ตอนที่ 200 สิบสามเมืองของถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ (1)
ช่วงเวลาหลังจากนั้นฟางผิงก็ใช้ไปกับการหลอมกระดูก ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ทั้งเข้าเรียนในคลาสฝึกพิเศษไปด้วย
ถ้ำใต้ดินค่อยๆ สร้างภาพจำอย่างเลือนรางลงในใจของเขา
รอจนอาจารย์พาทุกคนไปดูแผนที่ภูมิประเทศที่ตึกหมายเลขสองในเขตทางใต้แล้ว ภาพจำนี้จึงเริ่มเป็นรูปร่างชัดเจนขึ้นมา
—
ตึกหมายเลขสอง
โถงที่กว้างนับพันตารางเมตร มีเพียงแผนผังจำลองที่ทำขึ้นจากทรายขนาดใหญ่ตั้งอยู่อย่างทันสมัย
ศาสตราจารย์เฒ่าที่นำนักศึกษาเข้ามาในโถงใหญ่ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ชั้นสามมีแผนที่จำลองภูมิประเทศของถ้ำใต้ดินในเซี่ยงไฮ้ ชั้นสี่เป็นแผนผังทรายจำลองของถ้ำใต้ดินตงหลิน ชั้นห้าเป็นแผงผังทรายจำลองถ้ำใต้ดินตงหู ตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ครอบครองเพียงแผนที่สามแห่งนี้ ทางหน่วยทหารกลับมีแผนที่ทั้งหมด ถ้ำใต้ดินเป็นเพียงการเรียกโดยรวมๆ พวกเราชอบเติมคำเสริมเจาะจงลงไปด้วย เพราะทางเข้าถ้ำยี่สิบสองแห่งไม่ได้ทะลุถึงกัน บางทีอาจจะทะลุ แต่อย่างน้อยมนุษยชาติก็ยังไม่ได้สำรวจลงลึกถึงขั้นนั้น”
“หลายปีมานี้ ไม่มีใครสามารถเข้าจากประตูหนึ่งไปถึงอีกประตูหนึ่งได้เช่นกัน แต่หลังจากนี้พวกเราทุกคนต้องเตรียมพร้อมเข้าสู่ถ้ำใต้ดินของเซี่ยงไฮ้ ในถ้ำใต้ดินไม่อาจใช้เทคโนโลยี ไม่อาจถ่ายรูป เอามือถือเข้าไปก็จะสูญเสียแหล่งพลังงาน…ดังนั้นแผนที่พวกนี้ล้วนเกิดจากการค่อยๆ สำรวจสืบเสาะของมวลมนุษย์ชาติจนท้ายที่สุดประกอบกลายเป็นแผนผังจำลอง”
พวกฟางผิงแทบไม่มีใจฟังแล้วว่าเขาพูดเรื่องอะไร
ตอนนี้ทุกคนเอาแต่จ้องที่แผงผังทรายจำลอง!
“นี่คือเมือง?”
“น่าจะหมู่บ้านนะ เมืองอะไรจะเล็กขนาดนี้?”
แผนผังจำลองนี้คิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่กัน?”
“นึกไม่ถึงว่าถ้ำใต้ดินจะเป็นแบบนี้ ฉันยังคิดว่า…เป็นคนป่า มนุษย์ดึกดำบรรพ์อะไรทำนองนั้น…”
หลายคนรู้ว่าถ้ำใต้ดินนั้นเหมือนกับโลก มีอารยะธรรมดำรงอยู่
แต่ก็มีคนไม่น้อยคิดว่าสิ่งมีชีวิตใต้ดินเป็นพวกกินของดิบดื่มเลือดเทือกนั้น
แต่ตอนนี้เมื่อเห็นแผงผังจำลอง ทุกคนจึงพบว่าตัวเองคิดผิดไป ในแผนผังมีการก่อตั้งคูเมืองและกำแพงเมือง
กำแพงที่สูงใหญ่สะดุดตาต่างบอกทุกคนว่าถ้ำใต้ดินไม่ใช่สังคมคนป่า
พวกเขามีอารยะธรรมของตัวเอง มีระบบสังคมของตัวเองเช่นกัน
อาจจะไม่ล้ำสมัยเท่าโลกนี้ แต่เส้นทางที่ทุกคนเดินไม่เหมือนกัน นี่ไม่ใช่สิ่งที่วัดความแตกต่างของอารยะธรรมแต่อย่างใด
—
ฟางผิงกวาดสายตาดูคร่าวๆ ก่อนจะขมวดคิ้ว เอ่ยถามว่า “อาจารย์ครับ บนแผนที่ติดสัญลักษณ์ไว้แค่สิบสามเมือง หมายความว่าถ้ำใต้ดินของเซี่ยงไฮ้ สามารถรองรับได้สิบสามเมือง? เมืองพวกนี้ใหญ่เท่าไหร่ ประชากรกี่คนเหรอครับ?”
ศาสตราจารย์ส่ายหัวว่า “ไม่ใช่สิบสามแห่ง อย่าลืมว่าตอนนี้สำรวจถึงแค่สิบสามแห่งเท่านั้น!”
ความหมายของคำพูดนี้แตกต่างจากความหมายของฟางผิงอย่างสิ้นเชิง
จางจื่อเวยที่อยู่ไม่ไกลเอ่ยว่า “บางทีพวกเราอาจสามารถมองประตูเข้าถ้ำทุกแห่งเป็นโลกเดียวกันได้ แต่ไม่อาจมองรวมเป็นหนึ่งทั้งหมด โลกของถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ ตอนนี้พวกเราสำรวจระยะทางได้เท่านี้ แต่ราคาที่จ่ายออกไปก็หนักหนาสากรรจ์มากแล้ว ปรมาจารย์สามคนของเซี่ยงไฮ้ต่างสละชีพระหว่างทางครั้งนี้”
เห็นได้ชัดเธอเข้าใจมากกว่าฟางผิง
ฟางผิงกลับไม่สนใจเรื่องนี้ ขมวดคิ้วว่า “พูดแบบนี้แสดงว่าตำแหน่งที่ปรากฏภายนอกถ้ำไม่อาจใช้เปรียบเทียบกับตำแหน่งที่ปรากฏในถ้ำใต้ดินได้ ช่องทางมิติประเภทนี้อาจจะปรากฏขึ้นในรูปแบบที่ไม่แน่นอน?”
คำพูดพวกนี้ของเขาคลุมเครืออยู่บ้าง แต่อาจารย์ยังคงเข้าใจ
ศาสตราจารย์เฒ่าหัวเราะว่า “ถูกต้อง อย่างตงหลินมีทางเข้าแห่งหนึ่งเช่นกัน อยู่ห่างจากทางเข้าของเซี่ยงไฮ้ ระยะทางเป็นเส้นตรงประมาณหกร้อยกิโลเมตร จากตำแหน่งที่ปรากฏนี้พวกเราสามารถเข้าประตูทางเซี่ยงไฮ้ตรงดิ่งไปทางทิศตะวันออกก็น่าจะเจอทางเข้าของตงหลินแล้ว แต่ตอนนี้มีปรมาจารย์ลงสำรวจไปทางตะวันออกกว่าสามพันกิโลเมตร กลับไม่พบประตูทางเข้าเลย เดินไปทางตะวันออกต่ออีกก็เป็นท้องทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตาแล้ว…นี่หมายความว่าถ้ำใต้ดินอาจจะไม่มีที่สิ้นสุด ใหญ่กว่าโลกของพวกเราหลายสิบหลายร้อยเท่า หรือไม่ก็อาจจะเป็นช่องทางมิติที่ตำแหน่งปรากฏขึ้นอย่างคาดการณ์ไม่ได้ ระยะในพื้นโลกและถ้ำใต้ดินจึงไม่เกี่ยวข้องกัน ทั้งยังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง…”
พูดถึงความเป็นไปได้ข้อสุดท้าย ศาสตราจารย์เฒ่ากลับเบนสายตาไปมองจางจื่อเวย “อย่างที่จางจื่อเวยบอก ทุกทางเข้าถ้ำใต้ดิน อันที่จริงเป็นโลกที่คงอยู่อย่างอิสระแห่งหนึ่ง…แต่ว่าผู้บัญชาการหลี่ของหน่วยทหารปฎิเสธความเป็นไปได้นี้ ผู้บัญชาการหลี่บอกว่าเขาเคยรับรู้ได้ถึงปราณของผู้แข็งแกร่งภายในทางเข้าถ้ำทางตะวันออก ตอนที่เขาประจำที่ประตูเข้าถ้ำทางเหนือ”
“ผู้บัญชาการหลี่?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน