ตอนที่ 36 ความใส่ใจของฟางหยวน
เมื่อได้รับเงินหนึ่งล้านจากหวังจินหยาง ค่าทรัพย์สินของฟางผิงก็เพิ่มถึงสามล้านสามแสนเจ็ดหมื่นหยวน
พอคิดได้ว่าแม้จะอัปเกรดค่าปราณและจิตใจให้ถึงสองร้อย ก็เสียไปไม่กี่แสนเท่านั้น เวลานี้ฟางผิงจึงมีความสุขอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าความสุขอยู่ได้ไม่นานนัก ฟางผิงก็สัมผัสถึงไอชั่วร้ายที่อบอวลขึ้นมา
“ความรวยทำให้ฉันมีความสุขขนาดนี้เลย?”
ฟางผิงพึมพำกับตัวเอง เขาคิดว่า ที่มาของไอชั่วร้ายพวกนี้ คงมาจากระบบเห็นแก่เงินที่ไม่น่าไว้ใจนี้
แม้จะเป็นเพียงสัญชาตญาณ แต่ฟางผิงคิดว่า ระวังไว้หน่อยก็ดี
—
ฟางผิงดีใจที่มีเงินสดและค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น
ส่วนข้อความที่หวังจินหยางส่งตามมา เขาก็รอคอยอยู่เหมือนกัน
“ส่งของไปแล้ว ตรวจสอบให้ดีด้วย”
ข้อความแถวเดียวสั้นๆ ฟางผิงกลับมองแล้วมองอีก
อันที่จริงเขาสนใจเคล็ดวิชามากกว่าเงินพวกนี้เสียอีก
ถึงชาติก่อนจะไม่เคยมีเงินมากขนาดนี้ แต่เมื่อทำงานแล้ว ฟางผิงก็สะสมเงินได้ไม่น้อย
แต่เคล็ดวิชา นอกจากพวกที่วางขายตามแผงลอยสินค้า ฟางผิงก็ไม่เคยอ่านมาก่อน
แม้จะอ่านก็ไม่อาจเอาไปฝึก ไม่มีใครคิดว่าของพวกนี้จะเป็นของจริงหรอก
พอนึกได้ว่า อีกไม่กี่วันของก็มาถึงแล้ว เขารู้สึกอดใจรอไม่ไหวอยู่บ้าง
—
พอเลิกเรียน ฟางก็ปฏิเสธพวกอู๋จื้อหาวที่ชวนไปออกกำลังกายด้วยกัน
ตอนนี้ฟางผิงคุ้นเคยกับร่างกายตัวเองแล้ว เป็นผลมาจากการฝึกฝนก่อนหน้านี้
ไปออกกำลังกายกับพวกเขา ไม่ได้ประโยชน์มากมายอะไร
เมื่อฟางผิงเดินออกไปไกลแล้ว
นักเรียนเตรียมสอบศิลปะการต่อสู้คนหนึ่งก็พูดอย่างรู้สึกไม่ดีอยู่บ้าง “ฟางผิงหยิ่งจริงๆ”
อู๋จื้อหาวกลับไม่คิดจริงจัง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ไปก็ไม่เป็นไรซะหน่อย เมื่อก่อนเขาไม่ได้ไปกับพวกเราเหมือนกัน คงจะไม่ชินนั่นแหละ”
เมื่อเขาพูดแบบนี้ คนอื่นๆ ก็ไม่พูดอะไรอีก
นักเรียนที่พูดเมื่อครู่ถามอย่างแปลกใจเล็กน้อย “จื้อหาว นายว่าเขามีค่าปราณเท่าไหร่?”
คนพวกนี้ต่างก็รู้เรื่องที่ค่าปราณของฟางผิงเพิ่มขึ้น
ยังไงก็มีอยู่ในเหตุการณ์ตั้งสามคน หยางเจี้ยนเป็นคนเก็บความลับไม่ได้อยู่แล้ว
แม้แต่หวังจินหยางก็ออกปากชมฟางผิง เห็นได้ชัดว่าค่าปราณคงไม่น้อย
อู๋จื้อหาวเงียบไปพักหนึ่ง “น่าจะประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบแคล”
“สูงขนาดนั้นเลย?”
บางคนนั้นรู้สึกอิจฉา ถึงกระทั่งริษยาก็มี
เมื่อก่อนคะแนนฟางผิงไม่ได้โดดเด่น คาดไม่ถึงว่าค่าปราณจะสูงถึงหนึ่งร้อยยี่สิบแคล!
ปัจจุบันนอกจากโจวปินและนักเรียนดีเด่นจากห้องเรียนพิเศษอีกคน ก็ไม่มีนักเรียนคนไหนในโรงเรียนมีค่าปราณสูงถึงหนึ่งร้อยยี่สิบแคลอีกแล้ว
ส่วนจะมีคนปิดบังความสามารถของตัวเองหรือเปล่า หรือแบบนี้นับว่าเกิดขึ้นน้อย
การโอ้อวด แย่งชิงเป็นที่หนึ่ง แทบจะกลายนิสัยของนักเรียนสมัยนี้ไปแล้ว
ได้คะแนนดีๆ แต่ปกปิดไว้ ถือเป็นเรื่องที่โง่เขลา
“ฉันแค่เดาเท่านั้น แต่ไม่น่าจะต่างจากนี้มาก”
ขณะที่อู๋จื้อหาวพูดก็มองคนอื่นๆ “แต่พวกเราอย่าเลียนแบบเขาดีกว่า ถ้ากินเข้าไปยังไม่รู้จะตายยังไง ถึงจะสอบไม่ได้ ก็ยังดีกว่าเอาชีวิตไปทิ้ง ตอนนี้สอบไม่ติด อย่างมากก็เรียนซ้ำอีกหนึ่งปี ยังไม่ได้อีก ก็เก็บเงินไปเข้าคลาสอบรมผู้ฝึกยุทธ์ก็ได้”
ทุกคนต่างพยักหน้า จะให้เอาชีวิตไปเดิมพันกับโอกาสครั้งนี้ พวกเขายังไม่กล้าจริงๆ
—
ฟางผิงคงไม่รู้ถึงหัวข้อที่คนในห้องพูดคุยกัน
เขาไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนเย่อหยิ่ง
เขาแค่ไม่สนิทกับนักเรียนพวกนั้นเท่าไหร่
ทั้งการสอบศิลปะการต่อสู้ก็ใกล้เข้ามาแล้ว ในอนาคตไม่รู้ว่าทุกคนยังจะติดต่อกันอยู่หรือเปล่า ตอนนี้ตีสนิทไปคงไม่มีประโยชน์อะไร
จิ่งหูหยวน
ฟางผิงเพิ่งเปิดประตูบ้าน ฟางหยวนก็ย่องเบาออกมาจากห้องของเธอ กระซิบว่า “เข้ามาสิ ฟางผิง!”
ฟางผิงทำตัวไม่ถูก เอ่ยอย่างหมดคำพูด “คิดจะเป็นขโมยในบ้านตัวเองหรือไง?”
“ชู่ว!”
ฟางหยวนรีบยกนิ้วขึ้นมาทำเสียง ก่อนจะหันกลับไปมองลานหลังบ้านอย่างระแวดระวัง “รีบเข้ามา!”
ฟางผิงหลุดขำ เปลี่ยนรองเท้าแล้วก็เข้าไปในห้องน้องสาว
พอเข้าไป ฟางหยวนก็รีบปิดประตู ยัดถุงใบหนึ่งใส่มือฟางผิง
ไม่รอให้ฟางผิงตรวจดู ฟางหยวนเอ่ยเสียงเบาว่า “แบ่งให้นายครึ่งหนึ่ง นายห้ามมาเอาเงินคืนจากฉันนะ!”
“เงินร้อยหยวนที่นายให้ ฉันเอาไปซื้อเสบียงหมดแล้ว!”
“ห้ามบอกแม่ด้วย”
“อย่างมาก…อย่างมาก เดือนนี้ฉันไม่เอาค่าขนมแล้วกัน ให้นายหมดเลย!”
ฟางผิงไม่พูดอะไร รับถุงนั้นมาเปิดดู ด้านในล้วนเป็นขนม
ฟางหยวนไม่ใช่คนใช้เงินพร่ำเพื่อ แต่พวกเด็กๆ ชอบกินขนมอยู่แล้ว
พ่อแม่ก็ไม่ได้ซื้อขนมอะไรให้เธอกินมากมาย สิ้นเปลืองนั้นเป็นเรื่องรอง แต่มันเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพต่างหาก
เมื่อก่อนถ้าฟางหยวนได้เงินค่าขนม ก็มักจะเอาไปซื้อขนมกินเล่นหมด
ครั้งนี้พี่ชายใจกว้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ควักเงินให้ถึงหนึ่งร้อยหยวน ตอนแรกก็วางแผนจะซื้อขนมไม่กี่สิบหยวนเท่านั้น
ใครจะรู้ว่าพอได้เข้าร้านขายขนม สาวน้อยก็หน้ามืดตามัว
ตอนที่คิดเงินค่อยพบว่าเธอแม้จะเอาขนมออกครึ่งหนึ่ง ก็ใช้เงินไปเกือบร้อยหยวนอยู่ดี
กลัวฟางผิงจะบ่นว่าเธอใช้เงินเปลือง สาวน้อยครุ่นคิดอยู่ที่บ้านค่อนวัน ท้ายที่สุดเลยตัดสินใจแบ่งขนมให้พี่ชาย
แบ่งกันคนละครึ่ง แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วละมั้ง?


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน