาคนลอยกระเด็นออกมา ตกอยู่เบื้องหน้าฟางผิง
คนผู้นี้แทบไม่มองฟางผิงสักนิด ดีดตัวขึ้นมาอย่างว่องไว ตะเบ็งเสียงด้วยความโมโห “ฉินเฟิ่งชิง รังแกคนเกินไปแล้ว!”
“คนอ่อนแอไม่มีสิทธิ์ออกเสียง!”
“ไอ้เวร นายคิดว่านายแข็งแกร่งมากหรือไง พวกเราเข้าไปพร้อมกัน!”
“…”
ฟางผิงเดินเบียดเข้าไปในฝูงชนอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะยื่นหัวไปดู ฉินเฟิ่งชิงกำลังปะทะกับผู้ฝึกยุทธ์เจ็ดแปดคน
“สหายเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”
ฟางผิงตบไหล่คนที่กำลังยืนดูเรื่องสนุก เอ่ยถามอย่างสงสัยอยู่บ้าง
คนที่มุงดูเรื่องชาวบ้านคนนั้นหัวเราะว่า “ฉินเฟิ่งชิงทะลวงขั้นสามสูงสุดแล้ว ทะลวงสำเร็จก็อวดตัวทันที ขั้นสามไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้เขาได้ คนพวกนี้ฟังแล้วระคายหู จึงยกเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเถียง…ปรากฏว่าฉินเฟิ่งชิงไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรก็ชกคนจนฟันหน้าร่วง…ตอนนี้เลยถูกรุมโจมตี”
“มะ…หมอนั่นอวดดีขนาดนั้นเลย?”
ฟางผิงอ้าปากค้าง ฉินเฟิ่งชิงแทบจะเล่นในบทของตัวร้ายอย่างสิ้นเชิง
“เขาอวดดีจนติดเป็นนิสัยแล้ว แต่รอดูเรื่องสนุกดีกว่า อีกเดี๋ยวเขาคงต้องยอมแพ้”
ฟางผิงมองสถานการณ์การต่อสู้ แม้เจ็ดแปดคนจะรุมโจมตีฉินเฟิ่งชิง แต่ดาบใหญ่ของเขาหมุนหอบลมขึ้นมา ไม่เหมือนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ จึงมองไปทางคนเมื่อกี้อีกครั้ง เอ่ยอย่างแปลกใจ “ฉินเฟิ่งชิงแข็งแกร่งไม่ใช่เล่น คนพวกนี้จะทำให้เขายอมแพ้ได้งั้นเหรอ?”
“พวกเขาชนะไม่ไหวหรอก ไม่มีใครถึงขั้นสามสูงสุด ตอนนี้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดมีไม่เยอะ แต่มีคนไปเรียกเซี่ยเหล่ยแล้ว”
“เซี่ยเหล่ย? คนที่หลอมกระดูกสามครั้งคนนั้น…”
“อืม แม้ว่าเซี่ยเหล่ยเพิ่งจะอยู่ขั้นสามตอนปลาย แต่ผู้ฝึกยุทธ์ที่หลอมกระดูกสามครั้งแทบไม่ด้อยไปกว่าผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ขั้นสูงสุดเลย…”
ช่วงเปิดเทอมของปีก่อน เซี่ยเหล่ยเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุด
ตอนนี้ผ่านไปเจ็ดแปดเดือนแล้ว เซี่ยเหล่ยเข้าสู่ขั้นสามตอนปลาย สิ้นสุดเทอมนี้อาจจะสามารถทะลวงขั้นสามสูงสุดได้
นอกจากฟางผิงแล้ว ก็มีเขาเพียงคนเดียวที่ถือเป็นผู้ฝึกยุทธ์หลอมกระดูกสามครั้งในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
“เซี่ยเหล่ยเป็นคู่ต่อสู้ของฉินเฟิ่งชิง?”
“ไม่แน่ใจ ดูแล้วก็จะรู้เอง คนที่ฉินเฟิ่งชิงอัดเมื่อกี้เป็นเพื่อนในกลุ่มของเซี่ยเหล่ย เซี่ยเหล่ยต้องออกหน้าแน่นอน…”
“อาจารย์ไม่สนใจ?”
จู่ๆ คนที่ยืนมุงดูคนนั้นก็มองฟางผิง เอ่ยอย่างสงสัย “มาใหม่?”
“อืม”
“ไม่น่าล่ะ”
คนผู้นี้ไม่มากความอีก “ไม่มีความจำเป็นจะต้องสนใจอะไร แค่ไม่สร้างปัญหาให้เขตฝึกวิชาอื่นๆ ก็พอแล้ว สู้จนข้าวของเสียหายต้องชดใช้ ส่วนเรื่องบาดเจ็บ ถ้าไม่เจ็บหนักก็ไม่เป็นไร อย่ามองว่าพวกเขาสู้กันอย่างดุเดือด แต่เวลาลงมือยังคงรู้จักความเหมาะสม…”
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน