ตอนที่ 32 นายล้อกันเล่นหรือเปล่า?
บ่ายโมงยี่สิบนาที
ร้านชานมแห่งหนึ่งใกล้กับโรงเรียนมัธยมหยางเฉิง
อันที่จริงฟางผิงอยากจะไปร้านกาแฟ แต่เมืองหยางเฉิงในตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีนัก ลองหาร้านใกล้ๆ โรงเรียนแทบจะไม่มีร้านกาแฟสักร้าน
นึกได้ว่าเขายังเป็นแค่นักเรียนคนหนึ่ง สุดท้ายเลยเลือกร้านชานมแทน
ฟางผิงรอที่นี่มาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
ขณะที่ดื่มน้ำส้มหมดไปอีกแก้ว เขาก็มองไปนอกประตู หยัดกายขึ้นเรียกทันที “พี่หวัง ทางนี้!”
ด้านนอกประตู
หวังจินหยางเผยยิ้ม สาวเท้าเข้ามาหาฟางผิง
ฟางผิงรีบยืนขึ้นต้อนรับ ก่อนจะสั่งน้ำมะนาวกับพนักงานเพิ่มอีกแก้ว ตอนนี้ค่อยทักทายหวังจินหยาง
หวังจินหยางเห็นแบบนั้นก็อดยิ้มไม่ได้ รุ่นน้องคนนี้ของเขา ดูเป็นผู้ใหญ่กว่านักเรียนมอปลายทั่วไปเสียอีก
เมื่อทั้งสองนั่งลง ฟางผิงก็เอ่ยปากไปตรงๆ “พี่หวัง ครั้งนี้ผมนึกไม่ถึงว่าพี่จะมาจริงๆ ตอนที่โทรหาพี่ ผมแค่อยากลองเสี่ยงดูเท่านั้น”
หวังจินหยางไม่ได้รีบเอ่ยปาก รอพนักงานยกน้ำมะนาวมา ค่อยพูดว่า “อยู่ในหยางเฉิงพอดีเลยแวะมา อีกอย่างนายไม่ต้องคิดมากหรอก ความจริงถ้าเป็นเรื่องเล็กๆ ฉันช่วยได้อยู่แล้ว แต่ปัญหาใหญ่ กลัวว่าคงจะไม่ไหว”
“ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว”
ฟางผิงพยักหน้า เขาไม่ใช่พี่น้องหรือเพื่อนสนิทของหวังจินหยาง ได้เจออีกฝ่ายก็ดีแค่ไหนแล้ว
ฟางผิงไม่คิดอ้อมค้อม พูดว่า “พี่หวัง ผมเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ก่อนหน้านี้ที่ผมพูดในโทรศัพท์ไม่ใช่เรื่องโกหก แต่เรื่องนี้ยังซับซ้อนอยู่ไม่น้อย ชายที่ผมพลั้งมือทำร้าย ถ้าบาดเจ็บเล็กน้อย ผมแจ้งตำรวจก็คงจบเรื่องแล้ว ปัญหาที่ตามมา ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ยังไงเขาก็เป็นคนไม่ดี ถูกผมจับ ตำรวจคงให้รางวัลผมด้วยซ้ำ…”
หวังจินหยางผงกศีรษะเล็กน้อย ดื่มน้ำมะนาวไปหนึ่งคำ “นายพูดต่อเถอะ”
“ประเด็นสำคัญมันไม่ได้อยู่ตรงนี้ ชายผู้นั้นไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นประเภทเดียวกับพี่หวัง”
“หือ?”
หวังจินหยางใจเต้นกระหน่ำ เงยหน้ามองฟางผิง ให้เขาพูดต่อไป
“ชายคนนั้นถูกผมจับไว้แล้ว บาดเจ็บนิดหน่อย ตอนนี้ผมซ่อนเขาไว้ที่แห่งหนึ่ง นอกจากนี้ผมยังเจอของดีไม่น้อย มูลค่ามากเกินกว่าที่คิดไว้ซะอีก ผมไม่ปิดบังพี่หวังละกัน ผมคิดจะริบของพวกนั้นเอาไว้ แต่ก็กลัวจะมีปัญหาตามมา เลยมาหาพี่หวังเพราะเรื่องนี้”
แววตาของหวังจินหยางวูบไหว รุ่นน้องคนนี้ของเขาใจกล้ากว่าที่คิดไว้อย่างมาก!
คนประเภทเดียวกับเขา หมายถึงผู้ฝึกยุทธ์ละสิ
เขาจับตัวผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งได้ เห็นทรัพย์สินก็เกิดอยากได้ ไม่อยากส่งให้ตำรวจ กลัวว่าจะเก็บของพวกนี้ไว้ไม่ได้…
หวังจินหยางครุ่นคิดเล็กน้อย เข้าใจทันทีว่าทำไมฟางผิงถึงมาหาตัวเอง
ฟางผิงคิดจะยักยอกทรัพย์สินพวกนั้น แต่ก็กลัวปัญหาจะตามมาเป็นพรวน จึงคิดใช้เขาเป็นโล่
จะให้เขาช่วยนั้นไม่มีปัญหา ประเด็นอยู่ที่ต้องดูว่าได้กำไรมากน้อยเท่าไหร่
หวังจินหยางเคาะโต๊ะเบาๆ เขาไม่ใช่คนที่ทึ่มทื่อ เงียบไปสักพักก็เอ่ยขึ้น “ฉันจะยังไม่ถามว่านายจัดการอีกฝ่ายได้ยังไง แต่ข้อแรกนายมั่นใจหรือว่า อีกฝ่ายเป็นประเภทเดียวกับฉัน? ข้อสองมั่นใจแล้วว่า เป็นคนเลว? ข้อสามทรัพย์สินมากขนาดไหน? ข้อสี่นายคิดจะแบ่งยังไง?”
หากได้กำไรเล็กน้อย หวังจินหยางคงไม่คิดจะสอดมือยุ่ง
ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนดี นั่นคงเป็นเรื่องผิดกฎหมายแล้ว ต่อให้เขาไม่จับฟางผิงส่งตำรวจ ยังไงก็ไม่ร่วมมือกับรุ่นน้องคนนี้เด็ดขาด
เพื่อเงินเล็กน้อย กลับทำผิดกฎหมาย เขาไม่ทำเรื่องแบบนี้หรอก ไม่คุ้มค่า
ดังนั้นจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ให้ชัดเจน
“มั่นใจว่าเป็นคนประเภทเดียวกับพี่ ใช่คนเลวหรือเปล่ายังไม่กล้ายืนยันเต็มปาก แต่เป็นไปได้ถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ อีกฝ่ายยังไม่ตาย ยังบอกไม่ให้ผมจับเขาส่งตำรวจ ส่วนเรื่องทรัพย์สิน…”
ฟางผิงชูฝ่ามือออกมา
“ห้าแสน?”
หวังจินหยางกดเสียงเบา เขาไม่คิดว่าจะเป็นห้าหมื่นอยู่แล้ว เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ หากฟางผิงมาหาเขาเพราะเงินแค่ห้าหมื่น นั่นก็เป็นเรื่องปัญญาอ่อนแล้ว
“สิบเท่า!”
“แค่กๆ!”
หวังจินหยางตกใจเล็กน้อย สำหรับเขา เงินห้าล้านก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ
เงินห้าล้าน ผู้ฝึกยุทธ์…
ชั่วพริบตานั้นหวังจินหยางก็หน้าเปลี่ยนสี
ไม่ใช่ว่าผู้ฝึกยุทธ์ที่พกทรัพย์สินติดตัวห้าล้านนั้นไม่มี ผู้ฝึกยุทธ์ในหยางเฉิงต่างก็มีทรัพย์สินประมาณนี้อยู่แล้ว
ประเด็นอยู่ที่ก่อนหน้านี้ฟางผิงบอกว่าอีกฝ่ายหนีคดี
ความคิดที่โยนทิ้งไปก่อนหน้านี้วาบผ่านสมองขึ้นมาอีกครั้ง
หยางเฉิงไม่ได้มีผู้ฝึกยุทธ์ที่หนีคดีมากมาย แม้จะพบผู้ฝึกยุทธ์ได้ทั่วไป แต่หยางเฉิงใหญ่ขนาดนี้ มีเรื่องบังเอิญแบบนั้นที่ไหนกัน
“ชายวัยกลางคนอายุสิบสี่ต้นๆ สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้า บุคลิกใจดีใสซื่อ…” หวังจินหยางเป็นคนพูดเรื่องพวกนี้
ฟางผิงได้ฟัง แววตาก็สั่นไหวเล็กน้อย สักพักก็พยักหน้า “ใช่แล้ว พี่หวังรู้จัก?”
“ฟู่ว!”
หวังจินหยางชะงักไปเล็กน้อย หมอนี่ไปจับใครมากัน?
ล้อกันเล่นหรือเปล่า?
“เขาได้บาดเจ็บมาก่อนหรือเปล่า?”
“ไม่…”
“นายล้อกันเล่นหรือไง?”
หวังจินหยางพูดอย่างตรงไปตรงมา
หากฟางผิงไม่ได้โกหก อีกฝ่ายก็ต้องเป็นหวงปินแล้ว!
ผู้ฝึกยุทธ์ที่ใกล้ทะลวงขั้นสาม!
คนที่แข็งแกร่งแบบนี้ จะถูกนักเรียนมอปลายคนนี้จับไว้?
ถ้าฟางผิงจับตัวอีกฝ่ายขณะเจ็บหนัก หวังจินหยางคงจะเชื่อ แต่ผู้ฝึกยุทธ์ร่างกายแข็งแรงที่ใกล้จะทะลวงขั้นสาม จะถูกฟางผิงจับตัวไว้ได้งั้นเหรอ?
ฟางผิงเห็นเขาตกใจก็ยิ้มแห้ง “อุบัติเหตุ เป็นอุบัติเหตุทั้งนั้น ผม…”
เขายังพูดไม่จบ หวังจินหยางก็หยัดกายขึ้นทันที เผยแววตาเป็นประกาย “ไป พวกเราเดินไปด้วยคุยไปด้วย นายนำทางฉันไปสิ!”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน