ตอนที่ 339 การแข่งขันครั้งแรกของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ (1)
หลอกล่อหลี่หานซงไปยกใหญ่ ผลลัพธ์ทำให้ฟางผิงพอใจไม่น้อย
แลกเปลี่ยนอาจารย์ แลกเปลี่ยนเคล็ดวิชาต่อสู้ รวมถึงเชื่อมต่อแพลตฟอร์มออนไลน์ หลี่หานซงจะพยายามสุดความสามารถ
ขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลแนวหน้าในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่ง
หากหลี่หานซงจะช่วงชิงจริงๆ อันที่จริงไม่ได้ยากจนเกินไป แม้มหาวิทยาลัยปักกิ่งจะมีคนไม่พอใจ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังไม่ยินดีทำให้สมาคมผู้ฝึกยุทธ์พอใจ เว้นเสียแต่ว่านักศึกษาของปักกิ่งจะเป็นอันดับหนึ่งในโลกจริงๆ ไม่งั้นต้องมีการก่อกบฏแน่
ทั้งสองฝ่ายทำข้อตกลงกันแล้ว ไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่นานฟางผิงก็ปลีกตัวออกมา
เขาไปแล้ว จู่ๆ หลี่หานซงก็เอ่ยว่า “หานซวี่ หลังจากนี้นายต้องมีปัญหาแน่”
หานซวี่ไม่พูดอะไร
ความหมายของหลี่หานซงนั้นชัดเจนแล้ว เขากำลังจะจบการศึกษา ตอนที่เขาเรียนจบ หานซวี่ทะลวงขั้นสี่ได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
เข้าสู่ขั้นสี่ รับช่วงต่อเขา นั่นเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
หลังจากนั้นคู่ต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดที่หานซวี่ต้องเผชิญหน้าก็คือฟางผิง
หานซวี่ไม่พูดอะไร หลิงอีอีกลับชำเลืองเขาไปแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างไม่เชื่อใจอยู่บ้าง “มักรู้สึกว่านายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขายังไงไม่รู้ ไม่ช้าก็เร็วนายจะถูกเขาซื้อตัวทำนองนั้น…”
พูดจบหลิงอีอีก็เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “ปีหน้าตำแหน่งประธานควรเป็นของฉันต่างหาก!”
ถือสิทธิ์อะไรให้หานซวี่เป็นประธาน!
ปีนี้เธอเพิ่งอยู่ปีสาม ฝีมือขั้นสี่ตอนกลาง หลี่หานซงเรียนจบ อย่างน้อยเธอก็อยู่ขั้นสี่ตอนปลายถึงกระทั่งขั้นสี่สูงสุด หากจะเปลี่ยนมือก็ควรตกเป็นของเธอ
หลี่หานซงยิ้มบางๆ ว่า “แล้วแต่พวกนายเถอะ แต่ว่า…เธอกลายเป็นประธาน เป้าหมายของฟางผิงก็จะกลายเป็นเธอ เธอต้องระวังตัวแล้ว”
“เชอะ ฉันไม่ได้กลัวเขาสักหน่อย!”
แม้ปากหลิงอีอีจะพูดไปอย่างนั้น ในใจกลับลอบครุ่นคิดว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่าหรือเปล่า?
—
การแข่งขันแลกเปลี่ยนมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้รอบแรกถูกปิดฉากภายในยี่สิบนาที
โรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจวปะทะกับมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เทียนหนาน หลังจากซวนจี้เย่พ่ายแพ้ คนที่เหลือสี่คนก็ถูกสองคนเอาชนะรวดจนหมด
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เทียนหนานไม่ได้สู้อย่างเอาเป็นเอาตายจนถึงหยดสุดท้าย การแข่งครั้งนี้นอกจากซวนจี้เย่และเสิ่นหงเหว่ยที่บาดเจ็บหนักแล้ว คนอื่นๆ แทบไม่เป็นอะไรร้ายแรง
การแข่งรอบแรกไม่ได้ทำให้ทุกคนถึงอกถึงใจนัก
เทียบกับการแข่งขันแลกเปลี่ยนครั้งแรกเมื่อต้นปี ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่พวกนี้ยังต่อสู้ไม่ดุเดือดเท่าผู้ฝึกยุทธ์ปีหนึ่งเลย ทั้งยังสู้ไม่ถึงใจพวกเขาพอ
การแข่งขันขั้นหนึ่งครั้งก่อน ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนต่างสู้ตายไม่ยอมถอย สองฝ่ายประมือกันต้องเจ็บหนักลงจากเวที
แต่การแข่งขันขั้นสี่ครั้งนี้กลับไม่เป็นที่น่าพอใจของทุกคน รู้สึกว่ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เทียนหนานและโรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจวไม่ได้ลงแรงอะไรมากมาย
—
ในโรงแรม
พวกฟางผิงไม่ได้แปลกใจกับผลการแข่งขันแต่อย่างใด ส่วนต่อสู้ไม่ดุเดือดพอ อันที่จริงพอจะเข้าใจได้
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เทียนหนานต้องรักษาพลังเอาไว้ โรงเรียนเตรียมทหารจิ่วโจวก็ต้องป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บมากเกินไป อาจถูกคนฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ได้ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแลกเปลี่ยนฝีมือกันแล้ว มหาวิทยาลัยเทียนหนานเห็นว่าหมดโอกาส ย่อมไม่สู้จนตัวตายอีก
ทั้งประเด็นสำคัญยังอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ค่อนข้างให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามขั้นสี่พวกนี้ พยายามไม่ให้บาดเจ็บหนัก
เหมือนที่ก่อนหน้านี้หลู่เฟิ่งโหรวบอกกับฟางผิงไว้ว่าต้องมีความเห็นแก่ตัวบ้าง
หากสู้ไม่ไหวจริงๆ งั้นก็ยอมแพ้
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้นั้นมีจำนวนมาก แม้จะเป็นอัจฉริยะขั้นหนึ่งสูงสุดก็ไม่นับว่าสลักสำคัญอะไร
แต่ยอดฝีมือขั้นสามขั้นสี่ นั่นเป็นบุคคลมีพรสวรรค์อย่างแท้จริง คนพวกนี้ไม่ว่าจะตายหรือบาดเจ็บหนัก นั่นถือเป็นความสูญเสียอย่างมหาศาล
ในสถานการณ์ที่ฝีมือห่างชั้นกันอย่างชัดเจน ไม่อาจมีใครต่อสู้จนตัวตายอยู่แล้ว
ห้องประชุมเล็กภายในโรงแรม
ถังเฟิงชำเลืองมองฟางผิงที่เพิ่งกลับมาแวบหนึ่ง ไม่ได้ถามว่าเขาไปไหน เงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยว่า “พยายามอย่าลงมือหนัก”
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ซีซานไม่ได้แข็งแกร่งมาก ไม่มีปัญหาเรื่องยั้งมือไม่ไหวอยู่แล้ว



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน