ตอนที่ 204 นี่คือที่พึ่งของฉัน (2)
ฟางผิงเอ่ยอย่างลังเล “ก่อนหน้านี้ฉันแค่ถามไปเท่านั้น คำพูดของอาจารย์กลับเกินกำลังฉันไปอยู่บ้าง มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามที่สามารถแสดงฝีมือทั้งสองด้านออกมาอย่างโดดเด่นหรือเปล่า?”
จ้าวเหล่ยแทรกบทสนทนา “มี แต่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกทั้งหมด ทั้งส่วนมากยังเป็นขั้นหกสูงสุด ผู้ฝึกยุทธ์พวกนี้หลายคนติดอยู่ในขั้นหก ปรมาจารย์เป็นปราการที่ใหญ่อย่างหนึ่ง ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกส่วนมากอาจจะไม่สามารถก้าวสู่ขั้นปรมาจารย์ได้ตลอดชีวิต เวลานี้ไม่อาจทะลวงขั้น พวกเขาก็จะลงแรงกับอย่างอื่นแทน ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดบางคนแข็งแกร่งอย่างมาก อันที่จริงอยู่ขั้นหกสูงสุดก็ถือเป็นขั้นที่แข็งแกร่งแล้ว แต่ขั้นหกสูงสุดกับขั้นหกสูงสุดยังคงมีความแตกต่างกัน”
ฟางผิงครุ่นคิดเล็กน้อย “พวกนายเห็นเหมือนกันหรือเปล่า ขั้นหกไม่มีการจัดอันดับ”
ฟู่ชางติ่งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เรื่องปกติ”
“หืม?”
“ขั้นหกสูงสุดสิบคน มีแปดคนอยู่ในถ้ำใต้ดิน…ยืนอยู่บนเส้นระหว่างความเป็นความตาย!”
ฟู่ชางติ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ถ้ำใต้ดินไม่อาจรั้งตัวอยู่นานได้ มีแต่อันตราย จุดนี้ทุกคนกระจ่างใจดี รวมทั้งปรมาจารย์ด้วยเช่นกัน แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุด เพื่อแสวงหาโอกาสทะลวงขั้น ส่วนมากจะอยู่ภายในถ้ำใต้ดิน เดิมทีนายก็แทบไม่รู้ว่าเขาเป็นหรือตาย บางทีอาจจะเป็นเสี้ยวนาทีนี้ที่เขาออกมาจากถ้ำโดยฐานะของปรมาจารย์ หรือบางทีอาจจะไม่สามารถออกมาได้ชั่วชีวิต! ด่านปรมาจารย์ ไม่ได้พึ่งเรื่องพวกนี้ แต่เป็นอย่างอื่น ดังนั้นขั้นหกจึงไม่มีการจัดลำดับ เพราะไร้ความหมาย นายแทบไม่อาจรู้ได้ว่าตกลงมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดกี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่”
ในสังคมมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดน้อยอย่างมาก แม้จะเป็นมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ก็เหมือนกัน
ผู้ฝึกยุทธ์ที่ฟางผิงรู้จักในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีไม่กี่คน หลู่เฟิ่งโหรว ถังเฟิง ตาเฒ่าหลี่ สามคนนี้ที่อยู่ขั้นหกสูงสุด
คนอื่นๆ อย่างหลัวอี้ชวน สวีเจี้ยนโจวต่างไม่ได้อยู่ในขั้นสูงสุด
อาจารย์ชั้นปีอื่นๆ ส่วนมากเป็นแบบนี้เช่นกัน ขั้นหกสูงสุดอยู่ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ถึงสิบคนเท่านั้น
ความจริงรุ่นของปีหนึ่งเดิมทีก็มีแค่ถังเฟิงคนเดียว
หลู่เฟิ่งโหรวเพิ่งตามมาทีหลัง ส่วนตาเฒ่าหลี่นั้นไม่ได้สอนหนังสืออยู่แล้ว
บางทีหากคำนวณอย่างจริงจัง อาจารย์ขั้นหกสูงสุดของเซี่ยงไฮ้ อาจอยู่ในมหาวิทยาลัยไม่ถึงห้าคนเท่านั้น
นี่พูดถึงแค่เซี่ยงไฮ้ มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อื่นๆ นอกจากปักกิ่งแล้ว ก็แทบหาผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดไม่เจอเลย
—
ทั้งสามคนพูดคุยกันจนถึงสิบเอ็ดโมงกว่า ฟางผิงเห็นว่าคนยังไม่ออกมา จึงเตรียมตัวจะกลับไป
ยังไม่ทันไร จู่ๆ ประตูถ้ำก็ถูกเปิดออก
ไม่นานก็มีคนเดินออกมา
เห็นได้ชัดว่าหลู่เฟิ่งโหรวคาดการณ์อย่างแม่นยำ อีกฝ่ายออกมาภายในวันสองวันนี้จริงๆ
ทั้งปกติทางเข้าของถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้มีคนสัญจรน้อยอยู่แล้ว
ฟางผิงเห็นคนออกมาก็รีบควักจดหมายโดยมีสายตาของฟู่ชางติ่งและจ้าวเหล่ยมองดูอยู่
นึกได้ว่าฟู่ชางติ่งไม่ได้ถูกคนอัดนานแล้ว ทั้งก่อนหน้านี้ยังทำเรื่องติดค้างเขาไว้หลายครั้ง
ตระหนักมาถึงตรงนี้ ฟางผิงจึงยัดจดหมายไปในมือฟู่ชางติ่ง รีบเอ่ยว่า “พ่อของอาจารย์ฉัน ฉันกลัวอยู่บ้าง นายช่วยเอาให้เขาหน่อย ถือโอกาสบอกเขาด้วยว่า ลูกสาวคิดถึงเขาแล้ว อยากให้เขาไปหาเธอ”
ฟู่ชางติ่งทำสีหน้างุนงง พ่อของหลู่เฟิ่งโหรว?
ฟางผิงใช้ตัวเองเอาไปให้แทนทำไม…
ท่ามกลางความสับสนมึนงง ฟู่ชางติ่งเห็นฟางผิงมองเขาอย่างให้กำลังใจจึงหมดคำจะพูดอยู่บ้าง แต่ที่นี่คือในมหาวิทยาลัย ฟู่ชางติ่งจึงไม่คิดมาก
ไม่นานก็มีคนๆ หนึ่ง…ไม่รู้ว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่อายุมากหรือเปล่า เดินนำหน้าคนอื่นๆ ออกมา
สาเหตุที่บอกว่าไม่รู้ เป็นเพราะอีกฝ่ายผมสีขาวโพลน แต่ใบหน้ากลับไม่ส่อเค้าวัยชรา
มีความรู้สึกเหมือนคุณลุงทั่วไปอยู่บ้าง แต่ผมสีขาวขับอีกฝ่ายให้เด่นอยู่ไม่น้อย
ฟู่ชางติ่งไม่รู้ว่าควรจะทักทายยังไงดี ลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า “อาจารย์ครับ จดหมายของคุณ”
ชายผมขาวมองเขาแวบหนึ่ง รับจดหมายมาด้วยความเงียบ
“คือว่า…อาจารย์หลู่คิดถึงคุณ”
“หืม?”
ชายผู้นั้นนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยยิ้มออกมา “นี่เป็นคำพูดที่เธอฝากมาจริงๆ งั้นเหรอ?”
ฟู่ชางติ่งไม่แน่ใจ หันหน้าไปมองฟางผิง ฟางผิงเห็นชายผู้นั้นยิ้มอย่างอ่อนโยน ทั้งฟู่ชางติ่งก็ไม่ได้เป็นอะไร


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน